TOKYO TRiP(+YOKAHAMA) ทริปเที่ยวญี่ปุ่นเพี้ยนๆ 5วัน (3-7 พ.ย. 2559) เพราะประเด็นหลักคือดูคอนเสิร์ต
สำหรับกระทู้นี้ก็จะเป็นจุดหมายหลักของทริปนี้เลยครับ
แต่ก็ฝากติดตามรีวิวทริปนี้ตอนอื่นๆด้วยนะครับ
[DAY 1] สนามบินฮาเนดะ , โยโกฮาม่า (โรงเบียร์คิริน ,CUPNOODLE MUSEUM) :
http://ppantip.com/topic/35841345
[DAY 2-3] อาซาคุสะ ,สวนรอบพระราชวัง (+แถม นิปปงบุโดกัง ,อิเคะบุคุโระ เล็กน้อย) :
http://ppantip.com/topic/35858188
[DAY 4] นาคาโนะ ,ชินจูกุ ,ชิบุยะ ,อุเอโนะ :
[DAY 5] ซึคิจิ ,ฮาราจุกุ ,ศาลเจ้าเมจิ ,โอไดบะ , Duty Free@ฮาเนดะ
[Hotel Review] Toyoko Inn : Nishi-Kasai :
http://ppantip.com/topic/35842360
[Special Review] <Eir Aoi 5th Anniversary Special Live 2016> แชร์ประสบการณ์ไปฟังคอนเสิร์ตถึงถิ่นที่ญี่ปุ่นของนักร้องเสียงทรงพลัง Aoi Eir
[Restaurant Review] Warakiya : ร้านอิซากายะใกล้ๆบุโดกัน สำหรับผู้ที่ "คอนเสิร์ตจบ คนไม่จบ"
ทริปนี้เป็นทริปที่ผมวางแผนมายาว ตั้งแต่ไปดูคอนเสิร์ตของ Aoi Eir ที่สิงคโปร์ตอนต้นปีที่ผ่านมา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้รีวิวคอนเสิร์ตที่สิงคโปร์ http://ppantip.com/topic/34663583
ว่าจะต้องไปญี่ปุ่นเพื่อดูคอนเสิร์ตใหญ่ประจำปีของเธอให้ได้
แต่กว่าจะประกาศวันจัดแสดงออกมาก็ช่วงหลังจากคอนเสิร์ตกลางปีไปแล้ว แถมปีนี้เป็นครั้งแรกที่จะจัดคอนเสิร์ตแบบสองวัน ตอนนั้นต้องวางแผนเดินทางใหม่พอสมควรเหมือนกัน
โดยคอนเสิร์ตนี้มีจัดขึ้นในวันที่ 4 และ 5 พฤศจิกายน 2559 และเป็นคอนเสิร์ตที่ฉลองครบรอบ 5ปี ที่เธอเข้าวงการมาอีกด้วย
ขอเริ่มด้วยการเดินทางและก็บรรยากาศรอบๆก่อนคอนเสิร์ตจะเริ่มนะครับ
การเดินทางก็นั่งรถไฟสาย Tozai(สีฟ้า)ไปลงที่สถานี Kudanshita ครับ
อย่างแรกที่มาถึงคอนเสิร์ต ก็ต้องซื้อของหน้างานครับ
อันนี้บรรยากาศการขายของ ภาพนี้จากวันแรกครับ วันนี้เป็นวันทำงานคนจะน้อยกว่าวันที่สอง
แผงนี้คือส่วนที่ขาย CD
ยังมีคนมาซื้อของตลอดทั้งวัน
ภาพนี้จากวันที่2ครับ ที่เห็นคนอยู่บนบุโดกัน นั้นต่อคิวซื้อของกันอยู่ เยอะกว่าวันแรกพอสมควร
ช่วงเช้าๆดอกไม้แสดงความยินดีจากเพื่อนศิลปินกับสื่อต่างๆ ยังเก็บไว้อยู่ด้านในฮอลล์ (ที่อยู่ด้านนอกน่าจะเป็นดอกไม้จากทางแฟนคลับครับ)
ตอนเย็นจึงเริ่มเอามาตั้งไว้ข้างนอกฮอลล์ อันนี้ดอกไม้จากทางสื่อต่างๆ
อีกส่วนคือจากทางเพื่อนๆศิลปินของเธอ
น่าจะคุ้นๆชื่อเจ้าของดอกไม้กันนะครับ ทั้ง LiSA ,Kalafina ,Luna และอีกหลายๆคน
