ความเดิมตอนที่แล้ว
กระซิบรักที่เมือง 'น่าน' อู้คำหวานที่เมือง 'แพร่' ตอนที่ 1 ---
http://ppantip.com/topic/34676056
ตอนที่ 2
สวัสดีครับ ผมขออนุญาตแชร์ประสบการณ์ 'กระซิบรักที่เมืองน่าน อู้คำหวานที่เมืองแพร่' เป็นทริป 3 วัน 2 คืนกับครอบครัว เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว รวมระยะทาง 1,350 กิโลเมตร โดยสรุปแพลนแต่ละวันเป็นดังนี้
วันที่ 1 : ออกเดินทาง - วัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรี - อุทยานแห่งชาติขุนสถาน - เสาหินนาน้อย - พักที่เฮือนวาดเขียน อ.นาน้อย จ.น่าน
วันที่ 2 : ดอยเสมอดาว - วัดพระธาตุแช่แห้ง - วัดภูมินทร์ - นั่งรถรางชมเมืองน่าน - วัดพระธาตุเขาน้อย - พักที่น่านบูติกโฮเทล จ.น่าน
วันที่ 3 : วัดพระธาตุอินทร์แขวน - วัดพระธาตุดอยเล็ง - วัดพระธาตุช่อแฮ - เดินทางกลับ
********************
ดอยเสมอดาว
ครั้งแรกที่ได้ยินชื่อ 'ดอยเสมอดาว' รู้สึกว่าดอยนี้ชื่อเพราะมาก สามารถเล่นคำสามคำได้อย่างไพเราะ ตอนนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าดอยนี้อยู่ที่ไหน แต่ก็ตั้งใจว่าจะไปนอนดูดาวที่ดอยนี้ให้ได้ซักครั้ง
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากทริปนี้ไปกับคุณพ่อคุณแม่ จะให้ลุยขึ้นไปนอนเต๊นท์บนนั้นก็คงไม่ไหว เลยตัดสินใจนอนที่ อ.นาน้อย ซึ่งอยู่ตีนดอย ตอนเช้าค่อยตื่นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นแทนแล้วกัน
05.30 น. ผมขับรถจากเฮือนวาดเขียนขึ้นดอยเสมอดาว เป็นระยะทางประมาณสิบกว่ากิโลเมตรที่มืดมิดมาก Google Map ก็ใช้งานไม่ได้ หลงทางแต่ก็ไม่รู้จะจอดรถถามใคร รอบตัวมีแต่ความมืดมิด แต่ก็สามารถดั้นด้นขึ้นไปจนถึงจุดชมวิวดอยเสมอดาวจนได้ (แม้จะขับรถเลยก็ตาม)
บนนี้มีเต๊นท์กางเป็นทิวแถว ผู้คนทยอยออกจากเต๊นท์ขึ้นไปยังจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น เห็นเงาคนยืนเป็นแนวยาว ผมเดินขึ้นไปยืนรอพระอาทิตย์ขึ้น
งดงาม คุ้มค่าการรอคอยจริง ๆ
ทะเลหมอกกับพระอาทิตย์สีแดง
จุดกางเต๊นท์ สีสันสดใส
ซ้ายมือคือผาหัวสิงห์ มองยังไงก็ก้อนหินปะ 55555+
หันมาอีกที พระอาทิตย์ขึ้นเต็มดวงแล้ว แยกย้าย ๆ
********************
วัดพระธาตุแช่แห้ง
ผมกลับมากินอาหารเช้าที่เฮือนวาดเขียน ข้าวต้มร้อน ๆ กับกาแฟหอม ๆ ในบรรยากาศเย็นสบาย มันช่างชิลจนอยากมาอยู่ที่นี่เหลือเกิน
สูดอากาศยามเช้า
