สวัสดีค่ะมาต่อกันที่ภาค 2 กับการนำเที่ยวน่านค่ะ
ขอแปะปกของตอน 2 ตรงนี้ซักนิดนะคะ ถ้าใครยังไม่อ่านตอนที่ 1 ก็ คลิ๊กเลยจ้า >
http://ppantip.com/topic/35828174
ถึงไหนล่ะ อ่อๆ พามาชมวิวที่ "ดอยเสมอดาว" กันต่อเลย ส่วนนี้จะเป็นอีกฝากหนึ่งจากจุดชมวิวในภาคแรกค่ะ
เห็นภาพพวกนี้แล้วต้องบอกเลยว่า ธรรมชาตินี่แหละงดงามที่สุด มากกว่าสิ่งใดๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้น เรามาช่วยกันรักษาธรรมชาติกันดีกว่าค่ะ เริ่มต้นง่ายๆ อย่างพวกเราไปเที่ยวก็ดูแลเรื่องขยะไม่ให้ไปบดบังหรือทำลายธรรมชาติ เพื่อให้ลูกหลานของพวกเราได้เห็นสิ่งมหัศจรรย์เหล่านี้บ้างและธรรมชาติเองก็คงอยากเติบโตและสวยงามมากกว่าที่เป็นอยู่แน่ค่ะ
ขอจบด้วยภาพเน้..รักเธอเสมอดาว #มองฟ้ากันปาายย
เอาล่ะ ออกเดินทางที่ต่อไป .. “เสาดินนาน้อย” บอกเลยว่าเราไม่ได้หาข้อมูลก่อนมาเที่ยว เพราะคิดว่าเพื่อนเป็นคนน่านอยู่แล้ว แต่ไปๆมาๆ เพื่อนบอกนี่เคยมาครั้งแรกเหมือนกัน 55 เดี๋ยวบอกคร่าวๆ กันก่อนแล้วกันค่ะ ที่เสาดินนนาน้อยนี้จะคล้าย “แพะเมืองผี” ที่จังหวัดแพร่ มาดูภาพเซตนี้กันเลยค่ะ ร้อนมาก ร้อนจริง แต่เพื่อภาพสวย ยอมมม
ร้อนมากจริงๆ แต่ต้องหน้าสู้แดดรูปถึงจะสวย 55 ที่ต่อไป เราก็แวะไปที่คอกเสือกันหน่อยค่ะ ครูหนุ่ยบอกว่ามันต่างกันตรงที่คอกเสือจะอยู่ข้างล่าง เราต้องเดินบันไดลงไป (อุ้ย! ลืมถ่ายบันได) สมัยก่อนเค้าจะดักเสือให้มาแถวๆ บริเวณนี้ให้เสือตกลงไปนะคะ ประมาณนี้ที่ฟังจากครูหนุ่ยมา จะแอบคล้ายๆ กันค่ะ ไปดูภาพเลย
พอจะมองความแตกต่างกันออกมั้ยคะ ถึงจะแดดแต่ก็ไม่หวั่นจริงๆ จากเมารถ จะมาเป็นลมแดดแทน ดีที่บนรถมีผลไม้กิน เพิ่มพลังความสดชื่นหน่อย ลุยต่อเลยค่ะครูหนุ่ย พวกหนูพร้อมกันแล้วววว..
