อีกครั้งกับ [ Aoi Eir Review ] กับ แผ่นคอนเสิร์ต " Eir Aoi Special Live 2015 WORLD OF BLUE at NIPPON BUDOKAN"
แผ่นนี้เป็นคอนเสิร์ตใหญ่ประจำปีของ Aoi Eir ที่จัดขึ้นเมื่อเดือน11ของปีที่แล้ว บอกได้เลยว่าคุ้มค่ากับการหามาดูครับ
แผ่นนี้จะเป็นแผ่นคอนเสิร์ตลำดับที่สองของเธอ แผ่นทางขวาจะเป็นแผ่นคอนเสิร์ตแผ่นแรกที่จัดขึ้นตอนเดือน11 ของปี2014
พอดูแล้วทางค่ายนี่ยกระดับการอัดเสียงและมุมกล้องจากปีที่แล้วขึ้นมาเยอะมาก
แผ่นนี้จะมี2แบบคือ BD กับ DVD ที่เอามารีวิววันนี้คือแบบ BD ครับ
ในส่วนของแผ่นจะมี ตัวของแผ่น ,กล่องนอก ,photobook และ โปสเตอร์/ปฎิทิน
ถ้าเป็น DVD จะมี2แผ่น แผ่นแรกเป็นส่วนของคอนเสิร์ต ส่วนแผ่นที่2จะเป็น Document Movie ที่Eirเธอไปทัวร์คอนเสิร์ตต่างประเทศในปีที่แล้วมา
ส่วนของ BD จะรวมไว้ในแผ่นเดียวกันเลย
Photobook
ปฎิทิน
ต่อไปจะมาพูดถึงส่วนของคอนเสิร์ตในแผ่นกันบ้างครับ
Setlist
1.Avalon Blue
2.Cynthia no Hikari
3.AURORA
4.GENESIS
5.KASUMI
6.Back To Zero
7.Kuroi Uta
8.A New Day
9.Roses
10.Niji no Oto
11.Cobalt Sky
12.Sanbika
13.Yurari
14.Ao no Sekai
15.Shoegazer
16.INNOCENCE
17.Bright Future
18.Sirius
19.IGNITE
20.Lapis Lazuli
EN1.MEMORIA- orchestra ver.
EN2.HaNaZaKaRi
EN3.Tsunagaru Omoi
เปิดตัวมาด้วยสีฟ้าตามธีมของชื่อคอนเสิร์ต แล้วก็ปลุกคนดูให้ตื่นด้วยเพลงมันส์ๆอย่าง Avalon Blue กันเลย
แล้วกลัวคนฟังจะยังไม่ตื่นดี เธอเลยจัดเพลงมันส์ๆ สนุกๆ ยิงยาวด้วย Cynthia no Hikari และ AURORA
จากนั้นปรับอารมณ์ด้วยเพลงบัลลาดอย่าง GENESIS ที่มาพร้อมกับแสงสี และมีนักไวโอลินมาเสริมให้เพลงยิ่งมีพลังขึ้น
พอฟังเพลงนี้แล้วนึกถึงตอนฟังสดที่ AFATH กับ สิงคโปร์ แล้วยิ่งมีไวโอลินมาสีสดๆเพิ่มอีก ทำให้รู้สึกเพลงนี้ทรงพลังมาก
จากนั้นก็ค่อยปรับอารมณ์ให้เบาลงเรื่อยๆ ก่อนจะปิดช่วงแรกด้วย Kuroi Uta
เอ่อออออ โคดหลอนเลยครับ เพลงนี้มันออกหลอนอยู่หน่อยๆ พออัดลงแผ่นเล่นทำภาพเป็นโทนขาว-ดำ เพิ่มความหลอนเข้าไปอีก 555
