ริษยารักข้ามภพ ตอนที่ 38

ตอนที่ 38


คราวนี้นพคุณสะดุ้งขึ้นสุดตัว ตายละวา สงสัยวันนี้โลกแตกแน่ๆ อ้าปากจะร้องห้ามแต่คงไม่มีประโยชน์เพราะเจ้าของห้องเหลือบแลมาทางเขาเพียงนิด ก่อนก้าวเข้าไปหาประตูห้องนอนแล้วเปิดมันออก
ซึ่งทันทีที่บานประตูเปิดออกก็ราวโลกถล่มลงมาตรงหน้าของหญิงสาวผู้ยืนรออยู่หน้าประตู เมื่อเธอกระจ่างกับคำตอบของปริศนาคาใจตลอดเช้าวันนี้ เพราะหลังจากที่ตัวเองตื่นขึ้นมาจากอาการหลับใหลอันน่าประหลาดใจ อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็รีบเก็บของใส่กระเป๋า เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางกลับจนเรียบร้อยแล้วจึงคิดจะไปปลุกแฟนหนุ่มที่ชอบนอนขี้เซา ยิ่งเมื่อคืนนี้ท่าทางจะเมาหนักเสียด้วย ซึ่งยิ่งจะปลุกลำบาก
ครั้นเปิดประตูห้องออกมาก็พอดีพบเข้ากับอนุชิตและพิษณุที่หิ้วกระเป๋าออกจากห้องแล้วเหมือนกัน หยุดทักทายกันเรื่องหลับใหลจนไม่ได้สติราวกับถูกวางยาของแต่ละคน ที่ต่างเกิดความสงสัยว่าตัวเองกลับมานอนในห้องกันได้อย่างไรอยู่พักหนึ่ง เสร็จแล้วพวงชมพูจึงเดินมาเคาะประตูห้องนอนแฟนหนุ่ม
แต่เพียงมือสัมผัสบานประตูก็เปิดออกพร้อมพบกับความว่างเปล่าของห้อง หญิงสาวเดินไปหยุดยืนเคว้งอยู่กลางห้องพลางร้องเรียกหาชายคนรักซึ่งไร้วี่แวว ขณะเดียวกับที่อีกสองชายก็เดินตามเข้ามา สังหรณ์ประหลาดก่อตัวขึ้นจนเธอใจสั่น เมื่อสังเกตเห็นว่าผ้าปูที่นอนบนเตียงยังอยู่ในสภาพที่เรียบตึง ผ้าห่มก็พับเรียบร้อยเหมือนยังไม่มีใครมานอน หญิงสาวถลันไปเปิดดูในห้องน้ำซึ่งแห้งสนิท ไม่มีร่องรอยว่าถูกใช้งานเมื่อไม่นานมานี้ ใจที่สั่นของเธอเริ่มเต้นรัวแรงเมื่อเกิดสงสัยขึ้นมาทันที ก็ถ้าหากแฟนหนุ่มไม่ได้กลับมานอนที่ห้องนี้เลยตลอดทั้งคืน เช่นนั้นแล้วเขาไปนอนที่ไหนกันล่ะ
เร็วเท่าความคิด หญิงสาวผลุนผลันเดินแกมวิ่งออกจากเรือนรับรองตรงขึ้นไปชั้นบนของเรือนหลวง โดยมีอนุชิตและพิษณุตามไปติดๆ และที่เชิงบันไดทางขึ้นนั่นเองเธอก็พบกับบัวตองที่ยืนรออยู่แล้วด้วยอาการสงบ หญิงรับใช้คนสนิทของเจ้านางสาวบอกเสียงอ่อนราวรู้ว่าเธอมาทำไม
“ข้าเจ้าจะนำคุณชมพูไปจ้าว”
และในเวลานี้แฟนสาวของนพคุณกำลังจ้องหญิงเจ้าของห้องซึ่งยืนเด่นอยู่กลางประตูในชุดนอนเนื้อบางไม่ถึงกับโป๊แต่ก็ชวนให้วาบหวิวด้วยความเคลือบแคลง เธอชะเง้อมองข้ามไหล่หล่อนเข้าไปสำรวจภายในห้อง และแล้วก็เห็นร่างของผู้ชายคนหนึ่งอยู่ในห้องด้วยกันกับหล่อนจริงๆ