สถานที่ต่อไป คือ "ผาชู้" ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติศรีน่าน อ.นาน้อย แอบเล่าประวัติที่ได้ฟังมาจากครูหนุ่ยหน่อยนะคะ เป็นตำนานรักสามเส้าที่ซึ้งมาก ความหมายของคำว่า ชู้ ในที่นี้จะไม่ได้หมายถึงชู้สาว แต่หมายถึงคนรักนะคะ ต้ออธิบายไว้ก่อนค่ะ ^^
ตำนานรัก 3 เส้า ระหว่าง “เจ้าจ๋วง” หนุ่มรูปงามเจ้าแขวงเมืองศรีษะเกษ กับ“เจ้าจันทน์ผา”(เจ้าจันทร์) และ “เอื้อง”(เจ้าเอื้อง) มีว่า เจ้าจ๋วงได้แต่งงานกับเจ้าจันทน์ผามาก่อนแล้ว วันหนึ่งเจ้าจ๋วงได้ออกมาล่าสัตว์ในป่าและได้พบกับเอื้อง สาวงามลูกสาวพรานป่า ทั้งสองมีวาสนาครองคู่กันในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ก่อนที่เจ้าจันทน์ผาซึ่งเห็นสามีตัวเองหายไป ได้ออกตามหา และพบเจ้าจ๋วงอยู่กับลูกสาวพรานป่า
เมื่อเกิดปัญหาความรักอีรุงตุงนัง 2 หญิง 1 ชาย ขึ้น สุดท้ายหญิงสาวทั้งสองยื่นคำขาดให้เจ้าจ๋วงต้องเลือกใครคนใดคนหนึ่ง เจ้าจ๋วงตัดสินใจไม่ได้เพราะรักทั้งคู่ จึงอธิษฐานว่า “...ถ้าความรักของเราทั้งสามเป็นความรักที่บริสุทธิ์ เป็นรักแท้ตราบชั่วนิรันดร์ ขอให้ร่างกายเรากลับกลายเป็นต้นไม้อยู่คู่กับโขดหินใหญ่แห่งนี้ตลอดกาล...” แล้วเจ้าจ๋วงก็กระโดดหน้าผาตาย เจ้าจันทน์ผาเห็นดังนั้นก็กระโดดหน้าผาตายตาม ทำให้เอื้องที่เกรงกลัวบาปกรรมกระโดดหน้าผาตายไปอีกคน เจ้าจ๋วงเมื่อตายแล้วกลายเป็น “ต้นจ๋วง” หรือ “สนเขา” เจ้าจันทน์ผาร่างไปตายติดอยู่บนหิน กลายเป็น “ต้นจันทน์ผา” ส่วนร่างของสาวเอื้องตายไปติดอยู่บนต้นไม้กลายเป็น “ต้นเอื้อง” หรือ กล้วยไม้ นั่นเองค่ะ ... จะว่าไปมี Story นี่มันทำให้เราอินมากขึ้นกับการท่องเที่ยวจริง มาดูวิวสวยๆ ที่ผาชู้กันให้คลายเศร้ากันค่ะ
นอกจากนี้ที่นี่ยังมีเสาธงชาติที่ยาวที่สุดด้วยนะคะ โดยเราจะชักธงชาติกันข้างล่าง และมีธงชาติสูงสง่าอยู่บนเขา เอ..เห็นกันมั้ยคะ
ถ่ายรูปและสูดอากาศกันซักพัก ไปต่อกันที่ "สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน" ที่นี่พวกเราเจอประสบการณ์ตื่นเต้นกันด้วย แต่ที่น่าเสียดายในทริปนี้ของพวกเราคือ ไม่ได้เห็นซากุระเมืองไทย หรือ ดอกนางพญาเสือโคร่ง นั่นเอง เลยแอบไปหาข้อมูลในอินเตอร์เนตมาให้เค้าบอกว่าจะมีช่วงเดือนปลายเดือนธันวาคม เอาละค่ะ เพื่อนๆ ที่อ่านรีวิวยังแพคกระเป๋ากันทันอยู่นะคะ รอชมภาพสวยๆ ของเพื่อนๆ นะคะ แต่ถึงไม่มีภาพดอกนางพญาเสือโคร่ง แต่เรามีภาพป่าสน Mood & Tone เท่ๆ มาฝากกันค่ะ อย่างที่บอก...ประสบการณ์เสียวและตื่นเต้นของพวกเรามา..ป่าสนแบบนี้ กลัวเจอแวมไพร์จริงๆ เล๊ย เจอจริงๆ ด้วย เจอตัวทากดูดเลือด..ถึงจะตัวเล็กแต่ก็ทำให้นักท่องเที่ยวมือใหม่อย่างพวกเรา กรี๊ดกร๊าดกันไม่น้อย ไม่ใช่ดีใจน่ะเออ..ได้เจอแวมไพร์ตัวจริงอะไรอย่างนี้55 / ฝากบอกเพื่อนๆ ที่จะไปก็ระมัดระวังกันซักนิด แต่ไม่ถึงกับต้องห้อยกางเขน ขนกระเทียมกันไปนะคะ เอ้ามาชมภาพวิวกันเลยยย..
