เริ่มจากเรียนจบก็เดินทางเข้ากทม. ทำงานได้ 4 ปี แล้วก็ย้ายตัวเองกลับบ้านเกิดที่ต่างจังหวัดค่ะ
เพราะเบื่อ กทม แล้ว ส่วนนึงคืออยู่แล้วไม่มีอะไรเป็นของตัวเองเลย หามาได้ใช้หมด
เลยตัดสินใจกลับบ้านหวังหางานทำที่บ้าน อย่างน้อยก็ไม่เสียค่าที่พัก แถมได้อยู่ดูแลบ้าน
เพราะน้องสาวเรียนที่เชียงใหม่ ส่วนแม่แต่งงานกับชาวต่างชาติย้ายไปอยู่ที่อเมริกาได้จะ 10 ปีแล้วค่ะ
แรกๆกลับบ้านก็สะดวกสบายดี ว่างยาว อยากทำอะไรก็ได้ทำ แต่นานเข้าเริ่มไม่สนุกค่ะ
ก็เลยหางาน ซึ่งงานต่างจังหวัดก็เท่าที่รู้ๆกัน งานน้อย ไม่หลากหลาย เจ้าของกระทู้จบด้านกราฟฟิคมาค่ะ
จะทำได้ก็งานโรงพิมพ์รับออกแบบทั่วไป ทำได้สักพักก็เริ่มเบื่อค่ะ งานเดิมๆ แล้วตรงๆเลยคือหมดใจกับงานด้านนี้ค่ะ มันเหมือนถึงทางตันแล้ว เลยตัดสินใจออกมาขายของที่ตลาดกลางคืน แรกๆก็ขายดี เหนื่อยหน่อยแต่ก็สนุกดี เพราะไม่เคยทำมาก่อน สักพักขายไปได้ปีกว่าเริ่มซบเซา ไม่รู้เพราะเศรษฐกิจแบบนี้หรือสินค้าของเราหมดความน่าสนใจ แต่เราก็ยังพยายามนะคะ อัพเดตสินค้า หาอะไรใหม่ๆมาขาย แต่ก็ไปไม่รอดค่ะ เพราะค่าเช่าที่ที่เพิ่มขึ้นด้วย จากวันละ 300 เป็น 350 ซึ่งแพงมาก เราเลยไม่ไหวถอดใจเลิกขายค่ะ
หลังจากเลิกขายแล้วก็ตั้งใจมาหางานจริงจัง เริ่มสมัครสอบราชการบ้าง กพ บ้าง(ล่าสุดคือไม่ผ่าน ตกภาษาไทยค่ะ) สมัครเป็นพนักงานมหาลัยบ้าง แต่ก็เหลวทุกครั้ง T_T มีที่ได้งานเซลล์ขายของในห้างร้าน แต่คือไม่ได้ชอบแบบนั้นค่ะ ต้องกำหนดยอดต้องขายให้ได้ กดดันมากๆก็ลาออกเหมือนเดิม (งานต่างจังหวัดคืองานขายงานเซลล์เยอะมากๆเลยไม่รู้ทำไม)
ตอนนี้เราตกงานมาจะ 5 ปีแล้วค่ะ เครียดมาก อยู่บ้านคนเดียว เพื่อนน้อยลง สังคมไม่มี ดีหน่อยคือไปลงเรียนภาษา เรียนทุกเสาร์อาทิตย์ พอได้มีอะไรทำบ้าง พอดีเรามีแผนทำวีซ่าย้ายไปอยู่อเมริกากับแม่ค่ะ แต่วีซ่าที่ยื่นไปต้องใช้เวลาราวๆ 5-8 ปี (ย้ายถิ่นฐานถาวร ตอนนี้ผ่านมา 3 ปีแล้ว) ซึ่งตอนนี้อเมริกาได้ประธานธิปดีคนใหม่แล้ว และก็ไม่รู้ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นกับวีซ่าของเราหรือเปล่า??? ส่วนนี้ก็ทำใจค่ะ ไปได้ก็ไป ไม่ได้ก็อยู่บ้านเนี่ยหล่ะ (อายุมากแล้วด้วยค่ะ ตอนนี้ 30 แล้ว)
