นักพูดคือนักศิลปะคัดคำมามาใช้ แต่เลือกนำเสนอแนวนี้ก็คงต้องคอยดูผลลัพธิ์กับอนาคตเป็นไง...ตอบตอนนี้ยาก...แต่ก็เป็นกำลังใจให้เพราะเชื่อว่าคนทั่วประเทศคิดไม่เหมือนกันหมดหรอก แต่เล่นกับความรู้สึกตรงๆแบบนี้คงลบมากกว่าบวกถึงแม้ข้อเท็จจริงมีบ้างไม่มีบ้าง
หัวกระทู้นี้ : สืบเนื่องจากในฟีต Facebook ผมมีแต่ข่าวนี้ แรก ๆ ดูไม่ค่อยจะสนใจ พอเลื่อนไปเลื่อนมา มันมีทั้งกระแสโจมตีอย่างธรรมดาๆ จนถึงการโจมตีอย่างหนักหน่วง ถึงขั้นอาจจะเป็นชนวนในการจุดไฟลุกขึ้นอีกครั้ง อย่างงั้นแหละ..
ผมก็ไม่รู้จะเรียบเรียงเหตุการณ์นี้ยังไงน่ะ เอาเป็นว่า ผมเองก็รู้เท่าที่รู้ และนำมาวิเคราะห์กับกระแสดราม่า ณ ตอนนี้ไว้อย่างงงี้ละกัน
เธอเป็นนักเล่าเรื่อง ครับ ไม่ใช่นักพูด เช่นเดียวกับบางอาชีพเป็นนักเล่าข่าว แต่ไม่ใช่นักข่าวครับ ด้วยความที่เป็นนักเล่าเรื่อง เรื่องทั้งหมดเธอจึงขาดประสบการณ์ร่วม เธอก็เกิดทีหลังเหมือนกับที่เธอกล่าวถึงคนอื่น เพราะความที่เธอเกิดทีหลัง เธอจึงไม่เคยได้ติดตามพระองค์ ไม่ได้รับใช้พระองค์โดยตรง
ประสบการ์ของเธอจึงเป็นประสบการโดยอ้อม คือ ศึกษาจากพระราชกรณียกิจ ศึกษาจากโครงการในพระราชดำริ จากข้อมูลต่างๆ แล้วมาเล่าเรื่อง
เธอเคยออกคลิปช่วงแรกๆ ประมาณนาทีที่ 3.27
https://www.youtube.com/watch?v=IqJfqlTmw2Y
นาทีที่ 3.27 น้องเบสท์เล่าว่าเธอไม่เข้าใจว่าแม่จะเปิดข่าวในราชสำนักทำไม วันนั้นเธอยังไม่รู้ด้วยว่าพระองค์ท่านทำงานหนักเพื่อใคร เธอเองก็สารภาพว่า อยากได้รางวัล แต่เนื่องจากจับฉลากได้เรื่องที่ต้องเล่าถึงในหลวง จากเหตุการณ์นั้น เธอจึงค้นคว้า แล้วมาเล่าเรื่อง ก่อนค้นคว้าเธออยู่ที่ไหนในประเทศไทยครับ นักเรียนประถม มัธยมเขาทำโครงงานพระราชกรณียกิจมาไม่น้อย น้องเบสท์ หยุดพูดซักระยะหนึ่ง แล้วลงไปดูน้องๆ ตามโรงเรียนต่างจังหวัดว่าเขารู้เรื่องของพระองค์ท่านมากน้อยเพียงใด น้องเบสท์ว่า เด็กชายคนนี้ ควรได้รางวัลแบบน้องเบสท์หรือไม่ ครับ
https://www.youtube.com/watch?v=EcJkHnXv26U
หรือ ชมน้องคนนี้ว่าเธอรู้ความในอายุเท่านี้ แล้วน้องเบสท์รู้ความเรื่องในหลวงอายุเท่าไหร่ครับ
https://www.youtube.com/watch?v=5mOd1VzMpWU
หยุดเล่าเรื่องแล้วมาเป็นอาสาสมัครในโครงการพระราชดำริ ลงไปทำงานเพื่อพระองค์ท่านก็ได้อีกทางหนึ่งครับ รับใช้พระองค์ท่าน มีหลายเส้นทางครับ
นี่คือส่วนหนึ่งของการตั้งคำถามในแต่ละวัน แต่ละเพจเท่าที่ผมเจอมา
ส่วนตัวแล้วผมไม่ได้ติดใจเบส-ตุ๊กกี้หรืออะไร ทุกคนมีมุมมองของแต่ละคน มีสิทธิเสรีภาพในระบอบประชาธิปไตย์ จะให้เป็นแบบนี้กันหรอ ใครก้อได้งั้นเหรอ ที่จะออกมาพูด มายุ มาแหย่ ให้เกิดความรุนแรงขึ้น
จากกรณี หมอนพ.กัมปนาท ซัดช๊อตต่อช๊อตกรณีดรามา"เบส-ตุ๊กกี้"...กระแทกคำพูดแบบเอาให้หายข้องใจ แนะคนไทยจงหนักแน่นและมั่นคง
วันที่ 21 พฤศจิกายน 2559 เฟซบุ๊ก นพ.กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล (Kampanart Tansithabudhkun, M.D.)จิตแพทย์ชื่อดัง กล่าวถึงกรณีดราม่าที่เกิดขึ้นระหว่าง ตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้าน และเบส อรพิมพ์ นักพูดชื่อดัง ถึงข้อผิดพลาดของฝ่ายต่าง ๆ พร้อมแนะนำให้คนรับสารให้มีความหนักแน่นและมั่นคง อย่าไปหลงตัวเสี้ยม รายละเอียดดังนี้...
