ในฝั่งฝัน (บทที่ 25)

ขอบคุณทุกคนที่อ่านนะคะ
ขอบคุณ คุณ High-functioning sociopath, คณ ป้าอ้วนตัวกลม, น้องดาว Lady Star 919, คุณ สมาชิกหมายเลข 1065771, คุณ อุรุเวลา, คุณ ริมแม่โขง, คุณนัน turtle_cheesecake, คุณนุ้ย ณวลี, คุณแอนนี่ annie <harmonica>, คุณ เป่าชาง, คุณ ออมอำพัน, คุณ ป้าทุยบ้านทุ่ง, คุณ Angioletto_b   
ขอบคุณทุกคะแนนโหวตด้วยค่ะ

บทก่อนๆ ค่ะ
บทแรก - บทที่ 1  http://ppantip.com/topic/35638204
บทที่ 2 - บทที่ 3  http://ppantip.com/topic/35648626
บทที่ 4  http://ppantip.com/topic/35655325
บทที่ 5  http://ppantip.com/topic/35665748
บทที่ 6  http://ppantip.com/topic/35669708
บทที่ 7  http://ppantip.com/topic/35673616
บทที่ 8  http://ppantip.com/topic/35680516
บทที่ 9  http://ppantip.com/topic/35683775
บทที่ 10 http://ppantip.com/topic/35688063
บทที่ 11  http://ppantip.com/topic/35695077
บทที่ 12  http://ppantip.com/topic/35729742
บทที่ 13  http://ppantip.com/topic/35740950
บทที่ 14  http://ppantip.com/topic/35748347
บทที่ 15  http://ppantip.com/topic/35759445
บทที่ 16  http://ppantip.com/topic/35763053
บทที่ 17  http://ppantip.com/topic/35770302
บทที่ 18  http://ppantip.com/topic/35774270
บทที่ 19  http://ppantip.com/topic/35780919
บทที่ 20  http://ppantip.com/topic/35788258
บทที่ 21  http://ppantip.com/topic/35796132
บทที่ 22  http://ppantip.com/topic/35799520
บทที่ 23  http://ppantip.com/topic/35806520
บทที่ 24  http://ppantip.com/topic/35814026


บทที่ ๒๕



    ฉวีแทบละสายตาจากไหล่กว้างล่ำสันซึ่งล้ำเลยพนักที่นั่งคนขับทางตอนหน้าของรถมาให้เห็นไม่ได้เลย เวลาที่เขาขยับตัว กล้ามเนื้อแน่นเครียดภายใต้เสื้อเครื่องแบบสีกากีทำให้เลือดในกายหล่อนระอุขึ้นมาได้ทุกครั้ง ยิ่งเมื่อเขาหันมารับรู้คำพูดของสามีหล่อนซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ…บนที่นั่งผู้โดยสาร เสี้ยวหน้าคมชวนหลงใหลก็ตรึงหล่อนไว้ที่นั่นได้เสมอ จมูกโด่งเป็นสันนั้นสวยเกินกว่าจะเป็นจมูกของผู้ชาย แม้บางขณะจะไม่เห็นตาเข้มระยับคู่ที่หล่อนเคยแอบฝันถึง หากก็แทบจะบอกได้ว่ากำลังสะท้อนความรู้สึกใด หล่อนฝังใจกับการแสดงความรู้สึกออกมาทางสายตาของเขาถึงขนาดนั้น เวลาที่เขาพยายามทำความเข้าใจเรื่องอะไรก็แล้วแต่ คิ้วหนาพาดตรงจะย่นเข้าหากันนิดหนึ่ง รับกับแพขนตาที่หล่อนเองยังอิจฉา ยิ้มละลายใจนั่นก็อีก ทุกครั้งที่เขายิ้ม หล่อนรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก ราวอากาศรอบตัวถูกดูดหายไปหมดสิ้น

ตลอดทางจากชะอำเข้าอำเภอเมืองเพชรบุรี ไพจิตรผูกขาดการสนทนาอยู่เพียงผู้เดียว และเขาก็เป็นนักฟังที่ดี นานๆ หรอกจึงจะเสริมอะไรขึ้นมาสักครั้ง ที่สำคัญสำหรับหล่อนคือดูท่าทีไพจิตรมั่นใจว่าจะขอย้ายตามเขาไปได้ ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็แล้วแต่ และเขาเองก็ยืนยันครั้งแล้วครั้งเล่าว่าถ้าฝ่ายนั้นไม่มีโอกาสเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัด เขาก็จะเจรจาให้เอง เรื่องนี้เป็นเรื่องเดียวเท่านั้นในบทสนทนาของทั้งคู่ที่หล่อนสนใจ

ไพจิตรชอบเขา ชอบทำงานกับเขา หล่อนรู้นับแต่วันแรกที่ย้ายมาชะอำและไพจิตรไปรายงานตัวกับเขาแล้ว สามีหล่อนกลับมาชมเขาไม่ขาดปาก ยิ่งเมื่อเขาบอกให้เข้าอยู่อาศัยในบ้านพักหลังใหญ่ที่สุดในจำนวนสามหลัง เป็นบ้านซึ่งทิ้งร้างไว้นับแต่นายอำเภอคนก่อนเกษียณอายุจากงานแล้วย้ายออกไป ไพจิตรก็ยิ่งชอบเขา

