HIMALAYAN ROAD TRIP 2016
PART 2 Road to Paradise
23 วัน ห้ารัฐ หลากหลายผู้คน หลากหลายภูมิประเทศ หลากหลายเชื่อชาติ
หลากหลายวัฒนธรรม กับเราทั้งสองคน สองคัน ที่จะพาไปหลงไปในเทือกเขา หิมาลัย
LOST IN HIMALAYAN
Shot:Samsung S7edge
"เดินทางจากกรุงเทพจนมาถึง New Delhi แล้วเราทั้งสองก็พาตัวเองมาถึง Manali ใน Part 1
และแล้วการเดินทางในเส้นทางที่เราทั้งสองได้วางแผนมา(คราวๆ) กำลังจะได้เริ่มต้นขึ้น ใน Part 2
ขอขอบคุณสำหรับคำติชม การโหวตและติดตาม ขอขอบคุณจากใจครับ"
Shot:Samsung S7edge
Part 1
LOST IN HIMALAYAN/HIMALAYAN ROAD TRIP 2016สวรรค์ของอินเดีย Ladakh,Jammu and Kashmir
23 วัน ห้ารัฐ หลงไปด้วยกัน PART1 จุดเริ่มต้น
http://ppantip.com/topic/35859734
FACEBOOK
https://web.facebook.com/lostinParadise.thailand
เพจไม่ดีต่อใจเท่าไรนะครับ ไม่ค่อยได้อัพเดท ให้อภัยกันนะ
INSTAGRAM
https://www.instagram.com/flyingboy27
กระทู้ตลุยเวียดนามใต้ แบบฉายเดียว บนมอเตอร์ไซค์คันเก๋ๆๆ
http://ppantip.com/topic/35493582
เส้นทาง Manali-Leh Highway เป็นเส้นทางที่สวยงาม ถนนที่สูงและอันตรายอันดับต้นๆของโลก
เป็นเส้นทางฝันของใครหลายๆคนที่จะได้มาเยือนถนนเส้นนี้ และจะลืมไปเลยว่าที่นี้คือ "อินเดีย"
MANALI TO LEH HIGHWAY
Shot:Samsung S7edge
เสียงตั้งนาฬิการปลุกดังขึ้นในเวลา 5.00 น.เสียงดังสนั่นไปทั้งโรงแรม เราทั้งสองสดุงตื่นมาพร้อมกัน
ตื่นมากับความตื่นเต้น ดีดตัวขึ้นออกมาจากเตียงที่แสนอุ่น "นี้เรากำลังจะเดินทางในเส้นทางที่เราฝันใว้จริงๆแล้วซินะ"
อาบน้ำ ใส่เสื้อผ้า ที่ให้ตัวเองอุ่นๆเข้าใว้ กระเป๋าที่เก็บใว้เรียบร้อยตั้งแต่เมื่อคืนจับมันยกขึ้นแล้วเปิดประตูห้อง
คนเฝ้าโรงแรมตื่นมาพอดีแล้วทักทายเป็นภาษาฮินดี้ และกลาวคำว่า "นมัสเต" เราก้าวออกจากประตูโรงแรม
ยกกระเป๋าวางใว้แร็คท้ายรถ ROYAL EEFIELD BULLET500 อากาศตอนเช้าของ Manali เย็นมาก หมัดสัมพาระทุกอย่างใว้
อย่างแน่นหนา เรียบร้อยแล้วก็บอกลาคนเฝ้าโรงแรมที่คุยกันไม่รู้เรื่อง และเช็คเอกสาร กล้อง ต่างๆเพื่อความแน่นอน
ก่อนออกเดินทาง
Gopro HERO
เวลาตอนนี้ก็ ปาเข้าไป 7 โมงกว่าแล้ว ผมตื่นเต้นจริงๆนะที่จะได้เดินทางในเส้นทางที่เราตังใจใว้จริงซะที
และได้ขี่เจ้า ROYAL EEFIELD รุ่น BULLET500 ด้วย ยิ่งเป็นอะไรที่มันแน่นอน
เราสองคนเอารถออกจากรั้วของโรงแรม ทีละคันเพราะออกได้ทีละคัน ช่วงเช้าการสตาร์ทรถจะอยากนิดหน่อยเพราะอากาศที่เย็นมาก
แต่ก็ไม่นานเกินไปสองสามทีก็ติด เมื่อออกมาจากรั่วโรงแรมเราทั้งสองก็มุ่งหน้าตรงไปที่ร้าน Cafe' Amigos ก่อนเป็นอันดับแรก