ปกติถ้าฟังmp3 เพลงนี้เป็นเพลงนึงบางทีจะกดข้าม แต่เพลงนี้เป็นเพลงนึงที่พอฟังแบบ live แล้วอยู่รู้สึกมีพลังและน่าฟังขึ้นมาก (ได้ไปฟังสดๆที่สิงคโปร์มา เพลงนี้เป็นเพลงนึงที่น่าฟังไปเลย)
มีช่วงพักเล็กน้อย และกลับมาในแนวอะคูสติก โดยมีแขกรับเชิญคือคุณ Yasuda Takahiro ทำหน้าที่เล่นดีดกีตาร์และร้องประสานกับ Eir
ช่วงแรกจะเป็นเพลงที่ฟังสบายๆ ผ่อนคลาย
ที่เด็ดสุดของช่วงนี้คือ มีวงเครื่องสีดนตรีคลาสลิกเข้ามาสมทบอีก ทำให้รู้สึกถึงความอลังการและช่วยดึงพลังเสียงของ Eir ออกมาได้อีก
โดยเฉพาะเพลง Niji no Oto นี่สุดยอดอลังการทั้งเสียงและเอฟเฟคที่ทำออกมาเลย
ก่อนถึงช่วงที่สามจะเป็นการประมวลผ่านที่ Eir ไปจัดคอนเสิร์ตที่ต่างๆของโลกในปี2015 มา แล้วภาพทั้งหมดก็ม้วนรวมเป็นลูกโลก พร้อมมีเสียงเปียโนซึ้งๆคลออยู่ตลอดเวลา
แล้วจึงเริ่มด้วยเพลงซึ้งๆอย่าง Ao no Sekai ที่ร้องสดครั้งนี้เป็นครั้งแรก
จากนั้นก็ค่อยๆเร่งความมันส์ ขึ้นไปเรื่อยๆอีกครั้ง ตามSetlist ด้านบน
จนมาถึง 2 เพลงสุดท้าย ซึ่งแน่นอนว่าที่บรรยายมา หลายคนคงนึกผ่านไม่ออกว่าฟังเพลงในคอนเสิร์ตมันจะต่างกับฟังmp3ยังไง
ทางต้นสังกัตได้มีการอัพโหลดไว้ เราจึงมีคลิปของคอนเสิร์ตนี้มาฝากให้รับชมกันด้วย เชิญรับชมด้านล่างได้เลย
Ignite
และเพลงปิดเวทีคือ Lapis Lazuri
จากนั้น Eirและวงดนตรีก็ได้ลงจากเวทีไป
ซึ่งแน่นอน เหล่าแฟนก็ยังไม่หมดความเร่าร้อนเพียงเท่านี้ ทุกคนร่วมกันส่งเสียงอังกอร์ Ei Ei Ru ให้เธอกลับขึ้นมาอีกครั้ง
และเมื่อ Eir เธอกลับขึ้นมา ก็กลับมาแบบอลังการกับ MEMORIA- orchestra ver.
พอเพลงนี้จบลงทางวงดนตรี Eir band ก็กลับขึ้นเวทีมาใหม่อีกครั้ง
ซึ่งสมาชิกวงแต่ละคนก็ได้พก Goods ของ Eir ขึ้นมาบนเวทีกันด้วย (ของอันไหนขายเหลือ ก็จะหมดก็เพราะตอนนี้แหละ 555)
ช่วงนี้สัมภาษณ์ Eir band แต่ละคนว่ารู้สึกยังไงกันบ้าง มาเล่นที่บุโดกังกี่ครั้งแล้ว
โดยจะเริ่มที่ มือกลองทาคุยะซัง ที่Eirเรียกว่าเป็นพี่ใหญ่ของกลุ่ม พอถามไปกลับตกใจว่า นี่เป็นการเล่นที่บุโดกังครั้งแรกของเขา ที่เห็นเค้านั่งนิ่งๆเนี่ย จริงๆแอบสั่นอยู่
พอได้ถามกันแล้ว เกือบทั้งหมดต่างก็พึ่งเคยมาเล่นที่บุโดกังครั้งแรกกันทั้งนั้น