ต่อจากนี้จะพูดถึงในส่วนของคอนเสิร์ตนี้กันล่ะนะครับ
Setlist
01. シリウス (Sirius) - KILL la KILL OP1
02. AURORA - Gundam AGE OP4
03. コバルト・スカイ (Cobalt Sky)
04. アヴァロン・ブルー (Avalon Blue)
05. GENESIS - Aldnoah Zero ED3
06. アカツキ (Akatsuki)
07. クロイウタ (Kuroi uta) - Drag On Dragoon 3 Theme Song
08. KASUMI
09. Lament - Fate/Zero Saber Image Song
10. MEMORIA - Fate/Zero ED1
11. HaNaZaKaRi
12. アクセンティア (Accentier) - Digimon World -next Order- Theme Song
13. レイニーデイ (Rainy Day)
14. シューゲイザー (Shoegazer)
15. シンシアの光 (Cynthia no hikari) - Sword art online -Lost Song- OP
16. ラピスラズリ (Lapis Lazuli) - Arslan Senki ED1
17. IGNITE - Sword art online SS2 OP1
18. Bright Future
19. サンビカ (Sanbika) - Kill la Kill Insert Song
20. 翼 (Tsubasa) - Arslan Senki : Fuujin Ranbu OP
21. INNOCENCE - Sword art online OP2
encore
22. frozen eyez
23. ツナガルオモイ (Tsunagaru Omoi)
24. 虹の音 (Niji no oto) - Sword art online Extra Edition ED
คอนเสิร์ตเริ่มขึ้นโดยแสงไฟในฮอลล์ถูกปิดลง เสียงเฮลั่นฮอลล์ก็ได้ดังขึ้น พร้อมทั้งแท่งไฟสีน้ำเงินของเหล่าแฟนเพลงได้เปิดขึ้นเพื่อต้อนรับ นักร้องเสียงทรงพลัง "Aoi Eir" ที่เรารอคอยกัน
วันนี้ Eir เธอมาในชุดเฟอร์สีน้ำเงิน สวยมากครับชุดของปีนี้
เวทีถูกเปิดมาอย่างสนุกสนานด้วยเพลง "Sirius" แล้วก็ยังต่อเนื่องด้วย "AURORA"
และเธอก็ยังไม่ให้อารมณ์ขาดตอนด้วย "Cobalt Sky" พร้อมกับที่เหล่าแฟนคลับหยิบผ้ามาหมุนกันตามธรรมเนียมของเพลงนี้ เพิ่มความร้อนแรงในฮอลล์ยิ่งขึ้น
แล้ว Eir เธอก็ความดาร์คเข้าไปเล็กน้อยจากเพลง "Avalon Blue" แต่จากนั้นอารมณ์ในฮอลล์ก็เปลี่ยนไปด้วยเพลง Ballad อันทรงพลัง "GENESIS" ที่เนื้อเพลงนั้นเริ่มด้วยความกดดัน แต่ก็ต้องก้าวต่อไปให้ถึงจุดหมาย
และต่อเนื่องด้วยเพลงใหม่ "Akatsuki" ที่มีความหมายคล้ายๆกันคือเริ่มต้นด้วยความเจ็บปวด โศกเศร้า แต่ก็ต้องก้าวข้ามผ่านและมีชีวิตอยู่ต่อไป
แล้วบรรยากาศกลับมาอยู่ในอารมณ์มืดมัวต่ออีกเพลงจาก "Kuroi uta" ก่อนที่จะค่อยๆลดความกดดันลงจากเพลง "KASUMI" และ "Lament"
จนมาถึงเพลงเดบิวต์ของเธอ "MEMORIA" ที่มีเนื้อหาว่า “สิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นว่าได้ใช้เวลากับคุณ มีอยู่ที่นี่จริงๆ น้ำตาที่เอ่อล้นออกมานี้คือคำขอบคุณถึงพวกคุณ” เหมือนเป็นการส่งความรู้สึกของตัวเธอผ่านไปยังผู้ชมทางเพลงนี้
