*อันนี้เป็นความรู้สึกส่วนตัวหลังจากอ่านเล่ม 8 จบ ด้วยความที่หัวร้อนมากๆครับ*
จากความประทับใจใน จอมทัพพลิกแผ่นดิน ภาคแรก ซึ่งมีกลิ่นอายของพวกไลท์โนเวลของญี่ปุ่น ซึ่งเดินเรื่องได้กระชับฉับไวแต่ไม่เสียอรรครส ผมก็ไม่รีรอเลยเมื่อ "จอมทัพพลิกแผ่นดิน ภาคสมบูรณ์" ออกมาด้วยความคาดหวังว่ามันจะดีกว่าภาคแรก ด้วยตัวอย่างที่ออกมาก็ยังคงกลิ่นอายของภาคแรกไว้อย่างครบถ้วน แต่ว่าพออ่านมาจนถึงเล่ม 8 มันกลับทำให้ผมแทบเขวี้ยงหนังสือลงถังขยะ (จะเอาไปบริจาคยังคิดแล้วคิดอีก) เพราะมันทำลายความประทับใจ และทำลายตัวละครหลายตัว จนผมรับไม่ได้ดังนี้
1. ความเก่งที่เกินลิมิตของสี่ผิง
- เรื่องความเก่ง ความโกงและความเทพทรูของพระเอกใน นวนิยายชุดนี้เป็นเรื่องธรรมดาเพราะ หวงสือ เองก็เล่นโกงไปหลายเรื่องเช่นกัน เพราะมียันต์ติดตัวมาอย่าง "ความรู้ทางประวัติศาสตร์" และคววามรู้จากทางโลกอนาคต แล้วสี่ผิงล่ะมีอะไร นอกจากความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมาจาก "กองกำลังใหม่" แล้วยังมีตำราที่หวงสือเขียนขึ้นมา ซึ่งสี่ผิงก็เอามาต่อยอดได้แบบสุดยอดมาก ชนิดเจอเด็กตบเด็ก เจอคนแก่กระทืบคนแก่
ซึ่งตอนนี้ผมก็ว่าอะไรไม่ได้หรอก เพียงแต่รู้สึกว่า สี่ผิงออกจะชนะ "บ่อยเกินไป" แบบแทบไม่เจอความเพลี่ยงพล้ำอะไรเลย สวรรค์สั่งมาแล้วอะไรแบบนั้น แถมตั้งแต่ต้นจนจบ พี่ท่านเล่นเจอแต่ ขุนพลประเภท "ขุนพลประมาท" (ยกเว้น หยางจื้อเอี่ยน และ เฮ่อเป่าเตา ไว้สองคน) ซึ่งทั้งหมดก็ตายไปแบบไร้ซึ่งความน่าจดจำทั้งสิ้น... แทบจะไม่ได้เจอ ขุนพลที่มีฝีมือทัดเทียมกัน หรือ "บุคคลทางประวัติศาสตร์" โดยเฉพาะขุนพลที่มีทั้งฝีมือและพรสวรรค์อย่าง "เจิ้งเฉิงกง" ที่มีบทบาทในเรื่องเพียงแค่จดหมายตัดพ่อลูก ซึ่งน่าแปลกที่คนเขียนกล้าเอาฉาก "สี่ผิงปะทะสื่อเข่อฝ่า" มาเขียนให้คนอ่าน อ่านแต่ไม่กล้าเอา "สี่ผิงปะทะเจิ้งเฉิงกง" มาหรือว่าคนเขียนกลัวอะไรกันแน่?
