สวัสดีค่ะ เราอายุ 25 ปี คบกับแฟนคนนี้มา 2 ปีแล้ว
ต้องบอกก่อนว่า เรากับแฟนอายุเท่ากัน เราเรียนจบ ป.ตรี มีงานทำ มีเงินเดือน และมั่นคงในอาชีพการงาน
แต่แฟนเรา ก่อนคบกันค่อนข้างเกเร จึงยังเรียนไม่จบ (และไม่รู้จะเรียนจบไหม) เพราะหลังจากเราคบกัน
แฟนเราก็หางานทำ ตอนแรกเป็นพนักงานขับรถส่งพวกในออฟฟิศไป-กลับ สุวรรณภูมิ เข้างาน 18.00-02.00 น.
หลังจากทำได้อยู่เกือบปี ในออฟฟิศมีคนลาออก แฟนเราจึงได้เลื่อนขึ้นมานั่งออฟฟิศ+ขับรถ
แต่ตอนนี้เริ่มลงตัว รับพนักงานขับรถเข้ามา แฟนเราจึงได้นั่งออฟฟิศเต็มตัว
แฟนเราเป็น มาร์เกตติ้งบริษัททัวร์ หรือพูดง่ายๆก็ขายทัวร์นั่นแหละ
เวลาเข้างานมี 2 ช่วงคือ
เข้าและออก 9.00 - 18.00 น.
ถ้าวันไหนต้องไปส่งลูกค้าเช็คอินที่สนามบิน (เราเรียกว่าวันส่งทัวร์) วันถัดไปได้เข้า 11.00 น. และออก18.00 น.
ช่วงแรกแฟนเราก็เอาการเอางาน เพราะเป็นฝ่ายเสนอตัว ขอ ผจก.เลื่อนจากขับรถ มานั่งออฟฟิศ
จึงต้องขยัน ใส่ใจ เรียนรู้ระบบ แรกๆก็ต้องทำให้ หัวหน้าเห็นว่าสามารถนั่งออฟฟิศได้
เมื่อผ่านโปร ก็จะเริ่มให้ส่งทัวร์ ทำให้มีค่าโอที (เงินเดือนอย่างเดียวไม่พอกิน)
หลังจากทำงานไปได้เกือบ 1 ปี
1. แฟนเราเริ่มไปทำงานสาย (ออฟฟิศเก็บค่ามาสายนาทีละ 10 บาท) บางเดือนแฟนเราโดนค่ามาสาย 2000-3000 บาท
2. บางวันก็ไม่ตื่นไปทำงาน (อาจจะเพราะนอนดึก ไม่ได้ยินเสียงนาฬิกาปลุก หรืออะไรก็แล้วแต่)
3. ลืมเวรวันเสาร์ แลกเวรส่งทัวร์ ลาป่วย(ปลอมๆ)
ประเด็นคือ
1. แฟนเราโดนที่ทำงานตักเตือน หลายต่อหลายครั้ง (เคยร้องไห้ เสียใจ จะปรับปรุง ขอโอกาสแก้ตัว แต่ก็ทำดีได้แปร้บๆ ก็ทำอีก)
2. ที่ทำงานตัดโอกาสก้าวหน้าจากนั่งออฟฟิศ ไม่ได้ขึ้นไกด์ (เพราะมองว่าการตรงต่อเวลานั้นสำคัญ ประกอบกับไม่มีความรับผิดชอบ)
3. โดนย้ายแผนกขายตรง ไปนั่งเอเจ้นท์ กระทันหัน (เนื่องจาก ผจก. มองว่าหัวหน้าแผนก จัดการอะไรไม่ได้ เอาลูกน้องไม่อยู่)
4. ถูกกดดัน ไม่ให้มีเวรส่งทัวร์ จนกว่าจะปรับเรื่องการมาทำงานได้ (ก็มีได้ส่งบ้างในบางวันที่ แอ็กซิเดนท์จริงๆ)
สิ่งที่เราสนใจคือ
1. ถ้าเป็นบริษัทอื่น คงไล่ออกไปแล้ว แต่แฟนเราไม่โดนไล่ออก แต่โดนหักเงินตามเวลาที่มาสาย ไม่ขึ้นเงินเดือน ไม่ให้ส่งทัวร์
2. ถ้ามีโอกาสหรือหาคนใหม่มาแทนได้ตำแหน่งแฟนเราได้ แฟนเราน่าจะกระเด็นแน่นอน
แฟนเราให้เหตุผล เรื่องเวลา ว่า