ผมนั่งเสพข่าวดราม่า เรื่องตัวเสี้ยม ยุแหย่ให้แตกแยก ด่ากันไปมา
ระหว่างฝั่งคุณเบสท์กับฝั่งคุณตุ๊กกี้มาสองสามวันแล้ว เลยสรุปและมีข้อสงสัยได้ว่า...
1.ไม่เข้าใจว่าทำไม การจะให้คนรักในหลวงรัชกาลที่ ๙ ชื่นชมในพระบารมีและคุณงามความดีของพระองค์ท่าน จะต้องมีคนพูด เพื่อสร้างแรงบันดาลใจด้วย ผมเห็นตาสีตาสาชาวบ้านมากมาย ใช้โซเชียลมีเดียก็ไม่เป็น อยู่ ตามป่าตามเขา ทำไมเขาถึงมีแรงบันดาลใจที่ทำตามพระองค์ท่านได้และรักพระองค์ท่านอย่างมากมายเวลาฟังคนเหล่านี้ให้สัมภาษณ์ในสารคดีก็รู้สึกประทับใจและชื่นชมไม่เห็นต้องมีคนมา build สร้างอารมณ์อะไรมากมายล่ะครับ แต่ถ้าใครจะใช้เป็นเครื่องมือทำมาหากิน ผมก็ไม่ว่าอะไร เพราะไม่ได้ทำให้ผมเดือดร้อน
2. ในฐานะ ที่เป็นคนทำงานให้คำปรึกษา และสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ป่วยในการแก้ปัญหาชีวิตต่างๆ การใช้คำพูดของผม ไม่มีเรื่องของดราม่าบีบน้ำตาร้องไห้ใดๆทั้งสิ้น...เพราะการทำแบบนั้น ไม่เกิดผลดีในระยะยาวใดๆในการปรับพฤติกรรมหรือความคิดให้ผู้ป่วย การพูดหรือทำจิตบำบัดนั้น ต้องทำให้คนไข้เกิด insight คือการรับรู้และตระหนักอย่างแท้จริง จึงจะได้ผล และทำครั้งเดียว ไม่เวิร์ค ต่อให้พูดปากเปียกปากแฉะสามชั่วโมง ก็ไม่ได้ผล เพราะต้องฟังและทำการบ้าน ปฏิบัติจริงๆและมีการประเมินผลเป็นระยะๆด้วย บางเรื่องอาจจะพูดสร้างแรงบันดาลใจได้ เช่นเรื่องการต่อสู้ชีวิตหรือแม้แต่การหาเสียงของนักการเมือง แต่เรื่องคุณงามความดีของบุคคล ผมไม่เห็นความจำเป็น ของดีคนย่อมเห็นย่อมตระหนักได้ ใครไม่เห็นก็ช่างเขา ช่วยไม่ได้ เราจะไปบังคับใครให้ชอบให้รักอย่างเรา มันไม่ใช่เรื่องง่ายหรอก...ยกเว้นหลอกตัวเองกันไปวันๆ
3.การเป็นนักพูดที่ดี ต้องผ่านความผิดพลาดมาก่อน หมอก็ผ่านความผิดพลาดมาเช่นกัน และการทำงานของเราคนต้องท้วงติงและวิพากษ์วิจารณ์ได้ ไม่มีใครอยู่ดีๆก็เก่งเลย ดังนั้นความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆ ก็แก้ไข ถ้าใครเข้าใจผิดก็ชี้แจง อย่าตอบโต้ โดยเฉพาะตอบโต้แบบดราม่า คนจะหมั่นไส้และเอาไปบิดเบือนให้แรงขึ้นครับ
