ร้อนเร่าเร้าอารมณ์ ตอนที่ 10

กระทู้สนทนา


รูปจาก http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=wikipedia&group=1&month=07-2015&date=06

ร้อนเร่าเร้าอารมณ์ ตอนที่ 1 http://ppantip.com/topic/35715756
ร้อนเร่าเร้าอารมณ์ ตอนที่ 2 http://ppantip.com/topic/35717992
ร้อนเร่าเร้าอารมณ์ ตอนที่ 3 http://ppantip.com/topic/35726142
ร้อนเร่าเร้าอารมณ์ ตอนที่ 4 http://ppantip.com/topic/35736149
ร้อนเร่าเร้าอารมณ์ ตอนที่ 5 http://ppantip.com/topic/35744346
ร้อนเร่าเร้าอารมณ์ ตอนที่ 6 http://ppantip.com/topic/35813047
ร้อนเร่าเร้าอารมณ์ ตอนที่ 7 http://ppantip.com/topic/35817131
ร้อนเร่าเร้าอารมณ์ ตอนที่ 8 http://ppantip.com/topic/35823771
ร้อนเร่าเร้าอารมณ์ ตอนที่ 9 http://ppantip.com/topic/35839184

ร้อนเร่าเร้าอารมณ์ ตอนที่ 10

คณินคิดแล้วก็ไม่รออะไรทั้งนั้น เขาพารถเข็นไปตรงหัวบันได
แต่พิภพมาจับไว้ได้ทัน

“เมิงจะทำอะไรของเมิง”

“ทำในสิ่งที่เมิงอยากให้กูทำไง” นัยน์ตาของคณินแข็งกร้าวขึ้น

“ถ้ากูตายไป เมิงจะได้พ้นจากนรกขุมนี้ไปได้ซักที”

พิภพหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น

“เมิงไม่ต้องลงทุนขนาดนั้นหรอก แค่กูลาออก กูก็พ้นจากนรกขุมนี้แล้ว”

“งั้นเมิงไปเลย แล้วอย่ากลับมาให้กูเห็นหน้าอีก”

คณินตวาดเขาเสียงดังพอๆกัน

พิภพมองคณินด้วยความโกรธแค้น

“ได้ ถ้าเมิงต้องการอย่างนั้น”

พิภพพาคณินไปที่ห้อง เขาเก็บข้าวของอย่างรวดเร็วแล้วพาคณินลงลิฟท์มาที่ชั้นหนึ่ง
ตอนอยู่ในสิฟท์ ไม่มีใครส่งเสียงออกมาเลย

พอลิฟท์เปิด พิภพเข็นรถเข็นของคณินมาไว้ตรองห้องรับแขกชั้นหนึ่ง
แล้วเขาก็สะพายเป้ออกจากบ้านไป

“อย่าไปนะเมิง” คณินแผดเสียงอยู่ในใจ
“อย่าไปนะเมิง กูกลัว ... กลัวการที่จะต้องอยู่คนเดียว อย่าไปนะเมิง อย่าไปเลย”
คณินได้แต่ตะโกนก้องอยู่ในใจ เขาอยากตะโกนออกมาดังๆ แต่เสียงมันไม่ออก
คณินรู้สึกเครียดมาก

พิภพเดินลงบันไดหน้าตึกด้วยความโมโห ใจจริงเขาก็ไม่อยากทำแบบนี้
แต่วันนี้ คณินแผลงฤทธิ์จนน่าตกใจ

แต่พอเขาเดินผ่านรถมอเตอร์ไซค์ของคณิน ความรู้สึกหนึ่งก็แล่นมากระทบใจเขา
เขารีบวิ่งเข้าไปในตึกเพื่อหาคณิน พอคณินเห็นเขา คณินก็ตกใจเหมือนกัน

พิภพอุ้มคณินออกไปนอกตึก เขาอุ้มคณินไปนั่งบนเบาะหลังของมอเตอร์ไซค์ของเขา
“เมิงจะทำอะไรวะ กูกลัว”
“เฉยเถอะน่า”

