คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 57
ผมว่าจขกทกับบางคห.ที่ไม่เห็นด้วยมองกันคนละประเด็นนะ
ที่ผมเข้าใจคือจขกท.พยายามบอกว่าคนที่ไปต่างประเทศได้โดยเฉพาะตะวันตกมักจะมีต้นทุนทางสังคมพอสมควรไม่ว่าจะเป็น
1. ทักษะภาษาและความสามารถเชิงวิชาการหรือเทียบเท่า
2. บ้านรวย
3. ได้ทุน (ซึ่งทุนมักจะตกเป็นของคนที่มีข้อแรกและบางครั้งมีเรื่องเส้นสายเข้ามาเกี่ยวข้อง)
(เชื่อไหมว่าทุนส่งไปเรียนต่างประเทศเพื่อกลับมาอ.ที่สามย่านทุนนึงยังไม่อนุมัติเลยแต่มีเส้นก๊วยจั๊บที่อ.ในคณะเองอยากให้ลูกหรือคนรู้จักตัวเองได้ไปมาแล้วถึงสามเส้น !!)
เป้าหมายของคนที่จขกท.อยากให้อ่านน่าจะเป็นคนที่กำลังจะไปแต่ไม่มีข้อใดข้อนึงซักข้อแต่ฟังหรืออ่านคนรีวิวมามาก ๆ แล้วคิดหรือเพ้อเอาเองว่าใคร ๆ ก็ไปได้เช่นกระทู้ "บ้านจน อังกฤษพูดไม่เป็น เกรดไม่ถึงสมัครทุนไม่ได้ จะไปเรียนต่างประเทศขอคำแนะนำหน่อย"
ซึ่งจากที่ผมบอก (อ้อม ๆ) ในคห.ที่ 4 คนส่วนใหญ่ที่ผมเห็นเกือบทั้งหมดถ้าไม่บ้านรวยชนิดมาถึงก็ซื้อรถ BMW ก็เป็นคนที่รับทุนเต็มจำนวน (ไม่ใช่ทุนลดค่าเล่าเรียนนิดหน่อย) พร้อมค่ากินอยู่ และจากคห.ส่วนใหญ่ที่มาเล่าชีวิตตัวเองในกระทู้นี้ก็ดูเหมือนจะตรงกับที่ผมเห็นมาตอนอยู่อเมริกา
คนที่มาตายเอาดาบหน้า (อย่างผมที่บ้านปานกลาง มาหา RA/TA เองที่อเมริกา บ้านพอซัพพอร์ตได้บางส่วนแต่ก็ไม่อยากรบกวนถ้าไม่จำเป็น กินอยู่ประหยัด ไม่เที่ยว รีบเรียนให้จบไวที่สุด) มีแต่น้อยหรือน้อยมากซึ่งชีวิตไม่ได้สบายขนาดที่หลายคนที่ยังไม่เคยไปเรียนเพ้อฝันกัน
และได้บอกไปแล้วในคห.ที่4 มีคนมีทุนหรือบ้านรวยแต่เจอ retire หรือต้องกลับบ้านเพราะสอบไม่ผ่านก็มีพอควร (อาจจะเพราะมหาลัยที่ผมเรียนเป็น 1-tier university ด้านวิชาการค่อนข้างเข้มงวดกว่า 2-4 tiers uni)
การมีความฝันเป็นเรื่องที่ดีแต่มันต้องตั้งอยู่บนความเป็นจริงด้วยและฝันยิ่งใหญ่เท่าไหร่สิ่งที่ต้องแลกเปลี่ยนกลับไปมันก็ยิ่งมากเท่านั้น
บางคนยังไม่พร้อมจะรับผิดชอบตัวเองเลย บางคนถึงขนาดคิดว่เรียนป.โท-เอกต่างประเทศง่ายกว่าและจบไวกว่า (ซึ่งจริงครึ่งไม่จริงครึ่งแล้วแต่เคสกับคน) คนที่คิดฝันสูงแต่ขาดต้นทุนรวมถึง commitment น่าจะเป็นกลุ่มเป้าหมายที่จขกท.ต้องการบอกมากกว่าคนมีฐานะและได้ไปแล้วที่มาแย้งจขกท.กัน ที่ผมโพสต์ไม่ใช่เพราะรู้จักอะไรกับจขกท.แต่ไม่อยากเห็นกระทู้ดี ๆ ถูก "derail" ไปจนคนลืมจุดประสงค์ดี ๆ ไปกลายเป็นถกเรื่องอื่นแทน
ถ้าผิดพลาดประการใดก็ขออภัยล่วงหน้าไว้ณ ที่นี้ด้วย
ที่ผมเข้าใจคือจขกท.พยายามบอกว่าคนที่ไปต่างประเทศได้โดยเฉพาะตะวันตกมักจะมีต้นทุนทางสังคมพอสมควรไม่ว่าจะเป็น
1. ทักษะภาษาและความสามารถเชิงวิชาการหรือเทียบเท่า
2. บ้านรวย
3. ได้ทุน (ซึ่งทุนมักจะตกเป็นของคนที่มีข้อแรกและบางครั้งมีเรื่องเส้นสายเข้ามาเกี่ยวข้อง)
(เชื่อไหมว่าทุนส่งไปเรียนต่างประเทศเพื่อกลับมาอ.ที่สามย่านทุนนึงยังไม่อนุมัติเลยแต่มีเส้นก๊วยจั๊บที่อ.ในคณะเองอยากให้ลูกหรือคนรู้จักตัวเองได้ไปมาแล้วถึงสามเส้น !!)
