ห้องเพลง**คนรากหญ้า** พักยกการเมือง มุมเสียงเพลง มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม....มีแต่เสียง... 3/12/2016.../sao..เหลือ..noi

กระทู้คำถาม


กระทู้นี้ เป็นมุมพักผ่อน มุมนี้ไม่มีสี  ไม่มีกลุ่ม....แต่มีเสียง.........
ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ


1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน
3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกัน
    แล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม




คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
https://www.youtube.com/watch?v=m66PQxydbRk

กระทู้ห้องเพลงเป็นกระทู้เปิด มิได้ปิดกั้นผู้หนึ่งผู้ใด "ขอให้มาดี เราคือเพื่อนกัน" ซึ่งก็เหมือนกับกระทู้ทั่วไป
ที่เราไม่จำเป็นต้องทราบว่า User ท่านไหนเป็นใครมาจากไหน  ...ดังนั้น หากมีบุคคลใดที่มีการโพส
สิ่งผิดกฎหมายและศีลธรรมอันดีของสังคมนั้น หรือสิ่งรบกวนใดๆ ในบอร์ด เป็นเรื่องส่วนบุคคล ทางห้องเพลง
จึงขอแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น

สุขสันต์เย็นวันเสาร์....นะคะ ....  สวัสดีเพื่อนๆ  ห้องเพลง
พลุโอ่งพลุโอ่งพลุโอ่ง พี่สาวเหลือน้อยรับหน้าที่  MC ค่ะพลุโอ่งพลุโอ่งพลุโอ่ง


ใกล้วันพ่อ ... 5 ธันวาคม  พี่สาวขอแนะนำให้เพื่อนๆ รู้จัก ครูเพลง "ศิลปินแห่งชาติ"เยี่ยมเยี่ยมเยี่ยม


สุรพล โทณะวณิก
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


สุรพล โทณะวณิก (7 พฤษภาคม พ.ศ. 2474 - ) นักแต่งเพลงไทย นักเขียน นักข่าว นักหนังสือพิมพ์

ได้รับรางวัลแผ่นเสียงทองคำพระราชทาน จากเพลง "ใครหนอ" "ในโลกแห่งความฝัน" และ "เพชรตัดเพชร" ในปี พ.ศ. ๒๕๐๗
และได้รับการเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (การประพันธ์เพลงไทยสากล) ประจำปี พ.ศ. ๒๕๔๐ และ
ในปี พ.ศ. ๒๕๕๓ ครูสุรพล โทณะวณิก ได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติยศผู้ประพันธ์เพลงดีเด่นในอดีต จากในโครงการเพชรในเพลง
ครั้งที่ 7 จากเพลง ใครหนอ ขับร้องโดย สวลี ผกาพันธ์ ได้รับในวันภาษาไทยแห่งชาติ วันพฤหัสบดีที่ ๒๙ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๓
ณ. ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย

สุรพล โทณะวณิก เกิดที่กรุงเทพมหานคร  บิดามารดาเสียชีวิตหมดตั้งแต่อายุเพียง 6 ปี จึงกลายเป็นเด็กเร่ร่อนจนอายุ 13 ปี
ได้ติดตามพระครูคุณรสศิริขันธ์ เจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ ไปอยู่ที่จังหวัดสุรินทร์จนเรียนจบชั้น ม.3 แล้วย้ายไปอยู่จังหวัด
นครราชสีมา ก่อนจะย้ายกลับมากรุงเทพ

ในปี พ.ศ. 2492 สุรพล โทณะวณิก ทำงานที่โรงละครเวิ้งนครเกษม ได้รู้จักครูเพลง นักดนตรี และนักแสดงในวงการ
ก่อนจะได้ไปช่วยงานกับ สุวัฒน์ วรดิลก และศักดิ์เกษม หุตาคม (อิงอร) และได้ทำงานเขียนเรื่องสั้นให้กับหนังสือพิมพ์
และนิตยสารหลายฉบับ เช่น เพลินจิต แสนสุข วันอาทิตย์ ชาวกรุง เป็นนักข่าวอาชญากรรม และบรรณาธิการหนังสือพิมพ์

สุรพล โทณะวณิก เริ่มแต่งเพลงครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2495 ให้กับไสล ไกรเลิศ ผลงานเพลงที่มีชื่อเสียงเช่น เพลง "ลาแล้วแก้วตา"
และ "ในโลกแห่งความฝัน" ขับร้องโดย สุเทพ วงศ์กำแหง "ใครหนอ" และ "ฟ้ามิอาจกั้น" ขับร้องโดย สวลี ผกาพันธุ์ "ยามรัก"
(ร่วมกับ เอื้อ สุนทรสนาน) และ "แม่เนื้ออุ่น" ขับร้องโดย หม่อมราชวงศ์ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ "แตกดังโพละ" ขับร้องโดย มีศักดิ์
นาครัตน์

ผลงานเพลงในยุคหลัง เช่นเพลง "ลมรัก" และ "อยากลืมกลับจำ" ในปี พ.ศ. 2524 ขับร้องโดย เดอะฮอตเปปเปอร์ซิงเกอร์
(ผุสดี เอื้อเฟื้อ และรุ่งพิรุณ เมธารมณ์) ได้รับรางวัลแผ่นเสียงทองคำพระราชทาน ประจำปี พ.ศ. 2526

สุรพล โทณะวณิก เคยมีผลงานกำกับภาพยนตร์ ในปี พ.ศ. 2515-16 เรื่อง ไอ้แกละเพื่อนรัก (2515) นำแสดง
โดย สรพงศ์ ชาตรี นัยนา ชีวานันท์ และ อีหนู หรือ 13 สาว 11 บริสุทธิ์ (2516) นำแสดงโดย กรุง ศรีวิไล

