วิธีการขยายธุรกิจ-ครอบครัว ของเสี่ยหมิง เพื่อนสนิทของผม

ก่อนอื่นของบอกก่อนว่า  เสี่ยหมิงนั้นเป็นชื่อสมมุติ   เดี๋ยวเสี่ยแกจะซวยไปด้วยนะครับ   ผมแอบเอาเรื่องของแกมาเล่า
ปัจจุบัน เสี่ยแกรวยหลายพันล้านอยู่นะ  แต่ไม่แน่ใจว่าถึงหมื่นล้านรึเปล่า 2-3 ปีมานี้ แกบ่นว่าเจ๊งไปเยอะ

เคล็ดลับของเสี่ยแก คือ  เรื่องคน ครับ  เพราะอะไร   ลองอ่านๆต่อไปครับ
เสี่ยแกอายุ ก็เริ่มมากแล้ว 50 เห็นจะได้  ผ่านวัยทำงานที่หักโหมมาเยอะ  ,  เสี่ยหมิงแกเริ่มต้นทำธุรกิจตั้งแต่อายุ 20 ปีได้ ,
เสี่ยแกบอกว่า  เมื่อก่อนแกขยันกว่านี้เยอะ  ตีแรงกว่านี้เยอะ  แต่ได้แต้มน้อยกว่านี้ , ตอนนี้แก่แล้ว  จะไปคิดเหมือนตอนหนุ่มๆ
แรงดีๆ  มันไม่ได้

ที่บ้านของเสี่ยหมิงเป็นคนจีนนะ    อากง  อาม่า มาจากประเทศจีน   ไม่ใช่จีนแผ่นดินใหญ่นะ  แต่เป็นเกาะแถวตอนล่างๆของจีน


เสี่ยหมิงแกมีเชื้อสายไทยอยู่  เพราะว่า  แม่ของแก เป็นลูกครึ่งไทย-จีน   ก็สังคมแบบจีนๆอะนะครับ
เขาจะมีวัฒนธรรมของเขา   วันตรุษ  วันเชงเม้ง อะไร  อั่งเปา

เสี่ยหมิงแกเติบโตขึ้นมา  โดยมีความคิดแบบคนรุ่นใหม่   ไม่ค่อยยึดทำเนียบจีนอะไรของเค้าหรอก
เสี่ยแกเรียนไม่จบ ป.ตรี นะ เท่าที่รู้   , เท่าที่รู้ คือ  แกไปเรียนแล้วบอกไม่ชอบ   ดรอปออกมาตอนปี 2 แล้วไม่กลับไปเรียนต่อเลย
แกบอกว่า  เจออาปา ด่าแทบแย่ , แต่พอแกมาทำธุรกิจแรก เท่านั้นแหละ  อาปาเริ่มเห็นเงินที่ได้ว่า  มากกว่าไปเป็นลูกจ้างเยอะ  หยุดด่าไปเลย

เคล็ดลับของเสี่ยหมิงแกในวัยหนุ่มนั้น คือ เรืองการตลาด และ เทคโนโลยีครับ
ความจริงแล้ว   แกชื่อหมิง ก็แค่นั้น  แต่แกพูดภาษาจีนไม่ได้หรอก
แกเกิดมาก็อยู่แต่ในไทย    ญาติพี่น้องฝ่ายจีนนั้น  ไม่ได้ติดต่อกันมา 60 ปีแล้ว   ไปต่อไม่ติดแล้ว
เคล็ดลับการทำธุรกิจของแกเน้นอยู่ 2 เรื่อง   คือ  การสื่อสารทางการตลาด  และ  เทรนด์ของเทคโนโลยี
คือ ของอะไรที่ใครทำแล้วเจ๊ง  แกจะดูว่ามาจากอะไรใน 2 ข้อนี้    ถ้าเจ๊งเพราะ สื่อสารไม่เป็น
แกก็จะไปต่อรองถ้าซื้อธุรกิจที่เจ๊งนั้นมา    ซื้อมาถูกเหมือนได้เปล่าเลย    นี่แหละ ที่ทำให้แกรวย

จุดแข็งของเสี่ยหมิงแกอีกข้อ คือ  ดูโปรดักท์เก่ง   รีบคิด แล้วก็รีบทำก่อนในจังหวะที่ถูกต้อง