“นพคุณ...”ตากลมโตเบิกกว้างเมื่อเห็นร่างชายคนรักของตัวเองสวมเสื้อคลุมนอน ยืนตัวแข็งทื่ออยู่ด้านหลังของผู้หญิงคนที่แสดงตัวว่าต้องการแย่งเขามาครองโดยตลอด
“ไอ้นพ นั่นแกจริงๆ เหรอ แก...อยู่กับเขา”
สิ่งที่เห็นคาตาทำให้ชาดิกไปทั้งตัว ใจเต้นรัวแรงราวจะหลุดออกจากขั้วพร้อมลมหายใจหอบถี่ ดวงตาทั้งคู่เบิกจ้องร่างคนในห้องแทบถลนออกมานอกเบ้า จากนั้นไฟแค้นก็ลุกฮือโหมจนเจ็บร้อนเจียนคลั่ง
นพคุณเข้าไปอยู่ในนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ใช่แล้ว สองคนนั่นคงอยู่ในห้องนี้ด้วยกันทั้งคืน แฟนหนุ่มของเธอมีใจให้กับสาวสวย เขาถือโอกาสตอนที่เธอกำลังเมาแล้วหลับใหลไม่ได้สติแอบย่องเข้าหาผู้หญิงอีกคนก่อนจากลากัน ซึ่งแม่ตัวดีก็สมยอม ดูจากสภาพคงกำลังพากันตื่นนอน แล้วสภาพที่เห็นแบบนี้มันจะไปเหลืออะไร
ไม่จำเป็นต้องถามไถ่อะไรอีก เพราะภาพตรงหน้าได้อธิบายเรื่องทั้งหมดอยู่แล้ว เธอพึ่งรู้ว่าแค้นจนจุกแน่นอัดอกแทบระเบิดนั้นเป็นอย่างไร พวงชมพูพูดไม่ออก ร่างบอบบางเซไปจนชนเข้ากับอนุชิตที่ยืนอึ้งอยู่ข้างหลังเธอ ส่วนพิษณุนั้นหันหลังกลับลงจากเรือนไปทันที เขาลงไปยืนสงบสติอารมณ์รออยู่ข้างรถเก๋งของอนุชิตที่หนานอินเฟือนนำมาจอดไว้ให้ตั้งแต่เช้ามืด
“ชมพู...”
ชายในชุดเสื้อคลุมครางเรียกชื่อสาวคนรักออกมาแผ่วโหยเหมือนใจจะขาด วินาทีที่ประตูเปิดออกและเห็นแฟนสาวมายืนอยู่หน้าประตูห้องพร้อมกับคนอื่น นพคุณไม่กล้ามองหน้าใครตรงๆ รู้สึกเหมือนถูกจับตัวโยนลงหุบเหวนรกดำมืดกะทันหัน ชายหนุ่มตัวเย็นเฉียบ อยากให้สิ่งที่กำลังเผชิญอยู่นี้เป็นเพียงฝันร้ายเท่านั้นแม้จะรู้ว่าไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะนี่มันคือความจริงและเป็นความจริงซึ่งเลวร้ายที่สุดในชีวิตอย่างที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน เป็นยิ่งกว่าฝันร้ายใดๆ เสียอีก สมองของเขาเหมือนจะระเบิดออกด้วยความรู้สึกผิด สับสนปนเปไปหมด ไม่รู้จะจัดการอย่างไรดีระหว่างสาวคนรักกับผู้หญิงอีกคนที่ถลำไปมีความสัมพันธ์ด้วยแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว เหตุสุดวิสัยประเดประดังเข้ามาจนแทบตั้งสติรับไม่ทัน อยากจะบ้าตายไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด
ขณะที่หนุ่มรูปหล่อกำลังอึดอัดคับข้อง แต่หญิงเจ้าของห้องกลับยืนเฉยอยู่กลางประตูห้องนอนอย่างไม่เดือดเนื้อร้อนใจอะไร เธอกำลังรอให้หญิงอีกคนระเบิดอารมณ์ออกมาก่อน แต่ก็ค่อนข้างผิดคาด เพราะผู้หญิงคนนั้นกลับแค่อุทานแล้วนิ่งอึ้ง ตาโตๆ เบิ่งมองคนข้างหลังเธอสลับกับเลื่อนมาจ้องใบหน้าเธอเหมือนเห็นสิ่งน่าสะอิดสะเอียนปนสยดสยอง ครั้นแล้วก็มีอาการซวนเซน้อยๆ ก่อนหันหลังขวับ ครูสาวเบี่ยงตัวหลบอนุชิตที่ยืนขวางอยู่แล้วออกวิ่งเตลิดหนีห่าง โดยมีหนุ่มเชียงใหม่ซึ่งตัดสินใจวิ่งตามเธอไป
“ชมพู...เดี๋ยว ฟังนพก่อน”
นพคุณรู้ว่าในสถานการณ์แบบนี้จะอยู่เฉยไม่ได้ เขาตะโกนเรียกตามหลังแฟนสาวแล้วก้าวพรวดจะออกจากห้อง แต่สตรีที่ยืนขวางอยู่กลางประตูคว้าแขนเขาเอาไว้
“คุณจะไปไหน เรื่องของเรายังไม่ได้คุยกันเลย”
ตวัดเสียงถาม ดวงหน้างามขึ้งเครียดเมื่อเห็นชายหนุ่มแสดงอาการอาทรครูสาวยิ่งกว่าตน
“ปล่อยแขนผมครับเจ้า”
หันมาบอกเสียงเข้ม นัยน์ตาสีสนิมเหล็กกร้าวขึ้น ตอนนี้เขานึกได้แล้วว่าควรทำยังไงหลังจากสับสนอยู่ชั่วขณะ
“ฟังผมให้ดีนะครับ ผมไม่ได้รักเจ้า เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นผมขอโทษ เมื่อคืนนี้ผมไม่รู้ตัวว่าทำอะไรลงไปบ้าง แต่ขณะนี้ผมมีสติรู้ตัวดีว่าผมรักพวงชมพูและจะรักเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นชาตินี้ ชาติหน้า หรือชาติไหนๆ”
ตัดบทอย่างไม่ใยดี เขาไม่กลัวแล้วว่าจะถูกครหาว่าได้แล้วทิ้ง ถึงจะถูกตำหนิว่าไม่เป็นสุภาพบุรุษก็ช่าง เวลานี้เขาคิดแต่จะต้องทำความเข้าใจกับพวงชมพูให้ได้เท่านั้น เหวี่ยงแขนและสะบัดจนหลุดจากการฉุดดึงของเธอ นพคุณออกวิ่งตามคนทั้งสองลงไปจากเรือนโดยทิ้งให้เจ้านางสาวยืนคอแข็งนิ่งขึงอยู่กับที่
โอย เจ็บเสียยิ่งกว่าเจ็บ...เจ็บจนความรู้สึกด้านชาไปหมด แม้ท่าทางข้างนอกยังคงนิ่ง แต่ภายในใจแหลกเหลวร้าวรานยับเยิน เธอแพ้แล้ว แพ้ให้กับผู้หญิงคนนั้นอีกครั้ง บัวตองยืนมองเจ้านางของเธออย่างแสนห่วงใย ซึ่งก็ได้แต่มองเพราะไม่รู้จะทำยังไงดี
อนุชิตวิ่งตามมาทันพวงชมพูซึ่งหยุดยืนหอบหายใจแรงอยู่ข้างรถเก๋งสีขาวของเขา ที่นั่นมีร่างหนุ่มวิศวกรยืนนิ่งรอโดยสารไปด้วยก่อนหน้านั้นแล้ว หนานอินเฟือนยืนถัดห่างออกไป แววตาแห้งแล้งของสาวรุ่นน้องที่หันมามองทำให้อนุชิตกลืนน้ำลายฝืดคอ ทำไมถึงมาเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ในเวลาที่กำลังจะพากันกลับพอดี
ไม่มีอาการโวยวายฟูมฟาย ไม่เอะอะด่าทอผิดวิสัยที่เคยทำ และขณะนี้น้ำใสๆ จากดวงตาร้าวรานก็เริ่มไหลพรากลงอาบแก้ม เธออ้อนวอนเขาเสียงสั่นสะท้าน