และทางมือคีย์บอร์ดชิเงนากะซังได้บอกว่า Eirซัง เคยพูดไว้ตอนที่เธอได้ขึ้นร้อง one man ครั้งแรกว่า "อีก 3 ปีจะจัด one man live ที่บุโดกังให้ได้” และตอนนี้ Eir ก็ได้ทำให้มันเป็นจริงได้จริงๆ พอฟังแล้วน้ำตาของEir เธอก็ค่อยๆซึมออกมา
ส่วนEir เธอก็ได้บอกว่า "มาถึงที่นี่วันนี้ได้ดีใจมากจริงๆ”
ช่วงนี้ซึ้งมาก และรู้สึกอบอุ่นไปกับ Eir และวง Eir Band จริงๆ
จากนั้นก็แนะนำแขกรับเชิญพิเศษคือคุณYasuda Takahiro และวงเครื่องสี
ส่วนของคุณ Yasuda ยังไม่ทันได้ถามอะไร พี่แกพูดมาก่อนเลยว่า "ครั้งแรกครับ" เล่นเอา Eir ฮาแตกตามภาพเลยที่เดียว
จากนั้นจึงร้องเพลง2เพลงสุดท้ายจริง คือ HaNaZaKaRi และ Tsunagaru Omoi
ซึ่งตอนที่จะร้อง Tsunagaru Omoi นั้นก็เกิดเหตุการณ์ซึ้งๆขึ้นมา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้Eir เธอร้องไห้ออกมาครับ ถึงขั้นเสียงหายไปเลยที่เดียว อย่างที่เคยพูดในกระทู้คอนเสิร์ตที่สิงคโปร์ครับ Eir เธอเป็นคนอ่อนไหว พอถึงจุดที่คอนเสิร์ตจะจบน้ำตานี่มีซึมออกมาแน่นอน แล้วครั้งนี้มันซึ้งมาตั้งแต่ช่วงสัมภาษณ์ก่อนหน้านี้แล้ว ตอนสิง
คโปร์ที่ไปดูมาแค่น้ำตาซึมๆ แต่ครั้งนี้น้ำตาไหล เสียงหายเลยทีเดียว
จากนั้น เธอก็ไปทักทายและบอกลาแฟนๆ ที่กลางเวที และคอนเสิร์ตนี้ก็ได้จบลงอย่างสวยงาม
จบไปแล้วกับการรีวิวแผ่นคอนเสิร์ต WORLD OF BLUE ซึ่งผมก็ไม่รู้จะบรรยายความรู้สึกให้ละเอียดยังไงกับรีวิวนี้บ้างดี
แนะนำให้ไปหามาดูจริงๆ แผ่นนี้อัดเสียงมาดีจริง ขนาดใช้แค่ลำโพงของทีวี ไม่มีติดเพิ่ม ยังฟังสนุกเลย (เทียบกับแผ่นของปี2014 ทำมาไม่ค่อยดีเท่าไหร่ครับ แผ่นนั้นเสียงมันดูแบนๆ ไม่ค่อยมีมิติ)
และตอนนี้ถ้าใครต้องการ แผ่นนี้ทางAnimate เอาเข้ามาขาย สามารถไปที่ร้านแล้วซื้อจับจองกันได้เลย
ปล. พอดูแผ่นนี้จบ ก็คิดถึงตอนที่ได้ไปฟังสดๆที่สิงคโปร์ขึ้นมา
ฟังจากแผ่นก็สนุกแล้ว แต่ฟังสดๆนี่มันส์กว่าหลายเท่าจริง เลยวางแผนว่าปลายนี้จะไปญี่ปุ่น เพื่อดูคอนเสิร์ตใหญ่ประจำปีของEir เธอเลย (เรื่องเที่ยวเป็นของแถม ดูคอนเสิร์ตนี่จุดประสงค์หลัก!!!?)