หลังจากเก็บของและ check out เรียบร้อย ผมก็ออกเดินทาง ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง ขับรถผ่าน อ.เวียงสา ถึง จ.น่าน
จุดหมายต่อไปของผมคือ 'วัดพระธาตุแช่แห้ง' เป็นวัดที่สวยงามและมีชื่อเสียงของเมืองน่าน ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง
ที่สำคัญคือเป็นพระธาตุประจำปีเถาะ ได้ไหว้พระธาตุสมใจคุณแม่และน้องสาวแล้ว
ถึงแล้ววัดพระธาตุแช่แห้ง
ฟรุ้งฟริ้ง ๆ
องค์พระธาตุแช่แห้ง
พระธาตุแช่แห้งองค์เดิม
เนื่องจากวัดนี้เป็นวัดพระธาตุประจำปีเถาะซึ่งเป็นปีเกิดน้องสาวของผม เธอก็มีพิธีรีตองค่อนข้างเยอะ ต้องไหว้อย่างโน้นอย่างนี้ สวดมนต์อย่างโน้นอย่างนี้ เวียนเทียนอย่างโน้นอย่างนี้ ถ่ายรูปอย่างโน้นอย่างนี้ สะเดาะเคราะห์อย่างโน้นอย่างนี้ บลา ๆ ๆ กว่าจะเสร็จสิ้นพิธีก็ปาเข้าไปเที่ยง ความหวังที่จะไปถึงปัวหรือบ่อเกลือดับลงไปโดยปริยาย
ชอบไอเดียการเพิ่มมูลค่าให้กับเทียนของวัดนี้มาก เทียนสีเหลืองเหมือนเดิม แต่เพิ่มเติมว่าเป็นเทียนสะเดาะเคราะห์ แล้วติดกิมมิกโดยการแยกเป็นเทียนประจำวันเกิดต่าง ๆ แค่นี้ก็ add value ให้ product ได้แล้ว หลวงพี่ต้องจบการตลาดมาแน่ ๆ
********************
วัดภูมินทร์
หลังจากเสร็จสิ้นพิธีที่วัดพระธาตุแช่แห้ง ผมขับรถไปเที่ยวในเมือง โดยเริ่มต้นที่ 'วัดภูมินทร์' ซึ่งเป็นวัด signature ของ จ.น่าน ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงเช่นกัน
วัดภูมินทร์ของ จ.น่าน น่าจะอารมณ์ประมาณวัดพระแก้วของกรุงเทพ ฯ คือเป็นวัดที่เป็นศูนย์กลางของเมือง เป็นที่พึ่งทางใจของคนจังหวัดนี้
วัดภูมินทร์
วัดภูมินทร์
พระประธานวัดภูมินทร์
ภาพ 'กระซิบรักบันลือโลก' จิตรกรรมฝาผนังอันเลื่องชื่อของเมืองน่าน
********************
กระซิบรักบันลือโลก
เรื่องราวของภาพกระซิบรัก ฯ เป็นหนึ่งในเรื่องที่ผมประทับใจที่สุดในทริปนี้ ภาพกระซิบรักนี้เป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในวัดภูมินทร์ ผลงานของปราชญ์เมืองน่านชื่อ 'หนานบัวผัน' (หนาน คือ คำเรียกชายหนุ่มที่บวชเรียนแล้ว คนภาคกลางเรียกว่าทิด) ภาพนี้เป็นสัญลักษณ์ของ จ.น่าน ผู้คนเอาภาพกระซิบรักของปู่ม่านย่าม่านไปทำเป็นของที่ระลึก แตกไลน์เป็นสินค้าต่าง ๆ มากมาย
ที่น่ารักกว่านั้นคือการสร้าง story ต่อยอดจากภาพจิตรกรรมนี้ด้วยคำถามที่ว่า "เอ๊ะ แล้วปู่ม่านย่าม่านกระซิบอะไรกัน?"