เพื่อเชื่อมต่อ Wifi เพื่อติดต่อคนที่บ้านของเราทั้งให้รู้ว่าเราทั้งสองกำลังจะเดินทาง และติดต่อไม่ได้เป็นเวลา สามวันหรือไม่ก็สี่วัน
ไม่ก็ห้าวันเรายังไม่รู้
Shot:Samsung S7edge
เส้นทางการท่องเที่ยวด้วย ROYAL EEFIELD BULLET500 ของเราเป็นเส้นทางวนเป็นวงกลม One Way Trip
ผ่านเมืองและหมู่บ้านต่างๆมากมาย เส้นทางนี้เราทั้งสองใช้เวลา 15 วันในการเดินทาง กับระยะทางโดยประมาณ 2,600 กิโลเมตร
เส้นทางที่เราวางแผนท่องเที่ยวคราวๆก็จะมีเริ่มที่ Manali,ผ่านเมืองKeylong,พักนอนที่ Sarchu,พักนอนอีกที Pang,ถึง Leh,
ไปทะเลสาบ Pangong,ต่อด้วยไปขี่อูฐที่ Hunder,กลับมา Leh,แวะพักที่ Kargril,ต่อ Sonamarg,แวะเที่ยวค้างคืนที่ Srinagar,
ลุยต่อ Jammu,ดูวิหารทองคำที่ Amritsar,ดูการปิดด่านที่ ชายแดนอินเดีย-ปากีสถาน,แวะพักหนึ่งคืนก่อนกลับที่ Mandi
เส้นทางก็เป็นไปตามนี้ เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา แล้วแตาใจอยากจะไป
เมื่อเรียบร้อยแล้ว สตาร์ทรถเพื่อมุ่งหน้าไปในเส้นทาง Manali-Leh Highway
เราทั้งสองออกจากที่ Manali ประมาณ เกือบๆแปดโมงเช้า ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำ Beas ผ่านหน้าร้าน Naveen
บีบแตรบอกนิดหน่อย(บีบทำไมยังไม่มีใครตื่น)
Gopro HERO
ออกมาได้ไม่นานก็เจอด่านตรวจด่านแรกก่อนออกจากเมือง
เป็นด่านที่อยู่ก่อนถึงหมู่บ้าน Solang Valley
ด่านนี้จะตรวจเอกสารของรถและของคน และจดชื่อเราไม่นานครับ ไปต่อโล๊ด
มุ่งหน้าไปที่ Rohtang Pass ซึ่งจะเป็น Pass แรก เส้นทางเริ่มขึ้นเขาและคดเคี้ยวขึ้นเรื่อยๆ วิ่งผ่านหมู่บ้านเล็กๆ
ไม่นานก็ผ่านและไม่มีหมู่บ้านแล้ว มีแต่ป่าสนและหิน
Shot:Samsung S7edge
ผ่านป่าสนและเส้นทางที่โค้งไปโค้งมาไต่เขาขึ้นมาเรื่อย ก็มีอีกด่าน ด่านนี้ตรวเอกสารจริงจังนิดหน่อยครับ
ตรวจ Passport,Permit ของคนและรถ,จดชื่อและเซ็นชื่อ ด้วยแต่ไม่ต้องซีเรียสครับตำรวจที่นี้ใจดี
รถทุกคันที่ผ่านจุดนี้จะต้องตรวจเอกสารทุกคัน
เรียบร้อยทุกอย่างดูนาฬิการ เวลาก็ 9.50 น.แล้วแดดเริ่มออกอากาศเริ่มอุ่นขึ้น
แล้วก็ไปกันต่อ เราต้องขี่ผ่านโค้งที่คดเคี้ยว วนไปวนมาอีกเยอะที่ดูจากแผนที่ในโทรศัพย์
"แผนที่และการนำทาง GPS เราใช่ในโทรศัพท์ครับ
ของผมใช่ Samsung S7edge โหลด Apps
MAPS.ME มาใช่เพราะ Apps นี้ใช่ได้แม้ไม่มีสัญญานอินเอตร์เน็ต ผมชอบมากๆเพราะแม่นยำ
มีรายละเอียดครบ ปั๊มน้ำมัน โรงแรม ฯลฯ ผมปักพินทุกที่ ที่ผมแวะจอดตรงไหนใว้ ผมแบ่งปันให้คนอื่นได้ด้วย
มีให้โหลดทั้ง IOS.และ ANDROID.
