[SR] นอนมองดาว ณ น่าน ฉบับ มกราคม 2020

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ชาว Pantip 
วันนี้จะขอแบ่งปันประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวในภาคเหนือครั้งแรก!! ค่ะ

การเดินทางครั้งนี้ จขกท. มีแรงบันดาลใจอยู่ 2 อย่าง คือ อยากพาคุณพ่อไปนอนดูดาวระยิบระยับบนท้องฟ้า
และอยากพาครอบครัวไปเปลี่ยนบรรยากาศสัมผัสอากาศเย็นของเมืองไทยบ้าง 
(เพราะถ้ารอ กทม.หนาว ก็คงอีกสักพักกกใหญ่เลย... และไม่รู้ว่าเมื่อไร ?)

จุดหมายปลายทางในครั้งนี้คือ จ.น่าน ค่ะ
ซึ่ง จ.น่านนี้เองได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่ชิลที่สุดอีก 1 จังหวัด
จขกท. เลือกเดินทาง ในปลายเดือน มกราคม
เพราะยังเป็นช่วงที่มีอากาศหนาวอยู่ แต่ก็ไม่หนาวจนเกินไป แถมยังเป็นช่วงที่ลุ้นต่อการออกดอกของต้นพญาเสือโคร่ง
ซึ่งจะบานในช่วงปลาย มกราคม หรือ ต้นกุมภาพันธ์ของทุกปี และที่สำคัญ คื อผู้คนไม่แน่นมากเหมือนช่วงเทศกาลปีใหม่ค่ะ

ก่อนเดินทางเรามาทำความรู้จัก กับ จ.น่านกับสักนิดนะคะ 
จากที่ จกขท.ทำการบ้านก่อนการเดินทางนั้นทำให้รู่ว่า จ.น่าน นั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าดึงดูดอยู่ในทุก ๆ อำเภอ 
ไม่ได้มีดีแค่ ดอยเสมอดาว หรือว่านาขั้นบันไดที่ อ.ปัว อย่างเดียวซะหน่อย...
แหม แหม!! จะไปทั้งทีก็อยากไปให้ครบอ่ะเนอะ เลยต้องแพลนกันดีๆ
เอ้า ... แผนที่ น่าน อยู่นี่แล้ว ลองแพลนการเดินทางกันดูนะคะ 
และนี้คือแพลนการเดินทาง 3 วัน 2 คืน ของ จขกท.คร่าาาา 

วันที่ 1 : สนามบินน่าน-วัดพระธาตุแช่แห้ง-วัดภูมินทร์-ดอยเสมอดาว
วันที่ 2 : ดอยผ้าชู-เสาดินนาน้อย-วัดบ่อแก้ว-เมืองน่าน                   
วันที่ 3 : กาแฟบ้านไทลื้อ-ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ -วัดพระธาตุเขาน้อย 
--------------------------------------------------------------------------------------------------------   
    
วันที่ 1 : สนามบินน่าน-วัดพระธาตุแช่แห้ง-วัดภูมินทร์-ดอยเสมอดาว

เราเดินออกเดินทางจาก กรุงเทพฯ ในช่วงเช้า โดยสายการบินหางแดง ใช้เวลาในการบินประมาณ 1 ชม. 20 นาที 
ถึงสนามบินน่านเวลา 8.50 น. อุณภูมิที่สนามบินช่วงเช้า อยุ่ที่ประมาณ 16' ค่ะ บรึ๋ยย
เพื่อความสะดวกและไม่เหนื่อยจนเกินไปของบุพการีวัยเกษียณ
เราได้ทำการเช่ารถยนต์ กับ ชัย เร้นท์อะคาร์
รถที่เช่าคือ Toyota Altis  เครื่อง 1,500 cc. สำหรับสมาชิก 5 คน
พี่เจ้าของให้บริการดีมาก ตรงเวลา รถสะอาด ใหม่ และมีการดูแลรถดี ราคาน่ารัก แนะนำค่ะ
(ต้องบอกก่อนว่าเป็นครั้งแรกที่ไม่ได้เช่ารถกับบริษัทใหญ่ๆ และเช่ารถกับบริษัทในท้องถิ่น)

เมื่อได้รถแล้ว พร้อมลุยค่ะ แต่เอ้ะ หิวหน่อยๆนะ จึงเลือกฝากท้อง
"วันดาข้าวแกง"
 
ร้านวันดาข้าวแกง เป็นร้านที่ขายอาหารพื้นเมืองในลักษณะข้าวราดแกง
ทำเลที่ตั้ง อยู่ไม่ไกลจากสนามบิน ใช้เวลาขับรถไม่เกิน 10 นาที จึงเหมาะกับนักเดินทางที่ต้องการอาหารหนัก สำหรับฝากท้องยามเช้าค่ะ
เมื่ออาหารหนักผ่านพ้นไปแล้ว สมาชิกก็เรียกร้อง เครื่องดื่มกันมาเลยจ้ะ
อีกหนึ่งของขึ้นชื่อแห่ง จ.น่าน ก็คือ "กาแฟ" มาถึงถิ่นจะพลาดได้งัย ใช่ม่ะ !!