อ.สมเจตน์ วิมลเกษม ปราชญ์เมืองน่าน เลยแต่งคำกลอนภาษาเหนือไว้อย่างไพเราะน่าฟัง ถ้อยคำที่ปู่ม่านกระซิบย่าม่านคือ
"คำฮักน้อง กูปี้จักเอาไว้ในน้ำก็กลัวหนาว
จักเอาไว้พื้นอากาศกลางหาว ก็กลัวหมอกเหมยซอนดาวลงมาคะลุม
จักเอาไปใส่ในวังข่วงคุ้ม ก็กลัวเจ้าปะใส่แล้วลู่เอาไป
ก็เลยเอาไว้ในอกในใจตัวชายปี้นี้ จักหื้อมันไห้อะฮิอะฮี้
ยามปี้นอนสะดุ้งตื่นเววา…"
(ความรักของน้องนั้น พี่จะเอาฝากไว้ในน้ำก็กลัวเหน็บหนาว จะฝากไว้กลางท้องฟ้าอากาศกลางหาว ก็กลัวเมฆหมอกมาปกคลุมรักของพี่ไปเสีย หากเอาไว้ในวังในคุ้ม เจ้าเมืองมาเจอก็จะเอาความรักของพี่ไป เลยขอฝากเอาไว้ในอกในใจของพี่ จะให้มันร้องไห้รำพี้รำพันถึงน้อง ไม่ว่ายามพี่นอนหลับหรือสะดุ้งตื่น แต่งและแปลโดย อ.สมเจตน์ วิมลเกษม)
ช่างเป็นเรื่องราวที่ฟรุ้งฟริ้งเสียนี่กระไร ได้ยินแล้วอดยิ้มไม่ได้ ประทับใจมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
********************
รถรางชมเมือง
เนื่องจากเมืองน่านเป็นเมืองเล็ก ๆ วัดวาอาราม สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ จะอยู่ห่างกันในช่วง 3 - 4 บล็อกถนน ซึ่งสามารถปั่นจักรยานหรือขี่มอเตอร์ไซด์เที่ยวชมเมืองได้อย่างสบาย ๆ แต่ถ้าใครกลัวแดดร้อนหรือขี้เกียจปั่นจักรยาน ผมแนะนำการเที่ยวด้วยรถรางชมเมือง ใช้เวลาประมาณชั่วโมงนิด ๆ โดยสามารถจองบัตรได้ที่ศูนย์บริการนั่งท่องเที่ยว ฝั่งตรงข้ามวัดภูมินทร์ หัวละ 30 บาท สะดวกสบายมากเจ้า
ระหว่างรอรอบรถรางก็หากาแฟจิบเพลิน ๆ ก็ได้ครับ ข้าง ๆ มี Cafe Amazon แต่งร้านน่ารักดี คอกาแฟไม่ต้องห่วง ที่เมืองน่านมีร้านกาแฟเยอะกว่า 7-11 ผม confirm ครับ
แนะนำสถานที่ต่าง ๆ ด้วยภาษาเมืองน่ารัก ๆ ฟังรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง แต่ก็เพลิดเพลินดี
รถรางจะแวะให้ไหว้พระด้วย เริ่มต้นที่วัดศรีพันต้น
วัดสวนตาล ประวัติวัดต่าง ๆ ลอง search Google เอานะครับ ผมฟังน้องเขาไม่ทัน/ไม่รู้เรื่อง/จำไม่ได้เหมือนกัน
เทศกาลดนตรีในวัด (music in the temple)
วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร
วัดมิ่งเมือง
นี่ผมยังไปไม่ครบทุกวัดนะ ในเมืองน่านมีวัดเยอะมาก แต่ละแห่งก็อยู่ใกล้ ๆ กัน ไม่เกิน 3 - 4 บล็อกถนน ดังนั้นเราจะสามารถไหว้พระ 9 วัดที่น่านได้อย่างสบาย ๆ ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงก็ครบแล้ว