และของพี่แซ็กใช่โทรศัพท์ Nokia Lumia 1020
ที่มีแผนที่ติดตั้งมาในตัวแล้วแต่ต้องโหลดเพิ่มในประเทศที่เราจะไปเพิ่มเติม"
เราทั้งสองอยากจอดอยากหยุดถ่ายรูปตรงไหน อยากแวะพักนานๆ เราจอดไม่แคร์ว่าจุดหมายเราจะถึงหรือไม่ถึง
จอดมันทุกที่ที่เห็นว่ามันสวย(จริงๆแล้วมันสวยทุกกิโลเมตร)
เส้นทางเริ่มขึ้นสู่เขาสูงขึ้นเรื่อยๆ แล้วเริ่มมองเห็นทางที่เราขับผ่านมามันสวยมาก
Shot:Samsung S7edge
ถ่ายรูปคู่กับ ROYAL EEFIELD BULLET500 ซะหน่อย
Shot:Samsung S7edge
ขี่ขึ้นมาได้นิดเดียวก็เจอก้อนหินก้อนใหญ่ยื่นออกไป จอดๆๆๆ
มอไปไกลๆก็เห็นน้ำตก ที่ละลายมากจากน้ำแข็งที่เกาะอยู่ตามยอดเขามันสวยงามมาก
Shot:Samsung S7edge
พร้อมไปต่อแล้วนะฮะ กอดแน่นๆนะฮะ
Shot:Samsung S7edge
ROYAL EEFIELD BULLET500
Shot:Samsung S7edge
ออกจากจุดแวะถ่ายรูปสักพักก็มองเห็นจุดพักรถ ชื่อ Marhi เป็นจุดพักรถและร้านอาหาร และแน่นอนเราทั้งสอง
ยังไม่ได้กินอะไรมาเลยตั้งแต่เมื่อเช้า มีแต่เสบียงที่เป็นแอปเปิ้ลเก็บไว้กินมื้อเที่ยง ที่เราซื้อมาจากตลาดในเมือง Manali
เราแวะกินข้าวเช้าที่นี้ ร้านมีหลายร้านให้เลือกครับ เราเลือกร้านที่เกือบถึง
ดูเมนูก็เหมือนๆเดิม เลยสั้งอาหารที่ง่ายและอร่อยที่สุดคือ ออมเล็ต และไข่ผัดพริก เติมพลัง
Shot:Samsung S7edge
และแล้วเราก็ได้งัดไม้เด็ดของเราออกมาสักที พกมาจากบ้านเลยนะเนีย พอให้มื้อนี้เจริญอาหารได้มากเลยทีเดียว
Shot:Samsung S7edge
เมื่ออิ่มท้องกับมื้อเช้าแล้วก็พร้อมเดินทางต่อ มองเห็นป้ายบอกระยะทางแล้วก็แอบท้อใจ ฮาๆๆ
Samsung Camera Compact
เส้นทางต่อไปนี้ก็เริ่มจะไม่มีต้นไม้ให้เห็นแล้วเพราะขึ้นเขาสูงขึ้นเป็นลำดับและถนนก็มีการซ้อมแซ่มอยู่ตลอดเส้นทาง
บางจุดเป็นทางดิน บางจุดเป็นทางหิน บางจุดเป็นลาดยาง มีหลุมเยอะตลอดเส้นทาง แต่วิวสวยให้อภัย
Gopro HERO
แว้นกันมาจนใกล้ถึง Rohtang Pass แล้วแต่ขี่มาก็มองไปเห็นเนินเขาเล็กๆ น่าจะเป็นจุดชมวิว
เลยลองขับขึ้นไปดู
"ลองคิดดูว่า วิวที่สวยงามอากาศเย็นๆ เสียงลมพัดผ่านหู มีเสียงของแกะร้องเป็นเสียงประกอบ"