ชิลๆ ลิ้มกลิ่นกาแฟ ณ เฮือนฮังต่อ 

เมื่อมาถึงแค่หน้าร้านต้องร้อง โอ้ยยย...น่านั่งมากกกกก บรรยากาศอบอุ่น ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้
ส่วนกาแฟนั้น หอม เข้ม ละมุม เรียกได้ว่าดีงามมมมมมค่ะ
จะนั่งจิบกาแฟในห้องแอร์ก็มีมุมนั่งในร้าน หรือใครที่อยากชิลๆ ก็นั่งในสวน
หากมีเด็กๆ มาด้วยต้องถูกใจ เพราะบริเวณร้านมีกรงนกยูงขนาดใหญ่ บ่อปลาคราฟ ชิงช้า ฯลฯ ให้ชมกันฟรี ๆ 
สำหรับสาวๆ สายถ่ายรูป นั้นมีมุมถ่ายรูปให้ถ่ายกันอย่างจุใจ เลยค่ะ จขกท.เองก็ได้มากว่า 20 รูป ฮ่าาา...
เรียกได้ว่า ตอบโจทย์นักเดินทางทุก ๆ กลุ่มเลยจริงๆ 

เมื่อกินอิ่มทั้งอาหารหลักและกาแฟ แล้วก็เริ่มที่แรกกันเลยค่ะ

"วัดพระธาตุแช่แห้ง พระอารามหลวง "
อยู่ใน อ.เมือง จ.น่าน
เป็นพระธาตุแช่งแห้ง ถือเป็นพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของชาว จ.น่าน
สันนิษฐานว่าน่าจะมีอายุราว 600 ปี
เมื่อเข้าไปภายในวัด ให้ความรู้สึกสงบอย่างบอกไม่ถูก  ไม่รู้ว่า จขกท.คิดไปเองรึเปล่า 
แต่ส่วนตัวแล้ว ชอบที่นี่มากๆ รู้สึกว่าสวยงาม และทรงคุณค่าทางจิตใจมากๆเลย
วัดพระธาตุแช่แห้ง นี้ถือเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนปีเถาะ (ปีกระต่าย) 
เพราะฉะนั้น คนปีกระต่าย ไม่ควรพลาดดดนะคะ

ก่อนนะไปเที่ยวกับต่อ แอบกระซิบนิดนึงว่า 
*** พระธาตุแช่แห้ง VS พระธาตุช่อแฮ เป็นคนละที่กันนะคะ อย่าสับสนน้าาาา***

และเราก็มาต่อกันที่ วัดที่ 2
" วัดภูมินทร์ "
วัดภูมินทร์ เป็นอีก 1 วันที่ถือเป็นวัดสำคัญของจังหวัดน่าน ตั้งอยู่ใน อ.เมือง 
ภายในวัดมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง ที่โด่งดัง คือภาพ "กระซิบรัก" ของ "ปู่ม่านย่าม่าน หรือ หนุ่มกระซิบ"
ซึ่งเป็นผลงานของหนานบัวผัน จิตรกรพื้นถิ่นเชื้อสายไทลื้อ
ได้รับการยอมรับว่าเป็นผลงานที่ปราณีตและเป็นภาพที่โดดเด่นประจำวัดภูมินทร์ 
ต้องบอกว่า ภาพจิตกรรมฝาผนังภายในวัด ไม่ได้มีแค่ภาพกระซิบรักอย่างเดียวนะคะ
มีเรื่องราวมากมาย ที่อธิบายถึงวัฒนธรรมและประวัติความเป็นมาของวิถีชีวิตชาวน่านในอดีค
ถือเป็นจุดเด่น และจุดดึงดูดให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาอย่างไม่ขาดสาย ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ 

หากเพื่อนๆคนไหนอยากทราบประวัติเพิ่มเติม ก็สามารถสอบถามกับมัคคุเทศน์น้อยภายในบริเวณวัดได้เลยค่ะ
รับรองว่า ข้อมูลของน้อง ๆ นั้นเป๊ะปังอลังมากค่ะ และที่ประทับใจมาก ๆ เลย คือ
มัคคุเทศน์น้อยนี้จะบอกเล่าให้ฟังกันถึง 3 ภาษาเลยทีเดียว คือ ภาษาคนเมือง ภาษากลาง และภาษาอังกฤษค่ะ