เป้าหมายของคนที่จขกท.อยากให้อ่านน่าจะเป็นคนที่กำลังจะไปแต่ไม่มีข้อใดข้อนึงซักข้อแต่ฟังหรืออ่านคนรีวิวมามาก ๆ แล้วคิดหรือเพ้อเอาเองว่าใคร ๆ ก็ไปได้เช่นกระทู้ "บ้านจน อังกฤษพูดไม่เป็น เกรดไม่ถึงสมัครทุนไม่ได้ จะไปเรียนต่างประเทศขอคำแนะนำหน่อย"
ซึ่งจากที่ผมบอก (อ้อม ๆ) ในคห.ที่ 4 คนส่วนใหญ่ที่ผมเห็นเกือบทั้งหมดถ้าไม่บ้านรวยชนิดมาถึงก็ซื้อรถ BMW ก็เป็นคนที่รับทุนเต็มจำนวน (ไม่ใช่ทุนลดค่าเล่าเรียนนิดหน่อย) พร้อมค่ากินอยู่ และจากคห.ส่วนใหญ่ที่มาเล่าชีวิตตัวเองในกระทู้นี้ก็ดูเหมือนจะตรงกับที่ผมเห็นมาตอนอยู่อเมริกา
คนที่มาตายเอาดาบหน้า (อย่างผมที่บ้านปานกลาง มาหา RA/TA เองที่อเมริกา บ้านพอซัพพอร์ตได้บางส่วนแต่ก็ไม่อยากรบกวนถ้าไม่จำเป็น กินอยู่ประหยัด ไม่เที่ยว รีบเรียนให้จบไวที่สุด) มีแต่น้อยหรือน้อยมากซึ่งชีวิตไม่ได้สบายขนาดที่หลายคนที่ยังไม่เคยไปเรียนเพ้อฝันกัน
และได้บอกไปแล้วในคห.ที่4 มีคนมีทุนหรือบ้านรวยแต่เจอ retire หรือต้องกลับบ้านเพราะสอบไม่ผ่านก็มีพอควร (อาจจะเพราะมหาลัยที่ผมเรียนเป็น 1-tier university ด้านวิชาการค่อนข้างเข้มงวดกว่า 2-4 tiers uni)
การมีความฝันเป็นเรื่องที่ดีแต่มันต้องตั้งอยู่บนความเป็นจริงด้วยและฝันยิ่งใหญ่เท่าไหร่สิ่งที่ต้องแลกเปลี่ยนกลับไปมันก็ยิ่งมากเท่านั้น
บางคนยังไม่พร้อมจะรับผิดชอบตัวเองเลย บางคนถึงขนาดคิดว่เรียนป.โท-เอกต่างประเทศง่ายกว่าและจบไวกว่า (ซึ่งจริงครึ่งไม่จริงครึ่งแล้วแต่เคสกับคน) คนที่คิดฝันสูงแต่ขาดต้นทุนรวมถึง commitment น่าจะเป็นกลุ่มเป้าหมายที่จขกท.ต้องการบอกมากกว่าคนมีฐานะและได้ไปแล้วที่มาแย้งจขกท.กัน ที่ผมโพสต์ไม่ใช่เพราะรู้จักอะไรกับจขกท.แต่ไม่อยากเห็นกระทู้ดี ๆ ถูก "derail" ไปจนคนลืมจุดประสงค์ดี ๆ ไปกลายเป็นถกเรื่องอื่นแทน
ถ้าผิดพลาดประการใดก็ขออภัยล่วงหน้าไว้ณ ที่นี้ด้วย
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 12
เราเป็นคนหนึ่งที่ครอบครัวในไทยมีฐานะดี พ่อแม่ส่งลูกๆไปเรียนภาษาอยู่กับแฟมิลี่ในอ๊อกสฟอร์ด และลอนดอน อังกฤษ เพื่อเตรียมความพร้อมเพื่อเรียนต่อปริญญาตรีในอเมริกา หลังจากเรียนปูพื้นฐานภาษาอังกฤษในอังกฤษกันแล้วหนึ่งปี ส่งมาเรียนป.ตรี ในอเมริกา กันทุกคน