น่านเป็นเมืองเล็ก ๆ ที่น่ารักมาก มีการอนุรักษ์ให้เป็นเมืองเก่า ใครที่ยังไม่เคยเที่ยวน่าน ผมแนะนำว่าให้รีบมาเยี่ยมชมเมืองน่ารัก ๆ แห่งนี้นะครับ ตอนนี้ยังมีนักท่องเที่ยวฝรั่งน้อยมาก ที่สำคัญคือยังไม่มีทัวร์จีนลง ถ้าพี่จีนมาเมื่อไหร่ เมืองน่านพังพินาศแน่นอน
To be continued
อ่านต่อ
กระซิบรักที่เมือง 'น่าน' อู้คำหวานที่เมือง 'แพร่' ตอนจบ
http://ppantip.com/topic/34691937
*** ขออนุญาตฝากเพจนายอุ๊ย!! เพจสนุก ๆ ไว้ในอ้อมใจด้วยนะครับ ^^ -->
https://www.facebook.com/lovenaioui ***
กระซิบรักที่เมือง 'น่าน' อู้คำหวานที่เมือง 'แพร่' ----- ตอนที่ 2
กระซิบรักที่เมือง 'น่าน' อู้คำหวานที่เมือง 'แพร่' ตอนที่ 1 --- http://ppantip.com/topic/34676056
ตอนที่ 2
สวัสดีครับ ผมขออนุญาตแชร์ประสบการณ์ 'กระซิบรักที่เมืองน่าน อู้คำหวานที่เมืองแพร่' เป็นทริป 3 วัน 2 คืนกับครอบครัว เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว รวมระยะทาง 1,350 กิโลเมตร โดยสรุปแพลนแต่ละวันเป็นดังนี้
วันที่ 1 : ออกเดินทาง - วัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรี - อุทยานแห่งชาติขุนสถาน - เสาหินนาน้อย - พักที่เฮือนวาดเขียน อ.นาน้อย จ.น่าน
วันที่ 2 : ดอยเสมอดาว - วัดพระธาตุแช่แห้ง - วัดภูมินทร์ - นั่งรถรางชมเมืองน่าน - วัดพระธาตุเขาน้อย - พักที่น่านบูติกโฮเทล จ.น่าน
วันที่ 3 : วัดพระธาตุอินทร์แขวน - วัดพระธาตุดอยเล็ง - วัดพระธาตุช่อแฮ - เดินทางกลับ
ดอยเสมอดาว
ครั้งแรกที่ได้ยินชื่อ 'ดอยเสมอดาว' รู้สึกว่าดอยนี้ชื่อเพราะมาก สามารถเล่นคำสามคำได้อย่างไพเราะ ตอนนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าดอยนี้อยู่ที่ไหน แต่ก็ตั้งใจว่าจะไปนอนดูดาวที่ดอยนี้ให้ได้ซักครั้ง
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากทริปนี้ไปกับคุณพ่อคุณแม่ จะให้ลุยขึ้นไปนอนเต๊นท์บนนั้นก็คงไม่ไหว เลยตัดสินใจนอนที่ อ.นาน้อย ซึ่งอยู่ตีนดอย ตอนเช้าค่อยตื่นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นแทนแล้วกัน
05.30 น. ผมขับรถจากเฮือนวาดเขียนขึ้นดอยเสมอดาว เป็นระยะทางประมาณสิบกว่ากิโลเมตรที่มืดมิดมาก Google Map ก็ใช้งานไม่ได้ หลงทางแต่ก็ไม่รู้จะจอดรถถามใคร รอบตัวมีแต่ความมืดมิด แต่ก็สามารถดั้นด้นขึ้นไปจนถึงจุดชมวิวดอยเสมอดาวจนได้ (แม้จะขับรถเลยก็ตาม)
