http://www.kratisod.com/mainnews/2736
เขาวิเคราะห์ว่าอย่างนี้
1. เด็กไทยสมัยนี้สนใจแต่โทรศัพท์ เล่นไลน์กันทั้งวันทั้งคืน ไม่ต้องหลับต้องนอนกัน นอนดึกตื่นสาย หนังสือไม่สนใจเรียน ตื่นไม่ทันโรงเรียน เลยกินข้าวเช้าไม่ทัน พอสายก็หนีไปกินข้าว ขาดเรียนชั่วโมงแรกวิชาหนึ่ง รุ่งขึ้นแบบเดิม เป็นอย่างนี้ทุกวัน ก็หมดทุกวิชา เมื่อเรียนไม่ทัน ไม่รู้เรื่องก็เบื่อ ก็ชวนกันหนีเรียนไปตั้งแก๊งค์ ไปติดยา มั่วเซ็กซ์ ใครเรียน… ก็แกล้งก็กวน ก็เลยทำให้ทั้งห้องเหมือนกันหมด ความรู้(ไม่)เก่งเหมือนกันหมด ไอ้เรื่องที่จะให้ทบทวนให้ทันเขา บอกได้คำเดียวว่า “ยากมาก”
2. ครูก็สอนไปตามหน้าที่ ลองไปเข้มงวดลูกท่านซิ…เดี๋ยวพ่อเสือแม่เสือก็มาถึงโรงเรียนอีก ผู้บริหารยังต้องเกรงใจเลย ครูก็เลยปล่อยไม่ยุ่งด้วย…เด็กก็ได้ใจเพราะได้แบ็ค (พ่อแม่รังแกฉัน…เข้าใจมั้ย…พ่อแม่บางคนไม่รู้เรื่องว่าอะไร ?)
3. การวัดผล เด็กสอบตกก็ต้องยัดเยียดให้ผ่านให้ได้ ไม่งั้นเสียชื่อครูว่าสอนไม่เก่ง แถมถูกผู้ปกครองด่าอีก กฎหมายใหม่ก็เอื้อให้ทำโทษเด็กไม่ได้ จะเรียกเด็กมาสอบใหม่ ท่านไม่มาสอบ เอ้า…เอาคำตอบไปลอก อ้อนวอนสารพัดจนเด็กผ่านไปได้ โล่งอก ขนาดได้เกรด 1.8 ก็ผ่านได้ ทั้งที่มันแค่ 40% ผ่านได้ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรแล้ว นี่ไงความรู้ของเด็กไทยขณะนี้โดยทั่วไป
4. การเข้าทำงาน เก่งไม่ค่อยจะได้ แต่ถ้ามีเส้นถึงจะ Ok ต่อไปเราจะได้ปลัดกระทรวงที่เก่งมากๆ แต่มาจากเส้น ได้ข้าราชการที่เก่ง ก็มาจากเส้นอีก
5. เด็กสมัยนี้ทำอะไรไม่เป็น ไม่ยอมลำบาก ไม่อดทนต่อความลำบาก (สังเกตให้ดี ลูกๆเราเป็นอย่างงี้มั้ย ถ้าเป็นครู ลูกศิษย์เราเป็นอย่างงี้มั้ย) ไม่มีวินัย พอเข้าทำงาน เจอระเบียบวินัย เจอเข้มงวด เจองานหนักเข้าก็มาบ่นให้พ่อแม่ฟัง ถ้าพ่อแม่มีตังค์ มีอำนาจ (เลี้ยงลูกแบบคุณหนู) จะบอกลูกว่าอยู่ไม่ได้ก็ไม่ต้องทำ ลาออกมาพ่อแม่เลี้ยงได้ เด็กก็เลยได้ใจ ไม่ต้องทำอะไรกินแล้ว พอได้ครอบครัวก็เอาผัวเอาเมียมาเกาะพ่อแม่กิน พอพ่อแม่ตาย สมบัติพอมี ก็ขายกินอีก ขยับขยายทำให้กำไรไม่เป็น แล้วรุ่นหลานจะเอาอะไรขายกิน หลานเหลนก็ต้องกลับไปนับหนึ่งใหม่อีก
6. เดี๋ยวนี้เราจะเห็นแขก พม่า เขมร และต่างชาติ ต่างมาค้าขายในไทยมากแล้ว และรัฐก็ยกเลิกมาตรการต่างๆ ให้ต่างชาติทำได้ ตอนแรกก็ขายพวกเดียวกันก่อน ต่อมาก็ขายคนไทย ตอนนี้ก้าวหน้า มีผัวไทยเมียไทย จ้างคนไทยเป็นลูกมือ แล้วต่อไปก็ครองเศรษฐกิจ แบบแถวแม่สาย แม่สอด มุกดาหาร หนองคาย กรุงเทพฯ และทั่วทุกเมือง นี่เป็นเพราะพวกเรามองไม่เห็นภัย ที่กำลังคืบเข้ามา ยังสนุกอยู่ ยังมีพ่อมีแม่อยู่ พอพ่อแม่ตาย สมบัติเก็บไม่อยู่แน่ เพราะไม่มีความรู้ในการบริหารงานทำงาน กฎหมายไม่คุ้มครอง ทุกอย่างจะเสียเปรียบหมด เงินทองจะเสียเร็วมาก กว่าจะฉลาดก็หมด หรือเกือบหมด ตัวทีนี้แหละจะอยู่ด้วยความแร้นแค้นละ…ช่วยกันคิดนะครับว่าจะทำอย่างไรจึงทำให้ความเห็นข้างบนนี้ไม่จริง เป็นเพียงการพูดจาเพ้อเจ้อไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง อย่าให้เป็นจริงเลยแม้แต่ข้อเดียว!