มีคนไทยจำนวนมากที่มาต่างประเทศเพื่อการศึกษาจริงจัง มีพื้นฐานความเป็นอยู่ในไทยดีมาแต่ต้นแล้ว เขาไม่มีอคติกับการใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศเลย เช่นเราเป็นคนหนึ่งที่มีความสุขสบายไม่ว่าอยู่ในไทยหรือต่างประเทศ
คนที่มีฐานะดี เขาไม่มาบ่นกระปอดกระแปด อคติกับความก้าวหน้าเพื่อการศึกษาในต่างประเทศ เขามีทุนทรัพย์พอ ความเป็นอยู่ในต่างประเทศไม่ได้ลำบาก เหมือนอย่างที่จขกท. นำมาลงไว่สำหรับทุกคนหรอกนะ อย่าเหมารวม
อีกเรื่องคืออาหารการกิน อยู่เมืองไทยได้กินของมีประโยชน์ในราคาที่ถูก ในขณะที่อยู่ต่างประเทศ เป็นอาหารไม่ค่อยมีประโยชน์แถมราคาก็แพง พวกแฮมเบอร์เกอร์ อะไรพวกนี้ กินเยอะๆก็อ้วน จะหาอาหารไทยกินก็ราคาแพงยกเว้นทำเอง
จขกท.ยกตัวอย่างอาหารที่มีประโยชน์ราคาถูกในไทยให้ดูหน่อยสิ
ที่เราเห็นในไทย คนไทยทั่วๆไปกินอาหารตัก อาหารตามสั่งในไทยราคา 35-40-50 แทบหาผักเขียวมีคุณภาพในปริมาณเยอะไม่มี มีให้อยู่ไม่กี่ชิ้นก่อกแกก เนื้อสัตว์คุณภาพต่ำ
จขกท. ออกความเห็นราวกับว่าเมืองไทยไม่มีร้านขายแฮมเบอร์เก้อร์งั้นแหล่ะ !!!!
ในไทยมีร้านขายแฮมเบอร์เก้อราคาแพงตามมาตรฐานราคาสากล เหมือนกัน เราเห็นคนไทยในไทยจำนวนมากชอบซื้อกินไก่ KFC แฮมเบอร์เก้อร์ Mc Donald's, Burger King และร้านแฟรนไช้ส์อื่นที่มีเหมือนในอเมริกา คนไทยในไทยยังเต็มใจซื้อกินได้ในไทยราคาแพง ไม่เห็นบ่นอะไรกัน
เราเห็นคนไทยในไทยอ้วนๆกันเยอะ มาจากกินอาหารขยะตั้งแต่อยู่เมืองไทยกันแล้ว ไม่ต้องถ่อมาถึงเมืองนอกหรอก ที่จะอ้วนๆกันน่ะ
ไปดูกระทู้แนะนำในห้อง โตีะเครื่องแป้ง ห้องสวนลุมฯ สิ มีกระทู้แนะนำขึ้นประปรายของคนไทยอ้วนระยะสุดท้ายเยอะมาก ที่ลดน้ำหนักกันเพระากินอาหารขยะในไทย
เราอยู่ต่างแดน ไม่มีความอยากกินอาหารไทยตามร้านอาหารไทย มีคนไทยรู้จักสนิท เปิดร้านอาหารไทย เราไปกินร้านเขาได้ที่ทำอาหารไทยกินกันในหมู่คนรู้จัก แต่เราไม่ไปกินเอง เราทำกินเองได้ และเราไม่ทำอาหารไทยกินทุกวันด้วย เราทำกินอาหารเพื่อสุขภาพมาหลายสิบปี ที่ไม่จำเป็นต้องเน้นว่าเป็นอาหารไทย
