เปลี่ยนทัศนคติ ชาวนา ไม่ได้ จัดการ โรงสี ไม่ได้ ใส่เงินลงไป ช่วยแค่ไหน ก็ไม่ เศรษฐกิจพอเพียง

กระทู้คำถาม
ผมได้พูดคุยกับลูกน้องหลายๆ ถึงคำถามเดียวกัน สรุปได้ คือ

๑. ทัศนคติ ชาวนา ปลูก ข้าว ไม่ใส่ปุ๋ย ไม่ใส่ยา คือ "โง่"

ถามว่า ชาวนา ที่ปลูกข้าว ไม่อยากใส่ปุ๋ย ไม่อยากใส่ยา มีไหม มีครับ แต่พวกเค้าไม่กล้าทำ

ทำไมไม่กล้าทำ เพราะ ชาวนาข้างเคียง จะมาคอย "ไซโค" ตลอด โดยเฉพาะ เมื่อ นาข้าวข้างเคียง มันเขียวกว่า ต้นสูงกว่า

ชาวนาข้างเคียง จะคอยมาถาม ไม่ใส่ปุ๋ยมันจะเขียวหรือ ปลูกข้าวแบบไหนกันละไม่ใส่ปุ๋ย ดูของข้าสิทั้งเขียวทั้งสูง

นี่คือ ทัศนคติของชาวนา และ ชาวนาส่วนน้อย ก็โดน ชักจูงไป

ทั้งๆ ที่ชาวนาส่วนน้อย บางคนเค้าก็ รู้ ถึงวิธี คำนวนต้นทุน แต่ส่วนใหญ่มันเป็นแบบนี้

หน้าที่ เกษตรอำเภอ คือ ต้องไปทำแปลงทดลองครับ ถึง ผลผลิตน้อย แต่ ต้องคำนวน สอนเค้าคำนวน ต้นทุนกำไร

นี่คือ สิ่งที่ราชการ ต้อง รีบ ลงไปทำ "ปรับทัศนคติ" ครับ


๒. ชาวนาไม่รู้จัก เกษตรพอเพียง รู้จักแต่ คำว่า หน้าใหญ่ ข้างบ้านมีอะไร ฉันก็ต้องมีเหมือนกัน งานบุญงานศพ ต้องใหญ่โต เดี๋ยวเค้าหาว่าจน

อันนี้ เป็นสิ่งที่ สังคม ต่างจังหวัด ต่างจากกรุงเทพมากๆครับ

ข้างบ้าน ซื้อ รถกระบะ คันแรก ข้างบ้านอยู่ไม่ได้แล้วครับ ทั้งๆที่ตนเองไม่มีความจำเป็นใช้รถ นังเมีย ก็ต้อง บอกให้ผัว หาเงินไปดาวน์

จากนั้น สองผัวเมีย ก็มาทำงานกรุงเทพ ผ่อนรถกระบะ ที่จอดไว้เฉยๆ หรือ นานๆ ให้ลูกขับไปใช้ที

ถามว่า ชาวนา ชาวบ้าน รู้จักค่าเสื่อมราคาไหมครับ ไม่รู้ครับ รู้แต่ ถ้าข้างบ้านมี ฉันไม่มี คือ ฉันเสียหน้า

อีกงานหนึ่ง คือ งานแต่ง กับ งานศพ เชื่อไหมครับ ชาวนา ชาวบ้าน ต่างจังหวัด จัดแพงกว่า คนในกรุงเทพ ครับ

แพงอะไรทราบไหมครับ แพงล้มหมู ล้มวัว แพงค่าเหล้า ค่าเบียร์

คนที่มาร่วมงาน คนทำครัว มากกว่า แขก

แขก ก็คือ ชาวบ้านแถวนั้น หรือ ต่างหมู่บ้าน ไม่ได้รู้จักอะไรกับเจ้าของงาน แต่พอรู้ว่า มีอาหารมีเหล้า มีเบียร์ ก็มากินฟรี

ส่วน คนทำครัว ที่มาทำก็ไม่ใช่ว่า มาช่วยครับ ทำอะไรเล็กๆน้อยๆ แล้ว ก็หอบ หมู หอบ เนื้อ กลับบ้านครับ ล้มวัว ล้มหมู กี่ตัว ก็ไม่พอแขก


