เพิ่งค้นพบวิธีลดไขมันลงในแบบที่ต่างไปจากที่ทำประจำ
เกริ่นนำก่อนว่าเป็นคนที่ออกกำลังกายบ่อยทั้งเล่น weight training ทั้ง cardio เป็นชั่วโมงๆ แทบจะทุกวัน มีคุมอาหารบ้างแต่ไม่เคยอดอาหาร เล่นมาเป็นปีๆ แต่อัตราส่วนไขมันในร่างกายกลับแทบไม่เปลี่ยนแปลงตามรูป
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ปกติที่เคยวัดก็จะอยุ่ในช่วง 15-17% ตลอด เคยลดลงไปถึง 14% แล้วก็เด้งกลับขึ้นมาเท่าเดิม รวมไปถึงไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat Rating) ก็จะอย่ในช่วง 7-8 ต่ำสุดคือ 6 เป็นอย่างนี้เป็นปีๆ ทั้งที่เป้าหมายคือลดไขมันให้ต่ำกว่า 10% และไขมันในช่องท้องให้ต่ำกว่า 5 เลยเริ่มเครียดๆ ว่าอุตสาห์ยอมเหนื่อย ยอมเสียเงิน ยอมเสียเวลา แต่ผลกลับไม่ดีเท่าที่ควร กลับได้แค่ "สุขภาพดี" เท่านั้น ทีนี้เมื่ออาทิตย์ที่แล้วได้ลองไปทำ
กิจกรรมนึง ประมาณ 1 อาทิตย์ กลับได้ผลตามนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เย้.......ไขมันเหลือไม่ถึง 11% ไขมันในช่องท้องเหลือ 4 ทั้งที่ใช้เวลาประมาณ 1 อาทิตย์เท่านั้น เทียบไม่ได้กับการออกกำลังกายทุกวันแต่กลับไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
จะเห็นว่าน้ำหนักตัวแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่สัดส่วนไขมันหายไปเยอะมาก จากการทำกิจกรรมดังกล่าว ทีนี้คำถามที่ว่า
"กิจกรรม"อันนั้นคืออะไร?
ึคำตอบคือ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ไปเที่ยวต่างประเทศ
อ่านไม่ผิดหรอก เที่ยวต่างประเทศนี่แหละทำให้ไขมันลดลง แต่จริงๆ ไม่ต้องเป็นต่างประเทศก็ได้ อาจเป็นต่างเมือง ต่างจังหวัดก็ได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องมีเงื่อนไขที่คล้ายๆ กันด้วย และถึงจะบอกว่าเที่ยวแต่ไม่ใช่ว่าไปเที่ยวแบบชิลๆ แบบไปกินๆ นอนๆ ขับรถชมวิว เดินนิดหน่อยก็หยุดพักกินหนม นั่งหลับ แบบนี้คงไม่ได้ลดไขมันแน่ๆ ดังนั้นวิธีการเที่ยวที่ว่าอาจเรียกว่า "Backpack"
โดยวิธีการที่ว่านั้นคือ การเดิน...เดิน....เดิน...และเดิน ทั้งวัน เดินตั้งแต่ตื่นเช้ามากินข้าวเสร็จก็เริ่มไปเที่ยวตามที่ต่างๆ ตั้งแต่ 8 โมงจนถึงเวลากินข้าวตอนเที่ยง พอกินเสร็จก็ออกเดินต่อตั้งแต่เที่ยงจนถึงกินข้าวเย็น แล้วก็เดินทางกลับทีพัก โดยมีข้อแม้คือ
- ไม่ขับรถเวลาเดินทาง
เพราะทำให้เราใช้พลังงานน้อยมาก อาจมีเผลอหลับได้ ให้เดินทางโดยขนส่งสาธารณะ เช่นรถไฟฟ้า รถเมล์ เพราะการเดินทางแบบนี้บางครั้งคนจะแน่น ทำให้เราไม่มีที่นั่ง เป็นการบังคับให้เราต้องตื่นตัวตลอดเวลา
- พยายามอย่านั่ง เดินแล้วหยุดพักได้ แต่ต้องยืนตลอดเวลา ตามที่เค้าว่า "ยืนใช้พลังงานมากกว่านั่ง" อาจจะเดินดู เดินช๊อปให้ลืมความเหนื่อยได้
- อย่าไปเที่ยวแบบชิวๆ แบบกินๆ นั่งๆ นอนๆ เดินไปแป๊ปนึงก็หยุดนั่งจิบกาแฟ สักพักแวะร้านขนม สักพักแวะกินอาหารท้องถิ่น
แบบนี้คงได้ไขมันเพิ่มหลังเที่ยวเสร็จแทน