นอกจากนี้ยังมีตอนก่อนจบของภาคนี้ที่ผมโคตรขัดใจเป็นอันดับสองอย่าง "กองกำลังต้าซุ่น 40,000 นายถูกล้อมโดย กองกำลังหนานหมิง" แต่ Yes Crocodile!!! ฮุยสงเมาเล่นให้สี่ผิงใช้ ยุทธการเต็ด (ยุทธการที่เวียดนามเหนือใช้กับทหารสหรัฐในช่วงสงครามเย็น) ในการตอบโต้กับกองกำลังหนานหมิง และเจือกได้ผลด้วย!!!! WTF!!! คือไม่รู้ว่ารัฐบาลในช่วงนั้นคิดอะไรอยู่ความจริงวิธีการตอบโต้โดยให้ประชาชนมีอีกหลายวิธีเช่น กล่าวยอมรับความจริงกับประชาชนเหมือนกับตอนที่หวงสือปราบโจรสลัดก็ได้ เป็นต้นแต่สิ่งที่โคตรขัดใจอีกอย่างนึงก็คือ สี่ผิงเหลือทหาร 40,000 นายก่อนโดนฃ้อมยังไง หลังยอมจำนนเสร็จก็เหลือทหาร 40,000 นายเท่านั้นแบบเป็ะโดยไม่เสียกำลังพลไม่แม้แต่คนเดียว คืออะไร?หรือสี่ผิงเปิดสูตร whosyourdaddy เหรอ(ฮา)? ตือแบบยุทธภัณฑ์พวกปืนนี้แทบใช้ไม่ได้ แถมอยู่สภาพอากาศที่เลวร้ายไม่แพ้ฝ่ายตรงข้าม แต่กลับชนะในยุทธการโดยไม่เสียกำลังพล? เขร้!!! ผมว่าถ้านายพลเวียดนามเหนือเห็นแบบนี้คงอยากกราบ สี่ผิงเป็น "ซือแป๋" แทบไม่ทัน
2. ควมน่ารำคาญและความหน้าด้านของสี่ผิง
- บอกเลยว่าภ้าภาคแรกตัวละครที่ผมรำคาญมากที่สุดคือ "คุณหนูรองตระกูลเจ้า" (ซึ่งบัดนี้ผมยังไม่รู้เลยว่านางชื่ออะไร?) จนมาภาคนี้ตัวละครที่น่ารำคาญที่สุดก็คือ พระเอกของเรื่องนี้อย่าง "สี่ผิง" นี้เองงงง
จากตอนต้นเรื่องที่สี่ผิงมาเข้ากับทางฉ่วงอ๋องเพื่อต้องการแก้แค้นเท่านั้น แต่ต่อมาความคิดเริ่มเปลี่ยนไปเพราะต้องการให้ชาวบ้านกินดีอยู่ดี โดยกะคิดว่าตนเองพอเสร็จก็จะเร้นกายแล้วปล่อยให้ราชสำนักต้าซุ่น ดูแลบ้านเมืองเพราะคิดว่าฉ่วงอ๋องเป็นฮ่องเต้ที่ดี ส่วนตัวเองนั้นรบเป็นอย่างเดียว รบเสร็จกลับบ้านทำไร่ไถนาเป็นหมอดีกว่าสบายอุราชะล่ะล่าาาาา
คือ...ไหนบอกว่าจะช่วยชาวบ้านไง ทำไมถึงเร้นตัวละ? แบบนี้แทบไม่ต่างอะไรกับโยนเรื่องราวทั้งหมดไปให้พวกขุนนางบุ๋นทำเองหมด แบบสมัยหมิงละ? นั้นคือเรื่องความหน้าด้านของสี่ผิงข้อแรก
ข้อที่สอง คือเจ้าตัวชอบโม้ว่า "เก่งเรื่องการพัฒนาต่อยอด" โธ่เอ้ย!!! เก่งในการลอกเลียนแบบจากหวงสือล่ะไม่ว่า ที่ตัวเองคิดและทำนั้นเอาแม่มมาจากในตำราที่ให้ลูกสาวของหวงสือขโมยมาให้ทั้งนั้น และเรื่องที่เสนอให้ปรับเปลี่ยนเอาระบอบของหนานหมิงไปใช้อีกล่ะ นี้ก็เป็นการลอกเลียนแบบหวงสือ(ซึ่งหวงสือก็ลอกมจากผู้อื่นมาเช่นกัน) แบบหน้าด้านๆอย่างไม่รู้เขาและรู้เราเลย นี้เหรอคือสิ่งที่ สี่ผิง อยากจะ "Make Dashun Great Again!!!" นะโธ่เอ้ย!!!! จากหลักฐานที่กล่าวมาทั้งหมด สี่ผิงแทบไม่ได้เก่ง "พัฒนาต่อยอด" ตามที่ตัวเองโม้เลย ถ้าเอาที่เก่งจริง สี่ผิงเก่งในเรื่องการ "ลอกเลียนแบบ" มากกว่า (ควมจริงหวงสือก็เก่งเรื่องนี้นะ เพียงแต่ไม่ได้โม้เป็นเรื่องเป็นราวแบบสี่ผิงก็เท่านั้น)
