คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
เหล็กที่ไม่ยอมใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายครับ
ถ้าเหล็กหล่อ คือเหล็กหน้าตาดี
เฮ่ย มะช่ายยยย...
สรุป 3-4 ย่อหน้า เป็นแนว ที่เหลือไปหาต่อเองเข้าใจได้ไม่ยาก
คือว่าเหล็กที่เราเห็น จะมีส่วนประกอบทางเคมีคือ คาร์บอน แล้วผสมด้วยแมงกานีส ฟอสฟอรัส กำมะถัน (sulfur) แมกนีเซียม วาร์เนเดียม ตอนจากธรรมชาติมีซิลิกอนอยู่ด้วย
ถ้าเป็นเหล็กจากธรรมชาติที่ว่า มักมีสิ่งเจือปนเยอะสะเปะสะปะที่เพิ่งได้มา เรียก Pig iron เดาว่าเพราะฝรั่งเทียบภาพกับหมูที่กินอยู่กับการกลิ้งเกลือก
กระบวนการผลิตดัดแปลงส่วนผสมให้ต่างจากเอาเหล็กธรรมชาติมาใช้ในสมัยโบราณ ทำให้ควบคุมคุณสมบัติได้
กลับมาส่วนผสมตัวสำคัญ ที่เราได้ยินชื่ออยู่แล้ว คือ "คาร์บอน" เป็นองค์ประกอบหลายอย่างในโลกนี้ ที่เผาแล้วเห็นไหม้เกรียมแบบสี "ถ่าน" นั่นแหละ
อะไรที่ประกอบด้วยคาร์บอนมากๆ จะแข็งแต่เปราะ
ฟังดูมันแย้งกัน แต่ใครที่ไม่เข้าใจ ลองคิดง่ายๆ นึกถึงไส้ดินสอ เราจะเห็นว่ามันเป็นวัสดุแข็งๆ แต่หล่นนิดเดียวหักเป๊าะ
แข็ง... แต่เปราะบาง ตรงข้าม อ่อน...แต่ยืดหยุ่น หรือ "เหนียว"
เหล็กเช่นกัน ถ้าเป็นเหล็กคาร์บอนเยอะ จะแข็งกว่าเหล็กคาร์บอนน้อย
ดูเผินๆ น่าจะดี แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่ ลองคิดถึงเหล็กก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นเหล็กเส้นเรียบๆ หรืออีกแบบที่เราอาจเคยเห็นในภาพก่อสร้าง ที่เป็นเหล็กเส้น มีข้อๆ เรียกว่า "เหล็กข้ออ้อย" กำลังดัดโค้ง เพื่อเอาไปผูกลวดสวยๆ ทำถาวรวัตถุ แต่โค้งได้นิดเดียว ไอ้ตรงโค้งๆ มันปริแตกซะแล้ว จะไว้ใจได้ไง ว่าทำถาวรวัตถุ วัตถุนั้นมันจะคงทนถาวรได้ดังใจ
ถ้าคาร์บอนน้อย ก็จะหักยาก นั่นคือในภาษาไทย มีความ "เหนียว" นั่นเอง
คำว่า "เหนียว" นี่ ไม่ใช่แค่คำพูดแบบเปรียบเปรยนะคับ เอาไปทดสอบด้วยการดึงกันด้วย ว่าเหล็กไหน ดึงแล้วมี "จุดคราก" เท่าไหร่
คือจุด ณ ที่แรงที่ใช้ดึง แล้วเหล็กทนไหวได้แค่นั้น ไม่คืนตัวแล้ว (ฝรั่งเรียก yield point)
ไปค้นหาต่อเอาเอง จะได้ความรู้เพิ่มขึ้น key อยู่ที่ว่าคาร์บอนกี่ % ที่ทำให้หมดความเหนียว
ลองเทียบ % เหล็กเหนียว เหล็กหล่อ เหล็กกล้าดู
ถ้าเหล็กหล่อ คือเหล็กหน้าตาดี
เฮ่ย มะช่ายยยย...