เมื่อทำบุญและสัมผัสกับบรรยากาศเมืองมาพอสมควรแล้ว ก่อนขึ้นดอยเราแวะรองท้องกันอีกครั้งที่
"ก๋วยเตี๋ยวไร้เทียมทาน"
เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวมุมตึก ที่ตั้งอยู่ใน อ.เมือง 
มีเส้นให้เลือกหลายอย่าง ราคาก็สบายกระเป๋า ที่เป็นไฮไลท์ของร้านก็เห็นจะเป็นน้ำต้มยำ
ที่ชาวเน็ตต่างให้คำร่ำรือว่าเด็ด แต่จะเด็ดหรือไม่นั้นนน ขอท้าให้มาชิมมม....
เพราะมาถึงน่านแล้ว เตี๋ยวไร้เทียมทานก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ต้องมาสักครั้ง 

และแล้วก็ถึงเวลาที่เราจะไปสัมผัสกับ หมู่ดาว และอากาศเย็น ๆ บนยอดดอย 
เพื่อความพร้อมก่อนขึ้นดอย ขอแนะนำให้ซื้อขนม น้ำ หรือของใช้จำเป็นขึ้นไปด้วยนะคะ 
เพราะขึ้นไปแล้ว คงไม่อยากขับลงมาเป็นแน่แท้ !!!!!

"ดอยเสมอดาว"
ตั้งอยู่ที่ อ.นาน้อย ภายใต้การดูแลของอุทยานแห่งชาติศรีน่าน
จขกท. ออกเดินทางจากตัวเมืองน่าน ประมาณ บ่าย 3 โมง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาทีค่ะ
เมื่อมาถึง ก่อนถึงจุดกางเต้นท์จะพบด่านเก็บค่าธรรมเนียมบำรุงอุทยานฯ
เมื่อผ่านด่านมาแล้วไม่ไกลจะพบกันลานกางเต้นท์ของ ดอยเสมอดาวค่ะ
ลานกางเต้นท์ ถือเป็นจุดที่สูงที่สุด และเห็นดาวได้ใกล้ที่สุด บริเวณลานมีลักษณะเป็นลานโล่ง แบ่งเป็นชั้น ๆ  
ในวันที่ จขกท.ไป มีนักท่องเที่ยวไม่มากนัก เพราะเพิ่งเลยช่วงเทศกาลมา
ซึ่งมันดีมากค่ะ ไม่แออัด และก็ไม่เหงาจนโดดเดี่ยว
เรียกได้ว่า ปริมาณคนกำลังดีเลย ค่ะ ไม่ไกลจากลานกางเต้นท์ จะเป็นที่ทำการของ จนท.อุทยาน
ที่มี จนท.คอยให้ความช่วยเหลือ นักท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิด และติดกันกับที่ทำการก็เป็นห้องน้ำค่ะ 
ผู้ที่มาพักกางเต้นท์ที่ดอยเสมอดาวจะใช้ห้องน้ำนี้ในการอาบน้ำ หรือทำธุระส่วนตัวกันที่จุดนี้
สำหรับใครที่สนใจมากางเต้นท์ จะเช่าเต้นท์กับอุทยาน หรือว่าจะนำมาเองก็สามารถนะคะ 

สำหรับ จขกท. เลือกพักที่บ้านพักของอุทยานค่ะ
โดยจองผ่านเว็บไซต์ของอุทยานหรือโทรไปสอบถามรายละเอียดได้เลย 
อาจจะติดยากหน่อย แต่ติดนะคะ อิอิ และนี่คือบ้านพักของเราค่ะ
บ้านพักของอุทยานนั้น ไม่ได้อยู่บริเวณเดียวกันกับจุดกางเต้นท์ แต่จะอยู่ด้านล่างลงมา
ระยะทางไม่ไกลกันมาก แต่ไม่สามารถเดินหากันได้ เพราะเป็นทางลูกรังที่รถวิ่ง มีความชัน และมืดในช่วงเวลากลางคืนค่ะ
ภายในบ้านพัก มี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ (เปียกและแห้ง)
มีห้องนั่งเล่นอยู่ตรงกลาง มีระเบียงชมวิวด้วยค่ะ
นอนหลับสบายค่ะ แต่ห่างไกลผู้คน และดาวไม่ชัดเหมือนลานกางเต้นท์ 

ชื่อสินค้า:   ดอยเสมอดาว เที่ยวเมืองน่าน กาแฟบ้านไทลื้อ ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง โดยได้รับส่วนลดหรือสิทธิพิเศษจากเจ้าของสินค้าเพื่อแลกกับการรีวิว
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่