4.คนที่จับประเด็นไปบิดเบือนนั้น จะไม่มีพลังอะไรเลย ถ้าคนรับสาส์นหนักแน่นพอ....คุณกลัวอะไรกันครับ ถ้าคุณรักพ่อจากใจจริง ใครพูดใครพลาดเฉียดมา ต้องโกรธต้องหวั่นไหวกันถึงขนาดโพสท์ด่า ตำหนิ ตอบโต้รุนแรงแจ้งความจับ และขึ้นป้ายต่อต้านกันเลยหรือ.....มันแสดงให้เห็นถึงการขาดความหนักแน่นและหูเบามากของคนไทยบางคน คนประเภทนี้แหละจะตกเป็นเหยื่อของการยุแหย่ของพวกคนเลว...คุณลองดูสิ คนที่น่าจะอายและเจ็บใจมากกว่าคือผมครับ ผมเป็นคนใต้ แกนนำล้มเจ้า บิดเบือน ก้าวร้าวทั้งหลาย เป็นคนมาจากภาคใต้เกือบทั้งหมด ผมยังด่าสาปแช่งคนพวกนี้เลยครับ และไม่ได้หวั่นไหวกับการ
กล่าวหาคนใต้ด้วย
5.คุณตุ๊กกี้ตอนนี้ก็กลายเป็นเหยื่อของคนจำนวนมาก และคนบางประเภทที่ไปจุดประกายสร้างกระแสความดังให้ตัวเอง แต่เอาความเกลียดชังโยนใส่ให้คุณตุ๊กกี้....จริงอยู่ จุดเริ่มต้นก็มาจากการที่คุณตุ๊กกี้หวั่นไหวเกินไป และการเป็นคนดังของคุณไปโพสท์ตอบโต้(ซึ่งผมก็ไม่เห็นว่ามันรุนแรงอะไร และก็ไม่ได้หยาบคายหรือปลุกระดมอะไรด้วย) แต่อาจจะไม่ค่อยดีนัก เพราะมันมีพวกอยากดัง อยากได้พื้นที่บนสื่อ คุณเลยตกเป็นเหยื่อไปด้วยอีกคน....ถามหน่อยสิครับ.....สรุปว่าคุณตุ๊กกี้เป็นเสื้อแดง? ผมยังไม่เคยรู้เลยสักนิด....แล้วสมมติถ้าคุณตุ๊กกี้เป็นเสื้อแดง แต่รักในหลวง...คุณตุ๊กกี้ผิด??? คือคุณตุ๊กกี้ต้องเกลียดในหลวง ถึงจะเหมาะสมใช่ป่ะครับ...ตรรกะอะไรของคนบางคนครับ
....สรุปอีกทีว่า ผู้หญิงทั้งสองคนนี้มีความผิดพลาดอะไรบางอย่าง ที่เป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่ได้ใหญ่โตอะไร แล้วก็มีคนกล่าวหาว่ามีตัวเสี้ยม....ซึ่งต่างฝ่ายต่างก็โยนความผิดใส่กันว่าคือตัวเสี้ยม.....ผมบอกเลยว่า เลวพอกัน! ทั้งพวกจ้องสร้างความปั่นป่วนให้ประเทศชาติ และพวกอ้างรักเจ้าแบบล็อคสเป็ค คือใครแตะเรื่องเจ้าไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว อารมณ์จะพุ่งเตรียมด่ากันตลอดเวลา.....นี่ขอถามหน่อยเถอะ เวลาพวกชอบล้มเจ้ามันด่าว่า "รักพ่อจนเสียสติ" นี่ก็โกรธกันควันออกหู....แต่ในทางปฏิบัติ ก็ทำอย่างที่เขาด่า....สรุปว่า ฉาบฉวยดราม่าพอกันแหละครับ.
ปล.มันมีสัตว์บางประเภทนะครับ ที่ชอบเกาะชายกระโปรงผู้หญิง เอาไปยุแหย่สร้างความดังและสร้างความแตกแยกในสังคม โดยอ้างว่า เพื่อปกป้องภาคตัวเองบ้าง ปกป้องชาติตัวเองบ้าง หรือแม้กระทั่งอ้างเอาพระองค์ท่านมาเป็นองค์ประกอบใน
การดราม่าเพื่อด่าคนอื่นบ้าง...มันเป็นสัตว์ประเภทไหนกันครับ ช่วยทายหน่อย ผมเห็นมีหลายเพจเลย รวมถึงเพจที่ผมตามกดไลค์ให้มาเป็นปีๆ วันนี้เห็นธาตุแท้ออกมาหมด....ความศรัทธาเลยหดหายไม่เหลือ....เหลือแต่ความน่าเบื่อน่าชังจริงๆ.