จากนั้นบรรยากาศในฮอลล์ก็กลับมาสนุกสนานอีกครั้งจาก "HaNaZaKaRi" และ "Accentier" ที่มีการโต้ตอบกันระหว่าง Eir กับ ผู้ชม
ถัดไปเป็นเพลงใหม่อีกเพลง "Rainy Day" โดยเพลงนี้เป็นเพลงที่คุณ Arai มือกีตาร์ของ Eir Band ได้แต่งขึ้นเพื่อให้กำลังใจแก่ Aoi Eir
และได้มีท่าใหม่ที่ใช้ประกอบในการร้องเพลงนี้ด้วยการย่ำเท้าไปปรบมือ พร้อมกับให้ทางแฟนคลับปรบมือตามไปด้วย
หลังจากนั้น ก็มีจังหวะให้ Eir เธอไปเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวเล็กน้อย พร้อมกับมาด้วย Rock mode จากเพลง "Shoegazer" ประทุความร้อนแรงของบรรยากาศในฮอลล์ออกมา
แล้วจากนั้นเธอก็ปล่อยเพลงที่ทรงพลังออกมาต่อเนื่องตั้งแต่ "Cynthia no hikari" ,"Lapis Lazuli" และ "IGNITE"
จนมาถึง "Bright Future" ที่เป็นเพลงที่มีจังหวะเล่นโต้ตอบกันกับผู้ชม ถึงเพลงนี้อาจจะไม่ได้ร้อนแรงเท่าเพลงก่อนหน้าๆ แต่ด้วยความหมายของเพลงที่พูดถึงอนาคตที่สดใสตามชื่อเพลง ทำให้ดีกรีความร้อนแรงในฮอลล์ยังคงไม่ลดลง
แล้วก็ยังคงบรรยากาศแบบนี้ต่อไปด้วย "Sanbika " และ " Tsubasa"
จนมาถึงเพลงสุดท้าย "INNOCENCE" โดยตอนที่เริ่มเพลงนี้ก็ได้มีการยิงเทปสีเงินออกมา
หลังจากจบเพลงนี้เธอก็ได้พูดขอบคุณ แล้วได้ลาลงจากเวทีไป
ขอพักมาพูดคุยกันเล็กน้อย ก่อนจะถึงช่วงอังกอร์ที่เป็นจุดพีคที่สุดของคอนเสิร์ตครั้งนี้นะครับ
คิดว่าเพื่อนๆหลายคนน่าจะทราบข่าวเกี่ยวกับ Aoi Eir ที่เธอมีปัญหาเรื่องสุขภาพตอนประมาณเดือนสิงหาคม จนต้องยกเลิกงานแสดงทั้งในและต่างประเทศหลายๆงาน รวมทั้งงาน AFATH2016 ที่ผ่านมาอีกด้วย
แล้วสุดท้ายก็มีประกาศมาว่าจะจัดคอนเสิร์ตนี้ตามกำหนดเดิม แต่ทางตัวของ Aoi Eir จะขอพักงานอย่างไม่มีกำหนดหลังจากจบงานครั้งนี้
พอได้ยินอย่างงั้นทางเพื่อนๆแฟนคลับก็เป็นห่วงสุขภาพของเธอกัน เพราะคิดว่าเธอยังไม่น่าจะหายสนิทดี แต่ก็ได้แค่เฝ้ารอไปเจอเธอจริงๆตอนวันแสดงคอนเสิร์ตเท่านั้น
พอถึงวันจริงตอนที่เห็น Eir เธอยิ้มขึ้นเวทีมา ก็เบาใจกันไปได้เปราะนึง แต่ก็อย่างที่คิดกันไว้ครับ เธอยังไม่หายสนิทดีจริงๆ พลังเสียงที่เธอปล่อยออกมาลดลงไปเยอะที่เดียว แต่ด้วยบรรยากาศในฮอลล์ ตัวคอนเสิร์ตยังคงสนุกตามที่เล่าไว้ด้านบน (แค่เรื่องเสียง อันนี้อาจจะไม่ได้ฟินเต็ม100%เท่าไหร่)
ในตอนแรกที่ฟังคอนเสิร์ตวันแรก ส่วนตัวตอนที่ได้ยินเสียงร้องของเธอจะค่อนข้างจะกังวลนิดหน่อยครับ เพราะเสียงท่อนที่เป็นเสียงสวยๆ เธอเปล่งไม่ค่อยจะออก ทำให้รู้สึกว่าเธออาจจะป่วยหนักพอสมควร