มันเป็นอะไรที่ดีมากๆ มองเห็นถนนที่เราผ่านมา และยังมองเห็นที่เราจอดแวะพักกินข้าวเช้าอยู่ลืบๆๆโน่น กลางภาพ
Samsung Camera Compact
จอดแช่อยู่พักใหญ่เลย จนเกือบลืมไปว่าต้องไปต่อ หลงรักที่นี้ขึ้นเรื่อยๆ
Shot:Samsung S7edge
วีดีโอเพิ่มเติม สถานที่ตรงนี้
Shot:Samsung S7edge
แล้วเราก็ได้มาถึง Pass แรกจนได้ คือที่ Rohtang Pass จุดนี้มีความสูง 3,980 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง
Shot:Samsung S7edge
ตาม Pass จะมีสายธงมนตรา ดูสะดุดสุดตาด้วยสีสัน แต่ละผืนสะบัดปลิว ดูสวยงาม
Shot:Samsung S7edge
เวลาจอดมักจะมีนักท่องเที่ยว ชาวอินเดียมาพูดคุยด้วยถามต่างๆนานา แล้วก็จะต้องถ่ายรูปด้วยกันตลอด
รู้สึกเหมือนเป็นดารายังไงก็ไม่รู้ฮาๆๆ
Shot:Samsung S7edge
วิวในส่วนของ Pass นี้ก็งามอย่างนี้ละครับท่านผู้อ่าน
Shot:Samsung S7edge
อยู่ไม่นานเพราะ ดูเวลาแล้วแทบตกใจ 13.10 แล้วยังไม่ถึงไหนเลย วันนี้จุดหมายของเราว่าจะไปให้ถึง Sarchu ให้ได้
เดินทางต่อกัน
Samsung Camera Compact
[CR] LOST IN HIMALAYAN/HIMALAYAN ROAD TRIP 2016 สวรรค์ของอินเดีย Ladakh,Jammu and Kashmir 23 วัน หลงไปด้วยกัน PART 2
PART 2 Road to Paradise
23 วัน ห้ารัฐ หลากหลายผู้คน หลากหลายภูมิประเทศ หลากหลายเชื่อชาติ
หลากหลายวัฒนธรรม กับเราทั้งสองคน สองคัน ที่จะพาไปหลงไปในเทือกเขา หิมาลัย
"เดินทางจากกรุงเทพจนมาถึง New Delhi แล้วเราทั้งสองก็พาตัวเองมาถึง Manali ใน Part 1
และแล้วการเดินทางในเส้นทางที่เราทั้งสองได้วางแผนมา(คราวๆ) กำลังจะได้เริ่มต้นขึ้น ใน Part 2
ขอขอบคุณสำหรับคำติชม การโหวตและติดตาม ขอขอบคุณจากใจครับ"
Part 1
LOST IN HIMALAYAN/HIMALAYAN ROAD TRIP 2016สวรรค์ของอินเดีย Ladakh,Jammu and Kashmir
23 วัน ห้ารัฐ หลงไปด้วยกัน PART1 จุดเริ่มต้น
http://ppantip.com/topic/35859734
FACEBOOK
https://web.facebook.com/lostinParadise.thailand
เพจไม่ดีต่อใจเท่าไรนะครับ ไม่ค่อยได้อัพเดท ให้อภัยกันนะ
INSTAGRAM