สรุป 3-4 ย่อหน้า เป็นแนว ที่เหลือไปหาต่อเองเข้าใจได้ไม่ยาก
คือว่าเหล็กที่เราเห็น จะมีส่วนประกอบทางเคมีคือ คาร์บอน แล้วผสมด้วยแมงกานีส ฟอสฟอรัส กำมะถัน (sulfur) แมกนีเซียม วาร์เนเดียม ตอนจากธรรมชาติมีซิลิกอนอยู่ด้วย
ถ้าเป็นเหล็กจากธรรมชาติที่ว่า มักมีสิ่งเจือปนเยอะสะเปะสะปะที่เพิ่งได้มา เรียก Pig iron เดาว่าเพราะฝรั่งเทียบภาพกับหมูที่กินอยู่กับการกลิ้งเกลือก
กระบวนการผลิตดัดแปลงส่วนผสมให้ต่างจากเอาเหล็กธรรมชาติมาใช้ในสมัยโบราณ ทำให้ควบคุมคุณสมบัติได้
กลับมาส่วนผสมตัวสำคัญ ที่เราได้ยินชื่ออยู่แล้ว คือ "คาร์บอน" เป็นองค์ประกอบหลายอย่างในโลกนี้ ที่เผาแล้วเห็นไหม้เกรียมแบบสี "ถ่าน" นั่นแหละ
อะไรที่ประกอบด้วยคาร์บอนมากๆ จะแข็งแต่เปราะ
ฟังดูมันแย้งกัน แต่ใครที่ไม่เข้าใจ ลองคิดง่ายๆ นึกถึงไส้ดินสอ เราจะเห็นว่ามันเป็นวัสดุแข็งๆ แต่หล่นนิดเดียวหักเป๊าะ
แข็ง... แต่เปราะบาง ตรงข้าม อ่อน...แต่ยืดหยุ่น หรือ "เหนียว"
เหล็กเช่นกัน ถ้าเป็นเหล็กคาร์บอนเยอะ จะแข็งกว่าเหล็กคาร์บอนน้อย
ดูเผินๆ น่าจะดี แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่ ลองคิดถึงเหล็กก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นเหล็กเส้นเรียบๆ หรืออีกแบบที่เราอาจเคยเห็นในภาพก่อสร้าง ที่เป็นเหล็กเส้น มีข้อๆ เรียกว่า "เหล็กข้ออ้อย" กำลังดัดโค้ง เพื่อเอาไปผูกลวดสวยๆ ทำถาวรวัตถุ แต่โค้งได้นิดเดียว ไอ้ตรงโค้งๆ มันปริแตกซะแล้ว จะไว้ใจได้ไง ว่าทำถาวรวัตถุ วัตถุนั้นมันจะคงทนถาวรได้ดังใจ
ถ้าคาร์บอนน้อย ก็จะหักยาก นั่นคือในภาษาไทย มีความ "เหนียว" นั่นเอง
คำว่า "เหนียว" นี่ ไม่ใช่แค่คำพูดแบบเปรียบเปรยนะคับ เอาไปทดสอบด้วยการดึงกันด้วย ว่าเหล็กไหน ดึงแล้วมี "จุดคราก" เท่าไหร่
คือจุด ณ ที่แรงที่ใช้ดึง แล้วเหล็กทนไหวได้แค่นั้น ไม่คืนตัวแล้ว (ฝรั่งเรียก yield point)
ไปค้นหาต่อเอาเอง จะได้ความรู้เพิ่มขึ้น key อยู่ที่ว่าคาร์บอนกี่ % ที่ทำให้หมดความเหนียว
ลองเทียบ % เหล็กเหนียว เหล็กหล่อ เหล็กกล้าดู
แสดงความคิดเห็น
เหล็กเหนียวคืออะไรหรอครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