สวัสดีครับ วันนี้เราจะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับ นักร้องสาวสุดติสท์ ที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานซักแค่ไหน เธอก็ยังคงเป็นศิลปินที่แฟนเพลงหลายคนต่างหลงรักมาก เธอชื่อ อีฟ ปานเจริญ หรือที่หลายคนเรียกเธอว่า ปาล์มมี่ เกิด 7 สิงหาคม 2524 ที่กรุงเทพมหานคร เป็นนักร้องลูกครึ่งโดยพ่อของเธอเป็นชาวเบลเยียม และแม่ของเธอเป็นชาวไทยเชื้อสายมอญ
ชีวิตในวัยเด็กของเธอ เธอใช้ชีวิตกับคุณยาย ซึ่งคุณยายนี่แหละที่ตั้งชื่อเล่นให้ให้เธอว่า "ปาล์มมี่" ตามชื่อยี่ห้อสบู่ขณะนั้น ปาล์มมี่ เล่าให้ฟังว่าโดยส่วนตัวเธอคิดว่าได้ความเป็นคนมีกฎระเบียบมาจากคุณยาย และได้ความกล้าแสดงออกมาจากคุณแม่
ด้านการศึกษาเธอจบการศึกษาที่โรงเรียนพระแม่มารีสาทร และไปเรียนต่อที่ Holy Cross High School เมือง ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ในขณะที่อยู่ออสเตรเลีย เธอได้สัมผัสกับวัฒนธรรม ดนตรี ศิลปะ ใหม่ๆและนั้นคือจุดเริ่มต้นความเป็นตัวตนของเธอ เพราะเธอชอบเรียนศิลปะ และบ่อยมากที่จะใช้เวลาไปพิพิธภัณฑ์ และแกลลอรี่เพื่อชมศิลปะ มากไปกว่านั้นเธอชอบร้องคาราโอเกะกับเพื่อน ทำให้รู้จักดนตรีแนวใหม่ และเริ่มสนใจในการร้องเพลง จากนั้นเจ้าตัวก็เริ่มฝึกร้องเพลงอย่างจริงจัง
เมื่อเรียนจบ เธอเลยตัดสินใจกลับมาส่งเดโมเทปที่แกรมมี่ ด้วยเพลงที่ร้องและแต่งเอง ความมุ่งมั่นของเธอที่ส่งผลให้เธอ ได้เข้าสู่วงการบันเทิงโดยเซ็นสัญญากับทางสังกัดจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่อย่างเป็นทางการในปี 2543 และได้ออกอัลบั้มแรกในชื่อว่าอัลบั้ม 'Palmy' ซึ่งอัลบั้มดังกล่าวออกวางจำหน่ายในวันที่ 21 ธันวาคม 2544
อัลแรกในชีวิตเธอ เรียกว่าประสบความสำเร็จขายได้ 1 ล้านตลับ โดยมีเพลงฮิต อาทิ อยากร้องดังดัง , อยู่ต่อได้หรือเปล่า , แปดโมงเช้าวันอังคาร , ฟ้าส่งฉันมา , ฝันดีแค่ไม่กี่คืน เรียกว่าฮิตทั้งอัลบั้มเลยก็ว่าได้ ด้วยน้ำเสียงและเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้แฟนๆ หลงรักในความเป็นตัวของตัวเองของเธอนั้นเอง และต่อมาในวันที่ 29 กรกฎาคม 2546 อัลบั้มที่ 2 ใช้ชื่อว่า Stay ของเธอก็ออกวางจำหน่ายตามมาซึ่งก็ มีเพลงฮิต เช่นกัน เช่น ทำเป็นไม่ทัก , พูดไม่เต็มปาก , ช่วยมารับฉันที , พรุ่งนี้อาจไม่มีฉัน ซึ่งอัลบั้มที่ 2 นี้ก็ถือเป็นอีกหนึ่งอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จไม่แพ้กัน
ต่อมาในวันที่ 6 มิถุนายน 2549 เธอก็ออกอัลบั้มที่ 3 ชื่อว่า Beautiful Ride กับค่ายใหม่ Duckbar เธอก็มีเพลงฮิตอีกเช่นเดิม ทั้ง Tick Tock , ความเจ็บปวด , ร้องไห้ง่ายง่ายกับเรื่องเดิมเดิม , กุญแจที่หายไป เรียกว่ากระแสตอนนี้เธอได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงซึ่งไม่ใช่แค่ในประเทศไทย แต่เธอยังมีชื่อเสียงในญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ อังกฤษ และออสเตรเลีย อีกด้วย ซึ่งในปี 2546 นี่เอง เธอก็เป็นศิลปินไทยหญิงคนเดียวที่แสดงในงาน