ป็อบติดหรู

Intro
.
.
ปกติแล้ว รีวิวของผู้เขียนจะมาประมาณหนึ่งสัปดาห์หลังอัลบั้มออก แต่รีวิวครั้งนี้มาไวเป็นพิเศษ เพราะผู้เขียนนั้นใช้เวลาตอนคืนวันศุกร์ตอนอัลบั้มเพิ่งรีลีส  ช่วงขากลับจากประเทศเกาหลีนานถึง 6 ชั่วโมง เลยได้มีโอกาสซึมซับผลงานชุดที่ 3 ของนักร้องหนุ่มชาวเกาะฮาวายขวัญใจชาวโลกอย่าง Bruno Mars ในอัลบั้มที่ชื่อว่า 24K Magic เป็นการกลับมาในรอบ 4 ปีถัดจากอัลบั้มชุดที่สอง Unorthodox Jukebox 4 ปีถือว่านานพอสมควร แต่ก็ยังมีให้เห็นหน้าบ้าง แต่มาในรูปแบบซิงเกิ้ลที่ไปร่วมแจมกับ Mark Ronson ในเพลง Uptown Funk ซึ่งกระแสตอบรับเปรี้ยง ถล่มทลาย เป็นเพลงประจำฟลอร์เต้นรำแบบที่ไม่ต้องสงสัย กลับมาคราวนี้ 24K Magic แนวทางของเพลงและภาพลักษณ์นั้นแตกต่างจากสองชุดแรกอย่างเห็นได้ชัด ชุดแรกอย่าง  Doo-Wops & Hooligans เป็นป็อบเบาๆ มีความเป็นปถุชนคนธรรมดา โรแมนติก สุภาพอ่อนโยน และเอาอิทธิพลดนตรีชาวเกาะฮาวายมาผสมผสานด้วย ส่วนงานชุดสอง Unorthodox Jukebox อันนี้เรโทรสุดๆ เพิ่มจังหวะฟังก์โจ๊ะๆ เพิ่มความแรงด้านเนื้อหาที่พูดถึงเซ็กส์ และ ด้านมืดของตัวเองได้อย่างตรงไปตรงมา แต่ถึงอย่างไรเราก็เพลิดเพลินบทเพลงเหล่านั้นอยู่ดี แล้วก็มาถึงชุดล่าสุด ยกระดับภาพลักษณ์หนุ่มปถุชนคนเดินดินธรรมดา มาเป็นหนุ่มไฮโซคล้องสร้อยทอง bling bling นั่งคาลดิแลค จิบแชมเปญ มีความเป็นเพลย์บอยมือโอบสาว โอโห ไฮโซสุดๆ อัลบั้มชุดนี้ได้โปรดิวเซอร์ Shampoo Press & Curl มาคุมงานเพลงชุดนี้ส่วนใหญ่ ไร้ซึ่งเงา The Smeezingtons ชาวคณะที่บรูโน่สังกัดอยู่ งานเพลงชุดนี้จึงแตกต่างจากสองชุดก่อนหน้านั้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังคงเอกลักษณ์ของบรูโน่ไว้โดยที่ไม่สูญเสียความเป็นบรูโน่ไปมากมาย ภาษาง่ายๆบรูโน่คนเดิม เพิ่มเติมคือความหะรูหะรา ภาพรวมของงานชุดนี้จะหนักไปที่เรโทรอาร์แอนด์บีซะเยอะเลย ฟังแล้วพลางนึกถึง Boyz II Men และ Babyface ยังไงอย่างงั้นเลย แต่ก็ไม่ลืมที่จะใส่จังหวะฟังก์อันสนุกๆครื้นเครงอีกเช่นเคย






