ความเห็นต่อคนที่เรียกตัวเองว่านักพูด ที่เป็นข่าวตอนนี้

เป็นข่าวเรื่องดูถูกคนอีสานมาสักช่วงหนึ่ง แต่ก็มีการแก้ข่าวและขอโทษกันไป

ประเด็นที่ตั้งกระทู้ไม่ได้อยู่ตรงนั้น
อยู่ที่ คนชื่อเบสท์ นี้เขาเรียกตัวเองว่านักพูด แต่..ไม่มีคุณสมบัติเลย
นักพูดควรพูดเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ โดยการศึกษาข้อมูลมาอย่างดี
แต่นี่ สิ่งที่พูดมีแต่เรื่องทั่วๆไป ไม่ได้ศึกษาข้อมูลเชิงลึกอะไรเพิ่มเติม
เอาแต่ เน้นใช้เสียงสูงต่ำ เค้นอารมณ์ เค้นน้ำตา
สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือ ไม่มีความจริงใจเลย
และฟังแล้วก็ไม่เกิดความคล้อยตาม หรือประทับใจ หรืดเกิดแรงบันดาลใจแต่อย่างไร

เห็นข่าวที่ นพ กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล โพสท์ความเห็นต่อคนชื่อเบสท์ แล้วเห็นด้วยอย่างยิ่ง ขอแชร์
(ตัดมาเฉพาะส่วนที่แสดงความเห็นต่อคนนี้ ส่วนที่ต่อบุคคลอื่น ไม่ได้นำมาลงด้วย เพราะคนละประเด็น
ไม่ได้เป็นการตัดทอนเนื้อหา เพราะเป็นคนละส่วนกัน คุณหมอพูดเป็นเรื่องๆไว้ชัดเจน)

"         1.ไม่เข้าใจว่าทำไม การจะให้คนรักในหลวงรัชกาลที่ ๙ ชื่นชมในพระบารมีและคุณงามความดีของพระองค์ท่าน จะต้องมีคนพูด เพื่อสร้างแรงบันดาลใจด้วย ผมเห็นตาสีตาสาชาวบ้านมากมาย ใช้โซเชียลมีเดียก็ไม่เป็น อยู่ ตามป่าตามเขา ทำไมเขาถึงมีแรงบันดาลใจที่ทำตามพระองค์ท่านได้และรักพระองค์ท่านอย่างมากมายเวลาฟังคนเหล่านี้ให้สัมภาษณ์ในสารคดีก็รู้สึกประทับใจและชื่นชมไม่เห็นต้องมีคนมา build สร้างอารมณ์อะไรมากมายล่ะครับ แต่ถ้าใครจะใช้เป็นเครื่องมือทำมาหากิน ผมก็ไม่ว่าอะไร เพราะไม่ได้ทำให้ผมเดือดร้อน

         2. ในฐานะ ที่เป็นคนทำงานให้คำปรึกษา และสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ป่วยในการแก้ปัญหาชีวิตต่างๆ การใช้คำพูดของผม ไม่มีเรื่องของดราม่าบีบน้ำตาร้องไห้ใดๆทั้งสิ้น...เพราะการทำแบบนั้น ไม่เกิดผลดีในระยะยาวใดๆในการปรับพฤติกรรมหรือความคิดให้ผู้ป่วย การพูดหรือทำจิตบำบัดนั้น ต้องทำให้คนไข้เกิด insight คือการรับรู้และตระหนักอย่างแท้จริง จึงจะได้ผล และทำครั้งเดียว ไม่เวิร์ค ต่อให้พูดปากเปียกปากแฉะสามชั่วโมง ก็ไม่ได้ผล เพราะต้องฟังและทำการบ้าน ปฏิบัติจริงๆและมีการประเมินผลเป็นระยะๆด้วย บางเรื่องอาจจะพูดสร้างแรงบันดาลใจได้ เช่นเรื่องการต่อสู้ชีวิตหรือแม้แต่การหาเสียงของนักการเมือง แต่เรื่องคุณงามความดีของบุคคล ผมไม่เห็นความจำเป็น ของดีคนย่อมเห็นย่อมตระหนักได้ ใครไม่เห็นก็ช่างเขา ช่วยไม่ได้ เราจะไปบังคับใครให้ชอบให้รักอย่างเรา มันไม่ใช่เรื่องง่ายหรอก...ยกเว้นหลอกตัวเองกันไปวัน ๆ

         3.การเป็นนักพูดที่ดี ต้องผ่านความผิดพลาดมาก่อน หมอก็ผ่านความผิดพลาดมาเช่นกัน และการทำงานของเราคนต้องท้วงติงและวิพากษ์วิจารณ์ได้ ไม่มีใครอยู่ดีๆก็เก่งเลย ดังนั้นความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆ ก็แก้ไข ถ้าใครเข้าใจผิดก็ชี้แจง อย่าตอบโต้ โดยเฉพาะตอบโต้แบบดราม่า คนจะหมั่นไส้และเอาไปบิดเบือนให้แรงขึ้นครับ.          "

เห็นด้วยกับคุณหมออย่างยิ่ง

และอยากให้คนชื่อเบสท์เลิกเรียกตัวเองว่า นักพูดของพ่อ หรือนักพูดของพระราชา
รับไม่ได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่