ปล.2 เดี๋ยวรอลุ้น AFATH ของปีนี้ว่า Eir จะมาไทยอีกครั้ง ฟังลดความอยากก่อนจะไปญี่ปุ่นหรือไม่ (จริงๆตอนนี้ Eir ก็มีทัวร์คอนเสิร์ตรอบกลางปีที่ญี่ปุ่นอยู่ล่ะนะ ......แต่เก็บเงินไม่ทันแหล่ว ยกยอดไปไว้ปลายปีทีเดียว)
รีวิวแผ่นคอนเสิร์ตลำดับที่ 2 "Eir Aoi Special Live 2015 WORLD OF BLUE at NIPPON BUDOKAN" ของนักร้องเสียงทรงพลัง Aoi Eir
แผ่นนี้เป็นคอนเสิร์ตใหญ่ประจำปีของ Aoi Eir ที่จัดขึ้นเมื่อเดือน11ของปีที่แล้ว บอกได้เลยว่าคุ้มค่ากับการหามาดูครับ
แผ่นนี้จะเป็นแผ่นคอนเสิร์ตลำดับที่สองของเธอ แผ่นทางขวาจะเป็นแผ่นคอนเสิร์ตแผ่นแรกที่จัดขึ้นตอนเดือน11 ของปี2014
พอดูแล้วทางค่ายนี่ยกระดับการอัดเสียงและมุมกล้องจากปีที่แล้วขึ้นมาเยอะมาก
แผ่นนี้จะมี2แบบคือ BD กับ DVD ที่เอามารีวิววันนี้คือแบบ BD ครับ
ในส่วนของแผ่นจะมี ตัวของแผ่น ,กล่องนอก ,photobook และ โปสเตอร์/ปฎิทิน
ถ้าเป็น DVD จะมี2แผ่น แผ่นแรกเป็นส่วนของคอนเสิร์ต ส่วนแผ่นที่2จะเป็น Document Movie ที่Eirเธอไปทัวร์คอนเสิร์ตต่างประเทศในปีที่แล้วมา
ส่วนของ BD จะรวมไว้ในแผ่นเดียวกันเลย
Photobook
ปฎิทิน
ต่อไปจะมาพูดถึงส่วนของคอนเสิร์ตในแผ่นกันบ้างครับ
Setlist
1.Avalon Blue
2.Cynthia no Hikari
3.AURORA
4.GENESIS
5.KASUMI
6.Back To Zero
7.Kuroi Uta
8.A New Day
9.Roses
10.Niji no Oto
11.Cobalt Sky
12.Sanbika
13.Yurari
14.Ao no Sekai
15.Shoegazer
16.INNOCENCE
17.Bright Future
18.Sirius
19.IGNITE
20.Lapis Lazuli
EN1.MEMORIA- orchestra ver.
EN2.HaNaZaKaRi
EN3.Tsunagaru Omoi
เปิดตัวมาด้วยสีฟ้าตามธีมของชื่อคอนเสิร์ต แล้วก็ปลุกคนดูให้ตื่นด้วยเพลงมันส์ๆอย่าง Avalon Blue กันเลย
แล้วกลัวคนฟังจะยังไม่ตื่นดี เธอเลยจัดเพลงมันส์ๆ สนุกๆ ยิงยาวด้วย Cynthia no Hikari และ AURORA
จากนั้นปรับอารมณ์ด้วยเพลงบัลลาดอย่าง GENESIS ที่มาพร้อมกับแสงสี และมีนักไวโอลินมาเสริมให้เพลงยิ่งมีพลังขึ้น