....สิ้นรัชกาลที่ ๙ ไปแล้ว คนไทยทั้งหลาย อยากสิ้นชาติกันไปด้วยใช่ไหมครับ....มันน่าละอายและน่าสมเพชมากถ้าเราจะสิ้นชาติ เพราะเราแตกความสามัคคีกัน....พ่อเตือนแล้วเตือนอีกมิใช่เหรอครับ แต่ไม่ฟัง ไม่สน แค่เดือนเดียวยังกัดกันขนาดนี้ ครบปี นี่ผมไม่อยากคิดเลยจริงๆ.....ดังนั้น
ต่อมาในวันเดียวกันนั้นก็มีข่าว เกียรติ กิจเจริญ มีชื่อเล่นว่า กิ๊ก หรือที่นิยมเรียกกันว่า ซูโม่กิ๊ก ดารานักแสดงและพิธีกรชาวไทย ได้ออกมาเขียนข้อความผ่านเฟซบุ๊ก กรณีมีคลิป เบสท์ อรพิมพ์ รักษาผล พูดดูถูกคนอิสาน ว่าไม่รักในหลวง ซึ่งทำให้เกิดกระแสวิพาก์วิจารณ์ ทั้งเห็นใจที่ เบสท์ ถูกต่อว่า ตำหนิ และมีการโจมตีต่างๆอย่างมากมาย โดยเฉพาะประชาชนชาวจังหวัดภาคอีสาน โดยข้อความที่ดารานักแสดงชื่อดัง เกียรติ กิจเกียรติ หรือ ซูโม่กิ๊ก โพสต์มีดังนี้
ทั้งนี้ข้อความของ ซูโม่กิ๊ก ยังมีการแชร์ต่อ และนำมาไว้ที่เฟซบุ๊ก ชื่อว่า ขบวนการเสรีไทยเฟซบุ๊ก ซึ่งก็มีเนื้อหา ที่โพสต์ต่อดังนี้
ขบวนการเสรีไทยเฟซบุ๊ค เดือนที่แล้วคนไทยยังมีรอยยิ้ม บนคราบน้ำตาในความสมานสามัคคี แล้วตอนนี้มันเกิดไรขึ้น สติ สติ สติ คิด วิเคราะห์ แยกแยะ
อย่างไรก็ตามในวันนี้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. โดยพันเอก ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษกคสช. ก็ออกมา กล่าวในกรณีนี้ด้วยว่า " คสช.มีหน้าที่ปกป้องสถาบัน การเชิญเบสท์ มาพูดก็เพื่อให้ข้อคิดที่ดีต่อสถาบัน และเราก็ไม่ได้เชิญแค่เบสท์ เท่านั้น ยังมีการเชิญบุคคลอื่นๆอีกด้วย ตอนนี้บ้านเมืองกำลังสงบเรียบเรียบ และก็อยู่ในช่วงของงานพระบรมศพ แต่ก็เกิดประเด็นนี้ขึ้นมา มีการนำไปสร้างความแตกแยก ขอให้ประชาชนไม่เฉพาะคนอีสาน เมื่อได้ฟัง ได้อ่านเรื่องนี้จากสื่อ โดยเฉพาะโลกออนไลน์ ก็ขอให้มีสติ คิดไตร่ตรองดีๆ อันไหนจริง อันไหนลวง อย่าเพิ่งใช้ความโกรธ เกลียดกัน อย่าตกเป็นเครื่องมือของคนบางกลุ่ม "
ล่าสุดครับ หลักจากมีเรื่องราวดราม่าต่างๆนาๆ มาเป็นเวลาหลายวันแล้ว สำหรับเรื่องของ เบส อรพิมพ์ ที่นับว่ามีกระแสแรงสุดๆในตอนนี้ ล่าสุดได้มีความเคลื่อนไหวของผู้จัดจ้าง เบส อรพิมพ์ โดยมีรายละเอียดดีงนี้
ผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ สุรวุฒิ เกิดชัย ได้โพสข้อความโดยมีรายละเอียดดังนี้
ในฐานะผมที่เคยเป็นผู้จัดจ้างคุณเบส อรพิมพ์ จึงขออนุญาตโต้แย้งพระรูปนึงที่โพสต์อัตราการจ้างว่าชั่วโมงละเท่านั้นเท่านี้ ผมขอชี้แจงรายละเอียดอัตราจ้างการพูดของเธอเป็นเวลาครั้งละ 1ชั่วโมง 45นาที เป็นจำนวนเงิน 35,000บาท และที่สำคัญเธอจะนำไปทำกิจกรรมเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางของทีมงานเพื่อทำโครงการพูดฟรีให้นักเรียน77จังหวัดทั่วประเทศ ได้รักและภาคภูมิใจในสถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ รวมทั้งปลุกจิตสำนึกในความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ อีกทั้งสร้างแรงบันดาลใจในการทำความดีสร้างสรรค์สังคม ซึ่งในส่วนการจ้างของผมนั้น คุณเบสได้มอบค่าจ้างของเธอทั้งหมดให้ท่านผู้ว่าฯชลบุรี เพื่อใช้กิจกรรมการกุศลและสาธารณะประโยชน์ของชาวชลบุรีครับ
#ไม่รู้อย่าชี้ #เช็คก่อนแชร์ #ชัวร์แล้วค่อยแชร์ #โปรดใช้วิจารณญาณในการรับสื่อด้วยครับ
สุดท้ายนี้ ผมไม่มีบทสรุปอะไรที่จะหยิบยก เอาเป็นว่าคนไทย 99% เป็นผู้รู้ รู้ทุกเรื่อง ก็ไปคิดกันเองแล้วกันครับ ..