มีคนไทยจำนวนมากที่มาต่างประเทศเพื่อการศึกษาจริงจัง มีพื้นฐานความเป็นอยู่ในไทยดีมาแต่ต้นแล้ว เขาไม่มีอคติกับการใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศเลย เช่นเราเป็นคนหนึ่งที่มีความสุขสบายไม่ว่าอยู่ในไทยหรือต่างประเทศ
คนที่มีฐานะดี เขาไม่มาบ่นกระปอดกระแปด อคติกับความก้าวหน้าเพื่อการศึกษาในต่างประเทศ เขามีทุนทรัพย์พอ ความเป็นอยู่ในต่างประเทศไม่ได้ลำบาก เหมือนอย่างที่จขกท. นำมาลงไว่สำหรับทุกคนหรอกนะ อย่าเหมารวม
อีกเรื่องคืออาหารการกิน อยู่เมืองไทยได้กินของมีประโยชน์ในราคาที่ถูก ในขณะที่อยู่ต่างประเทศ เป็นอาหารไม่ค่อยมีประโยชน์แถมราคาก็แพง พวกแฮมเบอร์เกอร์ อะไรพวกนี้ กินเยอะๆก็อ้วน จะหาอาหารไทยกินก็ราคาแพงยกเว้นทำเอง
จขกท.ยกตัวอย่างอาหารที่มีประโยชน์ราคาถูกในไทยให้ดูหน่อยสิ
ที่เราเห็นในไทย คนไทยทั่วๆไปกินอาหารตัก อาหารตามสั่งในไทยราคา 35-40-50 แทบหาผักเขียวมีคุณภาพในปริมาณเยอะไม่มี มีให้อยู่ไม่กี่ชิ้นก่อกแกก เนื้อสัตว์คุณภาพต่ำ
จขกท. ออกความเห็นราวกับว่าเมืองไทยไม่มีร้านขายแฮมเบอร์เก้อร์งั้นแหล่ะ !!!!
ในไทยมีร้านขายแฮมเบอร์เก้อราคาแพงตามมาตรฐานราคาสากล เหมือนกัน เราเห็นคนไทยในไทยจำนวนมากชอบซื้อกินไก่ KFC แฮมเบอร์เก้อร์ Mc Donald's, Burger King และร้านแฟรนไช้ส์อื่นที่มีเหมือนในอเมริกา คนไทยในไทยยังเต็มใจซื้อกินได้ในไทยราคาแพง ไม่เห็นบ่นอะไรกัน
เราเห็นคนไทยในไทยอ้วนๆกันเยอะ มาจากกินอาหารขยะตั้งแต่อยู่เมืองไทยกันแล้ว ไม่ต้องถ่อมาถึงเมืองนอกหรอก ที่จะอ้วนๆกันน่ะ
ไปดูกระทู้แนะนำในห้อง โตีะเครื่องแป้ง ห้องสวนลุมฯ สิ มีกระทู้แนะนำขึ้นประปรายของคนไทยอ้วนระยะสุดท้ายเยอะมาก ที่ลดน้ำหนักกันเพระากินอาหารขยะในไทย
เราอยู่ต่างแดน ไม่มีความอยากกินอาหารไทยตามร้านอาหารไทย มีคนไทยรู้จักสนิท เปิดร้านอาหารไทย เราไปกินร้านเขาได้ที่ทำอาหารไทยกินกันในหมู่คนรู้จัก แต่เราไม่ไปกินเอง เราทำกินเองได้ และเราไม่ทำอาหารไทยกินทุกวันด้วย เราทำกินอาหารเพื่อสุขภาพมาหลายสิบปี ที่ไม่จำเป็นต้องเน้นว่าเป็นอาหารไทย
ความคิดเห็นที่ 4
ผมเคยถามรุ่นพี่คนนึงว่าไปเรียนต่างประเทศมันลำบากนะ เขาตอบว่า
"ก็เพราะว่ามันลำบากน่ะแหละจะทำให้คุณแกร่ง นี่คือ strength ที่คนจบนอกมีเป็นพิเศษ"