แต่พอมาฟังวันที่สองความกังวลนั้นหายไปเยอะเลย เพราะวันนี้เสียงเธอดีขึ้นกว่าเมื่อวาน น่าจะเพราะวันแรกเธอไม่ได้ขึ้นเวทีมาพักใหญ่ รวมทั้งเธอน่าจะกังวลอะไรหลายๆเรื่อง(เธอเป็นคนที่แคร์ความรู้สึกคนอื่นพอสมควรครับ ทำให้ฝืนตัวเองอยู่บ่อย)
คอนเสิร์ตวันแรกเลยออกอาการเกร็งๆพอสมควร พอมาวันที่สองก็เริ่มผ่อนคลายลงแล้วจึงปล่อยพลังออกมาได้เต็มที่มากขึ้น
สำหรับเพื่อนๆบางคนที่อ่านรีวิวด้านบน (รวมถึงส่วนอังกอร์ด้านล่าง) แล้วรู้สึกว่าทำไมเขียนจนเรียกได้ว่า " ติ่งจนเวิ่นเว้อ "
ขออธิบายนิดนึง คือเพลงของ Aoi Eirหลายๆเพลง จะเป็นเพลงที่ให้กำลังใจ หรือเป็นเพลงแบบที่พบความยากลำบาก แต่ต้องก้าวข้ามเดินต่อไป (เหตุผลนึงที่กลายเป็นแฟนคลับเธอ ก็คือเรื่องนี้ล่ะครับ ฟังเพลงเธอแล้วรู้สึกได้กำลังใจ)
แล้วเหตุการณ์ช่วงคอนเสิร์ตครั้งนี้ มันสะท้อนตัวเธอออกมาค่อนข้างตรงตามเนื้อหาของเพลง ที่เธอเจอปัญหาใหญ่ในการเป็นนักร้องคือ อาการป่วยที่กระทบกับเสียงของเธอ
คนที่ฟังคอนเสิร์ตนี้ เลยอินจนน้ำตาซึมออกมาหลายครั้งเหมือนกัน และก็อวยพรให้ Eir เธอก้าวข้ามผ่านปัญหานี้ ได้เหมือนเพลงของเธอเช่นกัน
[CR] แชร์ประสบการณ์ไปชมคอนเสิร์ตถึงถิ่นที่ญี่ปุ่น <Eir Aoi 5th Anniversary Special Live 2016 at Nippon Budokan>+อวยพรวันเกิด
สำหรับกระทู้นี้ก็จะเป็นจุดหมายหลักของทริปนี้เลยครับ
แต่ก็ฝากติดตามรีวิวทริปนี้ตอนอื่นๆด้วยนะครับ
[DAY 1] สนามบินฮาเนดะ , โยโกฮาม่า (โรงเบียร์คิริน ,CUPNOODLE MUSEUM) : http://ppantip.com/topic/35841345
[DAY 2-3] อาซาคุสะ ,สวนรอบพระราชวัง (+แถม นิปปงบุโดกัง ,อิเคะบุคุโระ เล็กน้อย) : http://ppantip.com/topic/35858188
[DAY 4] นาคาโนะ ,ชินจูกุ ,ชิบุยะ ,อุเอโนะ :
[DAY 5] ซึคิจิ ,ฮาราจุกุ ,ศาลเจ้าเมจิ ,โอไดบะ , Duty Free@ฮาเนดะ
[Hotel Review] Toyoko Inn : Nishi-Kasai : http://ppantip.com/topic/35842360
[Special Review] <Eir Aoi 5th Anniversary Special Live 2016> แชร์ประสบการณ์ไปฟังคอนเสิร์ตถึงถิ่นที่ญี่ปุ่นของนักร้องเสียงทรงพลัง Aoi Eir
[Restaurant Review] Warakiya : ร้านอิซากายะใกล้ๆบุโดกัน สำหรับผู้ที่ "คอนเสิร์ตจบ คนไม่จบ"
ทริปนี้เป็นทริปที่ผมวางแผนมายาว ตั้งแต่ไปดูคอนเสิร์ตของ Aoi Eir ที่สิงคโปร์ตอนต้นปีที่ผ่านมา [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ว่าจะต้องไปญี่ปุ่นเพื่อดูคอนเสิร์ตใหญ่ประจำปีของเธอให้ได้