โยงไป โยงมา ไม่จบไม่สิ้น กรณีนักพูด เบส อรพิมพ์ รักษาผล
หัวกระทู้นี้ : สืบเนื่องจากในฟีต Facebook ผมมีแต่ข่าวนี้ แรก ๆ ดูไม่ค่อยจะสนใจ พอเลื่อนไปเลื่อนมา มันมีทั้งกระแสโจมตีอย่างธรรมดาๆ จนถึงการโจมตีอย่างหนักหน่วง ถึงขั้นอาจจะเป็นชนวนในการจุดไฟลุกขึ้นอีกครั้ง อย่างงั้นแหละ..
ผมก็ไม่รู้จะเรียบเรียงเหตุการณ์นี้ยังไงน่ะ เอาเป็นว่า ผมเองก็รู้เท่าที่รู้ และนำมาวิเคราะห์กับกระแสดราม่า ณ ตอนนี้ไว้อย่างงงี้ละกัน
เธอเป็นนักเล่าเรื่อง ครับ ไม่ใช่นักพูด เช่นเดียวกับบางอาชีพเป็นนักเล่าข่าว แต่ไม่ใช่นักข่าวครับ ด้วยความที่เป็นนักเล่าเรื่อง เรื่องทั้งหมดเธอจึงขาดประสบการณ์ร่วม เธอก็เกิดทีหลังเหมือนกับที่เธอกล่าวถึงคนอื่น เพราะความที่เธอเกิดทีหลัง เธอจึงไม่เคยได้ติดตามพระองค์ ไม่ได้รับใช้พระองค์โดยตรง
ประสบการ์ของเธอจึงเป็นประสบการโดยอ้อม คือ ศึกษาจากพระราชกรณียกิจ ศึกษาจากโครงการในพระราชดำริ จากข้อมูลต่างๆ แล้วมาเล่าเรื่อง
เธอเคยออกคลิปช่วงแรกๆ ประมาณนาทีที่ 3.27
https://www.youtube.com/watch?v=IqJfqlTmw2Y
นาทีที่ 3.27 น้องเบสท์เล่าว่าเธอไม่เข้าใจว่าแม่จะเปิดข่าวในราชสำนักทำไม วันนั้นเธอยังไม่รู้ด้วยว่าพระองค์ท่านทำงานหนักเพื่อใคร เธอเองก็สารภาพว่า อยากได้รางวัล แต่เนื่องจากจับฉลากได้เรื่องที่ต้องเล่าถึงในหลวง จากเหตุการณ์นั้น เธอจึงค้นคว้า แล้วมาเล่าเรื่อง ก่อนค้นคว้าเธออยู่ที่ไหนในประเทศไทยครับ นักเรียนประถม มัธยมเขาทำโครงงานพระราชกรณียกิจมาไม่น้อย น้องเบสท์ หยุดพูดซักระยะหนึ่ง แล้วลงไปดูน้องๆ ตามโรงเรียนต่างจังหวัดว่าเขารู้เรื่องของพระองค์ท่านมากน้อยเพียงใด น้องเบสท์ว่า เด็กชายคนนี้ ควรได้รางวัลแบบน้องเบสท์หรือไม่ ครับ
https://www.youtube.com/watch?v=EcJkHnXv26U
หรือ ชมน้องคนนี้ว่าเธอรู้ความในอายุเท่านี้ แล้วน้องเบสท์รู้ความเรื่องในหลวงอายุเท่าไหร่ครับ
https://www.youtube.com/watch?v=5mOd1VzMpWU
หยุดเล่าเรื่องแล้วมาเป็นอาสาสมัครในโครงการพระราชดำริ ลงไปทำงานเพื่อพระองค์ท่านก็ได้อีกทางหนึ่งครับ รับใช้พระองค์ท่าน มีหลายเส้นทางครับ
นี่คือส่วนหนึ่งของการตั้งคำถามในแต่ละวัน แต่ละเพจเท่าที่ผมเจอมา
ส่วนตัวแล้วผมไม่ได้ติดใจเบส-ตุ๊กกี้หรืออะไร ทุกคนมีมุมมองของแต่ละคน มีสิทธิเสรีภาพในระบอบประชาธิปไตย์ จะให้เป็นแบบนี้กันหรอ ใครก้อได้งั้นเหรอ ที่จะออกมาพูด มายุ มาแหย่ ให้เกิดความรุนแรงขึ้น
จากกรณี หมอนพ.กัมปนาท ซัดช๊อตต่อช๊อตกรณีดรามา"เบส-ตุ๊กกี้"...กระแทกคำพูดแบบเอาให้หายข้องใจ แนะคนไทยจงหนักแน่นและมั่นคง
วันที่ 21 พฤศจิกายน 2559 เฟซบุ๊ก นพ.กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล (Kampanart Tansithabudhkun, M.D.)จิตแพทย์ชื่อดัง กล่าวถึงกรณีดราม่าที่เกิดขึ้นระหว่าง ตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้าน และเบส อรพิมพ์ นักพูดชื่อดัง ถึงข้อผิดพลาดของฝ่ายต่าง ๆ พร้อมแนะนำให้คนรับสารให้มีความหนักแน่นและมั่นคง อย่าไปหลงตัวเสี้ยม รายละเอียดดังนี้...