และข้อสุดท้ายที่สุดของความหน้าด้าน ก็คือตอนที่เจราจาของนิรโทษกรรม คือตอนนั้นผมก็เข้าใจว่าหมามันจนตรอกและคงต้องเอาทุกทาง และผมจะมาคัดเอาประเด็ดมาดังนี้ครับ
- สี่ผิงเงยหน้าขึ้นกล่าวว่า "หากว่าเราปฎิเสธนิรโทษ ผู้ใต้บังคับบัญชาของเราจะได้รับนิรโทษหรือไม่?" ก่อนที่เฮ่อเฟยหู่จะตอบคำ สี่ผิงชิงกล่าวว่า
"ชีวิตของเราสมควรมีค่ามากกว่าไพร่พลกระมั้ง?" นี้เป็นหนึ่งประโยคที่ผมคิดว่าคนที่พูดแบบนี้ได้นี้ มีความหนาของหน้าไม่เบา เจรจาได้แบบเหมือนกับว่าตนเองเป็นต่อซะเต็มประดา แบบไม่รู้จะหาคำไหนมาด่าดี
- "...พวกเราตั้งปณิธานล้มล้างหมิง สร้างโลกแห่งความสดใสสันติสุข โลกที่ผู้ยากไร้ไม่ต้องอดอยาก เด็กเล็กได้รับการเลี้ยงดู คนชราได้รับการปลูกฝัง" ถ้าผมเป็นเฮ่อเฟยหู่ตอนนั้น ผมคงตอกหน้าสี่ผิงกลับไปดังนี้ "อย่างนั้นหรือ? ข้าได้ยินมาว่าพวกท่านเมื่อเข้าปักกิ่งเปลี่ยนราชวงศ์ก็กระทำตัวได้ไม่ต่างจากราชสำนักในยุคก่อน ทั้งแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น ลุแก่อำนาจแม้แต่ตัวท่านยังโดนเลยไม่ใช่เหรอ ส่วนท่านเมื่อเสร็จกิจท่านก็พยายามเร้นกาย โดยทอดทิ้งพรรคพวกของท่าน ให้ทำงานกันเองตามยถากรรม และดูต้าซุ่นท่านสิ ประชาชนถูกเอารัดเอาเปรียบ เด็กเล็กไม่ได้รับการดูแล คนชราตายไร้ที่ฝัง"
3. การหาทางลงให้กับสี่ผิงและพรรคพวก
- นอกจากฉากละครงิ้วตอน "ยุทธการเต็ตฉบับ สี่ผิงแล้วยังมีงิ้วอีกฉากหนึ่งที่ผมคิดว่า "จะมีไปทำไม หรือมีไว้เพื่อเชิดชูสี่ผิงเหรอว่าเก่งเทพแค่ไหน" อย่างตอนที่สี่ผิงพาพรรคพวกสู้กับ หวงไหน่หมิง ก่อนจะลงเรือไปอเมริกาเพื่อที่จะรักษา "ธงเชลย" ที่ตัวเองยึดจากการทำศึกมาและผลนั้นผู้ชนะก็คือ.................................................... สี่ผิงจ้าาาา (แทบไม่ต้องเดาให้เมื่อยเชลล์สมองแต่อย่างใดเลย) แถมก่อนไปอเมริกาทางรัฐบาลฉีนี้โคตรใจป๋ามาก มอบเรืออย่างดีแถมให้บุคคลากรที่มีความรู้อย่างช่างฝีมือตามไปให้อีก แถมด้วยการให้เทคโนโลยีอย่าง เครื่องจักรไอน้ำไปด้วย แบบ...ถ้าไม่บอกว่าสี่ผิงถูกเนรเทศผมนึกว่าสี่ผิงได้รับภารกิจไปสำรวจหาดินแดนใหม่มาให้กับรัฐบาลเสียอีก แถมพวกรัฐบาลนี้ก็ไม่กลัวเขาจะหวนกลับมาแก้แค้นอะไรบ้างเลยเหรอ?