แต่กว่าจะประกาศวันจัดแสดงออกมาก็ช่วงหลังจากคอนเสิร์ตกลางปีไปแล้ว แถมปีนี้เป็นครั้งแรกที่จะจัดคอนเสิร์ตแบบสองวัน ตอนนั้นต้องวางแผนเดินทางใหม่พอสมควรเหมือนกัน
โดยคอนเสิร์ตนี้มีจัดขึ้นในวันที่ 4 และ 5 พฤศจิกายน 2559 และเป็นคอนเสิร์ตที่ฉลองครบรอบ 5ปี ที่เธอเข้าวงการมาอีกด้วย
ขอเริ่มด้วยการเดินทางและก็บรรยากาศรอบๆก่อนคอนเสิร์ตจะเริ่มนะครับ
การเดินทางก็นั่งรถไฟสาย Tozai(สีฟ้า)ไปลงที่สถานี Kudanshita ครับ
อย่างแรกที่มาถึงคอนเสิร์ต ก็ต้องซื้อของหน้างานครับ
อันนี้บรรยากาศการขายของ ภาพนี้จากวันแรกครับ วันนี้เป็นวันทำงานคนจะน้อยกว่าวันที่สอง
แผงนี้คือส่วนที่ขาย CD
ยังมีคนมาซื้อของตลอดทั้งวัน
ภาพนี้จากวันที่2ครับ ที่เห็นคนอยู่บนบุโดกัน นั้นต่อคิวซื้อของกันอยู่ เยอะกว่าวันแรกพอสมควร
ช่วงเช้าๆดอกไม้แสดงความยินดีจากเพื่อนศิลปินกับสื่อต่างๆ ยังเก็บไว้อยู่ด้านในฮอลล์ (ที่อยู่ด้านนอกน่าจะเป็นดอกไม้จากทางแฟนคลับครับ)
ตอนเย็นจึงเริ่มเอามาตั้งไว้ข้างนอกฮอลล์ อันนี้ดอกไม้จากทางสื่อต่างๆ
อีกส่วนคือจากทางเพื่อนๆศิลปินของเธอ
น่าจะคุ้นๆชื่อเจ้าของดอกไม้กันนะครับ ทั้ง LiSA ,Kalafina ,Luna และอีกหลายๆคน
ต่อจากนี้จะพูดถึงในส่วนของคอนเสิร์ตนี้กันล่ะนะครับ
Setlist
01. シリウス (Sirius) - KILL la KILL OP1
02. AURORA - Gundam AGE OP4
03. コバルト・スカイ (Cobalt Sky)
04. アヴァロン・ブルー (Avalon Blue)
05. GENESIS - Aldnoah Zero ED3
06. アカツキ (Akatsuki)
07. クロイウタ (Kuroi uta) - Drag On Dragoon 3 Theme Song
08. KASUMI
09. Lament - Fate/Zero Saber Image Song
10. MEMORIA - Fate/Zero ED1
11. HaNaZaKaRi
12. アクセンティア (Accentier) - Digimon World -next Order- Theme Song
13. レイニーデイ (Rainy Day)
14. シューゲイザー (Shoegazer)
15. シンシアの光 (Cynthia no hikari) - Sword art online -Lost Song- OP
16. ラピスラズリ (Lapis Lazuli) - Arslan Senki ED1
17. IGNITE - Sword art online SS2 OP1
18. Bright Future
19. サンビカ (Sanbika) - Kill la Kill Insert Song
20. 翼 (Tsubasa) - Arslan Senki : Fuujin Ranbu OP
21. INNOCENCE - Sword art online OP2
encore
22. frozen eyez
23. ツナガルオモイ (Tsunagaru Omoi)
24. 虹の音 (Niji no oto) - Sword art online Extra Edition ED
คอนเสิร์ตเริ่มขึ้นโดยแสงไฟในฮอลล์ถูกปิดลง เสียงเฮลั่นฮอลล์ก็ได้ดังขึ้น พร้อมทั้งแท่งไฟสีน้ำเงินของเหล่าแฟนเพลงได้เปิดขึ้นเพื่อต้อนรับ นักร้องเสียงทรงพลัง "Aoi Eir" ที่เรารอคอยกัน