พอฟังเพลงนี้แล้วนึกถึงตอนฟังสดที่ AFATH กับ สิงคโปร์ แล้วยิ่งมีไวโอลินมาสีสดๆเพิ่มอีก ทำให้รู้สึกเพลงนี้ทรงพลังมาก
จากนั้นก็ค่อยปรับอารมณ์ให้เบาลงเรื่อยๆ ก่อนจะปิดช่วงแรกด้วย Kuroi Uta
เอ่อออออ โคดหลอนเลยครับ เพลงนี้มันออกหลอนอยู่หน่อยๆ พออัดลงแผ่นเล่นทำภาพเป็นโทนขาว-ดำ เพิ่มความหลอนเข้าไปอีก 555
ปกติถ้าฟังmp3 เพลงนี้เป็นเพลงนึงบางทีจะกดข้าม แต่เพลงนี้เป็นเพลงนึงที่พอฟังแบบ live แล้วอยู่รู้สึกมีพลังและน่าฟังขึ้นมาก (ได้ไปฟังสดๆที่สิงคโปร์มา เพลงนี้เป็นเพลงนึงที่น่าฟังไปเลย)
มีช่วงพักเล็กน้อย และกลับมาในแนวอะคูสติก โดยมีแขกรับเชิญคือคุณ Yasuda Takahiro ทำหน้าที่เล่นดีดกีตาร์และร้องประสานกับ Eir
ช่วงแรกจะเป็นเพลงที่ฟังสบายๆ ผ่อนคลาย
ที่เด็ดสุดของช่วงนี้คือ มีวงเครื่องสีดนตรีคลาสลิกเข้ามาสมทบอีก ทำให้รู้สึกถึงความอลังการและช่วยดึงพลังเสียงของ Eir ออกมาได้อีก
โดยเฉพาะเพลง Niji no Oto นี่สุดยอดอลังการทั้งเสียงและเอฟเฟคที่ทำออกมาเลย
ก่อนถึงช่วงที่สามจะเป็นการประมวลผ่านที่ Eir ไปจัดคอนเสิร์ตที่ต่างๆของโลกในปี2015 มา แล้วภาพทั้งหมดก็ม้วนรวมเป็นลูกโลก พร้อมมีเสียงเปียโนซึ้งๆคลออยู่ตลอดเวลา
แล้วจึงเริ่มด้วยเพลงซึ้งๆอย่าง Ao no Sekai ที่ร้องสดครั้งนี้เป็นครั้งแรก
จากนั้นก็ค่อยๆเร่งความมันส์ ขึ้นไปเรื่อยๆอีกครั้ง ตามSetlist ด้านบน
จนมาถึง 2 เพลงสุดท้าย ซึ่งแน่นอนว่าที่บรรยายมา หลายคนคงนึกผ่านไม่ออกว่าฟังเพลงในคอนเสิร์ตมันจะต่างกับฟังmp3ยังไง
ทางต้นสังกัตได้มีการอัพโหลดไว้ เราจึงมีคลิปของคอนเสิร์ตนี้มาฝากให้รับชมกันด้วย เชิญรับชมด้านล่างได้เลย
Ignite
และเพลงปิดเวทีคือ Lapis Lazuri
จากนั้น Eirและวงดนตรีก็ได้ลงจากเวทีไป
ซึ่งแน่นอน เหล่าแฟนก็ยังไม่หมดความเร่าร้อนเพียงเท่านี้ ทุกคนร่วมกันส่งเสียงอังกอร์ Ei Ei Ru ให้เธอกลับขึ้นมาอีกครั้ง
และเมื่อ Eir เธอกลับขึ้นมา ก็กลับมาแบบอลังการกับ MEMORIA- orchestra ver.