ผมนั่งเสพข่าวดราม่า เรื่องตัวเสี้ยม ยุแหย่ให้แตกแยก ด่ากันไปมา
ระหว่างฝั่งคุณเบสท์กับฝั่งคุณตุ๊กกี้มาสองสามวันแล้ว เลยสรุปและมีข้อสงสัยได้ว่า...
1.ไม่เข้าใจว่าทำไม การจะให้คนรักในหลวงรัชกาลที่ ๙ ชื่นชมในพระบารมีและคุณงามความดีของพระองค์ท่าน จะต้องมีคนพูด เพื่อสร้างแรงบันดาลใจด้วย ผมเห็นตาสีตาสาชาวบ้านมากมาย ใช้โซเชียลมีเดียก็ไม่เป็น อยู่ ตามป่าตามเขา ทำไมเขาถึงมีแรงบันดาลใจที่ทำตามพระองค์ท่านได้และรักพระองค์ท่านอย่างมากมายเวลาฟังคนเหล่านี้ให้สัมภาษณ์ในสารคดีก็รู้สึกประทับใจและชื่นชมไม่เห็นต้องมีคนมา build สร้างอารมณ์อะไรมากมายล่ะครับ แต่ถ้าใครจะใช้เป็นเครื่องมือทำมาหากิน ผมก็ไม่ว่าอะไร เพราะไม่ได้ทำให้ผมเดือดร้อน
2. ในฐานะ ที่เป็นคนทำงานให้คำปรึกษา และสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ป่วยในการแก้ปัญหาชีวิตต่างๆ การใช้คำพูดของผม ไม่มีเรื่องของดราม่าบีบน้ำตาร้องไห้ใดๆทั้งสิ้น...เพราะการทำแบบนั้น ไม่เกิดผลดีในระยะยาวใดๆในการปรับพฤติกรรมหรือความคิดให้ผู้ป่วย การพูดหรือทำจิตบำบัดนั้น ต้องทำให้คนไข้เกิด insight คือการรับรู้และตระหนักอย่างแท้จริง จึงจะได้ผล และทำครั้งเดียว ไม่เวิร์ค ต่อให้พูดปากเปียกปากแฉะสามชั่วโมง ก็ไม่ได้ผล เพราะต้องฟังและทำการบ้าน ปฏิบัติจริงๆและมีการประเมินผลเป็นระยะๆด้วย บางเรื่องอาจจะพูดสร้างแรงบันดาลใจได้ เช่นเรื่องการต่อสู้ชีวิตหรือแม้แต่การหาเสียงของนักการเมือง แต่เรื่องคุณงามความดีของบุคคล ผมไม่เห็นความจำเป็น ของดีคนย่อมเห็นย่อมตระหนักได้ ใครไม่เห็นก็ช่างเขา ช่วยไม่ได้ เราจะไปบังคับใครให้ชอบให้รักอย่างเรา มันไม่ใช่เรื่องง่ายหรอก...ยกเว้นหลอกตัวเองกันไปวันๆ
3.การเป็นนักพูดที่ดี ต้องผ่านความผิดพลาดมาก่อน หมอก็ผ่านความผิดพลาดมาเช่นกัน และการทำงานของเราคนต้องท้วงติงและวิพากษ์วิจารณ์ได้ ไม่มีใครอยู่ดีๆก็เก่งเลย ดังนั้นความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆ ก็แก้ไข ถ้าใครเข้าใจผิดก็ชี้แจง อย่าตอบโต้ โดยเฉพาะตอบโต้แบบดราม่า คนจะหมั่นไส้และเอาไปบิดเบือนให้แรงขึ้นครับ