https://www.instagram.com/flyingboy27
กระทู้ตลุยเวียดนามใต้ แบบฉายเดียว บนมอเตอร์ไซค์คันเก๋ๆๆ
http://ppantip.com/topic/35493582
เส้นทาง Manali-Leh Highway เป็นเส้นทางที่สวยงาม ถนนที่สูงและอันตรายอันดับต้นๆของโลก
เป็นเส้นทางฝันของใครหลายๆคนที่จะได้มาเยือนถนนเส้นนี้ และจะลืมไปเลยว่าที่นี้คือ "อินเดีย"
เสียงตั้งนาฬิการปลุกดังขึ้นในเวลา 5.00 น.เสียงดังสนั่นไปทั้งโรงแรม เราทั้งสองสดุงตื่นมาพร้อมกัน
ตื่นมากับความตื่นเต้น ดีดตัวขึ้นออกมาจากเตียงที่แสนอุ่น "นี้เรากำลังจะเดินทางในเส้นทางที่เราฝันใว้จริงๆแล้วซินะ"
อาบน้ำ ใส่เสื้อผ้า ที่ให้ตัวเองอุ่นๆเข้าใว้ กระเป๋าที่เก็บใว้เรียบร้อยตั้งแต่เมื่อคืนจับมันยกขึ้นแล้วเปิดประตูห้อง
คนเฝ้าโรงแรมตื่นมาพอดีแล้วทักทายเป็นภาษาฮินดี้ และกลาวคำว่า "นมัสเต" เราก้าวออกจากประตูโรงแรม
ยกกระเป๋าวางใว้แร็คท้ายรถ ROYAL EEFIELD BULLET500 อากาศตอนเช้าของ Manali เย็นมาก หมัดสัมพาระทุกอย่างใว้
อย่างแน่นหนา เรียบร้อยแล้วก็บอกลาคนเฝ้าโรงแรมที่คุยกันไม่รู้เรื่อง และเช็คเอกสาร กล้อง ต่างๆเพื่อความแน่นอน
ก่อนออกเดินทาง
เวลาตอนนี้ก็ ปาเข้าไป 7 โมงกว่าแล้ว ผมตื่นเต้นจริงๆนะที่จะได้เดินทางในเส้นทางที่เราตังใจใว้จริงซะที
และได้ขี่เจ้า ROYAL EEFIELD รุ่น BULLET500 ด้วย ยิ่งเป็นอะไรที่มันแน่นอน
เราสองคนเอารถออกจากรั้วของโรงแรม ทีละคันเพราะออกได้ทีละคัน ช่วงเช้าการสตาร์ทรถจะอยากนิดหน่อยเพราะอากาศที่เย็นมาก
แต่ก็ไม่นานเกินไปสองสามทีก็ติด เมื่อออกมาจากรั่วโรงแรมเราทั้งสองก็มุ่งหน้าตรงไปที่ร้าน Cafe' Amigos ก่อนเป็นอันดับแรก
เพื่อเชื่อมต่อ Wifi เพื่อติดต่อคนที่บ้านของเราทั้งให้รู้ว่าเราทั้งสองกำลังจะเดินทาง และติดต่อไม่ได้เป็นเวลา สามวันหรือไม่ก็สี่วัน
ไม่ก็ห้าวันเรายังไม่รู้
เส้นทางการท่องเที่ยวด้วย ROYAL EEFIELD BULLET500 ของเราเป็นเส้นทางวนเป็นวงกลม One Way Trip
ผ่านเมืองและหมู่บ้านต่างๆมากมาย เส้นทางนี้เราทั้งสองใช้เวลา 15 วันในการเดินทาง กับระยะทางโดยประมาณ 2,600 กิโลเมตร
