อดีตก็ผ่านไปแล้วเราแก้ไขอะไรไม่ได้ทำอะไรไม่ได้แล้ว,ส่วนอนาคตก็ยังมาไม่ถึงเราก็คาดเดาอะไรไม่ได้ทำอะไรไม่ได้. ดังนั้น สิ่งที่เราสามารถทำได้จริงๆก็คือในขณะ ปัจจุบัน(Now) ตอนนี้ที่นี่และเดี๋ยวนี้เท่านั้น.
ซึ่งตอนที่เราจะไปรู้อดีตหรืออนาคตนั้นเราก็กำลังอยู่ในปัจจุบันนี่แหละที่ไปรู้เรื่องราวในอดีตหรือในอนาคต,ดังนั้น อดีตและอนาคตจึงเป็นเพียงเวลามายาไม่ได้มีอยู่จริง,เวลาที่แท้จริงก็คือปัจจุบันเท่านั้น และ สรรพสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น-ตั้งอยู่-ดับไปนั้นล้วนตกอยู่ภายใต้กระแสมายาของกาลเวลาเชิงเส้นที่เคลื่อนจากอดีตผ่านปัจจุบันไปสู่อนาคตจึงทำให้สิ่งต่างๆพลอยเป็นมายาตามไปด้วยจึงไม่มีสิ่งใดจริงๆเลยนอกจากเวลาที่แท้จริงปัจจุบันเท่านั้น หรือ สรุปสั้นๆเป็นสูตรคาถาใช้ท่องจำเข้าใจง่ายๆทันทีได้ว่า "ทั้งหมดทั้งปวงไม่มีอะไรเลยนอกจากปัจจุบันล้วนๆตลอดกาล..."
ซึ่งการเข้าใจอย่างรู้แจ้งเห็นจริงด้วยตัวเราเองว่าสิ่งต่างๆทั้งหมดทั้งปวงล้วนเป็นมายาไม่มีอะไรที่มีอยู่จริงๆนอกจากปัจจุบันที่เป็นเวลาที่แท้จริงนี้จะเป็นการทำปัจจุบันให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้เพราะเราจะสนใจอยู่แต่ปัจจุบันเพียงสิ่งเดียวล้วนๆอย่างเต็มที่เต็มกำลังของเราในขณะปัจจุบันที่เรากำลังมีจิตที่คิดนึกอยู่,มีร่างกายที่กำลังหายใจอยู่,มีชีวิตอยู่ในโลกนี้แล้ว.
ปัจจุบันนั้นมีธรรมชาติเป็นความว่างอย่างยิ่งยวดล้วนๆตลอดกาลที่บริสุทธิ์สูงสุดไม่มีสิ่งใดจริงๆเจือปนอยู่เลยแม้แต่อนุภาคที่เล็กที่สุดในเวลาที่สั้นที่สุดที่อาจเป็นไปได้แม้แต่ความว่างจริงๆที่ไม่มีอะไรเลยก็ยังไม่มี,แต่เป็นสิ่งที่มีพลังมหาศาลสูงสุดที่เป็นศูนย์กลางขุมพลังต้นกำเนิดที่แท้จริงแห่งกาลเวลาให้กำเนิดสร้างสิ่งมายาต่างๆในโลกที่อยู่ภายใต้กระแสกาลเวลามายาขึ้นมา(โดยกระแสกาลเวลามายาเชิงเส้นที่เราเห็นว่าเคลื่อนจากอดีตผ่านปัจจุบันไปสู่อนาคตเรื่อยๆนั้นแท้จริงแล้วเป็นการเคลื่อนจากปัจจุบันขณะหนึ่งสู่ปัจจุบันอีกขณะหนึ่งอยู่ทุกขณะ,แท้จริงจึงมีแต่ปัจจุบันล้วนๆตลอดกาล...).