1. แฟนเรามาสาย แต่แฟนเรารับผิดชอบงานตัวเองได้ โดยไม่เดือนร้อนคนอื่น
2. ตามงานทีหลังได้ และก็เสร็จตามกำหนด
3. ประสิทธิภาพ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าตอนส่งลูกค้าเช็คอิน
เช่น ตั๋วไม่มี ไฟล์ทยกเลิก เก็บเงินประกัน ฯลฯ แฟนเราทำได้ดีกว่าคนอื่นๆ ที่ระดับเดียวกัน
**ทำให้ถ้าบริษัทไม่กล้าไล่ออกล่ะมั้ง ??
คำถามคือ
1. ทำไมเราต้องคอยเป็นห่วง คอยโทรปลุก คอยตั้งนาฬิกาปลุกให้ จนบางครั้งต้องให้คนอื่นไปเคาะห้อง เพื่อปลุกแฟนเราไปทำงาน
2. เงินเดือน+โอที กับค่าใช้จ่ายส่วนตัวของแฟนเรา และส่งรถ /เดือน แทบจะไม่พอใช้ (ส่วนกลางเราออกหมด) ที่จริงแฟนเราควรจะคิดได้ไหม
3. เราเคยนั่งคุยจริงจัง พูดตรงๆกับแฟนว่า ถ้าไม่ปรับปรุงยังไงก็ไม่ก้าวหน้า อย่าว่าแต่จะเลี้ยงดูเราเลย แต่งงาน มีลูก ก็อย่าหวัง (ตรงและแรงมาก!)
เคยคำนวณ เงินเดือนเต็มๆที่ไม่หักมาสาย+โอทีวันธรรมดาและวันหยุด และหักรายจ่าย ยังไงๆก็พอใช้และเหลือๆ
4. มีใครเจอ ปัญหาแบบนี้อย่างเราบ้าง แล้วคุณผ่านมันไปได้อย่างไร
ตอนนี้เราเริ่มท้อ อันที่จริงแฟนเราก็ไม่ได้หยิบยิม หรือขอเงินเราใช้ ส่วนใหญ่จะโทรขอแม่ (บางครั้งก็ยืมนิดๆหน่อย คืนบ้าง ไม่คืนบ้าง) แต่มันมีผลต่อความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวัน ที่บางครั้งเราเป็นผู้หญิง อายุก็เท่ากัน แต่ทำไมเราบริหารจัดการเวลา มีความรับผิดชอบ จัดสรรค่าใช้จ่าย เป็นผู้นำมากกว่าแฟนเราอีก ลำพังความเครียดจากรอบตัว ปัญหาที่ทำงาน ที่บ้าน ก็ปวดหัวจะแย่อยู่แล้ว ทำไมจะต้องมาคอยปวดหัวเพิ่มกับการคอยปลุก คอยเป็นห่วง กลัวว่าแฟนจะไม่ตื่น ไม่ไปทำงาน จากที่เราเคยเป็นร่าเริง ยิ้มง่าย หัวเราะง่าย เข้ากับคนอื่นได้ดี เราก็เปลี่ยนไปมีภาวะเครียด เคยถึงขั้นเป็น ไฮเปอเวนฯ จนหมอแนะนำให้พบจิตแพทย์ ร้องไห้บ่อย ไม่อยากออกไปไหน ..... เราควรทำไงดี
เราควรบอกหรืออธิบายแฟนอย่างไรดี ให้เขาเปลี่ยนความคิดเรื่อง "การไปทำงานสาย"
ต้องบอกก่อนว่า เรากับแฟนอายุเท่ากัน เราเรียนจบ ป.ตรี มีงานทำ มีเงินเดือน และมั่นคงในอาชีพการงาน
แต่แฟนเรา ก่อนคบกันค่อนข้างเกเร จึงยังเรียนไม่จบ (และไม่รู้จะเรียนจบไหม) เพราะหลังจากเราคบกัน
แฟนเราก็หางานทำ ตอนแรกเป็นพนักงานขับรถส่งพวกในออฟฟิศไป-กลับ สุวรรณภูมิ เข้างาน 18.00-02.00 น.