“ช่วยพาชมพูกลับบ้านทีเถะค่ะพี่ชิต พาออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้เลย”

“เอ้อ พี่ว่ามันอาจมีการเข้าใจอะไรกันผิดเกิดขึ้น”
“อย่าพูดถึงเรื่องนี้อีกเลยค่ะ ชมพูไม่อยากฟัง ตอนนี้ขอเลือกเชื่อในสิ่งที่ตาเห็นและอยากออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด ทิ้งพวกเขาไว้ที่นี่แล้วพวกเรากลับบ้านกันเถอะ ขึ้นรถเลยค่ะคุณพีท”
ตัดบทแล้วปาดน้ำตาที่เปรอะดวงหน้าทิ้ง เธอเอ่ยชวนพิษณุให้ขึ้นนั่งในรถ พยายามบังคับกิริยาให้เป็นปกติที่สุดแม้มือไม้จะสั่นระริกไปหมด จนคลำเปะปะเปิดประตูรถไม่ออก ลืมไปว่าประตูรถยังถูกปิดล็อคเอาไว้ อนุชิตมองตามร่างน้อยที่เคลื่อนไหวอย่างคนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวด้วยความอดสู คิดจะหาทางคลี่คลายเรื่องนี้อย่างไรดี ซึ่งในตอนนี้เขาเองก็ยังคิดไม่ออก คิดได้แค่เพียงว่าเขาควรพาพวงชมพูออกไปตั้งหลักข้างนอกเสียก่อน จากนั้นค่อยย้อนกลับมาช่วยหาทางออกให้รุ่นน้องชายภายหลัง ซึ่งเมื่อคิดได้ดังนั้นหนุ่มเชียงใหม่จึงกดรีโมตเปิดล็อคประตูรถ
“เดินทางโชคดีนะครับ”
เมื่อเห็นสามหนุ่มสาวตัดสินใจจะออกเดินทางกันแล้วโดยไม่มีนพคุณร่วมเดินทางไปด้วย แสดงว่าทุกอย่างเป็นไปตามความประสงค์ของนายหญิง ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะหากไม่เป็นไปตามนั้น ชะตากรรมของหนุ่มสาวทั้งหมดจะต้องเปลี่ยนเป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่เขาไม่อยากให้มันเกิดขึ้น ผู้จัดการคุ้มโบราณจึงกล่าวอวยพร
“ชมพูลาก่อนนะคะพี่หนาน” ตากลมโตแดงก่ำ กล่าวอำลาผู้จัดการคุ้มทั้งน้ำตา
“ขอบคุณที่ช่วยดูแลพวกเราตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ ดีใจที่ได้รู้จักกันกับพี่ แต่ชาตินี้มีกรรมทำให้พวกเราต้องจากกันไปแบบนี้ ฝากบอกขอบคุณพี่บัวตองให้ชมพูด้วยนะคะ”
เสียงอ่อนเศร้าของหญิงสาวที่ดังขึ้น ได้กระตุ้นบางสิ่งใต้จิตสำนึกของอดีตแม่ทัพใหญ่เวียงแถนให้เกิดใจอ่อน จนเผลอถอนใจยาวออกมาด้วยความสงสาร ภาพเหตุการณ์เมื่อครั้งเจ้านางม่านมณีอ้อนวอนขอความตาย เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องเป็นภาระคนอื่นขณะหอบหิ้วพากันหนีตายจากการไล่ล่าของศัตรูปรากฏอยู่ในห้วงคิดคำนึง
“ขับรถดีๆ นะครับ ถนนทางลงลาดชันตรงโค้งหักศอกต้องระวังให้มากที่สุด”
“ชมพู...พี่ชิต เดี๋ยว รอผมด้วย”
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่