บนนี้มีเต๊นท์กางเป็นทิวแถว ผู้คนทยอยออกจากเต๊นท์ขึ้นไปยังจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น เห็นเงาคนยืนเป็นแนวยาว ผมเดินขึ้นไปยืนรอพระอาทิตย์ขึ้น
งดงาม คุ้มค่าการรอคอยจริง ๆ
วัดพระธาตุแช่แห้ง
ผมกลับมากินอาหารเช้าที่เฮือนวาดเขียน ข้าวต้มร้อน ๆ กับกาแฟหอม ๆ ในบรรยากาศเย็นสบาย มันช่างชิลจนอยากมาอยู่ที่นี่เหลือเกิน
หลังจากเก็บของและ check out เรียบร้อย ผมก็ออกเดินทาง ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง ขับรถผ่าน อ.เวียงสา ถึง จ.น่าน
จุดหมายต่อไปของผมคือ 'วัดพระธาตุแช่แห้ง' เป็นวัดที่สวยงามและมีชื่อเสียงของเมืองน่าน ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง
ที่สำคัญคือเป็นพระธาตุประจำปีเถาะ ได้ไหว้พระธาตุสมใจคุณแม่และน้องสาวแล้ว
เนื่องจากวัดนี้เป็นวัดพระธาตุประจำปีเถาะซึ่งเป็นปีเกิดน้องสาวของผม เธอก็มีพิธีรีตองค่อนข้างเยอะ ต้องไหว้อย่างโน้นอย่างนี้ สวดมนต์อย่างโน้นอย่างนี้ เวียนเทียนอย่างโน้นอย่างนี้ ถ่ายรูปอย่างโน้นอย่างนี้ สะเดาะเคราะห์อย่างโน้นอย่างนี้ บลา ๆ ๆ กว่าจะเสร็จสิ้นพิธีก็ปาเข้าไปเที่ยง ความหวังที่จะไปถึงปัวหรือบ่อเกลือดับลงไปโดยปริยาย
วัดภูมินทร์
หลังจากเสร็จสิ้นพิธีที่วัดพระธาตุแช่แห้ง ผมขับรถไปเที่ยวในเมือง โดยเริ่มต้นที่ 'วัดภูมินทร์' ซึ่งเป็นวัด signature ของ จ.น่าน ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงเช่นกัน
วัดภูมินทร์ของ จ.น่าน น่าจะอารมณ์ประมาณวัดพระแก้วของกรุงเทพ ฯ คือเป็นวัดที่เป็นศูนย์กลางของเมือง เป็นที่พึ่งทางใจของคนจังหวัดนี้
กระซิบรักบันลือโลก
เรื่องราวของภาพกระซิบรัก ฯ เป็นหนึ่งในเรื่องที่ผมประทับใจที่สุดในทริปนี้ ภาพกระซิบรักนี้เป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในวัดภูมินทร์ ผลงานของปราชญ์เมืองน่านชื่อ 'หนานบัวผัน' (หนาน คือ คำเรียกชายหนุ่มที่บวชเรียนแล้ว คนภาคกลางเรียกว่าทิด) ภาพนี้เป็นสัญลักษณ์ของ จ.น่าน ผู้คนเอาภาพกระซิบรักของปู่ม่านย่าม่านไปทำเป็นของที่ระลึก แตกไลน์เป็นสินค้าต่าง ๆ มากมาย
ที่น่ารักกว่านั้นคือการสร้าง story ต่อยอดจากภาพจิตรกรรมนี้ด้วยคำถามที่ว่า "เอ๊ะ แล้วปู่ม่านย่าม่านกระซิบอะไรกัน?"