4.คนที่จับประเด็นไปบิดเบือนนั้น จะไม่มีพลังอะไรเลย ถ้าคนรับสาส์นหนักแน่นพอ....คุณกลัวอะไรกันครับ ถ้าคุณรักพ่อจากใจจริง ใครพูดใครพลาดเฉียดมา ต้องโกรธต้องหวั่นไหวกันถึงขนาดโพสท์ด่า ตำหนิ ตอบโต้รุนแรงแจ้งความจับ และขึ้นป้ายต่อต้านกันเลยหรือ.....มันแสดงให้เห็นถึงการขาดความหนักแน่นและหูเบามากของคนไทยบางคน คนประเภทนี้แหละจะตกเป็นเหยื่อของการยุแหย่ของพวกคนเลว...คุณลองดูสิ คนที่น่าจะอายและเจ็บใจมากกว่าคือผมครับ ผมเป็นคนใต้ แกนนำล้มเจ้า บิดเบือน ก้าวร้าวทั้งหลาย เป็นคนมาจากภาคใต้เกือบทั้งหมด ผมยังด่าสาปแช่งคนพวกนี้เลยครับ และไม่ได้หวั่นไหวกับการ
กล่าวหาคนใต้ด้วย
5.คุณตุ๊กกี้ตอนนี้ก็กลายเป็นเหยื่อของคนจำนวนมาก และคนบางประเภทที่ไปจุดประกายสร้างกระแสความดังให้ตัวเอง แต่เอาความเกลียดชังโยนใส่ให้คุณตุ๊กกี้....จริงอยู่ จุดเริ่มต้นก็มาจากการที่คุณตุ๊กกี้หวั่นไหวเกินไป และการเป็นคนดังของคุณไปโพสท์ตอบโต้(ซึ่งผมก็ไม่เห็นว่ามันรุนแรงอะไร และก็ไม่ได้หยาบคายหรือปลุกระดมอะไรด้วย) แต่อาจจะไม่ค่อยดีนัก เพราะมันมีพวกอยากดัง อยากได้พื้นที่บนสื่อ คุณเลยตกเป็นเหยื่อไปด้วยอีกคน....ถามหน่อยสิครับ.....สรุปว่าคุณตุ๊กกี้เป็นเสื้อแดง? ผมยังไม่เคยรู้เลยสักนิด....แล้วสมมติถ้าคุณตุ๊กกี้เป็นเสื้อแดง แต่รักในหลวง...คุณตุ๊กกี้ผิด??? คือคุณตุ๊กกี้ต้องเกลียดในหลวง ถึงจะเหมาะสมใช่ป่ะครับ...ตรรกะอะไรของคนบางคนครับ
....สรุปอีกทีว่า ผู้หญิงทั้งสองคนนี้มีความผิดพลาดอะไรบางอย่าง ที่เป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่ได้ใหญ่โตอะไร แล้วก็มีคนกล่าวหาว่ามีตัวเสี้ยม....ซึ่งต่างฝ่ายต่างก็โยนความผิดใส่กันว่าคือตัวเสี้ยม.....ผมบอกเลยว่า เลวพอกัน! ทั้งพวกจ้องสร้างความปั่นป่วนให้ประเทศชาติ และพวกอ้างรักเจ้าแบบล็อคสเป็ค คือใครแตะเรื่องเจ้าไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว อารมณ์จะพุ่งเตรียมด่ากันตลอดเวลา.....นี่ขอถามหน่อยเถอะ เวลาพวกชอบล้มเจ้ามันด่าว่า "รักพ่อจนเสียสติ" นี่ก็โกรธกันควันออกหู....แต่ในทางปฏิบัติ ก็ทำอย่างที่เขาด่า....สรุปว่า ฉาบฉวยดราม่าพอกันแหละครับ.
ปล.มันมีสัตว์บางประเภทนะครับ ที่ชอบเกาะชายกระโปรงผู้หญิง เอาไปยุแหย่สร้างความดังและสร้างความแตกแยกในสังคม โดยอ้างว่า เพื่อปกป้องภาคตัวเองบ้าง ปกป้องชาติตัวเองบ้าง หรือแม้กระทั่งอ้างเอาพระองค์ท่านมาเป็นองค์ประกอบใน
การดราม่าเพื่อด่าคนอื่นบ้าง...มันเป็นสัตว์ประเภทไหนกันครับ ช่วยทายหน่อย ผมเห็นมีหลายเพจเลย รวมถึงเพจที่ผมตามกดไลค์ให้มาเป็นปีๆ วันนี้เห็นธาตุแท้ออกมาหมด....ความศรัทธาเลยหดหายไม่เหลือ....เหลือแต่ความน่าเบื่อน่าชังจริงๆ.