ปัจจุบันจึงเป็นสิ่งสูงสุด หรือ พระเจ้าซึ่งเป็น กาลเวลาสากล(universal time) ที่ตัวเราและสิ่งต่างๆในโลกมีส่วนร่วมกันอย่างเท่าเทียมกันหมดคือเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับปัจจุบันเรียบร้อยแล้วโดยธรรมชาติพื้นฐาน. โดยที่สิ่งนี้ไม่ใช่จิต,สสาร,ธรรมชาติ,ความรู้สึกจึงอยู่เหนือการคิดนึก,เหนือการรับรู้ทางประสาทสัมผัส,เหนือการปฏิบัติกระทำ,เหนือความรู้สึก. แต่สิ่งนี้เป็นเวลาที่เหนือเวลาที่ไม่ใช่เพียงแค่จุดเล็กๆของกาลเวลาที่เป็นมายาไม่มีอยู่จริงแต่เป็นอนันตกาลตลอดกาลนิรันดร์ที่มีอยู่อมตะแท้จริงตลอดกาลจึงเป็นสิ่งเดียวในตอนนี้ที่นี่และเดี๋ยวนี้ที่มีอยู่จริงตลอดกาล.
เมื่อเราอยู่แต่กับปัจจุบันแต่ไม่ยึดติดกับปัจจุบันไม่รู้สึกว่ามีเวลาจริงๆอะไรเลย,กำลังคิดนึกอยู่ตามปกติแต่ไม่รู้สึกว่าได้คิดนึกอะไรจริงๆเลยไม่รู้สึกว่ามีอารมณ์ความรู้สึกจริงๆอะไรเลย,กำลังมองเห็นสิ่งต่างๆมากมายในโลกตามปกติแต่ไม่รู้สึกว่าได้เห็นอะไรเลยไม่รู้สึกว่ามีสิ่งใดในโลกจริงๆเลย,กำลังมีชีวิตอยู่ในโลกตามปกติแต่ไม่รู้สึกว่ามีชีวิตอยู่ในโลกจริงๆเลยไม่รู้สึกว่าได้ทำอะไรจริงในโลกเลย. โดยเราจะรู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลกเป็นเพียงมายาของปัจจุบันเท่านั้นที่ทั้งหมดทั้งปวงแท้จริงแล้วไม่มีอะไรเลยนอกจากปัจจุบันล้วนๆตลอดกาลที่ไม่มีตัวเราและสิ่งต่างๆในโลกที่เกิดขึ้น-ตั้งอยู่-ดับไปจริงๆเลย,นั่นแหละเรากำลังทำปัจจุบันให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้แล้ว.
เมื่อเราทำปัจจุบันให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้สำเร็จจริงแล้วเราย่อมได้รับสิ่งดีๆในชีวิตตอบแทนกลับมาแน่นอนทันทีเพราะเราจะได้รับอิสระภาพสามารถเป็นอมตะเหนือกาลเวลาเหนือโลกได้ในทันที. เราจึงไม่เครียดวิตกกังวลคิดมากเอาจริงเอาจังกับตัวเราและสิ่งต่างๆในโลกที่เป็นเพียงมายาอีกต่อไปโดยเราจะมุ่งสนใจเอาจริงเอาจังแต่ปัจจุบันที่เป็นอมตะแท้จริงตลอดกาลเหนือกาลเวลาเหนือทุกสิ่งในโลกเท่านั้น.
ซึ่งหากเราทำปัจจุบันให้ดีที่สุดอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกวันเราก็จะมีสุขภาพจิตดีใช้ชีวิตสดใสใหม่สดอยู่แต่กับปัจจุบันล้วนๆโดยไม่ยึดติดกับสิ่งใดๆในปัจจุบัน,ไม่วิตกกังวลคิดมากเครียดเอาจริงเอาจังกับตัวเราและสิ่งต่างๆในโลกแล้วเราก็จะทำให้มีสุขภาพร่างกายที่ดีและมีชีวิตที่ดีเองในที่สุด.
ดังนั้น เมื่อเรากำลังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้เราเพียงแค่ทุ่มเทพยายามหมั่นทำปัจจุบันให้ดีที่สุดเต็มที่เต็มกำลังเท่าที่เราจะทำได้อย่างต่อเนื่องทั้งยามลืมตาและหลับตาให้เป็นประจำทุกวันให้ได้ก็พอแล้วอนาคตของเราก็จะดีเอง,เราจึงไม่ต้องเสียเวลาไปเครียดคิดมากวิตกกังวลเอาจริงเอาจังกับอดีตและอนาคตที่เป็นเพียงมายานั้นอีกต่อไปเพราะทั้งหมดทั้งปวงไม่มีอะไรเลยนอกจากปัจจุบันล้วนๆตลอดกาล...
http://now-is-best.blogspot.com
ทำปัจจุบันให้ดีที่สุดก็พอแล้ว?