ปัญหามันเริ่มมากขึ้น เมื่อตอนที่แก อายุ 35 ปี เห้นจะได้   ตอนนั้นมีลูกน้องเกือบ ร้อยคน
มีเงินก็หลายสิบล้านอยู่   น่าจะเกือบร้อยล้านได้   แกมองคนออกนะ  เสี่ยหมิงเนี่ย   จะใช้ลูกจ้างยังไง  คนไหน
คนไหนทำอะไรแล้วเหมาะ  , บางคนถูกไล่ออกจากอีกที่มา   , เสี่ยแกก็จะไปกว้านซื้อมา
สัมภาษณ์จนกระทั่ง มองออกว่า   จุดแข็ง-จุดอ่อน ของคนนี้ คืออะไร   ถ้าเห็นชัด  ก็ซื้อ  ได้คนดีๆมา

เสี่ยแกจะเน้น  แบบนี้แหละ   ในชีวิตเจอคนมาก   เน้นทำงาน   เน้นธุรกิจ  แต่ไม่เคยเจอผู้หญิงดีๆสักที  แกว่า
เสี่ยแกบอกว่า  ธุรกิจแกเยอะ   ถ้ามีเมียมาคนหนึ่งแล้วคุมได้   ต้องเก่งมาก   , แต่ผู้หญิงแบบนั้น มันหาไม่ได้หรอก

วิธีการแก้ปัญหาของเสี่ยแกก็คือ   การกระจายความเสี่ยง ครับ
พอแกเริ่มรับพนักงานสาวๆ ใหม่ๆ คนไหนมา   ถ้าแกดูแล้วว่า   สู้การสู้งาน  มีความคิด  ขยัน  แต่ไม่มีเงินทุน
แกจะลองเอาไปเป็นผู้จัดการธุรกิจใน line ใหม่ของแกดูครับ   ถ้าดูแล้วมีความสามารถทำได้
แกก็จะซื้อบ้าน   ซื้อรถให้   ราคา รวมๆกันก็ 20 ล้านบาท   ก็มาอยู่เป็นเมียของแกอีกคน ไป
หลังจากนั้น กำไรที่ได้มาจากบริษัทที่เมียคนนั้นคุม  ก็แบ่งมาให้แก ครึ่งหนึ่ง
ซึ่งผู้หญิงส่วนใหญ่  ก็หยิบฉวยโอกาสนี้ไว้ทั้งนั้น  ลองคิดดูจากพนักงานเงินเดือนไม่กี่หมื่น  กลายเป็นคุณนายร้อยล้าน

แกทำแบบนี้แหละครับ   ผู้หญิงที่ขาดแคลน  ทุนทรัพย์ และ โอกาส แต่มีความสามารถหลายๆคนแล้ว
ทุกวันนี้เป็น คุณนาย  คุมบริษัท ได้  เพราะ อาเสี่ยหมิงแกให้โอกาส  และใช้ได้ถูกคน

เสี่ยหมิงแกบอกว่า  วิธีการนี้แหละ  สมดุลชีวิต
ถ้ามีครอบครัว แล้ว  ทำให้ตัวเองลำบาก  ให้ตัวเองต้องไปแบกรับภาระไว้หมดก็อย่ามี
มีเมียต้องเป็นคนที่ทำมาหากิน   ช่วยงานได้ , หรือมีเมียบางคนแล้วทำให้แกได้สิทธิบางอย่างทางอำนาจ
ทำให้การค้าขายเราสบาย   แบบนี้ก็เอามาเป็นเมีย

วิธีการนี้เสี่ยแกก็ไม่ต้องเหนือ่ย , เข้าทำนองที่ว่า  เราใช้ชีวิต  อย่าให้ชีวิตมาใช้เรา
ประโยชน์แต่ละด้านมันต้อง support กัน , มีอะไรกับเมียแต่ละคนในแต่ละคืน  เขาก็ช่วยรักษาธุรกิจเอาไว้ด้วย ไม่เสียเปล่า

มาถึงวันนี้  รุ่นลูกแกเริ่มจะโตแล้วครับ   เริ่มจะมารับช่วงเป็นเจ้าของบริษัทใหม่ของแกได้แล้ว
วิธีการแบบนี้   ทำให้แกได้ทั้งเมีย 5 คนมา   และ 5 ธุรกิจที่เลี้ยงลูก-เมีย  เอาไว้อย่างสบายๆ

ผมก็ว่า เจ๊งดีนะ วิธีการคิดของแก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่