หลังจากประโยคนี้ผมเลยตัดสินใจเด็ดขาดไม่ลังเลอีกต่อไป
ที่เห็นนักเรียนไทยที่มาอเมริกา 80-90% มีอยู่สองพวก
1. มหาลัย, บริษัท, หน่วยงานรัฐส่งมาเรียน ค่ากินอยู่ออกให้หมด
2. ลูกคนรวย
ทั้งสองพวกที่เห็นคือซื้อรองเท้า 20 กว่าคู่ กระเป๋าราคา $500 แต่เอามาดองไม่ได้ใช้จริง
หยุดยาวก็ไปเที่ยวต่างเมืองต่างมลรัฐ เวลากลับไทยขนของขึ้นเรือยิ่งกว่าย้ายบ้าน
มีทั้งเรียนไปปีเดียวแล้วลาออก, transfer ไปสาขาอื่น, สอบ qualifying exam ไม่ผ่านก็กลับบ้าน
บางคนรับทุนแล้วยังได้เงินค่าขนมจากพ่อแม่อีกเดือนละหลายหมื่นแต่ไม่กล้าต่อเอกหลังจบโทเพราะกลัวเรียนไม่ไหว
บางคนเรียน 5-6 ปีขึ้นไป
คนทางบ้านฐานะปานกลางมาทุนตัวเองชนิดต้องประหยัดหรือหา RA ก็อาจจะมีแต่ไม่ค่อยเห็นหรือพวกนี้อาจจะรีบเรียนรีบจบเลยไม่ค่อยสุงสิงคนไทยเลยไม่รู้
ที่อยากจะบอกคือ ที่น้อง ๆ เห็นกระทู้ขายฝันโอ้อวดกันว่าไปเรียนนอกดีอย่างนู้นสบายอย่างนี้ ไปดูเบื้องหลังจริง ๆ มันจริงแค่บางส่วน อีกส่วนเขาไม่มาบอกกันเท่าไหร่ยกเว้นเวลามาบ่นระบาย ถ้าน้องอยากไปเรียนเพื่อเผชิญความลำบากเพื่อเป็นคนที่ดีขึ้น ไปเพื่อรับรู้โลกภายนอก รับความต่างเพื่อเพิ่มความเป็น international ลดความเป็นไทยลงก็สู้ ๆ ครับ
ถ้าใครมาเพราะอยากเท่ห์หรือตามกระแสหรือคิดว่าสบายก็ลองอ่านกระทู้นี้ดี ๆ แล้วคิดอีกรอบ
เป็นกระทู้ที่มีประโยชน์สำหรับคนที่กำลังตัดสินใจ
"ก็เพราะว่ามันลำบากน่ะแหละจะทำให้คุณแกร่ง นี่คือ strength ที่คนจบนอกมีเป็นพิเศษ"
หลังจากประโยคนี้ผมเลยตัดสินใจเด็ดขาดไม่ลังเลอีกต่อไป
ที่เห็นนักเรียนไทยที่มาอเมริกา 80-90% มีอยู่สองพวก
1. มหาลัย, บริษัท, หน่วยงานรัฐส่งมาเรียน ค่ากินอยู่ออกให้หมด
2. ลูกคนรวย
ทั้งสองพวกที่เห็นคือซื้อรองเท้า 20 กว่าคู่ กระเป๋าราคา $500 แต่เอามาดองไม่ได้ใช้จริง
หยุดยาวก็ไปเที่ยวต่างเมืองต่างมลรัฐ เวลากลับไทยขนของขึ้นเรือยิ่งกว่าย้ายบ้าน
มีทั้งเรียนไปปีเดียวแล้วลาออก, transfer ไปสาขาอื่น, สอบ qualifying exam ไม่ผ่านก็กลับบ้าน
บางคนรับทุนแล้วยังได้เงินค่าขนมจากพ่อแม่อีกเดือนละหลายหมื่นแต่ไม่กล้าต่อเอกหลังจบโทเพราะกลัวเรียนไม่ไหว
บางคนเรียน 5-6 ปีขึ้นไป