โพสท่าเป็นที่ระลึกกันซักนิดด..
เอาละค่ะ ออกจากป่าแล้ว กลับเข้าเมืองกันค้า....
หลังจากนี้จะเป็นทริปวัดค่ะ มาน่านถ้าไม่มาไหว้พระก็อาจจะเรียกว่ามาไม่ถึงได้
เริ่มจากวัดแรก “วัดพระธาตุเขาน้อย”
วัดนี้มีจุดชมวิวตัวเมืองน่าน สวยงามมากค่ะ เมื่อได้ถ่ายคู่กับด้านหลังของพระพุทธรูป เป็นภาพ Perspective ที่งดงามภาพหนึ่งในสายตาเราเลย ต้องลองมาสัมผัสวิวมุมนี้ด้วยตัวคุณเอง
วัดต่อมา “วัดพระธาตุแช่แห้ง” เป็นพระธาตุประจำปีเกิด ของคนที่เกิดปีเถาะ ไม่น่าเชื่อว่าตรงกับปีของเราและเพื่อนพอดี ดีจัง..
หลังจากทำบุญ กราบสักการะกันเรียบร้อย พวกเราก็ขอถ่ายภาพเป็นที่ระลึกนิดหน่อยนะคะ
โกทู..วัดที่สาม “วัดภูมินทร์” ซึ่งมีจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงามและโด่งดังอย่าง“จิตรกรรมปู่ม่านญ่าม่าน” สุดยอดภาพโรมานซ์ล้านนา เป็นผลงานของหนานบัวผัน จิตรกรพื้นถิ่นเชื้อสายไทลื้อ โดยเป็นภาพชายหญิงคู่หนึ่งกำลังกระซิบสนทนา ดูจากในโปสการ์ดที่เราหยิบมาจากหอศิลป์ริมน่านกันค่ะ ชัดดี ^^”
นอกจากภาพจิตรกรรมนี้แล้วในวัดยังมีภาพจิตรกรรมอื่นๆ ซึ่งเนื้อหาภาพส่วนใหญ่จะเล่าเรื่องเป็นนิทานชาดก ที่มุ่งสอนให้ทำความดีค่ะ
วัดที่ 4 “วัดมิ่งเมือง” ศาลหลักเมืองน่าน ลายปูนปั้นที่ผนังด้านนอกของพระอุโบสถมีความสวยงามวิจิตรบรรจงมาก เป็นฝีมือตระกูลช่างเชียงแสน ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังแสดงให้เห็นวิถีชีวิตของชาวเมืองน่าน สวยงามเกินคำบรรยายจริงๆ ค่ะ
ต่อไป วัดที่ 5 “วัดช้างค้ำ”วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร อยู่ตรงข้ามพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน ที่วัดนี้เราถ่ายภาพกันมมาบางส่วนค่ะ และเข้าไปถ่ายซุ้มลีลาวดีที่ด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์ด้วย
สุดท้ายนี้พวกเราขอจบภาพความประทับใจทริป…น่าน แบบสดใสๆ กันหน่อยค่ะ เย้