หลังจากทำได้อยู่เกือบปี ในออฟฟิศมีคนลาออก แฟนเราจึงได้เลื่อนขึ้นมานั่งออฟฟิศ+ขับรถ
แต่ตอนนี้เริ่มลงตัว รับพนักงานขับรถเข้ามา แฟนเราจึงได้นั่งออฟฟิศเต็มตัว
แฟนเราเป็น มาร์เกตติ้งบริษัททัวร์ หรือพูดง่ายๆก็ขายทัวร์นั่นแหละ
เวลาเข้างานมี 2 ช่วงคือ
เข้าและออก 9.00 - 18.00 น.
ถ้าวันไหนต้องไปส่งลูกค้าเช็คอินที่สนามบิน (เราเรียกว่าวันส่งทัวร์) วันถัดไปได้เข้า 11.00 น. และออก18.00 น.
ช่วงแรกแฟนเราก็เอาการเอางาน เพราะเป็นฝ่ายเสนอตัว ขอ ผจก.เลื่อนจากขับรถ มานั่งออฟฟิศ
จึงต้องขยัน ใส่ใจ เรียนรู้ระบบ แรกๆก็ต้องทำให้ หัวหน้าเห็นว่าสามารถนั่งออฟฟิศได้
เมื่อผ่านโปร ก็จะเริ่มให้ส่งทัวร์ ทำให้มีค่าโอที (เงินเดือนอย่างเดียวไม่พอกิน)
หลังจากทำงานไปได้เกือบ 1 ปี
1. แฟนเราเริ่มไปทำงานสาย (ออฟฟิศเก็บค่ามาสายนาทีละ 10 บาท) บางเดือนแฟนเราโดนค่ามาสาย 2000-3000 บาท
2. บางวันก็ไม่ตื่นไปทำงาน (อาจจะเพราะนอนดึก ไม่ได้ยินเสียงนาฬิกาปลุก หรืออะไรก็แล้วแต่)
3. ลืมเวรวันเสาร์ แลกเวรส่งทัวร์ ลาป่วย(ปลอมๆ)
ประเด็นคือ
1. แฟนเราโดนที่ทำงานตักเตือน หลายต่อหลายครั้ง (เคยร้องไห้ เสียใจ จะปรับปรุง ขอโอกาสแก้ตัว แต่ก็ทำดีได้แปร้บๆ ก็ทำอีก)
2. ที่ทำงานตัดโอกาสก้าวหน้าจากนั่งออฟฟิศ ไม่ได้ขึ้นไกด์ (เพราะมองว่าการตรงต่อเวลานั้นสำคัญ ประกอบกับไม่มีความรับผิดชอบ)
3. โดนย้ายแผนกขายตรง ไปนั่งเอเจ้นท์ กระทันหัน (เนื่องจาก ผจก. มองว่าหัวหน้าแผนก จัดการอะไรไม่ได้ เอาลูกน้องไม่อยู่)
4. ถูกกดดัน ไม่ให้มีเวรส่งทัวร์ จนกว่าจะปรับเรื่องการมาทำงานได้ (ก็มีได้ส่งบ้างในบางวันที่ แอ็กซิเดนท์จริงๆ)
สิ่งที่เราสนใจคือ
1. ถ้าเป็นบริษัทอื่น คงไล่ออกไปแล้ว แต่แฟนเราไม่โดนไล่ออก แต่โดนหักเงินตามเวลาที่มาสาย ไม่ขึ้นเงินเดือน ไม่ให้ส่งทัวร์
2. ถ้ามีโอกาสหรือหาคนใหม่มาแทนได้ตำแหน่งแฟนเราได้ แฟนเราน่าจะกระเด็นแน่นอน