คนทางบ้านฐานะปานกลางมาทุนตัวเองชนิดต้องประหยัดหรือหา RA ก็อาจจะมีแต่ไม่ค่อยเห็นหรือพวกนี้อาจจะรีบเรียนรีบจบเลยไม่ค่อยสุงสิงคนไทยเลยไม่รู้
ที่อยากจะบอกคือ ที่น้อง ๆ เห็นกระทู้ขายฝันโอ้อวดกันว่าไปเรียนนอกดีอย่างนู้นสบายอย่างนี้ ไปดูเบื้องหลังจริง ๆ มันจริงแค่บางส่วน อีกส่วนเขาไม่มาบอกกันเท่าไหร่ยกเว้นเวลามาบ่นระบาย ถ้าน้องอยากไปเรียนเพื่อเผชิญความลำบากเพื่อเป็นคนที่ดีขึ้น ไปเพื่อรับรู้โลกภายนอก รับความต่างเพื่อเพิ่มความเป็น international ลดความเป็นไทยลงก็สู้ ๆ ครับ
ถ้าใครมาเพราะอยากเท่ห์หรือตามกระแสหรือคิดว่าสบายก็ลองอ่านกระทู้นี้ดี ๆ แล้วคิดอีกรอบ
เป็นกระทู้ที่มีประโยชน์สำหรับคนที่กำลังตัดสินใจ
ความคิดเห็นที่ 25
เคยไม๊ครับ อยากไปดูหนังเรื่องหนึ่งมากๆ พอไปดูแล้ว ก็มาบ่นว่า รู้งี้ไม่เสียตังค์ไปดูหรอก
เคยไม๊ครับ อยากคบกับคนๆนึงเพราะชอบเค้ามาก พอคบเค้าแล้ว ก็มารู้สึกว่า รู้งี้ไม่น่าคบให้เสียเวลา
เคยไม๊ครับ อยากไปเที่ยวที่หนึ่งมากๆ พอไปแล้ว ก็รู้สึกว่า ไม่เห็นมีไรเลย นี่ตูมาที่นี่ทำไมเนี่ย
ทั้งสามข้อเหตุผลคล้ายกันครับ ก็คือ เพราะไม่เคยมาก่อนไง ถึงได้อยากลอง
ก็เหมือนกับเรื่องไปเรียนเมืองนอกนั่นแหล่ะครับ คนไม่เคยไป ก็อยากไปเป็นเรื่องธรรมดา
จขกท.เอง ดูจากที่เขียน ก็น่าจะเคยไปเรียนเมืองนอกมาแล้ว จขกท.ก็ต้องตอบตัวเองก่อนว่า
อะไรคือสิ่งที่ทำให้ จขกท.ไปเรียนเมืองนอก ใครบังคับให้ไป หรืออยากไปเอง
ถ้าตัวเองเลือกไปเอง ก็นั่นแหล่ะ เหตุผลคงไม่ต่างจากคนอื่นๆ
ส่วนไปแล้ว จะเป็นตามที่หวังหรือไม่ก็อีกเรื่อง
ผมเองก็เคยไปเรียนที่ญี่ปุ่นสี่ปี ที่ไปก็เพราะอยากลองหาประสบการณ์ใหม่ๆ
พอไปเรียนจริงๆ ก็คงเหมือนหลายๆท่าน ที่รู้สึกว่าตูมาทำไมวะเนี่ย
แต่พอเรียนจบแล้ว ย้อนกลับไปมองข้างหลังแล้ว ผมว่านั่นคือประสบการณ์ชีวิตที่ล้ำค่าเลยแหล่ะ
ถ้าไม่เคยลำบาก จะรู้ได้อย่างไรว่าความสบายคืออะไร
ถ้าไม่เคยทุกข์ จะรู้ได้อย่างไรว่าความสุขคืออะไร
ดังนั้นอยากทำอะไรก็ทำครับ ถ้าไม่เดือดร้อนคนอื่น
แต่ก็ต้องยอมรับผลที่จะตามมา อันเนื่องมาจากการตัดสินใจของตัวเองให้ได้ด้วย
เคยไม๊ครับ อยากคบกับคนๆนึงเพราะชอบเค้ามาก พอคบเค้าแล้ว ก็มารู้สึกว่า รู้งี้ไม่น่าคบให้เสียเวลา