‘ก็ดูเอาเถอะ ตัวท่านเองไม่ไปอยู่หลังนั้นทั้งๆ ที่สภาพบ้านดีกว่า กว้างกว่าด้วย ท่านบอกว่าอยู่หลังเดิมดีแล้วเพราะเป็นผู้ชายตัวคนเดียว พี่ได้นายดีแล้วแม่ฉวี’ ไพจิตรว่าอย่างนั้น

และนั่นก็ทำให้หล่อนสนใจเขาขึ้นมาบ้างเหมือนกัน จากสนใจกลายเป็นชื่นชม และต่อมาก็กลายเป็นความรู้สึกอื่นไปอย่างรวดเร็วเมื่อได้เห็นตัวจริงของเขาครั้งแรก เป็นความรู้สึกรุนแรงที่เวลานี้กู่ไม่กลับเสียแล้ว

หล่อนเชื่อเรื่องเนื้อคู่ หล่อนว่าความรู้สึกรุนแรงที่มีให้เขาแบบที่ไม่เคยมีให้ใครมาก่อนเลยนี้จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกจากความรู้สึกของคนซึ่งเป็นเนื้อคู่กันจริงๆ เท่านั้น หล่อนกับเขามีอะไรบางอย่างร่วมกันอย่างแน่นอน เพียงแต่เวลานี้เขายังไม่รู้เหมือนที่หล่อนรู้ ก็เท่านั้นเอง

แต่พอไพจิตรบอกว่าเขาถูกสั่งย้าย หล่อนตกใจแทบสิ้นสติ เป็นนานกว่าจะเข้าใจความหมาย

‘พี่จะขอย้ายตามท่านไปด้วย’

สามีหล่อนผู้ปกติไม่เคยมีความมั่นใจในเรื่องใดสักอย่าง คราวนี้กลับตัดสินใจได้ฉับพลัน

ไพจิตรเป็นครูมาก่อน และเพิ่งสอบเข้าเป็นปลัดอำเภอได้ ชะอำเป็นอำเภอแรกที่เขาเข้าทำงานในตำแหน่งนั้น จึงมีอะไรให้ต้องเรียนรู้อีกมาก และนับแต่เข้าเป็นปลัดของชะอำ ก็ได้นายอำเภอกริชซึ่งเคยอยู่ในตำแหน่งเดียวกันมาก่อนคอยให้คำแนะนำและสอนงานให้มาโดยตลอด หล่อนมั่นใจว่าไพจิตรยังไม่ปีกกล้าขาแข็งพอจะพ้นออกมาจากร่มเงานี้ได้ จึงได้มีความคิดนั้นขึ้นมา

ถ้าเป็นคนอื่นหล่อนคงมองว่าโง่ นี่เป็นโอกาสดีที่อาจได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นนายอำเภอแทน แต่กรณีนี้กลับตรงข้าม และหล่อนก็คงขาดใจตายถ้าไพจิตรไม่ได้ย้ายตามเขาไป

สามีหล่อนหุบปากลงได้ในที่สุด หล่อนจึงคว้าโอกาสนั้นไว้โดยไม่รั้งรอ

    “น่าเสียดาย คุณหญิงไม่ได้มาด้วยนะคะ”

พยายามสบตาเขาทางกระจกส่องหลัง หากเขาก็เพียงเหลือบขึ้นดูแวบเดียวแล้วเมินไปทางอื่นเสีย

ขัดใจเมื่อไพจิตรกลับเป็นคนตอบเสียแทน

“ก็คุณหญิงเห็นว่าพี่มาด้วยแล้วอย่างไรล่ะแม่ฉวี ตอนแรกที่คุณหญิงจะมาด้วยก็เผื่อว่าท่านขับรถต่อไปไม่ได้ จะได้ช่วยกัน แต่เมื่อพี่มาด้วย คุณหญิงก็เลยไม่มาเสีย คงเพราะเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องงาน”

ประโยคต่อมายังไม่วายขอคำยืนยันจากผู้เป็นนาย

“ใช่ไหมครับ”

และเขาก็ตอบรับอย่างสุภาพ

ฉวีลอบค้อนสามี มีความรู้สึกว่าประโยคหลังกระทบกระทั่งมาถึงหล่อน ทำอย่างกับว่าตัวเองขับรถเก่งเสียนักหนา ไพจิตรเพียงแค่พอขับรถได้เท่านั้นเอง แค่ติดเครื่องยนต์เป็น ถอยหน้าถอยหลังได้นิดหน่อย ขับไปข้างหน้าสักโยชน์สองโยชน์ก็เต็มกลืนแล้ว ให้ขับมาไกลขนาดนี้ไม่มีวันทำได้อย่างเด็ดขาด แต่ก็ดีแล้วที่ ‘คุณหญิง’ ของ ‘เขา’ ไม่ได้มาด้วย หล่อนจะไม่บ่นเลยเรื่องนั้น

และแม้เวลานี้จะมีสามีคอยขัดคอ แต่ก็ช่างเถอะ ยังมีโอกาสอีกมากที่จะสร้างความสนิทสนม จากชะอำไปอำเภอเมืองในสภาพถนนแบบนี้ใช้เวลาอย่างน้อยก็สองชั่วโมง แล้วยังขากลับอีก หล่อนมีเวลามากมายที่จะทำอะไรก็ได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่