กระแสของการจัดระเบียบสิ่งของในประเทศญี่ปุ่นมีมานานแล้ว แต่สำหรับประเทศไทยคงเพิ่งเริ่มตื่นตัวกันบ้าง แม้บางคนจะชื่นชอบการจัดระเบียบสิ่งของหรือการจัดระเบียบบ้าน แต่การจะลองหาคู่มือหรือหนังสืออ่าน คงเป็นเรื่องยากพอสมควร หรือนึกภาพตามคงยากนะคะ
วันนี้ Proud นักจัดระเบียบสิ่งของ แนะนำหนังสือสำหรับคนที่อยากลองจัดบ้านจัดสิ่งของได้ลองมาอ่านกัน ซึ่งมีเนื้อหาที่อ่านง่ายๆ สบายตา เพราะมาในรูปแบบการ์ตูน How To ในชุดซีรีส์ “ลด-โละ-ละ” เรื่อง “ยิ่งทิ้งยิ่งได้” ของสำนักพิมพ์อินสปายร์ ในเครือ นานมีบุ๊คส์ ค่ะ
หัวใจหลักของหนังสือจะกล่าวถึง ศัพท์เฉพาะ 3 คำ ว่า ลด-โละ-ละ ซึ่งมาจากภาษาญี่ปุ่นว่า ดัน-ชะ-ริ หรือแปลในภาษาอังกฤษว่า refuse +release = relieve ซึ่งประยุกต์มาจากหลักธรรมในพระพุทธศาสนาเน้นถึงการปล่อยวาง และตัดกิเลสในใจ โดยประยุกต์มาเป็นการสร้างความสุขจากพื้นที่ว่างของบ้านและหัวใจ ซึ่งคำดังกล่าวเป็นคำที่แพร่หลายมาตั้งแต่ปี ค.ศ.2008 ซึ่งคิดค้นโดย อ.ยะมะชิตะ ฮิเดะโกะ กูรูด้านการจัดระเบียบบ้านของญี่ปุ่น
จุดเด่นของหนังสือ คงต้องยกให้เรื่อง การใช้ “ภาพการ์ตูน” เป็นสื่อเล่าทำให้เห็นภาพ อ่านง่าย สนุก บันเทิงและมีสาระไปพร้อมกัน เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบอ่านอะไรยาวๆ นานๆ และยังมีเคล็ดลับสอดแทรกอยู่ระหว่างบทด้วยค่ะ ประกอบกับการเล่าเรื่องที่ค่อยๆ เล่าเสมือนว่าเรายังเป็นมือใหม่หัดจัดระเบียบ บอกเล่าปัญหาและการแก้ไขที่ใครทุกคนต้องเจอกันอย่างแน่นอนค่ะ
หลักการ “ลด – โละ-ละ”
หนังสือแบ่งเนื้อหาไว้ทั้งหมด 11 ตอนด้วยกัน แม้จะชื่อว่าหลักการ “ลด โละ ละ” แต่ไม่ได้จะมุ่งเน้นถึงการ “ทิ้ง” สิ่งของอย่างเดียวเท่านั้นนะคะ เพราะเป้าหมายสำคัญของหนังสือเล่มนี้ คือการให้ผู้อ่านสามารถลดจำนวนสิ่งของที่ไม่จำเป็น ค่อยๆ สร้างพื้นที่ว่างของตัวเอง เพื่อจะได้อยู่กับสิ่งของที่ทำให้ตัวเองมีความสุข รวมถึงฝึกสายตาเพื่อพิจารณาว่าจะคัดเลือกสิ่งใดที่เหมาะสมกับชีวิตและอยู่ร่วมกันได้ในชีวิตประจำวัน
1.ไม่ควรคิดว่า “สิ่งของ” มีชีวิตจิตใจ