พิภพหาเชือกมามัดเท้าของคณินกับที่วางเท้า เขามัดจนแน่นทั้งสองข้าง
“กูจะพาเมิงไปเที่ยวนะ โอบเอวกูไว้ละ อย่าให้หลุดมือเชียว”
พิภพขึ้นไปนั่งตรงเบาะหน้า แล้วสตาร์ทเครื่อง คณินหลับตาเพราะความกลัว
“เราไปกันเถอะ เมิงกอดเอวกูไส้แน่นๆนะ”

ถึงพิภพไม่บอก คณินก็กอดเอวเขาจนแน่นอยู่แล้ว คณินยังไม่หายกลัวอุบัติเหตุในครั้งนั้น
เขาจึงไม่กล้าลืมตา
“เมิงลองลืมตาดูนะ แล้วเมิงจะรู้ว่าการขับมอเตอร์ไซค์มันมีความสุขแค่ไหน”

คณินยังคงกลัวอยู่ แต่เขาก็พยายามลืมตา
พอเขาลืมตาทั้งสองตาแล้ว มันทำให้ความรู้สึกเก่าๆกลับมา มันเป็นความรู้สึกของสิงห์นักบิด
คณินรู้สึกโล่งมากๆ และรู้สึกว่าโลกกลับมาเป็นของเขาอีกครั้ง เขาได้พบกับโลกที่เขาคุ้นเคยอีกครั้ง
“เป็นไงบ้าง”

คณินไม่ได้ตอบอะไรออกมา แต่พิภพรับรู้ได้ด้วยการโอบกอดที่ตอนนี้คณินรู้สึกผ่อนคลายลงมาก
พิภพตั้งใจพาคณินไปตรงโรงพยาบาลที่เขาไปอบรมบ่อยๆ เพราะถนนตรงนั้นสวยมาก
แถมยังมีทะเลสาบอีกต่างหาก

แต่พอไปถึงบริเวณนั้น พิภพเห็นหวานยืนอยู่ไกลๆ
เขาแล่นรถไปจอดใกล้ๆเธอ และได้ฝากคณินไว้กับนางพยาบาลที่เขาสนิทด้วย
พออยู่กันสองคน หวานจึงเล่าเรื่องต่างๆให้เขาฟัง โดยเริ่มจากทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่
“หวานกะมาหาหมอเพื่อขอเบอร์ของคุณ”
“คุณมีเบอร์ของผมแล้วนี่”
หวานอึกอักที่จะตอบ “หวานเพิ่งลบไป”

พิภพเข้าใจหวานดี
“อยากโทรหาผมมีอะไรเหรอ”
หวานพยายามเล่าทุกอย่างให้เขาฟัง จนมาลงเอยตรงประโยคที่ว่า
“หวานอยากให้คุณมาช่วยดูแลพงษ์หน่อย”

พิภพยังไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ เพียงแต่เขาไม่อยากไปเจอพงษ์เลย พงษ์ดูน่าสงสารอยู่แล้ว พิภพไม่อยากจะไปแสดงตัวต่อหน้าเขา เขาเองคือคนแอบรักหวาน เพราะฉะนั้นจึงไม่ควรเสนอหน้าไปหาพงษ์อย่างเด็ดขาด
“ช่วยหวานสักครั้งนะ หวานไว้ใจใครไม่ได้เลยนอกจาก ... คุณ”
ประโยคสุดท้ายทำให้พิภพใจอ่อน “โอเคครับ ผมจะช่วยคุณ”
******************************************************

“พี่ช่วยน้องได้นะ”
เสียงวินพูดกับพยัพด้วยความห่วงใย แต่พยัพไม่ได้สนใจที่จะฟังเขา
พยัพยืนรอจนมีคนใช้บัตรเปิดประตูเล็กของแมนชั่นได้ ขณะที่ประตูกำลังจะปิด เขาจึงแอบเข้าไป โดยมีวินแอบเข้าไปด้วย

ดาว เมียของเขาหนีมาอยู่ที่แมนชั่นแห่งนี้ เขาแต่งงานกับดาวแล้ว นับว่าแต่งกันตั้งแต่ยังเป็นหนุ่มเป็นสาว
การอยู่ด้วยกันสองปีทำให้เกิดความเครียดบางอย่างจนทำให้ทั้งคู่ทะเลาะกัน
การทะเลาะกันรุนแรงจนพยัพเผลอตบหน้าดาวไป

