ตอนเก่าๆ
Finnish Lapland (Finland) - เตรียมตัวเดินทาง
http://ppantip.com/topic/35806562
ติดตามบทความอื่นๆ ได้ที่
https://www.facebook.com/neooakblog
เที่ยวบินรอบนี้ถือว่าเพอร์เฟ็คมาก ออกจากกรุงเทพเวลาตีหนึ่ง ใช้เวลาบิน 12 ชั่วโมง ถึงสนามบินอาร์ลันดา กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน เวลาเช้าตรู่ของที่นั่นพอดี
สนามบินอาร์ลันดากับตัวเมืองสตอกโฮล์มอยู่ห่างกันพอสมควร หากนั่งรถบัสก็เป็นชั่วโมง วิธีที่เร็วที่สุดคือนั่งรถไฟสาย Arlanda Express ดิ่งตรงจากสนามบินเข้าตัวเมือง ใช้เวลาแค่ 20 นาที เท่านั้น
ตอนวางแผนสองจิตสองใจอยู่ว่าจะพักในตัวเมืองแล้วอีกวันค่อยนั่งรถไฟมาสนามบินเพื่อต่อเครื่องไปฟินแลนด์ดีไหม แต่คิดๆ ดูแล้วไฟลท์ออก 8.40 น. ถ้าพักในเมืองคงต้องเผื่อเวลากันวุ่นวาย เลยตัดสินใจจองพวกแอร์พอร์ตโฮเต็ลที่มีชัทเทิลบัสวิ่งรับส่งสนามบินน่าจะสะดวกกว่า
โรงแรมในทริปนี้ผมจองผ่าน Agoda ทั้งหมด แต่มารู้ทีหลังว่าจริงๆ แล้ว Agoda ไม่ค่อยได้คอนแทคกับโรงแรมในแถบยุโรปโดยตรง เวลาจองเลยจะโอนไปเข้าระบบของ Booking.com แทน
ที่พักคืนแรกคือ Quality Airport Hotel Arlanda อยู่ห่างจากสนามบินแค่ 4 ก.ม. มีชัทเทิลบัสวิ่งรับส่งทุกครึ่งชั่วโมง ราคาห้องแบบพักได้ 3 คน รวมอาหารเช้า คืนละประมาณ 5,000 บาท
สวีเดนใช้สกุลเงิน Swedish Krona (SEK) อัตราแลกเปลี่ยน ณ ขณะนั้นอยู่ที่ประมาณ 1 SEK = 4 บาท ส่วนฟินแลนด์จะใช้สกุลเงินยูโร รอบนี้เลยต้องแลกเงินมาเผื่อทั้งสองสกุลเลย
หลังจากผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองและรับกระเป๋าเรียบร้อย เดินตามป้าย Hotel Shuttle ไปถึงจุดขึ้นรถ ซึ่งมีแบ่งเป็นตัวเลขต่างๆ มองหาป้ายแถวนั้นบอกว่าโรงแรมของเราต้องไปรอขึ้นที่ป้ายหมายเลข 7
ออกจากตัวอาคารมาเจออุณหภูมิเลขตัวเดียวเข้าไป จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่ แต่ไม่เกิน 5 องศา แน่นอน หนาววาบเลยทีเดียว
ไม่นานรถชัทเทิลบัสก็มาถึง ใช้เวลาไม่เกิน 15 นาที ก็ถึงโรงแรม แต่พนักงานบอกว่ามันเช้าเกิน ยังเช็คอินไม่ได้ ให้กลับมาอีกทีหลังบ่ายสอง ซึ่งผมก็คิดไว้อยู่แล้วล่ะ แต่ตั้งใจเอากระเป๋าสัมภาระมาฝากไว้ก่อน
เปิดคลังเสบียงมาประเดิมมื้อแรกที่สตอกโฮล์มด้วยกุนเชียงกับข้าวสวยที่เพิ่งทำสดๆ ก่อนขึ้นเครื่องมาจากกรุงเทพ
จากโรงแรม นั่งชัทเทิลบัสกลับมาตั้งต้นที่สนามบินเพื่อเดินทางเข้าเมือง
แหล่งท่องเที่ยวในสตอกโฮล์มผมคัดมาแค่ที่เดียวคือ Gamla Stan หรือย่านเมืองเก่า ดูนาฬิกาแล้วมีเวลาเหลือเฟือ เลยลองหาทางเลือกอื่นที่ถูกกว่า Arlanda Express ดู แต่สอบถามพนักงานแล้วปรากฏว่ากรณีเดินทางหลายคนจะมีตั๋วโปรของ Arlanda Express ซึ่งคำนวณแล้วถูกกว่ารถไฟธรรมดา
ตั๋วโปรของ Arlanda Express ใช้ได้เฉพาะวันพฤหัส - อาทิตย์ ราคา 2 คน 300 SEK 3 คน 400 SEK และ 4 คน 500 SEK ซึ่งถ้าเป็นราคาปกติจะอยู่ที่คนละ 280 SEK