แฟนเราให้เหตุผล เรื่องเวลา ว่า
1. แฟนเรามาสาย แต่แฟนเรารับผิดชอบงานตัวเองได้ โดยไม่เดือนร้อนคนอื่น
2. ตามงานทีหลังได้ และก็เสร็จตามกำหนด
3. ประสิทธิภาพ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าตอนส่งลูกค้าเช็คอิน
เช่น ตั๋วไม่มี ไฟล์ทยกเลิก เก็บเงินประกัน ฯลฯ แฟนเราทำได้ดีกว่าคนอื่นๆ ที่ระดับเดียวกัน
**ทำให้ถ้าบริษัทไม่กล้าไล่ออกล่ะมั้ง ??
คำถามคือ
1. ทำไมเราต้องคอยเป็นห่วง คอยโทรปลุก คอยตั้งนาฬิกาปลุกให้ จนบางครั้งต้องให้คนอื่นไปเคาะห้อง เพื่อปลุกแฟนเราไปทำงาน
2. เงินเดือน+โอที กับค่าใช้จ่ายส่วนตัวของแฟนเรา และส่งรถ /เดือน แทบจะไม่พอใช้ (ส่วนกลางเราออกหมด) ที่จริงแฟนเราควรจะคิดได้ไหม
3. เราเคยนั่งคุยจริงจัง พูดตรงๆกับแฟนว่า ถ้าไม่ปรับปรุงยังไงก็ไม่ก้าวหน้า อย่าว่าแต่จะเลี้ยงดูเราเลย แต่งงาน มีลูก ก็อย่าหวัง (ตรงและแรงมาก!)
เคยคำนวณ เงินเดือนเต็มๆที่ไม่หักมาสาย+โอทีวันธรรมดาและวันหยุด และหักรายจ่าย ยังไงๆก็พอใช้และเหลือๆ
4. มีใครเจอ ปัญหาแบบนี้อย่างเราบ้าง แล้วคุณผ่านมันไปได้อย่างไร
ตอนนี้เราเริ่มท้อ อันที่จริงแฟนเราก็ไม่ได้หยิบยิม หรือขอเงินเราใช้ ส่วนใหญ่จะโทรขอแม่ (บางครั้งก็ยืมนิดๆหน่อย คืนบ้าง ไม่คืนบ้าง) แต่มันมีผลต่อความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวัน ที่บางครั้งเราเป็นผู้หญิง อายุก็เท่ากัน แต่ทำไมเราบริหารจัดการเวลา มีความรับผิดชอบ จัดสรรค่าใช้จ่าย เป็นผู้นำมากกว่าแฟนเราอีก ลำพังความเครียดจากรอบตัว ปัญหาที่ทำงาน ที่บ้าน ก็ปวดหัวจะแย่อยู่แล้ว ทำไมจะต้องมาคอยปวดหัวเพิ่มกับการคอยปลุก คอยเป็นห่วง กลัวว่าแฟนจะไม่ตื่น ไม่ไปทำงาน จากที่เราเคยเป็นร่าเริง ยิ้มง่าย หัวเราะง่าย เข้ากับคนอื่นได้ดี เราก็เปลี่ยนไปมีภาวะเครียด เคยถึงขั้นเป็น ไฮเปอเวนฯ จนหมอแนะนำให้พบจิตแพทย์ ร้องไห้บ่อย ไม่อยากออกไปไหน ..... เราควรทำไงดี