Walking Dead - การเมืองและประวัติศาสตร์ที่แอบซ่อนอยู่

Let's Talk : Civilization in Show - Walking Dead s3
____________________________________________
.
"การปกครองหลังโลกล่มสลาย = การปกครองในยุคเริ่มแรก?"

.
ต้องขอเตือนก่อนว่าในนี้อาจจะเป็นการสปอยล์สำหรบคนที่ยังไม่ได้ดู Walking Dead ในซีซั่นที่ 3 โดยจะเป็นการพูดเชิงวิเคราะห์จากความคิดส่วนตัวของผม หลังจากได้มีโอกาสย้อนกลับไปดู TV series เรื่องนี้
.
จากการที่ได้กลับไปย้อนดูซีรีย์เรื่องนี้ ทำให้นึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่แฝงอยู่ในทีวีซีรีย์เรื่องนี้ นั่นก็คือรูปแบบวัฒนธรรม การปกครองที่สะท้อนผ่านผู้รอดชีวิตในกลุ่มต่างๆ
.
ซึ่งการปกครองที่ว่านั่นก็คือ เผด็จการนั่นเอง ในโลกที่ไร้ซึ่งกฎเกณฑ์ ก็ย่อมเกิดความแตกแยก ผู้คนไม่จำเป็นต้องเล่นตามข้อบังคับอีกต่อไป อยากทำอะไรก็ทำ อยากคิดอะไรก็คิด อยากพูดอะไรก็พูด แต่เมื่อพวกเขาต้องอยู่ร่วมกันในกลุ่มที่ใหญ่ขึ้น ความร่วมมือจึงจำเป็นต้องบังเกิด การเฝ้าระวัง การหาแหล่งอาหาร จนไปถึงการสร้างที่อยู่อาศัยขึ้นมาใหม่เพื่อเลี้ยงลูกหลานและลงหลักปักฐาน จริงๆแล้วสิ่งเหล่านี้ เราก็ทำมาตั้งแต่สมัยโบราณ ตั้งแต่ยุคหินแล้ว เราเริ่มจากการเป็นคนป่าไร้อารยธรรม จนเกิดการรวมกลุ่มเพื่อล่าสัตว์ป่าหาอาหาร จนกระทั่งสร้างสรรค์อารยธรรมขึ้นมาเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว
.
แต่ทำไม เพราะเหตุใด ในยุคสมัยโบราณ ถึงไม่ใช้ระบอบประชาธิปไตยละ ตั้งแต่ยุคโบราณจวบจนถึงอารยธรรมยุคกลาง เราจะสังเกตได้ว่า เรามักจะมีผู้นำเพียงคนเดียวที่มีอำนาจเผด็จการอย่างสมบูรณ์แบบ เพราะอะไรกันละ ทั้งๆที่การลงมติหรือการโหวตน่าจะเหมาะแก่ผู้คนทุกคนมากกว่า นั่นก็เพราะมันช้าและเสียเวลายังไงละ (ไม่ได้ว่าระบอบประชาธิปไตยว่าไม่ดีนะ) เนื่องจากสมัยก่อนการตัดสินใจนั้นต้องเด็ดขาด การสู้รบกับข้าศึกนั้นเสียเวลาไม่ได้ ผู้คนจึงมอบอำนาจให้แก่คิงเป็นผู้ตัดสินความเป็นไปของหมู่บ้านมากกว่าจะมาเสียเวลาโหวตกัน เพราะสมัยก่อนไม่ได้มีเทคโนโลยีอะไรขนาดปัจจุบัน กว่าจะทำอะไรกันเสร็จก็โดนข้าศึกบุกยึดเมืองพอดี
.
ในช่วงนึง กรีก ได้เป็นตัวอย่างของอารยธรรมแรกๆที่มีประชาธิปไตย แต่สุดท้ายแล้วระบอบนี้ก็ไม่ได้ช่วยให้กรีกรอดจากเงื้อมมือของมหาจักรวรรดิโรมัน
.
"Woodbury = จักรวรรดิโรมัน?"
.
"Woodbury" นั้นเป็นสัญลักษณ์ของขั้วอำนาจใหม่ใน Walking Dead ซีซั่น3 โดยเบื้องหลังความยิ่งใหญ่ของหมู่บ้านที่ดูจะแสนสุขแห่งนี้มีการปกครองแบบเผด็จการโดยผู้นำที่ชื่อว่า Governor (ผู้ว่า) ที่คอยจัดการภัยอันตรายต่างๆรอบหมู่บ้าน รวมไปถึงการรุกรานชาวบ้านที่เป็นผู้คน โดยปล้นสะดมและฆ่าทิ้ง ซึ่งเปรียบได้กับจักรวรรดิโรมัน เราได้เห็นในประวัติศาสตร์มาแล้วว่าผู้นำ/จักรพรรดิที่เผด็จการบ้าอำนาจได้นำกรุงโรมไปสู่ความยิ่งใหญ่ได้แค่ไหน ตราบใดก็ตามที่ชีวิตประชาชนตาดำๆยังมีอาหารเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง มีชีวิตที่แสนสุข ก็จะเคารพและทำตามผู้นำต่อไปเรื่อยๆ โดยแม้จะถูกปิดหูปิดตาจากผู้นำก็ตาม ผู้ว่าในที่นี้มักจะหว่านล้อมผู้คนของเขาด้วยเรื่องดีๆเสมอ และกล่าวหาคนภายนอกว่าเป็นพวกไม่ดีที่จะมาแย่งของๆ/ที่ของเราไป เป็นเหตุผลในการทำสงครามต่างๆ กระทั่งมีการจัดสนามประลองแบบเดียวกับโคลอสเซียมขึ้นมาเพื่อโยนเชลยศึกที่จับมาได้ให้เป็นความบันเทิงของผู้คนในหมู่บ้าน ดั่งเช่นโรมันในอดีต
.
การปิดหูปิดตาประชาชน ให้ทุกคนคิดไปทางเดียวกันหมดนั้นเพื่อความง่ายแก่การควบคุม ใครที่เห็นต่างจะถูกกำจัด เป็นวิธีที่ไร้ซึ่งมนุษยธรรม แต่สุดท้ายแล้วโลกเราก็ไม่สามารถหนีการปกครอง หรือควบคุมความคิดแบบนี้ไปได้ เพราะมันทำให้ประเทศเดินต่อ ไม่ว่าจะไปทางไหนก็ตาม แต่มันก็มีทิศทางที่ชัดเจน แต่มันคือคำตอบที่ถูกต้องแล้วหรือ
.
บทความนี้เป็นความคิดส่วนตัวของผมที่อยากมาเล่าสู่กันฟัง ใครเห็นด้วยหรือคิดต่างยังไงก็อยากให้มาแชร์กันนะครับ ในตอนนี้อาจจะพูดถึงความด้านเดียวไปหน่อย แต่ในบทความหน้าจะเป็นการต่อความจากบทนี้

ติดตามต่อได้ที่ เพจ Facebook: โต๊ะดราฟตัวนั้น
https://www.facebook.com/โต๊ะดราฟตัวนั้น-239365489759379/
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่