และนี้ก็คือสิ่งที่ผมคิดและผิดหวังกับนิยายเรื่องนี้มาก ความจริงยังมีอีกเพียบทั้งเรื่องการบิดเบือนประวัติศาสตร์ทั้งจีนและเทศแบบ ประจานให้รู้เลยว่าคนเขียน ทำงานได้ "ชุ่ย" แค่ไหน และวางพล็อตเรื่องได้แย่กว่าภาคแรกอีก ถ้ามีการให้คะแนนภาคนี้สมควรได้ไปแค่ 0.5/10 ให้เพราะความพยายามในการเข็นเรื่องนี้และการแปลของ อาจารย์น.นพรัตน์ เท่านั้นครับ
+++[Spoil+ระบายอารมณ์] จอมทัพพลิกแผ่นดิน ภาคสมบูรณ์ ความพยายามจะหาทางลงของฮุยสงเมา และสี่ผิงพระเอกผู้หน้าด้าน
จากความประทับใจใน จอมทัพพลิกแผ่นดิน ภาคแรก ซึ่งมีกลิ่นอายของพวกไลท์โนเวลของญี่ปุ่น ซึ่งเดินเรื่องได้กระชับฉับไวแต่ไม่เสียอรรครส ผมก็ไม่รีรอเลยเมื่อ "จอมทัพพลิกแผ่นดิน ภาคสมบูรณ์" ออกมาด้วยความคาดหวังว่ามันจะดีกว่าภาคแรก ด้วยตัวอย่างที่ออกมาก็ยังคงกลิ่นอายของภาคแรกไว้อย่างครบถ้วน แต่ว่าพออ่านมาจนถึงเล่ม 8 มันกลับทำให้ผมแทบเขวี้ยงหนังสือลงถังขยะ (จะเอาไปบริจาคยังคิดแล้วคิดอีก) เพราะมันทำลายความประทับใจ และทำลายตัวละครหลายตัว จนผมรับไม่ได้ดังนี้
1. ความเก่งที่เกินลิมิตของสี่ผิง
- เรื่องความเก่ง ความโกงและความเทพทรูของพระเอกใน นวนิยายชุดนี้เป็นเรื่องธรรมดาเพราะ หวงสือ เองก็เล่นโกงไปหลายเรื่องเช่นกัน เพราะมียันต์ติดตัวมาอย่าง "ความรู้ทางประวัติศาสตร์" และคววามรู้จากทางโลกอนาคต แล้วสี่ผิงล่ะมีอะไร นอกจากความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมาจาก "กองกำลังใหม่" แล้วยังมีตำราที่หวงสือเขียนขึ้นมา ซึ่งสี่ผิงก็เอามาต่อยอดได้แบบสุดยอดมาก ชนิดเจอเด็กตบเด็ก เจอคนแก่กระทืบคนแก่
ซึ่งตอนนี้ผมก็ว่าอะไรไม่ได้หรอก เพียงแต่รู้สึกว่า สี่ผิงออกจะชนะ "บ่อยเกินไป" แบบแทบไม่เจอความเพลี่ยงพล้ำอะไรเลย สวรรค์สั่งมาแล้วอะไรแบบนั้น แถมตั้งแต่ต้นจนจบ พี่ท่านเล่นเจอแต่ ขุนพลประเภท "ขุนพลประมาท" (ยกเว้น หยางจื้อเอี่ยน และ เฮ่อเป่าเตา ไว้สองคน) ซึ่งทั้งหมดก็ตายไปแบบไร้ซึ่งความน่าจดจำทั้งสิ้น... แทบจะไม่ได้เจอ ขุนพลที่มีฝีมือทัดเทียมกัน หรือ "บุคคลทางประวัติศาสตร์" โดยเฉพาะขุนพลที่มีทั้งฝีมือและพรสวรรค์อย่าง "เจิ้งเฉิงกง" ที่มีบทบาทในเรื่องเพียงแค่จดหมายตัดพ่อลูก ซึ่งน่าแปลกที่คนเขียนกล้าเอาฉาก "สี่ผิงปะทะสื่อเข่อฝ่า" มาเขียนให้คนอ่าน อ่านแต่ไม่กล้าเอา "สี่ผิงปะทะเจิ้งเฉิงกง" มาหรือว่าคนเขียนกลัวอะไรกันแน่?