เคยไม๊ครับ อยากไปเที่ยวที่หนึ่งมากๆ พอไปแล้ว ก็รู้สึกว่า ไม่เห็นมีไรเลย นี่ตูมาที่นี่ทำไมเนี่ย
ทั้งสามข้อเหตุผลคล้ายกันครับ ก็คือ เพราะไม่เคยมาก่อนไง ถึงได้อยากลอง
ก็เหมือนกับเรื่องไปเรียนเมืองนอกนั่นแหล่ะครับ คนไม่เคยไป ก็อยากไปเป็นเรื่องธรรมดา
จขกท.เอง ดูจากที่เขียน ก็น่าจะเคยไปเรียนเมืองนอกมาแล้ว จขกท.ก็ต้องตอบตัวเองก่อนว่า
อะไรคือสิ่งที่ทำให้ จขกท.ไปเรียนเมืองนอก ใครบังคับให้ไป หรืออยากไปเอง
ถ้าตัวเองเลือกไปเอง ก็นั่นแหล่ะ เหตุผลคงไม่ต่างจากคนอื่นๆ
ส่วนไปแล้ว จะเป็นตามที่หวังหรือไม่ก็อีกเรื่อง
ผมเองก็เคยไปเรียนที่ญี่ปุ่นสี่ปี ที่ไปก็เพราะอยากลองหาประสบการณ์ใหม่ๆ
พอไปเรียนจริงๆ ก็คงเหมือนหลายๆท่าน ที่รู้สึกว่าตูมาทำไมวะเนี่ย
แต่พอเรียนจบแล้ว ย้อนกลับไปมองข้างหลังแล้ว ผมว่านั่นคือประสบการณ์ชีวิตที่ล้ำค่าเลยแหล่ะ
ถ้าไม่เคยลำบาก จะรู้ได้อย่างไรว่าความสบายคืออะไร
ถ้าไม่เคยทุกข์ จะรู้ได้อย่างไรว่าความสุขคืออะไร
ดังนั้นอยากทำอะไรก็ทำครับ ถ้าไม่เดือดร้อนคนอื่น
แต่ก็ต้องยอมรับผลที่จะตามมา อันเนื่องมาจากการตัดสินใจของตัวเองให้ได้ด้วย
ความคิดเห็นที่ 14
อ่านไม่จบ ยาวเกิน ชีวิจคนเราไม่มีอะไรง่ายครับ หลานผมอายุ4ขวบลูกครึ่งไทยญี่ปุ่น เขาต้องไปโรงเรียนเองนะตอน4ขวบ รถโรงเรียนมารับ พ่อเขาสอนให้ช่วยตัวเองตั้งแต่เล็กๆ 5ขวบก็เอาไขควงไขของเล่นเอง ทำอะไรเองหมด เรียนรู้เอง การไปเรียนเมืองนอกนั่นอ่ะคือการสร้างประสบการณ์ชีวิตที่ดีมากๆ ถ้ามีปัจจัยพอไปเถอะ
แสดงความคิดเห็น
เรียนเมืองนอก ไม่ได้ง่ายเลย ทำไมถึงอยากมากัน?
"หนูอยู่ ม.3 อยากเรียนต่อ ม.ปลายที่ออสเตรเลีย จะต้องทำยังไงคะ"
"ผมกำลังจะจบ ป.ตรี ปีหน้า อยากไปเรียนต่อ ป.โท ที่อังกฤษ ต้องทำยังไงบ้างครับ"
"อยากไปเรียนภาษาอังกฤษ ประเทศอเมริกา อังกฤษ หรืออสเตรเลีย ทำยังไงคะ"
เรียนเมืองนอก ไม่ได้ง่าย เดินเล่นสวยๆหล่อๆไปวันๆ เรียนเสร็จ เลิกเรียน ไปชอปปิ้ง Oxford Street ห้างต่างๆ ไปกิน Starbucks อย่างที่คิดไว้ แต่อย่างว่า โรงเรียน/มหาวิทยาลัย มีหลายคุณภาพ แต่เอาจริงๆ จะไม่สงสารพ่อแม่ที่จ่ายเงินส่งมาบ้างเลยเหรอ?
