พิกัด : 17.9702124,100.3517634 ไม่น่าเชื่อ ว่านี่คืออีกหนึ่งเรื่องราวของเมืองแพร่ ที่โคตรอินดี้แบบมีสไตล์ ในอดีตเคยเป็นเส้นทางสัญจรหลักเชื่อมต่อระหว่างเมืองเส้นภูพญาพ่อ และ เรื่องของมนุษย์โบราณ 4500 ปีที่บ้านนาตองที่พิสูจน์แล้วว่า เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย (ทริปนี้นำโดยผู้ว่าฯแพร่)ก็พอรู้แล้วว่าต้องลุยๆหน่อย นัดกันตั้งแต่เช้า ออกจากในเมืองแพร่ ประมาณ 06.50 น เช้าในฤดูหนาวที่หมอกเต็มเมือง มุ่งหน้าสู่ถนนช่อแฮ ไปตามทางหลวงชนบทหมายเลข 1022 ระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร โดยช่วง 20 กิโลเมตรสุดท้ายจะเป็นทางดิน ตะลุยจะมันส์กันแค่ไหน ตามไปดูกันในแต่ละภาพเลยครับ

ระหว่างการเดินทางประมาณกิโลเมตรที่ 28 เห็นหมอกสวย ข้างทาง ก็จอดรถแวะชมกันก่อนนะครับ เพราะว่า คาดไว้ว่ากว่าจะไปถึงที่ภูพญาพ่อ ประมาณ 9 โมงเช้า ซึ่งอาจจะสายไปและหมอกคงจางไปหมดแล้วเลยขอชมหมอกที่นี่แทนก่อนนะครับ

ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตรสุดท้ายก่อนถึงภูพญาพ่อสิ้นสุดทางดำ กลายเป็นทางดินแทนนะครับ ฤดูหนาวนี้ไปได้สบายอยู่ครับ ใช้ความเร็วได้ไม่มากประมาณ 40 ถึง 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมงครับ

พิกัด : 17.9702124,100.3517634 และแล้วเราก็มาถึงภูพญาพ่อ จุดสูงสุดและสุดท้าย รอยต่อจังหวัดแพร่อุตรดิตถ์ ซึ่งในอดีตเส้นทางนี้เป็นเส้นทางประวัติศาสตร์ที่ใช้กันมาอย่างยาวนาน เชื่อมต่อจังหวัด อุตรดิตถ์แพร่น่านเข้าด้วยกัน ในภายหลังมีการ สร้างทาง สายเอเชียขึ้นมาใหม่ ทางนี้ จึงถูกลดความสำคัญลง เส้นทางนี้ใช้ระยะทางสั้นที่สุดที่จะไปถึงจุดผ่านแดนภูดู่ที่จะไปประเทศเพื่อนบ้านของเรา

ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่นายวัฒนา พุฒิชาติ นำกราบศาลเจ้าพ่อภูพญาพ่อเพื่อเป็นสิริมงคล ในการเดินทางสำรวจท่องเที่ยว เส้นทางตำนานในวันนี้

วิวสวยๆที่ได้ชมจากบนภูพญาพ่อซึ่งถ้าหากมาเช้ากว่านี้ เจ้าหน้าที่บอกว่าจะเป็นทะเลหมอกเต็มไปหมดสวยงามมาก (จากที่เคยเห็นจากภาพของเพื่อน )

และยังมองเห็น น้ำ เหนือเขื่อนสิริกิตซึ่งช่วงนี้จะถูกกั่นด้วยเขื่อนดิน บ้านท่าเรือ

มาถึงจุดสูงสุดและจุดสุดท้ายที่ภูพญาพ่อ เราก็ต้องถ่ายรูปเช็คอิน โชว์กันหน่อยว่ามาถึงแล้ว เส้นทางที่น้อยคนนักที่จะได้มาเยือน เช็คอินกันได้เลยที่นี่สัญญาณโทรศัพท์ 4g 3g ใช้ได้ครับ ทั้ง ais และ dtac

หนาวใช้ได้เลย ผิงไฟกันหน่อย !ก่อนถึงภูพญาพ่อจะมีจุดสกัด ของกรมอุทยาน ที่สามารถอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวได้ มีน้ำประปาภูเขา,ห้องน้ำ รวมถึงลานกางเต็นท์ ที่สามารถ ให้นักท่องเที่ยวมากางเต้นท์สัมผัสบรรยากาศ ในช่วงฤดูหนาวได้ครับ มี 2 จุดนะครับ คือจุดที่เรานั่งผิงไฟกันตรงนี้และมีอีกจุดอยู่บนยอดเนิน

นับว่าเป็นโชคดีของเราในวันนี้ที่ได้ร่วมทำบุญกับคณะจาริกธุดงค์ ที่จะได้เดินธุดงค์เพื่ออุทิศเป็นพระราชกุศล ส่งเสด็จแด่องค์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชโดยเริ่มต้นที่จังหวัดแพร่ไป19 จังหวัดใช้เวลาเดินทาง 1 เดือนครับ