เหมือนลืมอะไร อ่อๆ รู้ล่ะ พวกเรา If You're Bored ขอฝากเพจเล็กๆ ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยน่ะเจ้า รีวิวมาตั้งนานนน...น่านไง 5555
เอ่อ... นี่ค่ะ >>
www.facebook.com/Takhunbuer
ขอบคุณค่ะ หากผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ติชมกันได้ค้า เพื่อน ๆ
[CR] น่าน..ไง เพิ่งไปมาเองงงง ตอนที่ 2 (ตอนจบ)
ขอแปะปกของตอน 2 ตรงนี้ซักนิดนะคะ ถ้าใครยังไม่อ่านตอนที่ 1 ก็ คลิ๊กเลยจ้า > http://ppantip.com/topic/35828174
ถึงไหนล่ะ อ่อๆ พามาชมวิวที่ "ดอยเสมอดาว" กันต่อเลย ส่วนนี้จะเป็นอีกฝากหนึ่งจากจุดชมวิวในภาคแรกค่ะ
เห็นภาพพวกนี้แล้วต้องบอกเลยว่า ธรรมชาตินี่แหละงดงามที่สุด มากกว่าสิ่งใดๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้น เรามาช่วยกันรักษาธรรมชาติกันดีกว่าค่ะ เริ่มต้นง่ายๆ อย่างพวกเราไปเที่ยวก็ดูแลเรื่องขยะไม่ให้ไปบดบังหรือทำลายธรรมชาติ เพื่อให้ลูกหลานของพวกเราได้เห็นสิ่งมหัศจรรย์เหล่านี้บ้างและธรรมชาติเองก็คงอยากเติบโตและสวยงามมากกว่าที่เป็นอยู่แน่ค่ะ
ขอจบด้วยภาพเน้..รักเธอเสมอดาว #มองฟ้ากันปาายย
เอาล่ะ ออกเดินทางที่ต่อไป .. “เสาดินนาน้อย” บอกเลยว่าเราไม่ได้หาข้อมูลก่อนมาเที่ยว เพราะคิดว่าเพื่อนเป็นคนน่านอยู่แล้ว แต่ไปๆมาๆ เพื่อนบอกนี่เคยมาครั้งแรกเหมือนกัน 55 เดี๋ยวบอกคร่าวๆ กันก่อนแล้วกันค่ะ ที่เสาดินนนาน้อยนี้จะคล้าย “แพะเมืองผี” ที่จังหวัดแพร่ มาดูภาพเซตนี้กันเลยค่ะ ร้อนมาก ร้อนจริง แต่เพื่อภาพสวย ยอมมม
ร้อนมากจริงๆ แต่ต้องหน้าสู้แดดรูปถึงจะสวย 55 ที่ต่อไป เราก็แวะไปที่คอกเสือกันหน่อยค่ะ ครูหนุ่ยบอกว่ามันต่างกันตรงที่คอกเสือจะอยู่ข้างล่าง เราต้องเดินบันไดลงไป (อุ้ย! ลืมถ่ายบันได) สมัยก่อนเค้าจะดักเสือให้มาแถวๆ บริเวณนี้ให้เสือตกลงไปนะคะ ประมาณนี้ที่ฟังจากครูหนุ่ยมา จะแอบคล้ายๆ กันค่ะ ไปดูภาพเลย
พอจะมองความแตกต่างกันออกมั้ยคะ ถึงจะแดดแต่ก็ไม่หวั่นจริงๆ จากเมารถ จะมาเป็นลมแดดแทน ดีที่บนรถมีผลไม้กิน เพิ่มพลังความสดชื่นหน่อย ลุยต่อเลยค่ะครูหนุ่ย พวกหนูพร้อมกันแล้วววว..