นอกจากนี้ยังมีตอนก่อนจบของภาคนี้ที่ผมโคตรขัดใจเป็นอันดับสองอย่าง "กองกำลังต้าซุ่น 40,000 นายถูกล้อมโดย กองกำลังหนานหมิง" แต่ Yes Crocodile!!! ฮุยสงเมาเล่นให้สี่ผิงใช้ ยุทธการเต็ด (ยุทธการที่เวียดนามเหนือใช้กับทหารสหรัฐในช่วงสงครามเย็น) ในการตอบโต้กับกองกำลังหนานหมิง และเจือกได้ผลด้วย!!!! WTF!!! คือไม่รู้ว่ารัฐบาลในช่วงนั้นคิดอะไรอยู่ความจริงวิธีการตอบโต้โดยให้ประชาชนมีอีกหลายวิธีเช่น กล่าวยอมรับความจริงกับประชาชนเหมือนกับตอนที่หวงสือปราบโจรสลัดก็ได้ เป็นต้นแต่สิ่งที่โคตรขัดใจอีกอย่างนึงก็คือ สี่ผิงเหลือทหาร 40,000 นายก่อนโดนฃ้อมยังไง หลังยอมจำนนเสร็จก็เหลือทหาร 40,000 นายเท่านั้นแบบเป็ะโดยไม่เสียกำลังพลไม่แม้แต่คนเดียว คืออะไร?หรือสี่ผิงเปิดสูตร whosyourdaddy เหรอ(ฮา)? ตือแบบยุทธภัณฑ์พวกปืนนี้แทบใช้ไม่ได้ แถมอยู่สภาพอากาศที่เลวร้ายไม่แพ้ฝ่ายตรงข้าม แต่กลับชนะในยุทธการโดยไม่เสียกำลังพล? เขร้!!! ผมว่าถ้านายพลเวียดนามเหนือเห็นแบบนี้คงอยากกราบ สี่ผิงเป็น "ซือแป๋" แทบไม่ทัน
2. ควมน่ารำคาญและความหน้าด้านของสี่ผิง
- บอกเลยว่าภ้าภาคแรกตัวละครที่ผมรำคาญมากที่สุดคือ "คุณหนูรองตระกูลเจ้า" (ซึ่งบัดนี้ผมยังไม่รู้เลยว่านางชื่ออะไร?) จนมาภาคนี้ตัวละครที่น่ารำคาญที่สุดก็คือ พระเอกของเรื่องนี้อย่าง "สี่ผิง" นี้เองงงง
จากตอนต้นเรื่องที่สี่ผิงมาเข้ากับทางฉ่วงอ๋องเพื่อต้องการแก้แค้นเท่านั้น แต่ต่อมาความคิดเริ่มเปลี่ยนไปเพราะต้องการให้ชาวบ้านกินดีอยู่ดี โดยกะคิดว่าตนเองพอเสร็จก็จะเร้นกายแล้วปล่อยให้ราชสำนักต้าซุ่น ดูแลบ้านเมืองเพราะคิดว่าฉ่วงอ๋องเป็นฮ่องเต้ที่ดี ส่วนตัวเองนั้นรบเป็นอย่างเดียว รบเสร็จกลับบ้านทำไร่ไถนาเป็นหมอดีกว่าสบายอุราชะล่ะล่าาาาา
คือ...ไหนบอกว่าจะช่วยชาวบ้านไง ทำไมถึงเร้นตัวละ? แบบนี้แทบไม่ต่างอะไรกับโยนเรื่องราวทั้งหมดไปให้พวกขุนนางบุ๋นทำเองหมด แบบสมัยหมิงละ? นั้นคือเรื่องความหน้าด้านของสี่ผิงข้อแรก
ข้อที่สอง คือเจ้าตัวชอบโม้ว่า "เก่งเรื่องการพัฒนาต่อยอด" โธ่เอ้ย!!! เก่งในการลอกเลียนแบบจากหวงสือล่ะไม่ว่า ที่ตัวเองคิดและทำนั้นเอาแม่มมาจากในตำราที่ให้ลูกสาวของหวงสือขโมยมาให้ทั้งนั้น และเรื่องที่เสนอให้ปรับเปลี่ยนเอาระบอบของหนานหมิงไปใช้อีกล่ะ นี้ก็เป็นการลอกเลียนแบบหวงสือ(ซึ่งหวงสือก็ลอกมจากผู้อื่นมาเช่นกัน) แบบหน้าด้านๆอย่างไม่รู้เขาและรู้เราเลย นี้เหรอคือสิ่งที่ สี่ผิง อยากจะ "Make Dashun Great Again!!!" นะโธ่เอ้ย!!!! จากหลักฐานที่กล่าวมาทั้งหมด สี่ผิงแทบไม่ได้เก่ง "พัฒนาต่อยอด" ตามที่ตัวเองโม้เลย ถ้าเอาที่เก่งจริง สี่ผิงเก่งในเรื่องการ "ลอกเลียนแบบ" มากกว่า (ควมจริงหวงสือก็เก่งเรื่องนี้นะ เพียงแต่ไม่ได้โม้เป็นเรื่องเป็นราวแบบสี่ผิงก็เท่านั้น)