MTV's Asia Awards 2003 ที่สิงคโปร์ และยังมีโอกาสจัดคอนเสิร์ตใหญ่ในญี่ปุ่นอีก 2 ครั้ง ได้แก่ Palmy's live in Japan ครั้งแรกของ ปาล์มมี่ ที่ Shibuya O-East กรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2547 และ ครั้งที่สองกับ Palmy Live in Tokyo Vol. 2 เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2549 และนอกจากนี้ เธอยังได้รับเลือกให้เป็นศิลปินไทยเพียงคนเดียวในการแสดง "Asia Song Festival" ที่ Olympics Park กรุงโซล ประเทศเกาหลี อีกด้วย
แต่ทว่าในช่วงที่เธอดังเป็นพลุแตก เธอหายจากวงการไปถึง 5 ปี และตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับทางค่ายเพื่อหาคำตอบให้กับตัวเองว่าเธอรักที่จะร้องเพลงอยู่หรือไม่ เพราะที่ผ่านมาเธอทำงานซ้ำ ๆ ในจุดนี้มานานเกินไปจนหมดไฟ ช่วงที่เธอหายไปเธอใช้ชีวิตอยู่กับบ้านธรรมชาติและงานศิลปะที่เธอรัก แต่แล้วในที่สุดเธอก็ได้กลับมาทวงบัลลังก์ในความเป็นศิลปินอีกครั้ง ในปี 2554 กับอัลบั้มใหม่ที่ชื่อว่า ไฟว์ ที่มีเพลงฮิตทั้งอัลบั้มเช่นเดียวกัน อาทิ กา กา กา , คิดมาก , Cry Cry Cry , นาฬิกาเรือนเก่า และได้มีเพลง"อยากหยุดเวลา" ซึ่งเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ พี่มาก...พระโขนง และเพลง "กาลครั้งหนึ่ง" ประกบคู่กับ แสตมป์ อภิวัชร์
และในปี 2560 เธอปล่อยซิงเกิลแรกกับค่ายใหม่จีนีเรคคอร์ด แม้ค่ายนี้จะขึ้นชื่อว่าเป็นค่ายเพลงของชาวร็อก แต่ไม่เคยมีใครมาบังคับให้ปาล์มมี่ต้องทำเพลงร็อก เพราะเธอยังคงความเป็นตัวเองและได้เปิดตัวเพลงดังติดหูหลายเพลงทั้ง เพลงนวด ,แม่เกี่ยว ,ซ่อนกลิ่น ,ขวัญเอย ขวัญมา, ริบบิ้นเลิฟคัลเลอร์แบล็ค และอื่นๆอีกมากมาย
และในวันที่ 7-8 กันยายน 2567 เธอก็ได้เตรียมขนเพลงฮิตของเธอเพื่อมาเปิดคอนเสิร์ตใหญ่ในชื่อ PALMY มิตร Universe Concert ซึ่งบัตรคอนเสิร์ตดังกล่าวขายหมดภายใน 5 นาที ซึ่งก็เป็นการการันตีความฮอตของนักร้องสาวคนนี้ได้เป็นอย่างดี และนอกจากนี้ปาล์มมี่ยังเผยผังคอนเสิร์ตที่นำมาเลี่ยมกรอบทองที่เรียกว่าสมเด็จอิมแพ็ค จนทำแฟนๆ แห่คอมเมนต์อยากขอบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคลในการกดบัตรคอนเสิร์ต! อีกด้วย
และสำหรับชายสายมูเชื่อหรือไม่ว่า เธอคือคนหนึ่งที่หลงเสน่ห์และโดดเข้ามาอยู่ในวงการพระเครื่อง ถึงขนาดเคยส่งพระเครื่องเข้าประกวดจนได้รับรางวัลมาแล้ว
เกล็ดข้อมูลอื่นๆของเธอคือ นอกจากผลงานเพลงแล้วเธอยังเคยมีผลงานแสดงภาพยนตร์เรื่องสายลับจับบ้านเล็ก และสำหรับนิยามเรื่องการแต่งงานนั้น เธอเคยให้สัมภาษณ์ว่า เธอไม่มีภาพนั้นอยู่ในหัวเลย ไม่ได้มองว่าการแต่งงานจะทำให้เรารักกันตลอดไป มองว่าการใช้ชีวิตโดยเรียนรู้กันไปแต่ละวันมันสำคัญกว่า เลยไม่ได้มองว่าการแต่งงานคือคำตอบ