ด้านโลกทัศน์ของสุรพล โทณะวณิก เป็นผู้ที่มองโลกอย่างเข้าใจและพยายามถ่ายทอดบทเพลงให้ผู้ฟ้ง
ฟังแล้วเกิดความหวังกําลังใจในการต่อสู้ชีวิต แนะนํ าให้ผู้คนหันกลับมามองเห็นคุณค่าในตัวเอง โดยนํ าเรื่องราว
เกี่ยวกับความเชื่อทางพุทธศาสนามาเป็นสิ่งน้อมนํ าเพราะได้ถูกปลูกฝ้งสิ่งเหล่านี้จากพระมาตั้งแต่เยาว์วัย

ขจรพรรณ์ แก้วสุวรรณ์ เขียนไว้ใน ปริญญานิพนธ์ เรื่อง การศึกษาวิเคราะห์ชีวประวัติและเทคนิคการประพันธ์เพลงไทยสากล
ของ สุรพล โทณะวณิก ว่า “...ทั้งแนวทำนองและคำประพันธ์ จะถูกสร้างสรรค์ขึ้นพร้อมๆ กัน ซึ่งในการสร้างคำประพันธ์
นั้น ผู้ประพันธ์ไม่ได้สนใจในเรื่องทฤษฎี หรือหลักการทางดนตรีวิทยา เพราะไม่ได้สนใจ
      
จากการสัมภาษณ์ ทำให้ทราบว่า “จุดประสงค์คือต้องการที่จะสื่อ ให้ผู้ฟังเข้าใจเนื้อหา สาระของเพลง และผู้ร้องสามารถนำ
บทประพันธ์นี้ ไปถ่ายทอดได้อย่างถูกต้อง ตามที่ตนเองได้มุ่งหวังไว้ คือในเรื่องการใช้ภาษา มาร้อยเรียงกันให้มีคำสัมผัส
ทั้งสัมผัสนอกและสัมผัสใน ซึ่งการประพันธ์เป็นลักษณะของคำกลอน...
      
ภาษาที่นำมาใช้นั้น เน้นในเรื่องของเสียงดนตรี ในวรรณยุกต์ไทยเป็นอย่างมาก ได้สรรหาคำที่ต้องใช้ความสามารถของนักร้องมาใช้
โดยตลอดทุกท่อนเพลง ทำให้นักร้องต้องใช้ความสามารถสูงมาก ในเรื่องของลีลาของเสียง เพื่อจะทำให้ทำนองเกิดความกลมกลืน
ลื่นไหลไม่สะดุด เพราะต้องมีการเอื้อนเสียงตลอด เกือบทุกวรรคเพลง หรือพูดได้ว่าเกือบจะทุกคำ มิฉะนั้นจะไม่ได้ความชัดเจนของ
ภาษา และความหมายตามที่ผู้ประพันธ์ต้องการ

ในปี พ.ศ. 2498 ก็แต่ง เพลงใครหนอ ให้ สวลี ผกาพันธ์ เป็นผู้ขับร้อง ซึ่งเป็นเพลงที่มีคำร้องที่มี
ความหมายที่ดีมาก และมีทำนองน่าฟัง เป็นเพลงอมตะที่ได้รับความนิยมตลอดมาทุกยุคทุกสมัย แม้ในปัจจุบัน

เป็นเพลงที่สร้างชื่อเสียงให้กับ สุรพล โทณะวณิก และ สวลี ผกาพันธุ์ มาก เพราะเป็นเพลงฮิต ติดใจฟังกันทั่วเมือง
เนื่องจากมีเนื้อหากินใจ เพราะมีประสบการณ์เป็นเด็กกำพร้ามาก่อน สามารถใช้คำ “ใครหนอ” ซ้ำถึง 10 คำ
แต่ก็กลมกลืน ได้ความหมายที่เหมาะสมลงตัว และมีจังหวะที่ร้องสนุก เด็กเล็กก็ร้องกันได้

เนื้อเพลง ใครหนอ
       ใครหนอ รักเราเท่าชีวี    
       ใครหนอ ปรานี ไม่มีเสื่อมคลาย
       ใครหนอ รักเราใช่เพียงรูปกาย    
       รักเขาไม่หน่าย มิคิดทำลาย ใครหนอ
      

       ใครหนอ เห็นเราเศร้าทรวงใน    
       ใครหนอ เอาใจปลอบเราเรื่อยมา
       ใครหนอ รักเราดังดวงแก้วตา    
       รักเขากว้างกว่า พื้นพสุธา นภากาศ
      

       จะเอาโลก มาทำปากกา    
       แล้วเอานภา มาแทนกระดาษ
       เอาน้ำหมด มหาสมุทรแทนหมึกวาด    
       ประกาศ พระคุณไม่พอ
      

       ใครหนอ รักเราเท่าชีวัน    
       ใครหนอ ใครกัน ให้เราขี่คอ
       ใครหนอ ชักชวนดูหนังสี่จอ    
      

       รู้แล้วละก้อ อย่ามัวรั้งรอ ทดแทนบุญคุณ

      
      
http://mulinet11.li.mahidol.ac.th/thesis/2548/cd375/4336990.pdf

ใครหนอ- สวลี ผกาพันธุ์.
คำร้อง/ทำนอง สุรพล โทณะวณิก
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
https://www.youtube.com/watch?v=ddMJfNgEKM0

เชิญชวนเพื่อนๆ เปิดเพลงของครูสุรพล  กันนะคะอมยิ้ม21อมยิ้ม21อมยิ้ม21
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่