พอเพลงนี้จบลงทางวงดนตรี Eir band ก็กลับขึ้นเวทีมาใหม่อีกครั้ง
ซึ่งสมาชิกวงแต่ละคนก็ได้พก Goods ของ Eir ขึ้นมาบนเวทีกันด้วย (ของอันไหนขายเหลือ ก็จะหมดก็เพราะตอนนี้แหละ 555)
ช่วงนี้สัมภาษณ์ Eir band แต่ละคนว่ารู้สึกยังไงกันบ้าง มาเล่นที่บุโดกังกี่ครั้งแล้ว
โดยจะเริ่มที่ มือกลองทาคุยะซัง ที่Eirเรียกว่าเป็นพี่ใหญ่ของกลุ่ม พอถามไปกลับตกใจว่า นี่เป็นการเล่นที่บุโดกังครั้งแรกของเขา ที่เห็นเค้านั่งนิ่งๆเนี่ย จริงๆแอบสั่นอยู่
พอได้ถามกันแล้ว เกือบทั้งหมดต่างก็พึ่งเคยมาเล่นที่บุโดกังครั้งแรกกันทั้งนั้น
และทางมือคีย์บอร์ดชิเงนากะซังได้บอกว่า Eirซัง เคยพูดไว้ตอนที่เธอได้ขึ้นร้อง one man ครั้งแรกว่า "อีก 3 ปีจะจัด one man live ที่บุโดกังให้ได้” และตอนนี้ Eir ก็ได้ทำให้มันเป็นจริงได้จริงๆ พอฟังแล้วน้ำตาของEir เธอก็ค่อยๆซึมออกมา
ส่วนEir เธอก็ได้บอกว่า "มาถึงที่นี่วันนี้ได้ดีใจมากจริงๆ”
ช่วงนี้ซึ้งมาก และรู้สึกอบอุ่นไปกับ Eir และวง Eir Band จริงๆ
จากนั้นก็แนะนำแขกรับเชิญพิเศษคือคุณYasuda Takahiro และวงเครื่องสี
ส่วนของคุณ Yasuda ยังไม่ทันได้ถามอะไร พี่แกพูดมาก่อนเลยว่า "ครั้งแรกครับ" เล่นเอา Eir ฮาแตกตามภาพเลยที่เดียว
จากนั้นจึงร้องเพลง2เพลงสุดท้ายจริง คือ HaNaZaKaRi และ Tsunagaru Omoi
ซึ่งตอนที่จะร้อง Tsunagaru Omoi นั้นก็เกิดเหตุการณ์ซึ้งๆขึ้นมา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จากนั้น เธอก็ไปทักทายและบอกลาแฟนๆ ที่กลางเวที และคอนเสิร์ตนี้ก็ได้จบลงอย่างสวยงาม
จบไปแล้วกับการรีวิวแผ่นคอนเสิร์ต WORLD OF BLUE ซึ่งผมก็ไม่รู้จะบรรยายความรู้สึกให้ละเอียดยังไงกับรีวิวนี้บ้างดี
แนะนำให้ไปหามาดูจริงๆ แผ่นนี้อัดเสียงมาดีจริง ขนาดใช้แค่ลำโพงของทีวี ไม่มีติดเพิ่ม ยังฟังสนุกเลย (เทียบกับแผ่นของปี2014 ทำมาไม่ค่อยดีเท่าไหร่ครับ แผ่นนั้นเสียงมันดูแบนๆ ไม่ค่อยมีมิติ)
และตอนนี้ถ้าใครต้องการ แผ่นนี้ทางAnimate เอาเข้ามาขาย สามารถไปที่ร้านแล้วซื้อจับจองกันได้เลย
ปล. พอดูแผ่นนี้จบ ก็คิดถึงตอนที่ได้ไปฟังสดๆที่สิงคโปร์ขึ้นมา
ฟังจากแผ่นก็สนุกแล้ว แต่ฟังสดๆนี่มันส์กว่าหลายเท่าจริง เลยวางแผนว่าปลายนี้จะไปญี่ปุ่น เพื่อดูคอนเสิร์ตใหญ่ประจำปีของEir เธอเลย (เรื่องเที่ยวเป็นของแถม ดูคอนเสิร์ตนี่จุดประสงค์หลัก!!!?)
ปล.2 เดี๋ยวรอลุ้น AFATH ของปีนี้ว่า Eir จะมาไทยอีกครั้ง ฟังลดความอยากก่อนจะไปญี่ปุ่นหรือไม่ (จริงๆตอนนี้ Eir ก็มีทัวร์คอนเสิร์ตรอบกลางปีที่ญี่ปุ่นอยู่ล่ะนะ ......แต่เก็บเงินไม่ทันแหล่ว ยกยอดไปไว้ปลายปีทีเดียว)