วันนี้ Eir เธอมาในชุดเฟอร์สีน้ำเงิน สวยมากครับชุดของปีนี้
เวทีถูกเปิดมาอย่างสนุกสนานด้วยเพลง "Sirius" แล้วก็ยังต่อเนื่องด้วย "AURORA"
และเธอก็ยังไม่ให้อารมณ์ขาดตอนด้วย "Cobalt Sky" พร้อมกับที่เหล่าแฟนคลับหยิบผ้ามาหมุนกันตามธรรมเนียมของเพลงนี้ เพิ่มความร้อนแรงในฮอลล์ยิ่งขึ้น
แล้ว Eir เธอก็ความดาร์คเข้าไปเล็กน้อยจากเพลง "Avalon Blue" แต่จากนั้นอารมณ์ในฮอลล์ก็เปลี่ยนไปด้วยเพลง Ballad อันทรงพลัง "GENESIS" ที่เนื้อเพลงนั้นเริ่มด้วยความกดดัน แต่ก็ต้องก้าวต่อไปให้ถึงจุดหมาย
และต่อเนื่องด้วยเพลงใหม่ "Akatsuki" ที่มีความหมายคล้ายๆกันคือเริ่มต้นด้วยความเจ็บปวด โศกเศร้า แต่ก็ต้องก้าวข้ามผ่านและมีชีวิตอยู่ต่อไป
แล้วบรรยากาศกลับมาอยู่ในอารมณ์มืดมัวต่ออีกเพลงจาก "Kuroi uta" ก่อนที่จะค่อยๆลดความกดดันลงจากเพลง "KASUMI" และ "Lament"
จนมาถึงเพลงเดบิวต์ของเธอ "MEMORIA" ที่มีเนื้อหาว่า “สิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นว่าได้ใช้เวลากับคุณ มีอยู่ที่นี่จริงๆ น้ำตาที่เอ่อล้นออกมานี้คือคำขอบคุณถึงพวกคุณ” เหมือนเป็นการส่งความรู้สึกของตัวเธอผ่านไปยังผู้ชมทางเพลงนี้
จากนั้นบรรยากาศในฮอลล์ก็กลับมาสนุกสนานอีกครั้งจาก "HaNaZaKaRi" และ "Accentier" ที่มีการโต้ตอบกันระหว่าง Eir กับ ผู้ชม
ถัดไปเป็นเพลงใหม่อีกเพลง "Rainy Day" โดยเพลงนี้เป็นเพลงที่คุณ Arai มือกีตาร์ของ Eir Band ได้แต่งขึ้นเพื่อให้กำลังใจแก่ Aoi Eir
และได้มีท่าใหม่ที่ใช้ประกอบในการร้องเพลงนี้ด้วยการย่ำเท้าไปปรบมือ พร้อมกับให้ทางแฟนคลับปรบมือตามไปด้วย
หลังจากนั้น ก็มีจังหวะให้ Eir เธอไปเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวเล็กน้อย พร้อมกับมาด้วย Rock mode จากเพลง "Shoegazer" ประทุความร้อนแรงของบรรยากาศในฮอลล์ออกมา
แล้วจากนั้นเธอก็ปล่อยเพลงที่ทรงพลังออกมาต่อเนื่องตั้งแต่ "Cynthia no hikari" ,"Lapis Lazuli" และ "IGNITE"
จนมาถึง "Bright Future" ที่เป็นเพลงที่มีจังหวะเล่นโต้ตอบกันกับผู้ชม ถึงเพลงนี้อาจจะไม่ได้ร้อนแรงเท่าเพลงก่อนหน้าๆ แต่ด้วยความหมายของเพลงที่พูดถึงอนาคตที่สดใสตามชื่อเพลง ทำให้ดีกรีความร้อนแรงในฮอลล์ยังคงไม่ลดลง
แล้วก็ยังคงบรรยากาศแบบนี้ต่อไปด้วย "Sanbika " และ " Tsubasa"
จนมาถึงเพลงสุดท้าย "INNOCENCE" โดยตอนที่เริ่มเพลงนี้ก็ได้มีการยิงเทปสีเงินออกมา
หลังจากจบเพลงนี้เธอก็ได้พูดขอบคุณ แล้วได้ลาลงจากเวทีไป