เป็นอย่างไรบ้างครับ กับประวัติเธอคนนี้ ปาล์มมี่ ตลอด 20 ปี บนเส้นทางสายศิลปิน กับรางวัลการันตีด้านความสามารถมากมาย เธอยังเป็นคนที่ใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอนไม่ว่าเป็นเสื้อผ้า หน้าผม และให้ความสำคัญกับการโชว์ในแต่ละครั้ง และเธอยังคงสไตล์การไม่ชอบใส่รองเท้าขณะแสดงโชว์จนโดนไฟดูดบ่อยๆบนเวที ความมีเสน่ห์ของเธอส่งผลให้ทุกเวทีการแสดงของเธอ ต่างจะมีแฟนคลับนำขอสารพัดประเภทมามอบให้เธอ และถ้าใครอยากจะติดตามชีวิตของนักร้องสาวที่มีคาแร็คเตอร์ชัดเจนแบบเธอ ก็สามารถไปติดตามได้ที่ IG : palmy.ig
สุดท้ายนี้หากท่านต้องการรับชมเนื้อหาทั้งภาพและเสียง สามารถเข้าไปรับชมไปที่ช่อง youtube : @letsgettoknowher เพื่อเป็นกำลังใจให้เราได้นำเสนอสิ่งดีๆแบบนี้ต่อไป......ขอบคุณครับ
วันนี้มาแนะนำประวัตินักร้องสาวสุดติสท์ ปาล์มมี่ by ยูทูบ @letsgettoknowher (ep 19)
ชีวิตในวัยเด็กของเธอ เธอใช้ชีวิตกับคุณยาย ซึ่งคุณยายนี่แหละที่ตั้งชื่อเล่นให้ให้เธอว่า "ปาล์มมี่" ตามชื่อยี่ห้อสบู่ขณะนั้น ปาล์มมี่ เล่าให้ฟังว่าโดยส่วนตัวเธอคิดว่าได้ความเป็นคนมีกฎระเบียบมาจากคุณยาย และได้ความกล้าแสดงออกมาจากคุณแม่
ด้านการศึกษาเธอจบการศึกษาที่โรงเรียนพระแม่มารีสาทร และไปเรียนต่อที่ Holy Cross High School เมือง ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ในขณะที่อยู่ออสเตรเลีย เธอได้สัมผัสกับวัฒนธรรม ดนตรี ศิลปะ ใหม่ๆและนั้นคือจุดเริ่มต้นความเป็นตัวตนของเธอ เพราะเธอชอบเรียนศิลปะ และบ่อยมากที่จะใช้เวลาไปพิพิธภัณฑ์ และแกลลอรี่เพื่อชมศิลปะ มากไปกว่านั้นเธอชอบร้องคาราโอเกะกับเพื่อน ทำให้รู้จักดนตรีแนวใหม่ และเริ่มสนใจในการร้องเพลง จากนั้นเจ้าตัวก็เริ่มฝึกร้องเพลงอย่างจริงจัง
เมื่อเรียนจบ เธอเลยตัดสินใจกลับมาส่งเดโมเทปที่แกรมมี่ ด้วยเพลงที่ร้องและแต่งเอง ความมุ่งมั่นของเธอที่ส่งผลให้เธอ ได้เข้าสู่วงการบันเทิงโดยเซ็นสัญญากับทางสังกัดจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่อย่างเป็นทางการในปี 2543 และได้ออกอัลบั้มแรกในชื่อว่าอัลบั้ม 'Palmy' ซึ่งอัลบั้มดังกล่าวออกวางจำหน่ายในวันที่ 21 ธันวาคม 2544
อัลแรกในชีวิตเธอ เรียกว่าประสบความสำเร็จขายได้ 1 ล้านตลับ โดยมีเพลงฮิต อาทิ อยากร้องดังดัง , อยู่ต่อได้หรือเปล่า , แปดโมงเช้าวันอังคาร , ฟ้าส่งฉันมา , ฝันดีแค่ไม่กี่คืน เรียกว่าฮิตทั้งอัลบั้มเลยก็ว่าได้ ด้วยน้ำเสียงและเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้แฟนๆ หลงรักในความเป็นตัวของตัวเองของเธอนั้นเอง และต่อมาในวันที่ 29 กรกฎาคม 2546 อัลบั้มที่ 2 ใช้ชื่อว่า Stay ของเธอก็ออกวางจำหน่ายตามมาซึ่งก็ มีเพลงฮิต เช่นกัน เช่น ทำเป็นไม่ทัก , พูดไม่เต็มปาก , ช่วยมารับฉันที , พรุ่งนี้อาจไม่มีฉัน ซึ่งอัลบั้มที่ 2 นี้ก็ถือเป็นอีกหนึ่งอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จไม่แพ้กัน