ซึ่งตอนที่เราจะไปรู้อดีตหรืออนาคตนั้นเราก็กำลังอยู่ในปัจจุบันนี่แหละที่ไปรู้เรื่องราวในอดีตหรือในอนาคต,ดังนั้น อดีตและอนาคตจึงเป็นเพียงเวลามายาไม่ได้มีอยู่จริง,เวลาที่แท้จริงก็คือปัจจุบันเท่านั้น และ สรรพสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น-ตั้งอยู่-ดับไปนั้นล้วนตกอยู่ภายใต้กระแสมายาของกาลเวลาเชิงเส้นที่เคลื่อนจากอดีตผ่านปัจจุบันไปสู่อนาคตจึงทำให้สิ่งต่างๆพลอยเป็นมายาตามไปด้วยจึงไม่มีสิ่งใดจริงๆเลยนอกจากเวลาที่แท้จริงปัจจุบันเท่านั้น หรือ สรุปสั้นๆเป็นสูตรคาถาใช้ท่องจำเข้าใจง่ายๆทันทีได้ว่า "ทั้งหมดทั้งปวงไม่มีอะไรเลยนอกจากปัจจุบันล้วนๆตลอดกาล..."
ซึ่งการเข้าใจอย่างรู้แจ้งเห็นจริงด้วยตัวเราเองว่าสิ่งต่างๆทั้งหมดทั้งปวงล้วนเป็นมายาไม่มีอะไรที่มีอยู่จริงๆนอกจากปัจจุบันที่เป็นเวลาที่แท้จริงนี้จะเป็นการทำปัจจุบันให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้เพราะเราจะสนใจอยู่แต่ปัจจุบันเพียงสิ่งเดียวล้วนๆอย่างเต็มที่เต็มกำลังของเราในขณะปัจจุบันที่เรากำลังมีจิตที่คิดนึกอยู่,มีร่างกายที่กำลังหายใจอยู่,มีชีวิตอยู่ในโลกนี้แล้ว.
ปัจจุบันนั้นมีธรรมชาติเป็นความว่างอย่างยิ่งยวดล้วนๆตลอดกาลที่บริสุทธิ์สูงสุดไม่มีสิ่งใดจริงๆเจือปนอยู่เลยแม้แต่อนุภาคที่เล็กที่สุดในเวลาที่สั้นที่สุดที่อาจเป็นไปได้แม้แต่ความว่างจริงๆที่ไม่มีอะไรเลยก็ยังไม่มี,แต่เป็นสิ่งที่มีพลังมหาศาลสูงสุดที่เป็นศูนย์กลางขุมพลังต้นกำเนิดที่แท้จริงแห่งกาลเวลาให้กำเนิดสร้างสิ่งมายาต่างๆในโลกที่อยู่ภายใต้กระแสกาลเวลามายาขึ้นมา(โดยกระแสกาลเวลามายาเชิงเส้นที่เราเห็นว่าเคลื่อนจากอดีตผ่านปัจจุบันไปสู่อนาคตเรื่อยๆนั้นแท้จริงแล้วเป็นการเคลื่อนจากปัจจุบันขณะหนึ่งสู่ปัจจุบันอีกขณะหนึ่งอยู่ทุกขณะ,แท้จริงจึงมีแต่ปัจจุบันล้วนๆตลอดกาล...).
ปัจจุบันจึงเป็นสิ่งสูงสุด หรือ พระเจ้าซึ่งเป็น กาลเวลาสากล(universal time) ที่ตัวเราและสิ่งต่างๆในโลกมีส่วนร่วมกันอย่างเท่าเทียมกันหมดคือเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับปัจจุบันเรียบร้อยแล้วโดยธรรมชาติพื้นฐาน. โดยที่สิ่งนี้ไม่ใช่จิต,สสาร,ธรรมชาติ,ความรู้สึกจึงอยู่เหนือการคิดนึก,เหนือการรับรู้ทางประสาทสัมผัส,เหนือการปฏิบัติกระทำ,เหนือความรู้สึก. แต่สิ่งนี้เป็นเวลาที่เหนือเวลาที่ไม่ใช่เพียงแค่จุดเล็กๆของกาลเวลาที่เป็นมายาไม่มีอยู่จริงแต่เป็นอนันตกาลตลอดกาลนิรันดร์ที่มีอยู่อมตะแท้จริงตลอดกาลจึงเป็นสิ่งเดียวในตอนนี้ที่นี่และเดี๋ยวนี้ที่มีอยู่จริงตลอดกาล.