อ.สมเจตน์ วิมลเกษม ปราชญ์เมืองน่าน เลยแต่งคำกลอนภาษาเหนือไว้อย่างไพเราะน่าฟัง ถ้อยคำที่ปู่ม่านกระซิบย่าม่านคือ
"คำฮักน้อง กูปี้จักเอาไว้ในน้ำก็กลัวหนาว
จักเอาไว้พื้นอากาศกลางหาว ก็กลัวหมอกเหมยซอนดาวลงมาคะลุม
จักเอาไปใส่ในวังข่วงคุ้ม ก็กลัวเจ้าปะใส่แล้วลู่เอาไป
ก็เลยเอาไว้ในอกในใจตัวชายปี้นี้ จักหื้อมันไห้อะฮิอะฮี้
ยามปี้นอนสะดุ้งตื่นเววา…"
(ความรักของน้องนั้น พี่จะเอาฝากไว้ในน้ำก็กลัวเหน็บหนาว จะฝากไว้กลางท้องฟ้าอากาศกลางหาว ก็กลัวเมฆหมอกมาปกคลุมรักของพี่ไปเสีย หากเอาไว้ในวังในคุ้ม เจ้าเมืองมาเจอก็จะเอาความรักของพี่ไป เลยขอฝากเอาไว้ในอกในใจของพี่ จะให้มันร้องไห้รำพี้รำพันถึงน้อง ไม่ว่ายามพี่นอนหลับหรือสะดุ้งตื่น แต่งและแปลโดย อ.สมเจตน์ วิมลเกษม)
ช่างเป็นเรื่องราวที่ฟรุ้งฟริ้งเสียนี่กระไร ได้ยินแล้วอดยิ้มไม่ได้ ประทับใจมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
รถรางชมเมือง
เนื่องจากเมืองน่านเป็นเมืองเล็ก ๆ วัดวาอาราม สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ จะอยู่ห่างกันในช่วง 3 - 4 บล็อกถนน ซึ่งสามารถปั่นจักรยานหรือขี่มอเตอร์ไซด์เที่ยวชมเมืองได้อย่างสบาย ๆ แต่ถ้าใครกลัวแดดร้อนหรือขี้เกียจปั่นจักรยาน ผมแนะนำการเที่ยวด้วยรถรางชมเมือง ใช้เวลาประมาณชั่วโมงนิด ๆ โดยสามารถจองบัตรได้ที่ศูนย์บริการนั่งท่องเที่ยว ฝั่งตรงข้ามวัดภูมินทร์ หัวละ 30 บาท สะดวกสบายมากเจ้า
ระหว่างรอรอบรถรางก็หากาแฟจิบเพลิน ๆ ก็ได้ครับ ข้าง ๆ มี Cafe Amazon แต่งร้านน่ารักดี คอกาแฟไม่ต้องห่วง ที่เมืองน่านมีร้านกาแฟเยอะกว่า 7-11 ผม confirm ครับ
นี่ผมยังไปไม่ครบทุกวัดนะ ในเมืองน่านมีวัดเยอะมาก แต่ละแห่งก็อยู่ใกล้ ๆ กัน ไม่เกิน 3 - 4 บล็อกถนน ดังนั้นเราจะสามารถไหว้พระ 9 วัดที่น่านได้อย่างสบาย ๆ ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงก็ครบแล้ว
น่านเป็นเมืองเล็ก ๆ ที่น่ารักมาก มีการอนุรักษ์ให้เป็นเมืองเก่า ใครที่ยังไม่เคยเที่ยวน่าน ผมแนะนำว่าให้รีบมาเยี่ยมชมเมืองน่ารัก ๆ แห่งนี้นะครับ ตอนนี้ยังมีนักท่องเที่ยวฝรั่งน้อยมาก ที่สำคัญคือยังไม่มีทัวร์จีนลง ถ้าพี่จีนมาเมื่อไหร่ เมืองน่านพังพินาศแน่นอน
To be continued
อ่านต่อ
กระซิบรักที่เมือง 'น่าน' อู้คำหวานที่เมือง 'แพร่' ตอนจบ http://ppantip.com/topic/34691937
*** ขออนุญาตฝากเพจนายอุ๊ย!! เพจสนุก ๆ ไว้ในอ้อมใจด้วยนะครับ ^^ --> https://www.facebook.com/lovenaioui ***