กาแฟสด (สุทธิชัย หยุ่น)
16 เมษายน 2559
หมายเหตุ *** เพราะมันยาวมาก ผมจึงเกรงว่าคงไม่มีใครอ่าน 555
*****************************************************************************************
กราบเรียน รัฐบาล
ตอนนี้ จังหวัดที่ผมอาศัยอยู่ มีชาวต่างด้าว ท้าวต่างแดน มาเปิดร้านขายของกันมากมาย ทั้ง จีน ทั้ง ขะแมร์
คนจีน เปิดร้านขายพวกวัสดุ อุปกรณ์ ชา กาแฟ เบเกอรี่ ผ้าม่าน พวกนี้เก่งภาษา พูดกับคนไทยก็ได้ เขียนไทยก็ได้ แต่เวลาพูดกับลูกจ้าง คนงานในร้าน กลับพูดจีนเป็นไฟ สงสัยลูกจ้างก็คงเป็นคนจีนเหมือนกันด้วย
ผมไม่ได้มีอคติอะไรกับคนจีนนะครับ เพราะผมก็แซ่จิว แซ่โจว เหมือนกัน
ส่วนคนขะแมร์ เปิดร้านขายผลไม้ ขายน้ำพริก ผัก ในตลาดสดเทศบาล กันเยอะแยะ
ไม่เห็นมีใครว่า หรือ จัดการอะไรเลยครับ
ค้าขายหน้าร้าน..มันเป็นอาชีพสงวนไว้สำหรับคนไทยมิใช่หรือ
อาชีพที่ห้ามคนต่างด้าวทำ
การกำหนดงานในอาชีพ และวิชาชีพที่ห้ามคนต่างด้าวทำ
บัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกา
กำหนดในอาชีพและวีชาชีพที่ห้ามคนต่างด้าวทำ
พ.ศ. 2522
1. งานกรรมกร
2. งานกสิกรรรม งานเลี้ยงสัตว์ งานป่าไม้ หรืองานประมง ยกเว้นงานที่ใช้ความชำนาญ งานเฉพาะสาขา หรืองานงานควบคุมดูแลฟาร์ม
3. งานก่ออิฐ งานช่างไม้ หรืองานก่อสร้างอื่น
4. งานแกะสลักไม้
5. งานขับขี่ยานยนต์ หรืองานขับขี่ยานพาหนะที่ไม่ใช้เครื่องจักรหรือเครื่องกล ยกเว้นงานขับขี่เครื่องบินระหว่างประเทศ
6. งานขายของหน้าร้าน
7. งานขายทอดตลาด
8. งานควบคุม ตรวจสอบหรือให้บริการบัญชี ยกเว้น งานตรวจสอบภายในชั่วคราว
9. งานเจียระไน หรือขัดเพชรหรือพลอย
10. งานตัดผม งานดัดผม หรืองานเสริมสวย
11. งานทอผ้าด้วยมือ
12. งานทอเสื่อ หรืองานทำเครื่องใช้ด้วยกก หวาย ปอ ฟาง หรือเยื่อไม้ไผ่
13. งานทำกระดาษสาด้วยมือ
14. งานทำเครื่องเขิน
15. งานทำเครื่องดนตรีไทย
16. งานทำเครื่องถม
17. งานทำเครื่องทอง เครื่องเงิน หรือเครื่องนาก
18. งานทำเครื่องลงหิน
19. งานทำตุ๊กตาไทย
20. งานทำที่นอนผ้าห่มนวม
21. งานทำบาตร
22. งานทำผลิตภัณฑ์จากผ้าไหมด้วยมือ
23. งานทำพระพุทธรูป