เมื่อเราอยู่แต่กับปัจจุบันแต่ไม่ยึดติดกับปัจจุบันไม่รู้สึกว่ามีเวลาจริงๆอะไรเลย,กำลังคิดนึกอยู่ตามปกติแต่ไม่รู้สึกว่าได้คิดนึกอะไรจริงๆเลยไม่รู้สึกว่ามีอารมณ์ความรู้สึกจริงๆอะไรเลย,กำลังมองเห็นสิ่งต่างๆมากมายในโลกตามปกติแต่ไม่รู้สึกว่าได้เห็นอะไรเลยไม่รู้สึกว่ามีสิ่งใดในโลกจริงๆเลย,กำลังมีชีวิตอยู่ในโลกตามปกติแต่ไม่รู้สึกว่ามีชีวิตอยู่ในโลกจริงๆเลยไม่รู้สึกว่าได้ทำอะไรจริงในโลกเลย. โดยเราจะรู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลกเป็นเพียงมายาของปัจจุบันเท่านั้นที่ทั้งหมดทั้งปวงแท้จริงแล้วไม่มีอะไรเลยนอกจากปัจจุบันล้วนๆตลอดกาลที่ไม่มีตัวเราและสิ่งต่างๆในโลกที่เกิดขึ้น-ตั้งอยู่-ดับไปจริงๆเลย,นั่นแหละเรากำลังทำปัจจุบันให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้แล้ว.
เมื่อเราทำปัจจุบันให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้สำเร็จจริงแล้วเราย่อมได้รับสิ่งดีๆในชีวิตตอบแทนกลับมาแน่นอนทันทีเพราะเราจะได้รับอิสระภาพสามารถเป็นอมตะเหนือกาลเวลาเหนือโลกได้ในทันที. เราจึงไม่เครียดวิตกกังวลคิดมากเอาจริงเอาจังกับตัวเราและสิ่งต่างๆในโลกที่เป็นเพียงมายาอีกต่อไปโดยเราจะมุ่งสนใจเอาจริงเอาจังแต่ปัจจุบันที่เป็นอมตะแท้จริงตลอดกาลเหนือกาลเวลาเหนือทุกสิ่งในโลกเท่านั้น.
ซึ่งหากเราทำปัจจุบันให้ดีที่สุดอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกวันเราก็จะมีสุขภาพจิตดีใช้ชีวิตสดใสใหม่สดอยู่แต่กับปัจจุบันล้วนๆโดยไม่ยึดติดกับสิ่งใดๆในปัจจุบัน,ไม่วิตกกังวลคิดมากเครียดเอาจริงเอาจังกับตัวเราและสิ่งต่างๆในโลกแล้วเราก็จะทำให้มีสุขภาพร่างกายที่ดีและมีชีวิตที่ดีเองในที่สุด.
ดังนั้น เมื่อเรากำลังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้เราเพียงแค่ทุ่มเทพยายามหมั่นทำปัจจุบันให้ดีที่สุดเต็มที่เต็มกำลังเท่าที่เราจะทำได้อย่างต่อเนื่องทั้งยามลืมตาและหลับตาให้เป็นประจำทุกวันให้ได้ก็พอแล้วอนาคตของเราก็จะดีเอง,เราจึงไม่ต้องเสียเวลาไปเครียดคิดมากวิตกกังวลเอาจริงเอาจังกับอดีตและอนาคตที่เป็นเพียงมายานั้นอีกต่อไปเพราะทั้งหมดทั้งปวงไม่มีอะไรเลยนอกจากปัจจุบันล้วนๆตลอดกาล...
http://now-is-best.blogspot.com