เพราะทำให้คนที่เก็บของไว้มีความรู้สึกผิดต่อสิ่งของเหล่านั้น เมื่อเราจะต้องทำการทิ้ง ดังนั้น การแยกแยะของที่ต้องทิ้งหรือของที่ต้องเก็บ จึงเป็นปฐมบทของการลดโละละที่สำคัญ ซึ่งข้อควรจำที่สำคัญคือ “เราไม่ได้มีชีวิตอยู่เพื่อมีสิ่งของ” แต่ “เรามีสิ่งของเพื่อความเป็นอยู่ของเรา”
2.เหตุผลที่คนไม่ยอมทิ้งข้าวของ
ในหนังสือกล่าวถึงต้นตอปัญหาตัวสำคัญของเพื่อนๆ นักลด โละ ละ เอาไว้ถึง 10 ข้อเลยค่ะ แต่เราขอเสนอประเด็นที่น่าสนใจบางข้อ เช่น “คิดว่าสักวันต้องได้ใช้” แต่ในความเป็นจริงแล้ว คำว่าสักวันนั้นไม่เคยเกิดขึ้นจริงๆ หลายคนเลือกเก็บของชิ้นนั้นราวกับเก็บ “สมบัติบ้า” จนหลงลืมไปว่าเราต้องเสียต้นทุนในการจัดเก็บไม่ว่าจะเป็นเวลาและพื้นที่ไปมากมายขนาดไหน
3.คัดผู้รอดชีวิตและผู้จากไป
ผู้รอดชีวิตหมายถึง สิ่งของที่รอดพ้นจากเกณฑ์การคัดเลือกและเรายังเก็บของสิ่งนั้น ซึ่งเป็นสิ่งของที่ทำให้เราชื่นใจ อิ่มใจเมื่อได้ใช้สอย ส่วน “ผู้จากไป” คือ สิ่งของที่เราประเมินแล้วว่าหมดประโยชน์สำหรับเราแล้ว ซึ่งผู้เขียนแนะนำว่าให้คิดว่าการเคลียร์บ้านแบบลดโละละ คือการค้นหาสมบัติ ที่ซ่อนอยู่ในกองสิ่งของที่ไร้ประโยชน์
4.พร้อมจะลาโลกได้ทุกเมื่อ
วิธีคิดนี้แปลกดี เพราะสอดแทรกคติทางพุทธศาสนาเรื่องการคิดถึงเรื่องความตายเป็นเรื่องใกล้ตัว ทำให้ตระหนักว่าชีวิตที่มีความหมายขึ้นอยู่กับประสบการณ์มากกว่าสิ่งของ ซึ่งวิธีคิดแบบนี้จะช่วยทำให้พิจารณาถึงการจัดลำดับความสำคัญของชีวิต
5.ปล่อยวางข้าวของด้วยระบบ “ปันกัน”
ถ้าสิ่งของที่เราไม่ต้องการแล้ว ยังมีสภาพดีแล้วล่ะก็ด เราไม่ควรทิ้งค่ะ แต่ควร “ส่งต่อ” ให้กับคนอื่นที่ยินดีรับของนั้นไปใช้ต่อ (แต่ไม่ใช่การยัดเยียดให้กับคนที่เขาไม่อยากได้นะ) ซึ่งจะช่วยทำให้ลดความรู้สึกผิดเมื่อต้องทิ้งของสิ่งนั้นไป
6. ลดโละละ เพื่อเติมเต็มตัวเรา
“นนจัง” ผู้เขียนบอกเล่าประสบการณ์หลังจากการผ่าน ลด โละ ละมาแล้วว่า มักจะเกิดสิ่งอัศจรรย์มามากมาย ไม่ว่าห้องที่แออัดจะดูโล่งสะอาด หรือจิตใจที่ขุ่นมัวจะปลอดโปร่ง สุขสงบ รวมถึงพฤติกรรมของตัวเองที่ปรับเปลี่ยนไปในแง่ดีขึ้น ทั้งขยันทำความสะอาดมากขึ้น เลิกใช้ข้าวของที่ไร้สาระ การทำงานที่มีประสิทธิภาพดึขึ้น รวมถึงเรื่องสุขภาพด้วยเช่นกัน และข้อสุดท้ายคือ สมปรารถนาในสิ่งที่หวัง (ส่วนว่า “นนจัง” ได้สมปรารถนาในพรเรื่องอะไรนั้น คงต้องตามไปอ่านกันในหนังสือค่ะ)