ทุกวันนี้ ระดับปริญญา มี Paper ต้องอ่าน ต้องเขียน Literature Review และ Essay ต่างๆมากมาย บางครั้งมี Discussion Session ก็ต้องอ่าน ต้องหาข้อมูลมาก่อน ไม่ทำก็จบเห่ ไม่มีอะไรไปพูด ไหนจะ พวก Presentation ต่างๆ ภาษาก็ไม่ไช่ภาษาพ่อภาษาแม่ ต้องตั้งใจ ทำความเข้าใจ ทบทวน บางทีอ่านแล้วอ่านอีก ฟัง Lecture แล้วฟังอีก 4-5 รอบกว่าจะเข้าใจ บางคนก็อาจทะนงตัวเองว่าภาษาไม่มีปัญหา แต่พอมาเจอจริงๆจะพบเลยว่า แค่ผลสอบ IELTS หรือ TOEFL ที่ผ่านมาแล้ว หรือบางคนอาจต้องปรับเพิ่ม ไม่เพียงพอต่อการเข้าใจบทเรียนจริงๆ เพราะไม่ใช่เจ้าของภาษาเอง อย่างตัวเอง แทบจะสิงในห้องสมุด เพราะแค่การเข้าเรียนในห้องไม่สามารถเข้าใจและเก็บได้หมด ส่วนระดับมัธยมไม่แน่ใจ แต่ก็คงยากไม่แพ้กัน เพราะต้องเป็นการเตรียมตัวเพื่อเข้ามหาลัย สำหรับการเรียนภาษา ส่วนตัวมองว่าถ้าตั้งใจมาเพื่อพัฒนาตัวเองก็โอเค แต่ส่วนใหญ่ที่เห็นจะมาเพราะห่วงเที่ยวมากกว่า
ไหนจะงานกลุ่ม ที่ต้อง deal กับสมาชิกในกลุ่มหลากหลายสัญชาติ บางสัญชาติก็ขึ้นชื่อเรื่องวิธีการทำงานและนิสัย ไม่อยากยกตัวอย่างเพราะประเดี๋ยวหาว่าเหมารวมสัญชาติและเหยียดสัญชาติ ประเทศแถวๆเมืองไทยเนี่ยแหละไม่ไกลมาก แต่อย่างว่าของแบบนี้มันขึ้นอยู่กับบุคคล
ไหนจะยังมีเรื่องส่วนตัว เช่น การเก็บกวาดทำความสะอาดบ้าน ซักเสื้อผ้า ซื้อกับข้าว ทำกับข้าว ไหนจะมีเรื่องเข้าสังคมอีก อันนี้อาจจะฟังเหมือนสนุก ก็สนุกจริงๆ แต่เป็นกิจกรรมที่กินเวลาพอสมควร
สำหรับการมาคนเดียวหรือใน environment ที่คนไทยน้อยจนถึงไม่มีเลย บางทีมีเรื่องเครียดหรืออะไรไม่สามารถระบายได้เลย เพราะไม่มีใครรับฟังได้เลย ยังโชคดี ที่สมัยนี้มีเทคโนโลยีเยอะหน่อย สามารถติดต่อทางเมืองไทยได้ง่ายหน่อย
ซ้ำร้ายพอมาอยู่นานๆจะรู้สึกเบื่อ ไม่มีอะไรทำเพราะไปมาครบทุกซอกแล้ว ตอนมาแรกๆตื่นเต้น แต่นานๆแทบจะนับวันกลับกันรายวันเลยทีเดียว
อีกเรื่องคืออาหารการกิน อยู่เมืองไทยได้กินของมีประโยชน์ในราคาที่ถูก ในขณะที่อยู่ต่างประเทศ เป็นอาหารไม่ค่อยมีประโยชน์แถมราคาก็แพง พวกแฮมเบอร์เกอร์ อะไรพวกนี้ กินเยอะๆก็อ้วน จะหาอาหารไทยกินก็ราคาแพงยกเว้นทำเอง
บางคนอาจจะสงสัยว่าบ่นขนาดนี้แล้วจะมาทำไม กลับเมืองไทยซิ ก็ขอบอกเลยว่า ตอนแรกก่อนมาก็คิดแบบที่ชอบคิดกันน่ะแหละ แต่พอมาเจอเองถึงได้มาเตือน ก่อนเสียเงินปริมาณไม่น้อย
ตอบคำถามตัวเองให้ได้ก่อนว่ามาทำไม คาดหวังอะไรกับการลงทุนครั้งยิ่งใหญ่ ถ้ายังไม่มีคำตอบให้กลับไปคิดก่อน ถ้ามีคำตอบแค่ชุบตัว หรือว่าไปเที่ยวเล่นเตร็ดเตร่ แนะว่าอย่าไปเลย อยู่เมืองไทย หางานทำให้ได้ เก็บเงินไปเที่ยวเองดีกว่า ไม่น่าเบื่อ ได้เปลี่ยนประเทศหลายประเทศด้วย แถมไม่ต้องใช้พลังงาน ใช้สมอง ไม่ทำร้ายร่างกายให้เครียดไปป่าวๆ
Tag
เรียนต่อต่างประเทศ ตรงตามตัว
มหาวิทยาลัย(ห้องสยามฯ) - เรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย
ทรัพยากรบุคคล(ห้องสีลม) - สำหรับเด็กจบใหม่บางคนที่อาจจะคิดเรียนต่อก่อนหางาน
การศึกษา(ห้องสมุด) - การศึกษาต่างประเทศ