24. งานทำมีด
25. งานทำร่มด้วยกระดาษหรือผ้า
26. งานทำรองเท้า
27. งานทำหมวก
28. งานนายหน้า หรืองานตัวแทน ยกเว้น งานนายหน้าหรืองานตัวแทนในธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ
29. งานในวิชาชีพวิศวกรรม สาขาวิศวกรรมโยธา ที่เกี่ยวกับงานออกแบบและคำนวณ จัดระบบ วิจัย วางโครงการ ทดสอบ ควบคุมการก่อสร้าง หรือให้คำแนะนำ ทั้งนี้ไม่รวมที่ต้องใช้ความชำนาญพิเศษ
30. งานในวิชาชีพสถาปัตยกรรมที่เกี่ยวกับงานออกแบบเขียนแบบ ประมาณราคา อำนวยการก่อสร้างหรือให้คำแนะนำ
31. งานประดิษฐ์เครื่องแต่งกาย
32. งานปั้นหรือทำเครื่องปั้นดินเผา
33. งานมวนบุหรี่ด้วยมือ
34. งานมัคคุเทศก์ หรืองานจัดนำเที่ยว
35. งานเร่ขายสินค้า
36. งานเรียงตัวพิมพ์อักษรไทยด้วยมือ
37. งานสาวและบิดเกลียวไหมด้วยมือ
38. งานเสมียนพนักงานหรืองานเลขานุการ
39. งานให้บริการทางกฎหมายหรืออรรถคดี
**หมายเหตุ ตามมติคณะรัฐมนตรี ผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ (พม่า ลาว และกัมพูชา)
ทำงานได้ 2 อาชีพ คือ 1. งานกรรมกร และ 2. งานบ้าน
20 ปีข้างหน้าคนไทยจะโง่ลง สุทธิชัย หยุ่น วิเคราะห์ เขมร พม่า จะยึดอาชีพคนไทยเกือบหมด กลายเป็นลูกจ้างแทน ??? (โจ ขิง)
เขาวิเคราะห์ว่าอย่างนี้
1. เด็กไทยสมัยนี้สนใจแต่โทรศัพท์ เล่นไลน์กันทั้งวันทั้งคืน ไม่ต้องหลับต้องนอนกัน นอนดึกตื่นสาย หนังสือไม่สนใจเรียน ตื่นไม่ทันโรงเรียน เลยกินข้าวเช้าไม่ทัน พอสายก็หนีไปกินข้าว ขาดเรียนชั่วโมงแรกวิชาหนึ่ง รุ่งขึ้นแบบเดิม เป็นอย่างนี้ทุกวัน ก็หมดทุกวิชา เมื่อเรียนไม่ทัน ไม่รู้เรื่องก็เบื่อ ก็ชวนกันหนีเรียนไปตั้งแก๊งค์ ไปติดยา มั่วเซ็กซ์ ใครเรียน… ก็แกล้งก็กวน ก็เลยทำให้ทั้งห้องเหมือนกันหมด ความรู้(ไม่)เก่งเหมือนกันหมด ไอ้เรื่องที่จะให้ทบทวนให้ทันเขา บอกได้คำเดียวว่า “ยากมาก”
2. ครูก็สอนไปตามหน้าที่ ลองไปเข้มงวดลูกท่านซิ…เดี๋ยวพ่อเสือแม่เสือก็มาถึงโรงเรียนอีก ผู้บริหารยังต้องเกรงใจเลย ครูก็เลยปล่อยไม่ยุ่งด้วย…เด็กก็ได้ใจเพราะได้แบ็ค (พ่อแม่รังแกฉัน…เข้าใจมั้ย…พ่อแม่บางคนไม่รู้เรื่องว่าอะไร ?)