หนังสือเรื่อง ลด โละ ละ “ยิ่งทิ้ง ยิ่งได้” ไม่ใช่แค่หนังสือที่สอนให้คนหัด “ทิ้ง” สิ่งของกันหรอกนะคะ แต่เป็นคู่มือสอนวิธีเติมสุขให้ชีวิตสดใส ช่วยฝึกจิตใจ ให้กล้าเผชิญหน้ากับสิ่งที่ตัดสินใจได้ยากยิ่งค่ะ และเมื่อเราเรียนรู้วิธีการเหล่านี้แล้ว การสร้าง “พื้นที่ว่าง” ให้กับบ้านของตัวเองพร้อมกับสิ่งของที่เปล่งประกายความ “พราว” อยู่รอบตัว ย่อมทำให้ เราพบแต่ความสดใสและสิ่งดีๆ
ขอให้ทุกคนโชคดีกับการจัดบ้านนะคะ สวัสดีค่ะ
by PROUD นักจัดระเบียบสิ่งของ
เพื่อนที่จะมาเปลี่ยนสิ่งของรอบตัวคุณให้ “พราว” จนรู้สึก “PROUD”
ป.ล.สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจการจัดระเบียบสิ่งของ จัดระเบียบบ้าน ติดตามเคล็ดลับดีๆ และรีวิวได้จาก Proud
ผ่านทาง
www.facebook.com/proud.tidy หรือ
http://proudtidy.wixsite.com/proudtidy
เครดิต ข้อมูลและภาพประกอบ -
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หนังสือ ลด โละ ละ 1 “ยิ่งทิ้งยิ่งได้”
ผู้เขียนและภาพ ซูซูกิ จุนโกะ เจ้าของเรื่องและที่ปรึกษา คาวาบาตะ โนบูโกะ “ทูตแห่งการลด โละ ละ” (สำนักพิมพ์ inspire)
http://www.nanmeebooks.com/book/online_cat1_detail.php?bid=6161&isbn=0433-04-9
[CR] ยิ่งทิ้งยิ่งได้ สู่การเป็นนัก “ลด-โละ-ละ”
กระแสของการจัดระเบียบสิ่งของในประเทศญี่ปุ่นมีมานานแล้ว แต่สำหรับประเทศไทยคงเพิ่งเริ่มตื่นตัวกันบ้าง แม้บางคนจะชื่นชอบการจัดระเบียบสิ่งของหรือการจัดระเบียบบ้าน แต่การจะลองหาคู่มือหรือหนังสืออ่าน คงเป็นเรื่องยากพอสมควร หรือนึกภาพตามคงยากนะคะ
วันนี้ Proud นักจัดระเบียบสิ่งของ แนะนำหนังสือสำหรับคนที่อยากลองจัดบ้านจัดสิ่งของได้ลองมาอ่านกัน ซึ่งมีเนื้อหาที่อ่านง่ายๆ สบายตา เพราะมาในรูปแบบการ์ตูน How To ในชุดซีรีส์ “ลด-โละ-ละ” เรื่อง “ยิ่งทิ้งยิ่งได้” ของสำนักพิมพ์อินสปายร์ ในเครือ นานมีบุ๊คส์ ค่ะ
หัวใจหลักของหนังสือจะกล่าวถึง ศัพท์เฉพาะ 3 คำ ว่า ลด-โละ-ละ ซึ่งมาจากภาษาญี่ปุ่นว่า ดัน-ชะ-ริ หรือแปลในภาษาอังกฤษว่า refuse +release = relieve ซึ่งประยุกต์มาจากหลักธรรมในพระพุทธศาสนาเน้นถึงการปล่อยวาง และตัดกิเลสในใจ โดยประยุกต์มาเป็นการสร้างความสุขจากพื้นที่ว่างของบ้านและหัวใจ ซึ่งคำดังกล่าวเป็นคำที่แพร่หลายมาตั้งแต่ปี ค.ศ.2008 ซึ่งคิดค้นโดย อ.ยะมะชิตะ ฮิเดะโกะ กูรูด้านการจัดระเบียบบ้านของญี่ปุ่น