สถานที่ต่อไป คือ "ผาชู้" ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติศรีน่าน อ.นาน้อย แอบเล่าประวัติที่ได้ฟังมาจากครูหนุ่ยหน่อยนะคะ เป็นตำนานรักสามเส้าที่ซึ้งมาก ความหมายของคำว่า ชู้ ในที่นี้จะไม่ได้หมายถึงชู้สาว แต่หมายถึงคนรักนะคะ ต้ออธิบายไว้ก่อนค่ะ ^^
ตำนานรัก 3 เส้า ระหว่าง “เจ้าจ๋วง” หนุ่มรูปงามเจ้าแขวงเมืองศรีษะเกษ กับ“เจ้าจันทน์ผา”(เจ้าจันทร์) และ “เอื้อง”(เจ้าเอื้อง) มีว่า เจ้าจ๋วงได้แต่งงานกับเจ้าจันทน์ผามาก่อนแล้ว วันหนึ่งเจ้าจ๋วงได้ออกมาล่าสัตว์ในป่าและได้พบกับเอื้อง สาวงามลูกสาวพรานป่า ทั้งสองมีวาสนาครองคู่กันในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ก่อนที่เจ้าจันทน์ผาซึ่งเห็นสามีตัวเองหายไป ได้ออกตามหา และพบเจ้าจ๋วงอยู่กับลูกสาวพรานป่า
เมื่อเกิดปัญหาความรักอีรุงตุงนัง 2 หญิง 1 ชาย ขึ้น สุดท้ายหญิงสาวทั้งสองยื่นคำขาดให้เจ้าจ๋วงต้องเลือกใครคนใดคนหนึ่ง เจ้าจ๋วงตัดสินใจไม่ได้เพราะรักทั้งคู่ จึงอธิษฐานว่า “...ถ้าความรักของเราทั้งสามเป็นความรักที่บริสุทธิ์ เป็นรักแท้ตราบชั่วนิรันดร์ ขอให้ร่างกายเรากลับกลายเป็นต้นไม้อยู่คู่กับโขดหินใหญ่แห่งนี้ตลอดกาล...” แล้วเจ้าจ๋วงก็กระโดดหน้าผาตาย เจ้าจันทน์ผาเห็นดังนั้นก็กระโดดหน้าผาตายตาม ทำให้เอื้องที่เกรงกลัวบาปกรรมกระโดดหน้าผาตายไปอีกคน เจ้าจ๋วงเมื่อตายแล้วกลายเป็น “ต้นจ๋วง” หรือ “สนเขา” เจ้าจันทน์ผาร่างไปตายติดอยู่บนหิน กลายเป็น “ต้นจันทน์ผา” ส่วนร่างของสาวเอื้องตายไปติดอยู่บนต้นไม้กลายเป็น “ต้นเอื้อง” หรือ กล้วยไม้ นั่นเองค่ะ ... จะว่าไปมี Story นี่มันทำให้เราอินมากขึ้นกับการท่องเที่ยวจริง มาดูวิวสวยๆ ที่ผาชู้กันให้คลายเศร้ากันค่ะ
นอกจากนี้ที่นี่ยังมีเสาธงชาติที่ยาวที่สุดด้วยนะคะ โดยเราจะชักธงชาติกันข้างล่าง และมีธงชาติสูงสง่าอยู่บนเขา เอ..เห็นกันมั้ยคะ
ถ่ายรูปและสูดอากาศกันซักพัก ไปต่อกันที่ "สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน" ที่นี่พวกเราเจอประสบการณ์ตื่นเต้นกันด้วย แต่ที่น่าเสียดายในทริปนี้ของพวกเราคือ ไม่ได้เห็นซากุระเมืองไทย หรือ ดอกนางพญาเสือโคร่ง นั่นเอง เลยแอบไปหาข้อมูลในอินเตอร์เนตมาให้เค้าบอกว่าจะมีช่วงเดือนปลายเดือนธันวาคม เอาละค่ะ เพื่อนๆ ที่อ่านรีวิวยังแพคกระเป๋ากันทันอยู่นะคะ รอชมภาพสวยๆ ของเพื่อนๆ นะคะ แต่ถึงไม่มีภาพดอกนางพญาเสือโคร่ง แต่เรามีภาพป่าสน Mood & Tone เท่ๆ มาฝากกันค่ะ อย่างที่บอก...ประสบการณ์เสียวและตื่นเต้นของพวกเรามา..ป่าสนแบบนี้ กลัวเจอแวมไพร์จริงๆ เล๊ย เจอจริงๆ ด้วย เจอตัวทากดูดเลือด..ถึงจะตัวเล็กแต่ก็ทำให้นักท่องเที่ยวมือใหม่อย่างพวกเรา กรี๊ดกร๊าดกันไม่น้อย ไม่ใช่ดีใจน่ะเออ..ได้เจอแวมไพร์ตัวจริงอะไรอย่างนี้55 / ฝากบอกเพื่อนๆ ที่จะไปก็ระมัดระวังกันซักนิด แต่ไม่ถึงกับต้องห้อยกางเขน ขนกระเทียมกันไปนะคะ เอ้ามาชมภาพวิวกันเลยยย..