แต่ตอนนี้คือเครียดเรื่องงานมาก เราควรทำไงดีค่ะ ใจนึงก็อยากไปเรียนภาษาที่เมืองนอกดู สักเมืองในระแหวก คือเราพูดกับพ่อเลี้ยงที่เป็นต่างชาติมาก็นานแต่คือแกรมม่าเน่ามาก แค่สื่อสารรู้เรื่อง พอลงเรียนก็เริ่มดำน้ำได้ แต่ยังไม่แปะ ที่กังวลคือส่วนนึงมาจากค่าใช้จ่าย ซึ่งแม่ยินดีออกให้ แต่เราละอายใจค่ะ ทุกวันนี้แม่ก็ให้ใช้รายเดือนทุกเดือนแม่บอกเป็นค่าดูแลบ้านให้ ครั้นจะใช้เงินเก็บ คือมีเก็บราวๆแสนหน่อยๆ จะเอาทุ่มไปเรียนเองเลยดีไหม? จะพอหรือเปล่า?(ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าพอค่ะ)
หรือเราควรหางานทำต่อไป อะไรก็ทำ คือทุกวันนี้งานหายากมากค่ะ ไม่งั้นเราคงต้องลง กทม อีกรอบหางานทำนี่ก็ลังเลอยู่
หรือเราจะใช้ทุนที่ทีลงทุนเปิดร้านทำกิจการอะไรสักอย่าง ซึ่งปัญหาตอนนี้คือคนช่วยค่ะ และก็ไม่รู้จะทำอะไร
อยากได้คำแนะนำจากเพื่อนๆในพันทิปค่ะ ตอนนี้เครียดมาก อยู่คนเดียวจนจะเป็นบ้าแล้วค่ะ นี่คิดว่าจะไปปรึกษาจิตแพทย์ดีไหม? ขอบคุณทุกคำแนะนำล่วงหน้านะค่ะ ^^
กระทู้แรกไม่รู้ว่าแทร็กถูกห้องไหม? ผิดยังไงแนะนำได้ค่ะ
ตกงานมา 5 ปีแล้ว ไม่รู้จะทำยังไงดีค่ะ
เพราะเบื่อ กทม แล้ว ส่วนนึงคืออยู่แล้วไม่มีอะไรเป็นของตัวเองเลย หามาได้ใช้หมด
เลยตัดสินใจกลับบ้านหวังหางานทำที่บ้าน อย่างน้อยก็ไม่เสียค่าที่พัก แถมได้อยู่ดูแลบ้าน
เพราะน้องสาวเรียนที่เชียงใหม่ ส่วนแม่แต่งงานกับชาวต่างชาติย้ายไปอยู่ที่อเมริกาได้จะ 10 ปีแล้วค่ะ
แรกๆกลับบ้านก็สะดวกสบายดี ว่างยาว อยากทำอะไรก็ได้ทำ แต่นานเข้าเริ่มไม่สนุกค่ะ
ก็เลยหางาน ซึ่งงานต่างจังหวัดก็เท่าที่รู้ๆกัน งานน้อย ไม่หลากหลาย เจ้าของกระทู้จบด้านกราฟฟิคมาค่ะ
จะทำได้ก็งานโรงพิมพ์รับออกแบบทั่วไป ทำได้สักพักก็เริ่มเบื่อค่ะ งานเดิมๆ แล้วตรงๆเลยคือหมดใจกับงานด้านนี้ค่ะ มันเหมือนถึงทางตันแล้ว เลยตัดสินใจออกมาขายของที่ตลาดกลางคืน แรกๆก็ขายดี เหนื่อยหน่อยแต่ก็สนุกดี เพราะไม่เคยทำมาก่อน สักพักขายไปได้ปีกว่าเริ่มซบเซา ไม่รู้เพราะเศรษฐกิจแบบนี้หรือสินค้าของเราหมดความน่าสนใจ แต่เราก็ยังพยายามนะคะ อัพเดตสินค้า หาอะไรใหม่ๆมาขาย แต่ก็ไปไม่รอดค่ะ เพราะค่าเช่าที่ที่เพิ่มขึ้นด้วย จากวันละ 300 เป็น 350 ซึ่งแพงมาก เราเลยไม่ไหวถอดใจเลิกขายค่ะ