....สิ้นรัชกาลที่ ๙ ไปแล้ว คนไทยทั้งหลาย อยากสิ้นชาติกันไปด้วยใช่ไหมครับ....มันน่าละอายและน่าสมเพชมากถ้าเราจะสิ้นชาติ เพราะเราแตกความสามัคคีกัน....พ่อเตือนแล้วเตือนอีกมิใช่เหรอครับ แต่ไม่ฟัง ไม่สน แค่เดือนเดียวยังกัดกันขนาดนี้ ครบปี นี่ผมไม่อยากคิดเลยจริงๆ.....ดังนั้น
ต่อมาในวันเดียวกันนั้นก็มีข่าว เกียรติ กิจเจริญ มีชื่อเล่นว่า กิ๊ก หรือที่นิยมเรียกกันว่า ซูโม่กิ๊ก ดารานักแสดงและพิธีกรชาวไทย ได้ออกมาเขียนข้อความผ่านเฟซบุ๊ก กรณีมีคลิป เบสท์ อรพิมพ์ รักษาผล พูดดูถูกคนอิสาน ว่าไม่รักในหลวง ซึ่งทำให้เกิดกระแสวิพาก์วิจารณ์ ทั้งเห็นใจที่ เบสท์ ถูกต่อว่า ตำหนิ และมีการโจมตีต่างๆอย่างมากมาย โดยเฉพาะประชาชนชาวจังหวัดภาคอีสาน โดยข้อความที่ดารานักแสดงชื่อดัง เกียรติ กิจเกียรติ หรือ ซูโม่กิ๊ก โพสต์มีดังนี้
ทั้งนี้ข้อความของ ซูโม่กิ๊ก ยังมีการแชร์ต่อ และนำมาไว้ที่เฟซบุ๊ก ชื่อว่า ขบวนการเสรีไทยเฟซบุ๊ก ซึ่งก็มีเนื้อหา ที่โพสต์ต่อดังนี้
ขบวนการเสรีไทยเฟซบุ๊ค เดือนที่แล้วคนไทยยังมีรอยยิ้ม บนคราบน้ำตาในความสมานสามัคคี แล้วตอนนี้มันเกิดไรขึ้น สติ สติ สติ คิด วิเคราะห์ แยกแยะ
อย่างไรก็ตามในวันนี้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. โดยพันเอก ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษกคสช. ก็ออกมา กล่าวในกรณีนี้ด้วยว่า " คสช.มีหน้าที่ปกป้องสถาบัน การเชิญเบสท์ มาพูดก็เพื่อให้ข้อคิดที่ดีต่อสถาบัน และเราก็ไม่ได้เชิญแค่เบสท์ เท่านั้น ยังมีการเชิญบุคคลอื่นๆอีกด้วย ตอนนี้บ้านเมืองกำลังสงบเรียบเรียบ และก็อยู่ในช่วงของงานพระบรมศพ แต่ก็เกิดประเด็นนี้ขึ้นมา มีการนำไปสร้างความแตกแยก ขอให้ประชาชนไม่เฉพาะคนอีสาน เมื่อได้ฟัง ได้อ่านเรื่องนี้จากสื่อ โดยเฉพาะโลกออนไลน์ ก็ขอให้มีสติ คิดไตร่ตรองดีๆ อันไหนจริง อันไหนลวง อย่าเพิ่งใช้ความโกรธ เกลียดกัน อย่าตกเป็นเครื่องมือของคนบางกลุ่ม "
ล่าสุดครับ หลักจากมีเรื่องราวดราม่าต่างๆนาๆ มาเป็นเวลาหลายวันแล้ว สำหรับเรื่องของ เบส อรพิมพ์ ที่นับว่ามีกระแสแรงสุดๆในตอนนี้ ล่าสุดได้มีความเคลื่อนไหวของผู้จัดจ้าง เบส อรพิมพ์ โดยมีรายละเอียดดีงนี้
ผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ สุรวุฒิ เกิดชัย ได้โพสข้อความโดยมีรายละเอียดดังนี้
ในฐานะผมที่เคยเป็นผู้จัดจ้างคุณเบส อรพิมพ์ จึงขออนุญาตโต้แย้งพระรูปนึงที่โพสต์อัตราการจ้างว่าชั่วโมงละเท่านั้นเท่านี้ ผมขอชี้แจงรายละเอียดอัตราจ้างการพูดของเธอเป็นเวลาครั้งละ 1ชั่วโมง 45นาที เป็นจำนวนเงิน 35,000บาท และที่สำคัญเธอจะนำไปทำกิจกรรมเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางของทีมงานเพื่อทำโครงการพูดฟรีให้นักเรียน77จังหวัดทั่วประเทศ ได้รักและภาคภูมิใจในสถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ รวมทั้งปลุกจิตสำนึกในความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ อีกทั้งสร้างแรงบันดาลใจในการทำความดีสร้างสรรค์สังคม ซึ่งในส่วนการจ้างของผมนั้น คุณเบสได้มอบค่าจ้างของเธอทั้งหมดให้ท่านผู้ว่าฯชลบุรี เพื่อใช้กิจกรรมการกุศลและสาธารณะประโยชน์ของชาวชลบุรีครับ
#ไม่รู้อย่าชี้ #เช็คก่อนแชร์ #ชัวร์แล้วค่อยแชร์ #โปรดใช้วิจารณญาณในการรับสื่อด้วยครับ
สุดท้ายนี้ ผมไม่มีบทสรุปอะไรที่จะหยิบยก เอาเป็นว่าคนไทย 99% เป็นผู้รู้ รู้ทุกเรื่อง ก็ไปคิดกันเองแล้วกันครับ ..