จุดเด่นของหนังสือ คงต้องยกให้เรื่อง การใช้ “ภาพการ์ตูน” เป็นสื่อเล่าทำให้เห็นภาพ อ่านง่าย สนุก บันเทิงและมีสาระไปพร้อมกัน เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบอ่านอะไรยาวๆ นานๆ และยังมีเคล็ดลับสอดแทรกอยู่ระหว่างบทด้วยค่ะ ประกอบกับการเล่าเรื่องที่ค่อยๆ เล่าเสมือนว่าเรายังเป็นมือใหม่หัดจัดระเบียบ บอกเล่าปัญหาและการแก้ไขที่ใครทุกคนต้องเจอกันอย่างแน่นอนค่ะ
หลักการ “ลด – โละ-ละ”
หนังสือแบ่งเนื้อหาไว้ทั้งหมด 11 ตอนด้วยกัน แม้จะชื่อว่าหลักการ “ลด โละ ละ” แต่ไม่ได้จะมุ่งเน้นถึงการ “ทิ้ง” สิ่งของอย่างเดียวเท่านั้นนะคะ เพราะเป้าหมายสำคัญของหนังสือเล่มนี้ คือการให้ผู้อ่านสามารถลดจำนวนสิ่งของที่ไม่จำเป็น ค่อยๆ สร้างพื้นที่ว่างของตัวเอง เพื่อจะได้อยู่กับสิ่งของที่ทำให้ตัวเองมีความสุข รวมถึงฝึกสายตาเพื่อพิจารณาว่าจะคัดเลือกสิ่งใดที่เหมาะสมกับชีวิตและอยู่ร่วมกันได้ในชีวิตประจำวัน
1.ไม่ควรคิดว่า “สิ่งของ” มีชีวิตจิตใจ
เพราะทำให้คนที่เก็บของไว้มีความรู้สึกผิดต่อสิ่งของเหล่านั้น เมื่อเราจะต้องทำการทิ้ง ดังนั้น การแยกแยะของที่ต้องทิ้งหรือของที่ต้องเก็บ จึงเป็นปฐมบทของการลดโละละที่สำคัญ ซึ่งข้อควรจำที่สำคัญคือ “เราไม่ได้มีชีวิตอยู่เพื่อมีสิ่งของ” แต่ “เรามีสิ่งของเพื่อความเป็นอยู่ของเรา”
2.เหตุผลที่คนไม่ยอมทิ้งข้าวของ
ในหนังสือกล่าวถึงต้นตอปัญหาตัวสำคัญของเพื่อนๆ นักลด โละ ละ เอาไว้ถึง 10 ข้อเลยค่ะ แต่เราขอเสนอประเด็นที่น่าสนใจบางข้อ เช่น “คิดว่าสักวันต้องได้ใช้” แต่ในความเป็นจริงแล้ว คำว่าสักวันนั้นไม่เคยเกิดขึ้นจริงๆ หลายคนเลือกเก็บของชิ้นนั้นราวกับเก็บ “สมบัติบ้า” จนหลงลืมไปว่าเราต้องเสียต้นทุนในการจัดเก็บไม่ว่าจะเป็นเวลาและพื้นที่ไปมากมายขนาดไหน
3.คัดผู้รอดชีวิตและผู้จากไป
ผู้รอดชีวิตหมายถึง สิ่งของที่รอดพ้นจากเกณฑ์การคัดเลือกและเรายังเก็บของสิ่งนั้น ซึ่งเป็นสิ่งของที่ทำให้เราชื่นใจ อิ่มใจเมื่อได้ใช้สอย ส่วน “ผู้จากไป” คือ สิ่งของที่เราประเมินแล้วว่าหมดประโยชน์สำหรับเราแล้ว ซึ่งผู้เขียนแนะนำว่าให้คิดว่าการเคลียร์บ้านแบบลดโละละ คือการค้นหาสมบัติ ที่ซ่อนอยู่ในกองสิ่งของที่ไร้ประโยชน์