หลังจากเลิกขายแล้วก็ตั้งใจมาหางานจริงจัง เริ่มสมัครสอบราชการบ้าง กพ บ้าง(ล่าสุดคือไม่ผ่าน ตกภาษาไทยค่ะ) สมัครเป็นพนักงานมหาลัยบ้าง แต่ก็เหลวทุกครั้ง T_T มีที่ได้งานเซลล์ขายของในห้างร้าน แต่คือไม่ได้ชอบแบบนั้นค่ะ ต้องกำหนดยอดต้องขายให้ได้ กดดันมากๆก็ลาออกเหมือนเดิม (งานต่างจังหวัดคืองานขายงานเซลล์เยอะมากๆเลยไม่รู้ทำไม)
ตอนนี้เราตกงานมาจะ 5 ปีแล้วค่ะ เครียดมาก อยู่บ้านคนเดียว เพื่อนน้อยลง สังคมไม่มี ดีหน่อยคือไปลงเรียนภาษา เรียนทุกเสาร์อาทิตย์ พอได้มีอะไรทำบ้าง พอดีเรามีแผนทำวีซ่าย้ายไปอยู่อเมริกากับแม่ค่ะ แต่วีซ่าที่ยื่นไปต้องใช้เวลาราวๆ 5-8 ปี (ย้ายถิ่นฐานถาวร ตอนนี้ผ่านมา 3 ปีแล้ว) ซึ่งตอนนี้อเมริกาได้ประธานธิปดีคนใหม่แล้ว และก็ไม่รู้ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นกับวีซ่าของเราหรือเปล่า??? ส่วนนี้ก็ทำใจค่ะ ไปได้ก็ไป ไม่ได้ก็อยู่บ้านเนี่ยหล่ะ (อายุมากแล้วด้วยค่ะ ตอนนี้ 30 แล้ว)
แต่ตอนนี้คือเครียดเรื่องงานมาก เราควรทำไงดีค่ะ ใจนึงก็อยากไปเรียนภาษาที่เมืองนอกดู สักเมืองในระแหวก คือเราพูดกับพ่อเลี้ยงที่เป็นต่างชาติมาก็นานแต่คือแกรมม่าเน่ามาก แค่สื่อสารรู้เรื่อง พอลงเรียนก็เริ่มดำน้ำได้ แต่ยังไม่แปะ ที่กังวลคือส่วนนึงมาจากค่าใช้จ่าย ซึ่งแม่ยินดีออกให้ แต่เราละอายใจค่ะ ทุกวันนี้แม่ก็ให้ใช้รายเดือนทุกเดือนแม่บอกเป็นค่าดูแลบ้านให้ ครั้นจะใช้เงินเก็บ คือมีเก็บราวๆแสนหน่อยๆ จะเอาทุ่มไปเรียนเองเลยดีไหม? จะพอหรือเปล่า?(ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าพอค่ะ)
หรือเราควรหางานทำต่อไป อะไรก็ทำ คือทุกวันนี้งานหายากมากค่ะ ไม่งั้นเราคงต้องลง กทม อีกรอบหางานทำนี่ก็ลังเลอยู่
หรือเราจะใช้ทุนที่ทีลงทุนเปิดร้านทำกิจการอะไรสักอย่าง ซึ่งปัญหาตอนนี้คือคนช่วยค่ะ และก็ไม่รู้จะทำอะไร
อยากได้คำแนะนำจากเพื่อนๆในพันทิปค่ะ ตอนนี้เครียดมาก อยู่คนเดียวจนจะเป็นบ้าแล้วค่ะ นี่คิดว่าจะไปปรึกษาจิตแพทย์ดีไหม? ขอบคุณทุกคำแนะนำล่วงหน้านะค่ะ ^^
กระทู้แรกไม่รู้ว่าแทร็กถูกห้องไหม? ผิดยังไงแนะนำได้ค่ะ