- กินให้เหมือนปกติตอนที่อยู่ไทย ไม่ต้องอด งด แต่พยายามเลี่ยงน้ำอัดลม กินของหวานได้แต่น้อยๆ พอ
ระหว่างไปเที่ยวเคยลองวัดความเร็วในการเดินของตัวเองดู ผลที่ได้ก็ตามนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ใน 1 นาทีเดินได้ประมาณ 100 เมตร เบิร์นได้ประมาณ 5 แคลอรี่ เท่ากับว่า 1 ชั่วโมงเบิร์นได้ประมาณ 300 แคลอรี่ ถ้าใน 1 วันเราเดินประมาณ 10 ชั่วโมง แปลว่าเราเบิร์นได้ถึง 3000 แคลอรี่ต่อวันเลยทีเดียว ตามทฤษฎีการเบิร์นแบบเดินยาวๆ นั้นจะเป็นการเผาผลาญไขมันโดยตรงโดยไม่ไปเผาผลาญกล้ามเนื้อมากนัก
ถ้าจะแนะนำคือจำเป็นต้องไปต่างประเทศหรือไม่ คำตอบคือไม่ แต่ให้หาจังหวัด หรือที่ที่มีอากาศเย็นก็พอ
เพราะอากาศเย็นจะทำให้เราเหงื่อออกน้อย ทำให้สูญเสียน้ำและเกลือแร่น้อย ร่างกายจะมีแรงอึดได้นานกว่า ดังนั้นถ้าใครไม่มีเงิน
หรือเวลาไปต่างประเทศ ก็ลองไปเที่ยวตามป่า ตามเขาที่อากาศเย็นๆ
น่าจะได้ผลที่ใกล้เคียงเหมือนกัน แต่ถ้าในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ นั้นไม่แนะนำเท่าไหร่เพราะตอนนี้อากาศร้อน เดินแล้วเหงื่อจะออกเยอะ ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่มาก ทำให้เดินได้ไม่นานอาจเป็นลมหน้ามืดซะก่อน รวมถึงมลพิษจากควันรถ จากโรงงานที่ไม่ดีต่อปอดเราเท่าไหร่ด้วย
เห็นด้วยหรือไม่อย่างไรลองแนะนำกันได้
ปล. เข้าใจวาเครื่องวัดไขมันนั้นเป็นแค่ตัวเลขคร่าวๆ อาจมีผิดไปจากความจริงบ้าง แต่ก็แนะนำให้ใช้เพื่อเป็นเกณฑ์ดูความเปลี่ยนแปลงของตัวเรา
แนะนำวิธีลดไขมันลง 5% ใน 1 สัปดาห์โดยไม่พึ่งยา ไม่อดอาหาร
เกริ่นนำก่อนว่าเป็นคนที่ออกกำลังกายบ่อยทั้งเล่น weight training ทั้ง cardio เป็นชั่วโมงๆ แทบจะทุกวัน มีคุมอาหารบ้างแต่ไม่เคยอดอาหาร เล่นมาเป็นปีๆ แต่อัตราส่วนไขมันในร่างกายกลับแทบไม่เปลี่ยนแปลงตามรูป
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ปกติที่เคยวัดก็จะอยุ่ในช่วง 15-17% ตลอด เคยลดลงไปถึง 14% แล้วก็เด้งกลับขึ้นมาเท่าเดิม รวมไปถึงไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat Rating) ก็จะอย่ในช่วง 7-8 ต่ำสุดคือ 6 เป็นอย่างนี้เป็นปีๆ ทั้งที่เป้าหมายคือลดไขมันให้ต่ำกว่า 10% และไขมันในช่องท้องให้ต่ำกว่า 5 เลยเริ่มเครียดๆ ว่าอุตสาห์ยอมเหนื่อย ยอมเสียเงิน ยอมเสียเวลา แต่ผลกลับไม่ดีเท่าที่ควร กลับได้แค่ "สุขภาพดี" เท่านั้น ทีนี้เมื่ออาทิตย์ที่แล้วได้ลองไปทำกิจกรรมนึง ประมาณ 1 อาทิตย์ กลับได้ผลตามนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เย้.......ไขมันเหลือไม่ถึง 11% ไขมันในช่องท้องเหลือ 4 ทั้งที่ใช้เวลาประมาณ 1 อาทิตย์เท่านั้น เทียบไม่ได้กับการออกกำลังกายทุกวันแต่กลับไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
จะเห็นว่าน้ำหนักตัวแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่สัดส่วนไขมันหายไปเยอะมาก จากการทำกิจกรรมดังกล่าว ทีนี้คำถามที่ว่า"กิจกรรม"อันนั้นคืออะไร?