เส้นทางที่เราวางแผนท่องเที่ยวคราวๆก็จะมีเริ่มที่ Manali,ผ่านเมืองKeylong,พักนอนที่ Sarchu,พักนอนอีกที Pang,ถึง Leh,
ไปทะเลสาบ Pangong,ต่อด้วยไปขี่อูฐที่ Hunder,กลับมา Leh,แวะพักที่ Kargril,ต่อ Sonamarg,แวะเที่ยวค้างคืนที่ Srinagar,
ลุยต่อ Jammu,ดูวิหารทองคำที่ Amritsar,ดูการปิดด่านที่ ชายแดนอินเดีย-ปากีสถาน,แวะพักหนึ่งคืนก่อนกลับที่ Mandi
เส้นทางก็เป็นไปตามนี้ เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา แล้วแตาใจอยากจะไป
เมื่อเรียบร้อยแล้ว สตาร์ทรถเพื่อมุ่งหน้าไปในเส้นทาง Manali-Leh Highway
เราทั้งสองออกจากที่ Manali ประมาณ เกือบๆแปดโมงเช้า ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำ Beas ผ่านหน้าร้าน Naveen
บีบแตรบอกนิดหน่อย(บีบทำไมยังไม่มีใครตื่น)
ออกมาได้ไม่นานก็เจอด่านตรวจด่านแรกก่อนออกจากเมือง
เป็นด่านที่อยู่ก่อนถึงหมู่บ้าน Solang Valley
ด่านนี้จะตรวจเอกสารของรถและของคน และจดชื่อเราไม่นานครับ ไปต่อโล๊ด
มุ่งหน้าไปที่ Rohtang Pass ซึ่งจะเป็น Pass แรก เส้นทางเริ่มขึ้นเขาและคดเคี้ยวขึ้นเรื่อยๆ วิ่งผ่านหมู่บ้านเล็กๆ
ไม่นานก็ผ่านและไม่มีหมู่บ้านแล้ว มีแต่ป่าสนและหิน
ผ่านป่าสนและเส้นทางที่โค้งไปโค้งมาไต่เขาขึ้นมาเรื่อย ก็มีอีกด่าน ด่านนี้ตรวเอกสารจริงจังนิดหน่อยครับ
ตรวจ Passport,Permit ของคนและรถ,จดชื่อและเซ็นชื่อ ด้วยแต่ไม่ต้องซีเรียสครับตำรวจที่นี้ใจดี
รถทุกคันที่ผ่านจุดนี้จะต้องตรวจเอกสารทุกคัน
เรียบร้อยทุกอย่างดูนาฬิการ เวลาก็ 9.50 น.แล้วแดดเริ่มออกอากาศเริ่มอุ่นขึ้น
แล้วก็ไปกันต่อ เราต้องขี่ผ่านโค้งที่คดเคี้ยว วนไปวนมาอีกเยอะที่ดูจากแผนที่ในโทรศัพย์
"แผนที่และการนำทาง GPS เราใช่ในโทรศัพท์ครับ
ของผมใช่ Samsung S7edge โหลด Apps
MAPS.ME มาใช่เพราะ Apps นี้ใช่ได้แม้ไม่มีสัญญานอินเอตร์เน็ต ผมชอบมากๆเพราะแม่นยำ
มีรายละเอียดครบ ปั๊มน้ำมัน โรงแรม ฯลฯ ผมปักพินทุกที่ ที่ผมแวะจอดตรงไหนใว้ ผมแบ่งปันให้คนอื่นได้ด้วย
มีให้โหลดทั้ง IOS.และ ANDROID.