4.พร้อมจะลาโลกได้ทุกเมื่อ
วิธีคิดนี้แปลกดี เพราะสอดแทรกคติทางพุทธศาสนาเรื่องการคิดถึงเรื่องความตายเป็นเรื่องใกล้ตัว ทำให้ตระหนักว่าชีวิตที่มีความหมายขึ้นอยู่กับประสบการณ์มากกว่าสิ่งของ ซึ่งวิธีคิดแบบนี้จะช่วยทำให้พิจารณาถึงการจัดลำดับความสำคัญของชีวิต
5.ปล่อยวางข้าวของด้วยระบบ “ปันกัน”
ถ้าสิ่งของที่เราไม่ต้องการแล้ว ยังมีสภาพดีแล้วล่ะก็ด เราไม่ควรทิ้งค่ะ แต่ควร “ส่งต่อ” ให้กับคนอื่นที่ยินดีรับของนั้นไปใช้ต่อ (แต่ไม่ใช่การยัดเยียดให้กับคนที่เขาไม่อยากได้นะ) ซึ่งจะช่วยทำให้ลดความรู้สึกผิดเมื่อต้องทิ้งของสิ่งนั้นไป
6. ลดโละละ เพื่อเติมเต็มตัวเรา
“นนจัง” ผู้เขียนบอกเล่าประสบการณ์หลังจากการผ่าน ลด โละ ละมาแล้วว่า มักจะเกิดสิ่งอัศจรรย์มามากมาย ไม่ว่าห้องที่แออัดจะดูโล่งสะอาด หรือจิตใจที่ขุ่นมัวจะปลอดโปร่ง สุขสงบ รวมถึงพฤติกรรมของตัวเองที่ปรับเปลี่ยนไปในแง่ดีขึ้น ทั้งขยันทำความสะอาดมากขึ้น เลิกใช้ข้าวของที่ไร้สาระ การทำงานที่มีประสิทธิภาพดึขึ้น รวมถึงเรื่องสุขภาพด้วยเช่นกัน และข้อสุดท้ายคือ สมปรารถนาในสิ่งที่หวัง (ส่วนว่า “นนจัง” ได้สมปรารถนาในพรเรื่องอะไรนั้น คงต้องตามไปอ่านกันในหนังสือค่ะ)
หนังสือเรื่อง ลด โละ ละ “ยิ่งทิ้ง ยิ่งได้” ไม่ใช่แค่หนังสือที่สอนให้คนหัด “ทิ้ง” สิ่งของกันหรอกนะคะ แต่เป็นคู่มือสอนวิธีเติมสุขให้ชีวิตสดใส ช่วยฝึกจิตใจ ให้กล้าเผชิญหน้ากับสิ่งที่ตัดสินใจได้ยากยิ่งค่ะ และเมื่อเราเรียนรู้วิธีการเหล่านี้แล้ว การสร้าง “พื้นที่ว่าง” ให้กับบ้านของตัวเองพร้อมกับสิ่งของที่เปล่งประกายความ “พราว” อยู่รอบตัว ย่อมทำให้ เราพบแต่ความสดใสและสิ่งดีๆ
ขอให้ทุกคนโชคดีกับการจัดบ้านนะคะ สวัสดีค่ะ
by PROUD นักจัดระเบียบสิ่งของ
เพื่อนที่จะมาเปลี่ยนสิ่งของรอบตัวคุณให้ “พราว” จนรู้สึก “PROUD”
ป.ล.สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจการจัดระเบียบสิ่งของ จัดระเบียบบ้าน ติดตามเคล็ดลับดีๆ และรีวิวได้จาก Proud
ผ่านทาง www.facebook.com/proud.tidy หรือ http://proudtidy.wixsite.com/proudtidy
เครดิต ข้อมูลและภาพประกอบ -
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้