ดาวเกลียดผู้ชายที่ทำร้ายผู้หญิงมาก จึงหนีมาอยู่ที่นี่ นี่เป็นครั้งที่สองที่พยัพมาขอคืนดี แต่เป็นครั้งแรกที่วินมาด้วย
พอเดินมาถึงห้องของดาว พยัพก็เคาะห้องดาว
“ดาว นี่ผมเองนะ เปิดให้ผมเข้าไปหน่อย”

ดาวได้ยินเสียงของพยัพ แต่เธอไม่ยอมเปิดประตูห้องให้ ดาวยังโกรธพยัพอยู่ โกรธมากที่เขาไม่เป็นสุภาพบุรุษ
พยัพยังคงเคาะห้องของดาวต่อไป แต่ประตูห้องยังไม่เปิด
*********************************************************
พอประตูลิฟท์เปิดออก แต้มก็เห็นโจนาธานนั่งบนพื้นเอาหลังพิงกำแพงอยู่
โจนาธานตกใจที่เห็นแต้มมาหา เขารีบลุกขึ้น

แต้มรีบเดินไปหาเขา พอเดินไปจนใกล้ แต้มรู้สึกใจคอไม่ดีเลย
“คุณดูไม่ดีเลยนะ”

ตอนนั้นสภาพของโจนาธานเหมือนพวกคนจรจัด ผมเผ้ารุงรัง เสื้อแสงสกปรก

“เราไปคุยกันตรงโซฟาไหม”

“ไม่ต้องหรอก นั่งพื้นพิงกำแพงตรงนี้ก็ได้”

พอแต้มบอกอย่างนั้น ทั้งคู่จึงนั่งบนพื้นแล้วเอาหลังพิงกำแพง

“คุณเป็นไงมั่ง” โจนาธานถามขึ้นก่อน

“ฉันต้องไปทำงานออฟฟิศตามที่พ่อสั่ง คนขับรถคุมแจเลย หยั่งกะฉันเป็นนักโทษแน่ะ แต่ฉันก็ออกอุบายมาหาคุณได้”
เสียงท้ายประโยคฟังดูขัดๆเขินๆ
“แล้วคุณล่ะ เป็นไงบ้าง”

โจนาธานถอนหายใจก่อนจะพูดขึ้น
“ก็เรื่อยๆ ช่วงนี้ผมมีปัญหาเยอะ ก็เรื่อยๆนะ”
“คุณอย่าท้อนะ” แต้มหันมองหน้าด้านข้างของเขา ทำให้โจนาธานหันมาสบตากับแต้ม แต้มเขินมาก จึงหลบสายตาไป แต่เธอก็พูดประโยคหนึ่งออกมา
“ฉันเป็นห่วงคุณนะ กลัวคุณจะเครียด”

แต้มยังไม่กล้าหันไปสบตาของโจนาธาน
โจนาธานยังคงมองหน้าด้านข้างของแต้มอยู่
“ขอบคุณนะ” โจนาธานหันมามองตรง

หลังจากนั้นทั้งคู่ต่างนั่งมองไปข้างหน้า ไม่ได้หันหน้ามามองกัน
เพียงแต่การนั่งเป็นเพื่อนกันอยู่ใกล้ๆ แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะบอกว่าแต้มกับโจนาธานเริ่มรู้สึกต่อกันมากแค่ไหน

ถึงแม้จะรู้จักกันไม่นาน แต่ความเห็นอกเห็นใจกัน การห่วงใยซึ่งกันและกันเริ่มทำให้ทั้งสองรู้สึกผูกพันกันมากขึ้น
มันเป็นความอบอุ่นที่แต่ละคนไม่เคยรู้สึกอย่างนี้มาก่อน ทั้งแต้มและโจนาธานสามารถสัมผัสได้ถึงความรู้สึกดีๆที่มีให้กัน.

โปรดติดตามตอนต่อไป
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่