และของพี่แซ็กใช่โทรศัพท์ Nokia Lumia 1020
ที่มีแผนที่ติดตั้งมาในตัวแล้วแต่ต้องโหลดเพิ่มในประเทศที่เราจะไปเพิ่มเติม"
เราทั้งสองอยากจอดอยากหยุดถ่ายรูปตรงไหน อยากแวะพักนานๆ เราจอดไม่แคร์ว่าจุดหมายเราจะถึงหรือไม่ถึง
จอดมันทุกที่ที่เห็นว่ามันสวย(จริงๆแล้วมันสวยทุกกิโลเมตร)
เส้นทางเริ่มขึ้นสู่เขาสูงขึ้นเรื่อยๆ แล้วเริ่มมองเห็นทางที่เราขับผ่านมามันสวยมาก
ถ่ายรูปคู่กับ ROYAL EEFIELD BULLET500 ซะหน่อย
ขี่ขึ้นมาได้นิดเดียวก็เจอก้อนหินก้อนใหญ่ยื่นออกไป จอดๆๆๆ
มอไปไกลๆก็เห็นน้ำตก ที่ละลายมากจากน้ำแข็งที่เกาะอยู่ตามยอดเขามันสวยงามมาก
พร้อมไปต่อแล้วนะฮะ กอดแน่นๆนะฮะ
ROYAL EEFIELD BULLET500
ออกจากจุดแวะถ่ายรูปสักพักก็มองเห็นจุดพักรถ ชื่อ Marhi เป็นจุดพักรถและร้านอาหาร และแน่นอนเราทั้งสอง
ยังไม่ได้กินอะไรมาเลยตั้งแต่เมื่อเช้า มีแต่เสบียงที่เป็นแอปเปิ้ลเก็บไว้กินมื้อเที่ยง ที่เราซื้อมาจากตลาดในเมือง Manali
เราแวะกินข้าวเช้าที่นี้ ร้านมีหลายร้านให้เลือกครับ เราเลือกร้านที่เกือบถึง
ดูเมนูก็เหมือนๆเดิม เลยสั้งอาหารที่ง่ายและอร่อยที่สุดคือ ออมเล็ต และไข่ผัดพริก เติมพลัง
และแล้วเราก็ได้งัดไม้เด็ดของเราออกมาสักที พกมาจากบ้านเลยนะเนีย พอให้มื้อนี้เจริญอาหารได้มากเลยทีเดียว
เมื่ออิ่มท้องกับมื้อเช้าแล้วก็พร้อมเดินทางต่อ มองเห็นป้ายบอกระยะทางแล้วก็แอบท้อใจ ฮาๆๆ
เส้นทางต่อไปนี้ก็เริ่มจะไม่มีต้นไม้ให้เห็นแล้วเพราะขึ้นเขาสูงขึ้นเป็นลำดับและถนนก็มีการซ้อมแซ่มอยู่ตลอดเส้นทาง
บางจุดเป็นทางดิน บางจุดเป็นทางหิน บางจุดเป็นลาดยาง มีหลุมเยอะตลอดเส้นทาง แต่วิวสวยให้อภัย
แว้นกันมาจนใกล้ถึง Rohtang Pass แล้วแต่ขี่มาก็มองไปเห็นเนินเขาเล็กๆ น่าจะเป็นจุดชมวิว
เลยลองขับขึ้นไปดู
"ลองคิดดูว่า วิวที่สวยงามอากาศเย็นๆ เสียงลมพัดผ่านหู มีเสียงของแกะร้องเป็นเสียงประกอบ"
มันเป็นอะไรที่ดีมากๆ มองเห็นถนนที่เราผ่านมา และยังมองเห็นที่เราจอดแวะพักกินข้าวเช้าอยู่ลืบๆๆโน่น กลางภาพ
จอดแช่อยู่พักใหญ่เลย จนเกือบลืมไปว่าต้องไปต่อ หลงรักที่นี้ขึ้นเรื่อยๆ
วีดีโอเพิ่มเติม สถานที่ตรงนี้
แล้วเราก็ได้มาถึง Pass แรกจนได้ คือที่ Rohtang Pass จุดนี้มีความสูง 3,980 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง
ตาม Pass จะมีสายธงมนตรา ดูสะดุดสุดตาด้วยสีสัน แต่ละผืนสะบัดปลิว ดูสวยงาม
เวลาจอดมักจะมีนักท่องเที่ยว ชาวอินเดียมาพูดคุยด้วยถามต่างๆนานา แล้วก็จะต้องถ่ายรูปด้วยกันตลอด
รู้สึกเหมือนเป็นดารายังไงก็ไม่รู้ฮาๆๆ
วิวในส่วนของ Pass นี้ก็งามอย่างนี้ละครับท่านผู้อ่าน
อยู่ไม่นานเพราะ ดูเวลาแล้วแทบตกใจ 13.10 แล้วยังไม่ถึงไหนเลย วันนี้จุดหมายของเราว่าจะไปให้ถึง Sarchu ให้ได้
เดินทางต่อกัน
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น