ถ้าจัด งานเล็กๆ เงียบๆ ไม่มีเลี้ยง ชาวบ้าน ก็ไม่มา แต่ ก็จะ นินทา ไปสามบ้านแปดบ้าน "อีบ้านนี้มันจน" งานศพมันไม่มีคน งานแต่งไม่ครึกครื้น

เสียหน้า ครับ ลูกน้องผมบอกเสียหน้าไปหลายรางวัด

ผมไม่ทราบว่า ราชการ จะช่วยอะไรได้ไหม ที่พ่อ สอนว่า พอเพียง จะนำไปประยุกต์ใช้ได้ไหม มันเหมือนเป็นธรรมเนียม

ผมพยายามสอนลูกน้อง ลูกจ้าง ว่า จัดงานอะไร ต้องพอเพียง ไม่ต้องสนใจหรอก ว่าแขกที่มา มันจะมาไม่มา

แต่ ทำไม่ได้ครับ เสียหน้า แต่ ค่างานศพ งานแต่ง ต้องมา ยืม ยืมจากใครละครับ ก็ยืมจากนายมันไง

๓. เรื่องสดๆ ร้อนๆ ก็รัฐบาล ให้ชายนาขายข้าวได้ตัวเอง

อยู่ๆ อำเภอหนึ่ง ในจังหวัด สุรินทร์ ก็มี รถไม่ทราบว่า รับจ้าง จากใคร ป่าว ประกาศว่า ชาวนาขายข้าวเองผิดกฎหมาย

ชาวหน้าที่นั่น กลัวมากครับ เพราะ คนประกาศ ก็มีชื่อเสียง คือ เค้าก็รู้ๆกันอะนะว่าใครประกาศ

แต่ที่แปลก คือ รัฐบาลไม่รู้ครับ เจ้าหน้าที่รัฐ จังหวัด นั้นก็ไม่ทราบ เจ้าหน้าที่ระดับ อำเภอก็ไม่ทราบครับ

แต่เคราะห์ดี ที่ นายก รีบประกาศผ่านทีวี และ พี่ๆนักข่าว ก็กระจาย ข่าว ไป กลบกระแส ชาวนาจะโดนจับถ้าขายข้าวเอง

ผมไม่ทราบว่า "เค้า" มีความผิดไหม แต่ ก็ไม่เห็นมี ตำรวจไปจับ

รัฐบาลคิดว่า คนแบบนี้ รัฐบาลควรเอาไว้ไหมครับ สุดท้าย ถามโรงสี โรงสี ที่มีธรรมาภิบาล คงมีหลายแห่ง โรงสีคิดอย่างไรครับ กับการกระทำแบบนี้

ผมเชื่อว่า ราคาข้าว กระแทก ลงมาขนาดนี้ เป็นความตั้งใจ ของ ขรช. และ พ่อค้าบางกลุ่ม ที่จะทำลายบรรยากาศเศรษฐกิจ

รัฐบาล ควรลงไปจัดการ กับ ขรช. กลุ่มนี้ ทั้งๆ ที่ตัวเอง ได้รับมอบหมายให้ มีหน้าที่ ดูแล เรื่องราคา และ ผลผลิต

แต่ไม่มี Action Plan ไม่มี แผนสำรอง

และที่สำคัญ ขรช. กล่มนี้ ไม่มีแม้แต่แผน ว่า ปีหน้า ถ้า พืชผลทางการเกษตร มีปัญหา จะรับมืออย่างไร

ทั้งๆ ที่ควรจะ เริ่มมีแผนระยะสั้น ออกมาได้แล้ว

ทำไม มีแผน แล้ว ต้องประกาศ ก็เพราะ ชาวนา ชาวไร่ ถือ เป็น ผู้บริโภค หลัก กลุ่มหนึ่งของประเทศไง

ถ้าท่าน มีแผนที่ดี กลุ่ม นักลงทุน พ่อค้า ด้านอื่นๆ เค้าก็พร้อม จะลงทุน พัฒนา เพราะ เชื่อมั่นว่า ลงทุนแล้ว มีกำลังซื้อ

สุดท้ายนี้ ผมขอกลับไปที่ข้อหนึ่ง และ สอง

ผมเชื่อว่าลูกชาวไร่ ชาวนา ในพันทิป คงเยอะ ถ้าท่านๆ กลับไปสอนพ่อแม่ ลุงป้า น้าอาได้ ก็คงจะเป็นประโยชน์ไม่น้อย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่