ึคำตอบคือ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ไปเที่ยวต่างประเทศ
อ่านไม่ผิดหรอก เที่ยวต่างประเทศนี่แหละทำให้ไขมันลดลง แต่จริงๆ ไม่ต้องเป็นต่างประเทศก็ได้ อาจเป็นต่างเมือง ต่างจังหวัดก็ได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องมีเงื่อนไขที่คล้ายๆ กันด้วย และถึงจะบอกว่าเที่ยวแต่ไม่ใช่ว่าไปเที่ยวแบบชิลๆ แบบไปกินๆ นอนๆ ขับรถชมวิว เดินนิดหน่อยก็หยุดพักกินหนม นั่งหลับ แบบนี้คงไม่ได้ลดไขมันแน่ๆ ดังนั้นวิธีการเที่ยวที่ว่าอาจเรียกว่า "Backpack"
โดยวิธีการที่ว่านั้นคือ การเดิน...เดิน....เดิน...และเดิน ทั้งวัน เดินตั้งแต่ตื่นเช้ามากินข้าวเสร็จก็เริ่มไปเที่ยวตามที่ต่างๆ ตั้งแต่ 8 โมงจนถึงเวลากินข้าวตอนเที่ยง พอกินเสร็จก็ออกเดินต่อตั้งแต่เที่ยงจนถึงกินข้าวเย็น แล้วก็เดินทางกลับทีพัก โดยมีข้อแม้คือ
- ไม่ขับรถเวลาเดินทางเพราะทำให้เราใช้พลังงานน้อยมาก อาจมีเผลอหลับได้ ให้เดินทางโดยขนส่งสาธารณะ เช่นรถไฟฟ้า รถเมล์ เพราะการเดินทางแบบนี้บางครั้งคนจะแน่น ทำให้เราไม่มีที่นั่ง เป็นการบังคับให้เราต้องตื่นตัวตลอดเวลา
- พยายามอย่านั่ง เดินแล้วหยุดพักได้ แต่ต้องยืนตลอดเวลา ตามที่เค้าว่า "ยืนใช้พลังงานมากกว่านั่ง" อาจจะเดินดู เดินช๊อปให้ลืมความเหนื่อยได้
- อย่าไปเที่ยวแบบชิวๆ แบบกินๆ นั่งๆ นอนๆ เดินไปแป๊ปนึงก็หยุดนั่งจิบกาแฟ สักพักแวะร้านขนม สักพักแวะกินอาหารท้องถิ่น แบบนี้คงได้ไขมันเพิ่มหลังเที่ยวเสร็จแทน
- กินให้เหมือนปกติตอนที่อยู่ไทย ไม่ต้องอด งด แต่พยายามเลี่ยงน้ำอัดลม กินของหวานได้แต่น้อยๆ พอ
ระหว่างไปเที่ยวเคยลองวัดความเร็วในการเดินของตัวเองดู ผลที่ได้ก็ตามนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ใน 1 นาทีเดินได้ประมาณ 100 เมตร เบิร์นได้ประมาณ 5 แคลอรี่ เท่ากับว่า 1 ชั่วโมงเบิร์นได้ประมาณ 300 แคลอรี่ ถ้าใน 1 วันเราเดินประมาณ 10 ชั่วโมง แปลว่าเราเบิร์นได้ถึง 3000 แคลอรี่ต่อวันเลยทีเดียว ตามทฤษฎีการเบิร์นแบบเดินยาวๆ นั้นจะเป็นการเผาผลาญไขมันโดยตรงโดยไม่ไปเผาผลาญกล้ามเนื้อมากนัก
ถ้าจะแนะนำคือจำเป็นต้องไปต่างประเทศหรือไม่ คำตอบคือไม่ แต่ให้หาจังหวัด หรือที่ที่มีอากาศเย็นก็พอ เพราะอากาศเย็นจะทำให้เราเหงื่อออกน้อย ทำให้สูญเสียน้ำและเกลือแร่น้อย ร่างกายจะมีแรงอึดได้นานกว่า ดังนั้นถ้าใครไม่มีเงินหรือเวลาไปต่างประเทศ ก็ลองไปเที่ยวตามป่า ตามเขาที่อากาศเย็นๆ น่าจะได้ผลที่ใกล้เคียงเหมือนกัน แต่ถ้าในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ นั้นไม่แนะนำเท่าไหร่เพราะตอนนี้อากาศร้อน เดินแล้วเหงื่อจะออกเยอะ ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่มาก ทำให้เดินได้ไม่นานอาจเป็นลมหน้ามืดซะก่อน รวมถึงมลพิษจากควันรถ จากโรงงานที่ไม่ดีต่อปอดเราเท่าไหร่ด้วย
เห็นด้วยหรือไม่อย่างไรลองแนะนำกันได้
ปล. เข้าใจวาเครื่องวัดไขมันนั้นเป็นแค่ตัวเลขคร่าวๆ อาจมีผิดไปจากความจริงบ้าง แต่ก็แนะนำให้ใช้เพื่อเป็นเกณฑ์ดูความเปลี่ยนแปลงของตัวเรา