และข้อสุดท้ายที่สุดของความหน้าด้าน ก็คือตอนที่เจราจาของนิรโทษกรรม คือตอนนั้นผมก็เข้าใจว่าหมามันจนตรอกและคงต้องเอาทุกทาง และผมจะมาคัดเอาประเด็ดมาดังนี้ครับ
- สี่ผิงเงยหน้าขึ้นกล่าวว่า "หากว่าเราปฎิเสธนิรโทษ ผู้ใต้บังคับบัญชาของเราจะได้รับนิรโทษหรือไม่?" ก่อนที่เฮ่อเฟยหู่จะตอบคำ สี่ผิงชิงกล่าวว่า "ชีวิตของเราสมควรมีค่ามากกว่าไพร่พลกระมั้ง?" นี้เป็นหนึ่งประโยคที่ผมคิดว่าคนที่พูดแบบนี้ได้นี้ มีความหนาของหน้าไม่เบา เจรจาได้แบบเหมือนกับว่าตนเองเป็นต่อซะเต็มประดา แบบไม่รู้จะหาคำไหนมาด่าดี
- "...พวกเราตั้งปณิธานล้มล้างหมิง สร้างโลกแห่งความสดใสสันติสุข โลกที่ผู้ยากไร้ไม่ต้องอดอยาก เด็กเล็กได้รับการเลี้ยงดู คนชราได้รับการปลูกฝัง" ถ้าผมเป็นเฮ่อเฟยหู่ตอนนั้น ผมคงตอกหน้าสี่ผิงกลับไปดังนี้ "อย่างนั้นหรือ? ข้าได้ยินมาว่าพวกท่านเมื่อเข้าปักกิ่งเปลี่ยนราชวงศ์ก็กระทำตัวได้ไม่ต่างจากราชสำนักในยุคก่อน ทั้งแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น ลุแก่อำนาจแม้แต่ตัวท่านยังโดนเลยไม่ใช่เหรอ ส่วนท่านเมื่อเสร็จกิจท่านก็พยายามเร้นกาย โดยทอดทิ้งพรรคพวกของท่าน ให้ทำงานกันเองตามยถากรรม และดูต้าซุ่นท่านสิ ประชาชนถูกเอารัดเอาเปรียบ เด็กเล็กไม่ได้รับการดูแล คนชราตายไร้ที่ฝัง"
3. การหาทางลงให้กับสี่ผิงและพรรคพวก
- นอกจากฉากละครงิ้วตอน "ยุทธการเต็ตฉบับ สี่ผิงแล้วยังมีงิ้วอีกฉากหนึ่งที่ผมคิดว่า "จะมีไปทำไม หรือมีไว้เพื่อเชิดชูสี่ผิงเหรอว่าเก่งเทพแค่ไหน" อย่างตอนที่สี่ผิงพาพรรคพวกสู้กับ หวงไหน่หมิง ก่อนจะลงเรือไปอเมริกาเพื่อที่จะรักษา "ธงเชลย" ที่ตัวเองยึดจากการทำศึกมาและผลนั้นผู้ชนะก็คือ.................................................... สี่ผิงจ้าาาา (แทบไม่ต้องเดาให้เมื่อยเชลล์สมองแต่อย่างใดเลย) แถมก่อนไปอเมริกาทางรัฐบาลฉีนี้โคตรใจป๋ามาก มอบเรืออย่างดีแถมให้บุคคลากรที่มีความรู้อย่างช่างฝีมือตามไปให้อีก แถมด้วยการให้เทคโนโลยีอย่าง เครื่องจักรไอน้ำไปด้วย แบบ...ถ้าไม่บอกว่าสี่ผิงถูกเนรเทศผมนึกว่าสี่ผิงได้รับภารกิจไปสำรวจหาดินแดนใหม่มาให้กับรัฐบาลเสียอีก แถมพวกรัฐบาลนี้ก็ไม่กลัวเขาจะหวนกลับมาแก้แค้นอะไรบ้างเลยเหรอ?
และนี้ก็คือสิ่งที่ผมคิดและผิดหวังกับนิยายเรื่องนี้มาก ความจริงยังมีอีกเพียบทั้งเรื่องการบิดเบือนประวัติศาสตร์ทั้งจีนและเทศแบบ ประจานให้รู้เลยว่าคนเขียน ทำงานได้ "ชุ่ย" แค่ไหน และวางพล็อตเรื่องได้แย่กว่าภาคแรกอีก ถ้ามีการให้คะแนนภาคนี้สมควรได้ไปแค่ 0.5/10 ให้เพราะความพยายามในการเข็นเรื่องนี้และการแปลของ อาจารย์น.นพรัตน์ เท่านั้นครับ