ต่อมาในวันที่ 6 มิถุนายน 2549 เธอก็ออกอัลบั้มที่ 3 ชื่อว่า Beautiful Ride กับค่ายใหม่ Duckbar เธอก็มีเพลงฮิตอีกเช่นเดิม ทั้ง Tick Tock , ความเจ็บปวด , ร้องไห้ง่ายง่ายกับเรื่องเดิมเดิม , กุญแจที่หายไป เรียกว่ากระแสตอนนี้เธอได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงซึ่งไม่ใช่แค่ในประเทศไทย แต่เธอยังมีชื่อเสียงในญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ อังกฤษ และออสเตรเลีย อีกด้วย ซึ่งในปี 2546 นี่เอง เธอก็เป็นศิลปินไทยหญิงคนเดียวที่แสดงในงาน MTV's Asia Awards 2003 ที่สิงคโปร์ และยังมีโอกาสจัดคอนเสิร์ตใหญ่ในญี่ปุ่นอีก 2 ครั้ง ได้แก่ Palmy's live in Japan ครั้งแรกของ ปาล์มมี่ ที่ Shibuya O-East กรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2547 และ ครั้งที่สองกับ Palmy Live in Tokyo Vol. 2 เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2549 และนอกจากนี้ เธอยังได้รับเลือกให้เป็นศิลปินไทยเพียงคนเดียวในการแสดง "Asia Song Festival" ที่ Olympics Park กรุงโซล ประเทศเกาหลี อีกด้วย
และในปี 2560 เธอปล่อยซิงเกิลแรกกับค่ายใหม่จีนีเรคคอร์ด แม้ค่ายนี้จะขึ้นชื่อว่าเป็นค่ายเพลงของชาวร็อก แต่ไม่เคยมีใครมาบังคับให้ปาล์มมี่ต้องทำเพลงร็อก เพราะเธอยังคงความเป็นตัวเองและได้เปิดตัวเพลงดังติดหูหลายเพลงทั้ง เพลงนวด ,แม่เกี่ยว ,ซ่อนกลิ่น ,ขวัญเอย ขวัญมา, ริบบิ้นเลิฟคัลเลอร์แบล็ค และอื่นๆอีกมากมาย
และในวันที่ 7-8 กันยายน 2567 เธอก็ได้เตรียมขนเพลงฮิตของเธอเพื่อมาเปิดคอนเสิร์ตใหญ่ในชื่อ PALMY มิตร Universe Concert ซึ่งบัตรคอนเสิร์ตดังกล่าวขายหมดภายใน 5 นาที ซึ่งก็เป็นการการันตีความฮอตของนักร้องสาวคนนี้ได้เป็นอย่างดี และนอกจากนี้ปาล์มมี่ยังเผยผังคอนเสิร์ตที่นำมาเลี่ยมกรอบทองที่เรียกว่าสมเด็จอิมแพ็ค จนทำแฟนๆ แห่คอมเมนต์อยากขอบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคลในการกดบัตรคอนเสิร์ต! อีกด้วย
และสำหรับชายสายมูเชื่อหรือไม่ว่า เธอคือคนหนึ่งที่หลงเสน่ห์และโดดเข้ามาอยู่ในวงการพระเครื่อง ถึงขนาดเคยส่งพระเครื่องเข้าประกวดจนได้รับรางวัลมาแล้ว
เกล็ดข้อมูลอื่นๆของเธอคือ นอกจากผลงานเพลงแล้วเธอยังเคยมีผลงานแสดงภาพยนตร์เรื่องสายลับจับบ้านเล็ก และสำหรับนิยามเรื่องการแต่งงานนั้น เธอเคยให้สัมภาษณ์ว่า เธอไม่มีภาพนั้นอยู่ในหัวเลย ไม่ได้มองว่าการแต่งงานจะทำให้เรารักกันตลอดไป มองว่าการใช้ชีวิตโดยเรียนรู้กันไปแต่ละวันมันสำคัญกว่า เลยไม่ได้มองว่าการแต่งงานคือคำตอบ
เป็นอย่างไรบ้างครับ กับประวัติเธอคนนี้ ปาล์มมี่ ตลอด 20 ปี บนเส้นทางสายศิลปิน กับรางวัลการันตีด้านความสามารถมากมาย เธอยังเป็นคนที่ใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอนไม่ว่าเป็นเสื้อผ้า หน้าผม และให้ความสำคัญกับการโชว์ในแต่ละครั้ง และเธอยังคงสไตล์การไม่ชอบใส่รองเท้าขณะแสดงโชว์จนโดนไฟดูดบ่อยๆบนเวที ความมีเสน่ห์ของเธอส่งผลให้ทุกเวทีการแสดงของเธอ ต่างจะมีแฟนคลับนำขอสารพัดประเภทมามอบให้เธอ และถ้าใครอยากจะติดตามชีวิตของนักร้องสาวที่มีคาแร็คเตอร์ชัดเจนแบบเธอ ก็สามารถไปติดตามได้ที่ IG : palmy.ig
สุดท้ายนี้หากท่านต้องการรับชมเนื้อหาทั้งภาพและเสียง สามารถเข้าไปรับชมไปที่ช่อง youtube : @letsgettoknowher เพื่อเป็นกำลังใจให้เราได้นำเสนอสิ่งดีๆแบบนี้ต่อไป......ขอบคุณครับ