พิกัด : 18.0001115,100.2528732 อีกหนึ่งตำนาน ต้นเฟิร์นยักษ์มหาศาลดำ เป็นต้นเฟิร์นดึกดำบรรพ์ ที่สืบสายพันธุ์มากกว่า 180 ล้านปี พบได้ตามข้างทางเป็นช่วงช่วง แสดงถึงความชื้น ซึ่งเฟิร์นชนิดนี้จะขึ้นอยู่ในระดับความสูงประมาณ 1,000 เมตรจากระดับน้ำทะเลขึ้นไป

พิกัด : 18.0001115,100.2528732  เหลืองอร่ามทั้งดอยกันเลยทีเดียวนะครับ ชาวบ้านที่นี่ มีอาชีพปลูกงวม เป็นพืชเศรษฐกิจทำรายได้ในช่วงฤดูหนาว ที่ออกดอกเหลืองอร่าม งดงามตามแนวเขา ช่วงเส้นทางบ้านผาตึม

เหลืองอร่ามงาม แบบธรรมชาติทางเข้าหมู่บ้านผาตึมจะมีส่วนงวมอยู่เป็นระยะระยะให้สามารถลง ไปชมและถ่ายรูป กันได้นะครับ หมู่บ้านที่นี่มีเพียงไม่กี่หลัง มีอากาศ ค่อนข้าง หนาวเย็นตลอดทั้งปี โอ้โหของกินไฮโซ ดอกงวม มีลักษณะคล้ายดอกกระถินสีเหลืองอร่าม ฝักงวม สามารถทำได้ นิยมมาทำซ่างวมกัน ปีนี้ออกน้อยมาก เนื่องจากโดนฝน เจ้าของสวนบอกว่า ตอนนี้กิโลละ 600 บาทนะครับ หากินได้เฉพาะช่วงฤดูหนาวนะครับ

ชวนกันมาชมสวนงวม กันได้นะครับที่บ้านผาตึม ตำบลป่าแดงอำเภอเมืองจังหวัดแพร่

ผู้ว่าแพร่ชวนชิมงวม ที่ชาวบ้านบอกว่าเป็นยาชูกําลัง โฮ้! วันนี้เราขอกินกันสดๆ จัดไปหลายฝักเลย มีเฉพาะฤดูหนาวเท่านั้นนะครับ

ชาวบ้านผาตึมที่นี่ ยังมีรายได้จากการขายเมล็ดกาแฟ พืชอีกหนึ่งชนิดที่สร้างเศรษฐกิจให้กับชาวบ้านที่นี่ หมู่บ้านนี้ แถบนี้ เราจะไม่เห็นการทำไร่ข้าวโพดเลยครับ ที่นี่ ปลูกงวม หน่อไม้ และ ชา ใบเมี่ยงรวมถึงกาแฟ สร้างรายได้ อยู่กันแบบพอเพียงครับ หมู่บ้านนี้เท่าที่ทราบมีอยู่ 7 หลังนะครับ

อยากรู้ไหมว่ากระบอกไม้ไผ่นี้มีอะไรอยู่ข้างในก็เลยขอดูครับ

คุณลุงเขย่ากระบอกไม้ไผ่ออกมา ก็จะมีเจ้าสองตัวนี้ออกมา มันคือปูกำ ซึ่งมันจะถูกขุดมาจากดิน และเก็บไว้ในกระบอกไม้ไผ่เพื่อเป็นอาหาร ของชาวบ้านที่นี่ครับ

พิกัด : 18.0336249,100.2588285 แล้วเราก็เดินทางมายังหมู่บ้านนาตอง หมู่บ้านเล็กๆ ท่ามกลางธรรมชาติและหุบเขา ที่เราจะมาตามหาตำนานมนุษย์โบราณ 4500 ปีที่นี่กัน

นาตองหมู่บ้านเล็กๆ อากาศแสนบริสุทธิ์ ระหว่างสองข้างทางที่เดินทางมาที่นี่ เต็มไปด้วยดอกไม้ นับเป็นการเดินทางที่สวยงามอีกครั้งหนึ่ง

พิกัด : 18.0336249,100.2588285 พระธาตุเจดีย์ศรีนาตอง ตั้งอยู่บริเวณยอดดอยสูงสุดของหมู่บ้าน

ขอเชิญชวนมากราบองค์พระธาตุเจดีย์ศรีนาตองเพื่อเป็น ศิริมงคลในการเดินทางมาเยือนกันนะคะ

บริเวณด้านบนขององค์พระธาตุ สามารถชมวิวหมู่บ้านนาตอง ที่ตั้งอยู่กลางหุบเขาและธรรมชาติแห่งอุดมสมบูรณ์ ได้เป็นอย่างดี

นายวัฒนา พุฒิชาติผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่นำคณะกราบพระประธานในวิหาร วัดนาตองซึ่งวัดแห่งนี้เพิ่งได้รับการบูรณะ ให้กลับมามีสภาพสมบูรณ์อีกครั้ง จากสมเด็จพระราชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำ

นี่คือ โครงกระดูกมนุษย์โบราณ 4500 ปี เหลือเชื่อไหมครับ ว่านี่อยู่ที่เมืองแพร่ โครงกระดูกนี้ ได้รับการพิสูจน์ อายุคาร์บอนจากต่างประเทศแล้ว ถือว่าเป็นโครงกระดูกมนุษย์โบราณเต็มตัวที่น่าจะเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทยแล้วนะครับ ทำให้ทราบว่าบริเวณแห่งนี้ มีคน อาศัยอยู่มานานมากแล้ว และยังมีโครงกระดูก อีกหลายโครง ที่ถูกขุดพบ หลากหลายช่วงอายุด้วยครับ เป็นมนุษย์โบราณในช่วงยุคหินใหม่

และที่วัดแห่งนี้ยังเป็น ที่จัดเก็บ อุปกรณ์ เครื่องใช้ไม้สอยของมนุษย์ยุคโบราณ อาทิเช่น ขวานหิน กำไลหิน เครื่องประดับต่างๆ ที่ทำจากหิน อีกเป็นจำนวนมากที่ถูกขุดพบในบริเวณเดียวกัน โดยปัจจุบัน ทางวัดได้จัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์ชั่วคราวขึ้นมา เพื่อเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้

โอ้โหอีกแล้ว นี่คือร่องรอย ของการ ฝนมีดหิน เมื่อ 4500 ปีก่อน โดยหินก้อนนี้ใช้เป็นหินฝนมีดหินอีกทีหนึ่ง เพื่อให้มีดหินมีความคม เห็นเป็นรอยบนหินยังปรากฏจนถึงปัจจุบัน

เราเดินทาง เข้าป่าเพื่อไปเยี่ยมชมถ้ำ ที่เป็นที่ขุดพบโครง กระดูก มนุษย์โบราณกันครับ ระยะทางประมาณ 300 เมตรครับ อยู่ในหมู่บ้าน ด้วยสองข้างทาง ก็จะพบเห็น การปลูก ชา รวมถึง ลองกอง เป็นอาชีพเสริมของชาวบ้านที่นี่ครับ

พี่หน่อย ซึ่งเป็นคนที่พบที่นี่เป็นคนแรกๆ นำคณะเรามาถึงปากถ้ำกันแล้วครับ ถ้ําที่นี่มี 2-3 ถ้ำกันเลยนะครับ

เมื่อเดินเข้ามาภายในถ้ำ ถือว่าเป็นถ้ำขนาดกลาง ทางเดินค่อนข้างสะดวกพอสมควรไม่ลึกมากครับประมาณ 30 เมตร

ตรงนี้เป็นทางเข้าอีกถ้ำนะครับชื่อว่าถ้ำรันตู ภายในถ้ำปัจจุบันยังมี ค้างคาวอาศัยอยู่ด้วย ชาวบ้านเล่าว่าเคยมีคน่างถิ่นแอบมาหาเหล็กไหล แล้วก็ต้องหนีออกไปกลางดึกคาดว่า คงเจอ อะไรสักอย่าง

ถ้ำนี้คือถ้ำที่ขุดพบโครงกระดูก มนุษย์โบราณ ที่มีอายุ 4500 ปีรวมถึง ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ซึ่งวันนี้เรามีโอกาส ดีที่เจอ ดร.ด้านโบราณคดีมาเล่าเรื่องราวให้เราฟังว่า ถ้ำนี้น่าจะเป็น สุสานโบราณ เนื่องจาก ขุดพบโครงกระดูก จำนวนหลายชุดและหลากหลายวัย มีตั้งแต่เด็กจนถึงวัยชรา และยังได้เล่าว่าเมื่อประมาณ 500 ปีก่อนน่าจะมีคนมาขุดเพื่อค้นหาอะไรบางอย่าง ทำให้ มีกองกระดูกขนาดใหญ่ถูกขุดขึ้นมากองและถูกน้ำหินปูนควบรวมเป็นเนื้อเดียวกัน

ภายในถ้ำยังมีหินงอกหินย้อย ระยิบระยับนับเป็นถ้ำที่ยังมีชีวิตอยู่นะครับ

หลังจากนั้นเราก็เดินทาง ออกมาจากหมู่บ้านนาตองบ่ายบ่ายก็จะมาถึงน้ำตกเชิงทองซึ่งจุดสังเกตตรงนี้ก็คือ ตรงบริเวณสะพานโค้งนี่เองนะครับ

ขากลับเราได้แวะ น้ำตกเชิงทองถือว่าเป็นน้ำตกขนาดเล็ก ที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี เป็นน้ำเส้นเดียวกันกับที่ไหลมาจากบ้านนาตอง

จบแล้วครับวันนี้ขอปิดท้ายกันที่ ร้านไออุ่นกลางดอย เพื่อทานอาหารเติมพลัง ร้านนี้จะเปิดวันเสาร์-อาทิตย์ เท่านั้นนะค่ะและเป็นจุดหมายสุดท้ายทริปวันนี้ครับ