1
.
.
ซิงเกิ้ลแรกอันเป็น Title Track เปิดอัลบั้มก็พาทุกคนมาสนุกสุดเหวี่ยงในแบบหะรูหะรากันอย่างถ้วนหน้า ตัวเพลงแอบเหมือน Uptown Funk แต่เพิ่มกลิ่นอายความเป็น hip hop west coast นิดๆ เลยเสริมความสนุกได้อย่างสะใจ แทร็คเปิดอัลบั้มอันเป็นซิงเกิ้ลยอดฮิตอยู่ ณ ขณะนี้จึงเป็นเหมือนการ์ดเชิญปาร์ตี้ เตรียมพร้อมสำหรับความสนุกที่เฮียบรูโน่จะมอบผ่านบทเพลงในชุดล่าสุดอย่างแน่นอน มอบไม้ต่อความสนุกไปที่ Chunky โดดเด่นด้วยจังหวะดิสโก้ฟังก์ คอรัสรื่นไหลดี ได้ตัดเป็นซิงเกิ้ลแน่นอน  Perm เพลงปาร์ตี้ Old School แฝงด้วยอารมณ์ขัน โดยคำว่า Perm คล้ายๆสารป้ายผมลดความหยิกที่สาวผิวสีชอบใช้ เป็นการเปรียบเปรยประมาณว่า  เธอลองปรับทัศนคติให้ดูเรียบง่าย ไม่ต้องคิดอะไรมาก เป็นตัวของตัวเอง แล้วมาเต้นรำกันบนฟอลดิ เหมือนเอาสาร perm ไปใส่ให้ผมเรียบนั่นเอง ดั่งท่อน Throw some perm on your attitude/Girl you gotta relax ลดจังหวะความสนุกลงมาเป็นเพลงออกเดตสาวจังหวะกลางๆสมูทๆในเพลง That's What I Like ชวนสาวออกเดตเสร็จ ก็พาเข้าห้องเลยในเพลง Versace On The Floor ซิงเกิ้ลที่สองบัลลาดช้าๆ ซาวน์ดสุดหรูสมชื่อเพลง บรรยากาศชวน make love ใต้แสงเทียนเอามากๆ เพลงนี้ก็โคตรเคลิ้บเคลิ้มอยู่ไม่น้อย เคลิ้บเคลิ้มกับการ make love กันต่อไม่ให้สะดุดในเพลง Straight Up & Down เพลงนี้ได้ T-Pain ร่วมแต่งด้วย ชอบซาวน์ด intro ก่อนเข้าเพลง กับท่อน Pre-Hook มากๆเคลิ้บเคลิ้มได้อีก Calling All My Lovies ออกแนวโทรหาสาวแล้วไม่รับสาย หาสาวอื่นแก้เหงาไปพลางๆก่อนก็ได้ เสือผู้หญิงจริงๆ เพลงนี้ได้ผู้หญิงที่เป็นแรงบันดาลใจคนสำคัญในเพลง Locked Out Of Haven อย่าง Halle Berry มาเป็น voice mail ประกอบเพลงด้วย ซึ่ง voice mail ฝากข้อความอันนี้ไม่ได้เรียกให้เจ๊มาทำเล่นๆ แต่เฮียบรูโน่โทรไปหาเจ๊จริงๆ และเจ๊แกก็ไม่รับสายซะด้วย เพิ่มความคึกคักอีกซักนิดก่อนจะปิดอัลบั้มด้วย Finesse จังหวะชวนโยกมันส์ๆ พลางนึกถึงแนวบอยแบนด์ยุค 80 เลย ปิดท้ายด้วยเพลงอกหักตามสูตรของเฮียบรูโน่ที่ต้องมีเพลงอกหักอย่างน้อยหนึ่งเพลงในอัลบั้ม และเพลงอกหักในชุดนี้ก็อยู่เป็นแทร็คสุดท้ายอย่าง Too Good To Say Goodbye แค่เห็นคำว่า ลาก่อน ก็ใจแป๋วแล้ว มันต้องไปในทางใจสลายแน่ๆ สุดท้ายก็ใช่เสียด้วย เนื้อหาคล้ายๆ When I Was Your Man ที่ออกแนวเสียดายว่าทำไมไม่ดูแลเธอดีๆ ทั้งๆที่เธอนั้นก็แสนดีมาตลอด สุดท้ายก็ต้องปล่อยรักดีๆให้หลุดมือไปอย่างง่ายดาย เพลงนี้ได้ เคนเน็ธ เอ็ดมอนด์ส หรือ Babyface  มาร่วมแต่งด้วย ผลที่ได้จึงเป็นอาร์แอนด์บีย้อนยุคที่เจ็บปวดแต่แสนงดงาม  และใช่สำหรับใครหลายคนอย่างแน่นอน เชื่อว่าต้องตัดออกมาเป็นซิงเกิ้ลแบบ When I Was Your Man ชัวร์




Outro
.
.
การกลับมาในรอบ 4 ปี กับอีก 9 แทร็ค ดูเหมือนว่าน้อยมาก ปริมาณเพลงไม่ต่างอะไรกับ EP Album เลยด้วยซ้ำ แต่สำหรับผู้เขียนมองว่าแค่นี้ก็เพียงพอแล้วล่ะ คือมันเป็นความบันเทิงที่ไม่ขาดไม่เกิน พอดีเป๊ะ ไม่มีเพลงไหนที่รู้สึกเกลียดหรืออยากกดข้ามเลย ฟังวนได้ทุกเพลง ปริมาณน้อยแต่คับด้วยคุณภาพจริงๆ เฮียบรูโน่ยังคงรักษามาตรฐานได้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย ตัวเพลงมีความมีชีวิตชีวา ไม่จืดชืดจนเกินไป มีทั้งสนุกสนานเต้นได้อย่างเมามันส์ ครื้นเครง เพลงจังหวะกลางๆก็เพลิดเพลิน เพลงช้าก็เคลิ้บเคลิ้ม หวานๆโรแมนติก แต่ก็ไม่พลาดที่จะเบรครสขมเป็นการตัดหวานไม่ให้ภาพรวมของอัลบั้มดูหวานเลี่ยนจนเกินไป ส่วนผสมของ 9 แทร็คจึงได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นความกลมกล่อมเหมือนกับอาหารที่ปรุงด้วยรสชาติอร่อยลงตัว ไม่หวาน ไม่เผ็ด ไม่ขมโดดจนเกินไป นี่แหละคืออัลบั้มป็อบอาร์แอนด์บีที่ผมตามหาจริงๆ เป็นความบันเทิงที่ไม่ได้เร่งรัดจนเกินไป ค่อยๆซึมซับแบบค่อยเป็นค่อยไป มันลงตัวกว่า 2 ชุดที่ผ่านมา ผู้เขียนคิดว่า Doo-Wops & Hooligans มันละมุนก็จริง แต่เบาไปเกือบชวนหลับ Unorthodox Jukebox ก็ดูเร็วไปหน่อย ยังซึมซับได้ไม่เต็มที่ แต่ชุดนี้ตอบโจทย์ในเรื่องความพอดีมากที่สุดแล้วล่ะ สมแล้วล่ะครับที่หายหน้าหายตาไปนานถึง 4 ปี ค่อยๆทำไม่เร่งรีบ จนกว่ารู้สึกว่ามันใช่

ในเมื่อมันใช่สำหรับตัวศิลปิน มันก็ใช่สำหรับผู้ฟังเช่นกัน

Top Tracks : จะจัดอันดับยังไงดีหว่า

Give 8.5/10



ฝากเพจรีวิวเพลงของผมด้วยคร้าฟฟฟฟฟฟ
>>>> https://www.facebook.com/fungpaifungma