ขอพักมาพูดคุยกันเล็กน้อย ก่อนจะถึงช่วงอังกอร์ที่เป็นจุดพีคที่สุดของคอนเสิร์ตครั้งนี้นะครับ
คิดว่าเพื่อนๆหลายคนน่าจะทราบข่าวเกี่ยวกับ Aoi Eir ที่เธอมีปัญหาเรื่องสุขภาพตอนประมาณเดือนสิงหาคม จนต้องยกเลิกงานแสดงทั้งในและต่างประเทศหลายๆงาน รวมทั้งงาน AFATH2016 ที่ผ่านมาอีกด้วย
แล้วสุดท้ายก็มีประกาศมาว่าจะจัดคอนเสิร์ตนี้ตามกำหนดเดิม แต่ทางตัวของ Aoi Eir จะขอพักงานอย่างไม่มีกำหนดหลังจากจบงานครั้งนี้
พอได้ยินอย่างงั้นทางเพื่อนๆแฟนคลับก็เป็นห่วงสุขภาพของเธอกัน เพราะคิดว่าเธอยังไม่น่าจะหายสนิทดี แต่ก็ได้แค่เฝ้ารอไปเจอเธอจริงๆตอนวันแสดงคอนเสิร์ตเท่านั้น
พอถึงวันจริงตอนที่เห็น Eir เธอยิ้มขึ้นเวทีมา ก็เบาใจกันไปได้เปราะนึง แต่ก็อย่างที่คิดกันไว้ครับ เธอยังไม่หายสนิทดีจริงๆ พลังเสียงที่เธอปล่อยออกมาลดลงไปเยอะที่เดียว แต่ด้วยบรรยากาศในฮอลล์ ตัวคอนเสิร์ตยังคงสนุกตามที่เล่าไว้ด้านบน (แค่เรื่องเสียง อันนี้อาจจะไม่ได้ฟินเต็ม100%เท่าไหร่)
ในตอนแรกที่ฟังคอนเสิร์ตวันแรก ส่วนตัวตอนที่ได้ยินเสียงร้องของเธอจะค่อนข้างจะกังวลนิดหน่อยครับ เพราะเสียงท่อนที่เป็นเสียงสวยๆ เธอเปล่งไม่ค่อยจะออก ทำให้รู้สึกว่าเธออาจจะป่วยหนักพอสมควร
แต่พอมาฟังวันที่สองความกังวลนั้นหายไปเยอะเลย เพราะวันนี้เสียงเธอดีขึ้นกว่าเมื่อวาน น่าจะเพราะวันแรกเธอไม่ได้ขึ้นเวทีมาพักใหญ่ รวมทั้งเธอน่าจะกังวลอะไรหลายๆเรื่อง(เธอเป็นคนที่แคร์ความรู้สึกคนอื่นพอสมควรครับ ทำให้ฝืนตัวเองอยู่บ่อย)
คอนเสิร์ตวันแรกเลยออกอาการเกร็งๆพอสมควร พอมาวันที่สองก็เริ่มผ่อนคลายลงแล้วจึงปล่อยพลังออกมาได้เต็มที่มากขึ้น
สำหรับเพื่อนๆบางคนที่อ่านรีวิวด้านบน (รวมถึงส่วนอังกอร์ด้านล่าง) แล้วรู้สึกว่าทำไมเขียนจนเรียกได้ว่า " ติ่งจนเวิ่นเว้อ "
ขออธิบายนิดนึง คือเพลงของ Aoi Eirหลายๆเพลง จะเป็นเพลงที่ให้กำลังใจ หรือเป็นเพลงแบบที่พบความยากลำบาก แต่ต้องก้าวข้ามเดินต่อไป (เหตุผลนึงที่กลายเป็นแฟนคลับเธอ ก็คือเรื่องนี้ล่ะครับ ฟังเพลงเธอแล้วรู้สึกได้กำลังใจ)
แล้วเหตุการณ์ช่วงคอนเสิร์ตครั้งนี้ มันสะท้อนตัวเธอออกมาค่อนข้างตรงตามเนื้อหาของเพลง ที่เธอเจอปัญหาใหญ่ในการเป็นนักร้องคือ อาการป่วยที่กระทบกับเสียงของเธอ
คนที่ฟังคอนเสิร์ตนี้ เลยอินจนน้ำตาซึมออกมาหลายครั้งเหมือนกัน และก็อวยพรให้ Eir เธอก้าวข้ามผ่านปัญหานี้ ได้เหมือนเพลงของเธอเช่นกัน
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น