3. การวัดผล เด็กสอบตกก็ต้องยัดเยียดให้ผ่านให้ได้ ไม่งั้นเสียชื่อครูว่าสอนไม่เก่ง แถมถูกผู้ปกครองด่าอีก กฎหมายใหม่ก็เอื้อให้ทำโทษเด็กไม่ได้ จะเรียกเด็กมาสอบใหม่ ท่านไม่มาสอบ เอ้า…เอาคำตอบไปลอก อ้อนวอนสารพัดจนเด็กผ่านไปได้ โล่งอก ขนาดได้เกรด 1.8 ก็ผ่านได้ ทั้งที่มันแค่ 40% ผ่านได้ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรแล้ว นี่ไงความรู้ของเด็กไทยขณะนี้โดยทั่วไป
4. การเข้าทำงาน เก่งไม่ค่อยจะได้ แต่ถ้ามีเส้นถึงจะ Ok ต่อไปเราจะได้ปลัดกระทรวงที่เก่งมากๆ แต่มาจากเส้น ได้ข้าราชการที่เก่ง ก็มาจากเส้นอีก
5. เด็กสมัยนี้ทำอะไรไม่เป็น ไม่ยอมลำบาก ไม่อดทนต่อความลำบาก (สังเกตให้ดี ลูกๆเราเป็นอย่างงี้มั้ย ถ้าเป็นครู ลูกศิษย์เราเป็นอย่างงี้มั้ย) ไม่มีวินัย พอเข้าทำงาน เจอระเบียบวินัย เจอเข้มงวด เจองานหนักเข้าก็มาบ่นให้พ่อแม่ฟัง ถ้าพ่อแม่มีตังค์ มีอำนาจ (เลี้ยงลูกแบบคุณหนู) จะบอกลูกว่าอยู่ไม่ได้ก็ไม่ต้องทำ ลาออกมาพ่อแม่เลี้ยงได้ เด็กก็เลยได้ใจ ไม่ต้องทำอะไรกินแล้ว พอได้ครอบครัวก็เอาผัวเอาเมียมาเกาะพ่อแม่กิน พอพ่อแม่ตาย สมบัติพอมี ก็ขายกินอีก ขยับขยายทำให้กำไรไม่เป็น แล้วรุ่นหลานจะเอาอะไรขายกิน หลานเหลนก็ต้องกลับไปนับหนึ่งใหม่อีก
6. เดี๋ยวนี้เราจะเห็นแขก พม่า เขมร และต่างชาติ ต่างมาค้าขายในไทยมากแล้ว และรัฐก็ยกเลิกมาตรการต่างๆ ให้ต่างชาติทำได้ ตอนแรกก็ขายพวกเดียวกันก่อน ต่อมาก็ขายคนไทย ตอนนี้ก้าวหน้า มีผัวไทยเมียไทย จ้างคนไทยเป็นลูกมือ แล้วต่อไปก็ครองเศรษฐกิจ แบบแถวแม่สาย แม่สอด มุกดาหาร หนองคาย กรุงเทพฯ และทั่วทุกเมือง นี่เป็นเพราะพวกเรามองไม่เห็นภัย ที่กำลังคืบเข้ามา ยังสนุกอยู่ ยังมีพ่อมีแม่อยู่ พอพ่อแม่ตาย สมบัติเก็บไม่อยู่แน่ เพราะไม่มีความรู้ในการบริหารงานทำงาน กฎหมายไม่คุ้มครอง ทุกอย่างจะเสียเปรียบหมด เงินทองจะเสียเร็วมาก กว่าจะฉลาดก็หมด หรือเกือบหมด ตัวทีนี้แหละจะอยู่ด้วยความแร้นแค้นละ…ช่วยกันคิดนะครับว่าจะทำอย่างไรจึงทำให้ความเห็นข้างบนนี้ไม่จริง เป็นเพียงการพูดจาเพ้อเจ้อไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง อย่าให้เป็นจริงเลยแม้แต่ข้อเดียว!