โพสท่าเป็นที่ระลึกกันซักนิดด..
เอาละค่ะ ออกจากป่าแล้ว กลับเข้าเมืองกันค้า....
หลังจากนี้จะเป็นทริปวัดค่ะ มาน่านถ้าไม่มาไหว้พระก็อาจจะเรียกว่ามาไม่ถึงได้
เริ่มจากวัดแรก “วัดพระธาตุเขาน้อย”
วัดนี้มีจุดชมวิวตัวเมืองน่าน สวยงามมากค่ะ เมื่อได้ถ่ายคู่กับด้านหลังของพระพุทธรูป เป็นภาพ Perspective ที่งดงามภาพหนึ่งในสายตาเราเลย ต้องลองมาสัมผัสวิวมุมนี้ด้วยตัวคุณเอง
วัดต่อมา “วัดพระธาตุแช่แห้ง” เป็นพระธาตุประจำปีเกิด ของคนที่เกิดปีเถาะ ไม่น่าเชื่อว่าตรงกับปีของเราและเพื่อนพอดี ดีจัง..
หลังจากทำบุญ กราบสักการะกันเรียบร้อย พวกเราก็ขอถ่ายภาพเป็นที่ระลึกนิดหน่อยนะคะ
โกทู..วัดที่สาม “วัดภูมินทร์” ซึ่งมีจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงามและโด่งดังอย่าง“จิตรกรรมปู่ม่านญ่าม่าน” สุดยอดภาพโรมานซ์ล้านนา เป็นผลงานของหนานบัวผัน จิตรกรพื้นถิ่นเชื้อสายไทลื้อ โดยเป็นภาพชายหญิงคู่หนึ่งกำลังกระซิบสนทนา ดูจากในโปสการ์ดที่เราหยิบมาจากหอศิลป์ริมน่านกันค่ะ ชัดดี ^^”
นอกจากภาพจิตรกรรมนี้แล้วในวัดยังมีภาพจิตรกรรมอื่นๆ ซึ่งเนื้อหาภาพส่วนใหญ่จะเล่าเรื่องเป็นนิทานชาดก ที่มุ่งสอนให้ทำความดีค่ะ
วัดที่ 4 “วัดมิ่งเมือง” ศาลหลักเมืองน่าน ลายปูนปั้นที่ผนังด้านนอกของพระอุโบสถมีความสวยงามวิจิตรบรรจงมาก เป็นฝีมือตระกูลช่างเชียงแสน ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังแสดงให้เห็นวิถีชีวิตของชาวเมืองน่าน สวยงามเกินคำบรรยายจริงๆ ค่ะ
ต่อไป วัดที่ 5 “วัดช้างค้ำ”วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร อยู่ตรงข้ามพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน ที่วัดนี้เราถ่ายภาพกันมมาบางส่วนค่ะ และเข้าไปถ่ายซุ้มลีลาวดีที่ด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์ด้วย
สุดท้ายนี้พวกเราขอจบภาพความประทับใจทริป…น่าน แบบสดใสๆ กันหน่อยค่ะ เย้
เหมือนลืมอะไร อ่อๆ รู้ล่ะ พวกเรา If You're Bored ขอฝากเพจเล็กๆ ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยน่ะเจ้า รีวิวมาตั้งนานนน...น่านไง 5555
เอ่อ... นี่ค่ะ >> www.facebook.com/Takhunbuer
ขอบคุณค่ะ หากผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ติชมกันได้ค้า เพื่อน ๆ