กาแฟสด (สุทธิชัย หยุ่น)
16 เมษายน 2559
หมายเหตุ *** เพราะมันยาวมาก ผมจึงเกรงว่าคงไม่มีใครอ่าน 555
*****************************************************************************************
กราบเรียน รัฐบาล
ตอนนี้ จังหวัดที่ผมอาศัยอยู่ มีชาวต่างด้าว ท้าวต่างแดน มาเปิดร้านขายของกันมากมาย ทั้ง จีน ทั้ง ขะแมร์
คนจีน เปิดร้านขายพวกวัสดุ อุปกรณ์ ชา กาแฟ เบเกอรี่ ผ้าม่าน พวกนี้เก่งภาษา พูดกับคนไทยก็ได้ เขียนไทยก็ได้ แต่เวลาพูดกับลูกจ้าง คนงานในร้าน กลับพูดจีนเป็นไฟ สงสัยลูกจ้างก็คงเป็นคนจีนเหมือนกันด้วย
ผมไม่ได้มีอคติอะไรกับคนจีนนะครับ เพราะผมก็แซ่จิว แซ่โจว เหมือนกัน
ส่วนคนขะแมร์ เปิดร้านขายผลไม้ ขายน้ำพริก ผัก ในตลาดสดเทศบาล กันเยอะแยะ
ไม่เห็นมีใครว่า หรือ จัดการอะไรเลยครับ
ค้าขายหน้าร้าน..มันเป็นอาชีพสงวนไว้สำหรับคนไทยมิใช่หรือ
อาชีพที่ห้ามคนต่างด้าวทำ
การกำหนดงานในอาชีพ และวิชาชีพที่ห้ามคนต่างด้าวทำ
บัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกา
กำหนดในอาชีพและวีชาชีพที่ห้ามคนต่างด้าวทำ
พ.ศ. 2522
1. งานกรรมกร
2. งานกสิกรรรม งานเลี้ยงสัตว์ งานป่าไม้ หรืองานประมง ยกเว้นงานที่ใช้ความชำนาญ งานเฉพาะสาขา หรืองานงานควบคุมดูแลฟาร์ม
3. งานก่ออิฐ งานช่างไม้ หรืองานก่อสร้างอื่น
4. งานแกะสลักไม้
5. งานขับขี่ยานยนต์ หรืองานขับขี่ยานพาหนะที่ไม่ใช้เครื่องจักรหรือเครื่องกล ยกเว้นงานขับขี่เครื่องบินระหว่างประเทศ
6. งานขายของหน้าร้าน
7. งานขายทอดตลาด
8. งานควบคุม ตรวจสอบหรือให้บริการบัญชี ยกเว้น งานตรวจสอบภายในชั่วคราว
9. งานเจียระไน หรือขัดเพชรหรือพลอย
10. งานตัดผม งานดัดผม หรืองานเสริมสวย
11. งานทอผ้าด้วยมือ
12. งานทอเสื่อ หรืองานทำเครื่องใช้ด้วยกก หวาย ปอ ฟาง หรือเยื่อไม้ไผ่
13. งานทำกระดาษสาด้วยมือ
14. งานทำเครื่องเขิน
15. งานทำเครื่องดนตรีไทย
16. งานทำเครื่องถม
17. งานทำเครื่องทอง เครื่องเงิน หรือเครื่องนาก
18. งานทำเครื่องลงหิน
19. งานทำตุ๊กตาไทย
20. งานทำที่นอนผ้าห่มนวม
21. งานทำบาตร
22. งานทำผลิตภัณฑ์จากผ้าไหมด้วยมือ
23. งานทำพระพุทธรูป
24. งานทำมีด
25. งานทำร่มด้วยกระดาษหรือผ้า
26. งานทำรองเท้า
27. งานทำหมวก
28. งานนายหน้า หรืองานตัวแทน ยกเว้น งานนายหน้าหรืองานตัวแทนในธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ
29. งานในวิชาชีพวิศวกรรม สาขาวิศวกรรมโยธา ที่เกี่ยวกับงานออกแบบและคำนวณ จัดระบบ วิจัย วางโครงการ ทดสอบ ควบคุมการก่อสร้าง หรือให้คำแนะนำ ทั้งนี้ไม่รวมที่ต้องใช้ความชำนาญพิเศษ
30. งานในวิชาชีพสถาปัตยกรรมที่เกี่ยวกับงานออกแบบเขียนแบบ ประมาณราคา อำนวยการก่อสร้างหรือให้คำแนะนำ
31. งานประดิษฐ์เครื่องแต่งกาย
32. งานปั้นหรือทำเครื่องปั้นดินเผา
33. งานมวนบุหรี่ด้วยมือ
34. งานมัคคุเทศก์ หรืองานจัดนำเที่ยว
35. งานเร่ขายสินค้า
36. งานเรียงตัวพิมพ์อักษรไทยด้วยมือ
37. งานสาวและบิดเกลียวไหมด้วยมือ
38. งานเสมียนพนักงานหรืองานเลขานุการ
39. งานให้บริการทางกฎหมายหรืออรรถคดี
**หมายเหตุ ตามมติคณะรัฐมนตรี ผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ (พม่า ลาว และกัมพูชา)
ทำงานได้ 2 อาชีพ คือ 1. งานกรรมกร และ 2. งานบ้าน