Arlanda Express สะดวกและรวดเร็วตามมาตรฐานรถไฟสายด่วนจากสนามบินเข้าตัวเมือง ใช้เวลา 20 นาที ก็มาถึง Stockholm Central Station
การเดินทางในสตอกโฮล์มมีรถไฟใต้ดินที่เรียกว่า T-Bana ซึ่งดูจากแผนที่แล้ว Gamla Stan อยู่ห่างไปแค่สถานีเดียว เลยตัดสินใจเดินเพื่อถือโอกาสชมเมืองไปด้วย
ในแผนที่ว่าใกล้ๆ เหมือนจะง่าย แต่ออกจากสถานีมาแล้วหลงทิศครับ ไม่รู้จะมุ่งหน้าไปทางไหน เลยใช้สูตรพื้นฐานของการเดินทางคือถามไปเรื่อยๆ เดี๋ยวเจอเอง
เดินหลงวนไปวนมาอยู่นานก็พบรูปปั้นพระเจ้ากุสตาฟที่ 2 แห่งสวีเดนนั่งตระหง่านบนหลังม้าและยกแขนชี้ไปทาง Gamla Stan ประหนึ่งว่าจะช่วยบอกทางพวกเราอีกแรง
Gamla Stan เป็นย่านเก่าแก่ที่สุดในสตอกโฮล์ม ตามตรอกซอกซอยเต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่องบรรยากาศศตวรรษที่ 13 ซึ่งปัจจุบันถูกดัดแปลงให้เป็นร้านรวงคอยกระตุกเงินจากนักท่องเที่ยว
นอกจากร้านค้าแล้ว ยังมีคาเฟ่เรียงรายตลอดทาง แต่ละร้านนี่คนแน่นสุดๆ
ว่าแล้วก็สั่งคาปูชิโน่มาจิบคู่กับแซนวิชคลอบรรยากาศเมืองเก่าย้อนยุคซะหน่อย
จุดประสงค์ของการมา Gamla Stan ตั้งใจจะมาเชยชมและเก็บภาพเมืองเก่าสะท้อนกับผืนน้ำในบรรยากาศยามพลบค่ำแบบที่เห็นในโปสการ์ด แต่ดูสภาพท้องฟ้าที่มืดครึ้มมาตั้งแต่เช้า แถมยังมีฝนเทมามาเป็นพักๆ คาดว่าน่าจะแห้ว ดีไม่ดีจะตากฝนจนไม่สบายกันตั้งแต่ยังไม่ถึงฟินแลนด์ เลยตัดสินใจกลับไปเช็คอินและพักผ่อนที่โรงแรมดีกว่า
จาก Gamla Stan นั่ง Subway T-Bana ไปลงสถานี T-Centralen ซึ่งตอนแรกคิดว่ามันคือที่เดียวกับ Stockholm Central Station หรืออย่างน้อยๆ ก็ต้องมีทางเชื่อม แต่ปรากฏว่าอยู่แยกกันซะงั้น ต้องเดินงมหาและถามทางต่ออีกหน่อยถึงจะเจอ
โรงแรมที่เราพักอยู่ในอาคารเดียวกับห้างสรรพสินค้าและมีซุปเปอร์มาเก็ตขนาดใหญ่อยู่ด้านล่าง หลังจากกลับมาเช็คอินโรงแรมและเก็บข้าวของเรียบร้อยเลยลงมาซื้อผลไม้ไปเสริมกับเสบียงที่เตรียมมาเพื่อเป็นมื้อเย็นของวันนี้
เวลาที่สวีเดนช้ากว่าไทย 6 ชั่วโมง หัวค่ำของที่นี่ก็ประมาณเที่ยงคืนตีหนึ่งบ้านเราแล้ว บวกกับความเหนื่อยล้าจากการนั่งเครื่องบิน 12 ชั่วโมง พออาบน้ำกินข้าวเรียบร้อยเลยพากันสลบไสลไปอย่างรวดเร็ว
To Be Continued...
Finnish Lapland EP2 - Rovaniemi (Day 1)
http://ppantip.com/topic/35838722
https://www.facebook.com/neooakblog
Finnish Lapland (Finland) EP1 - Stockholm (Sweden)
Finnish Lapland (Finland) - เตรียมตัวเดินทาง
http://ppantip.com/topic/35806562
ติดตามบทความอื่นๆ ได้ที่ https://www.facebook.com/neooakblog
เที่ยวบินรอบนี้ถือว่าเพอร์เฟ็คมาก ออกจากกรุงเทพเวลาตีหนึ่ง ใช้เวลาบิน 12 ชั่วโมง ถึงสนามบินอาร์ลันดา กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน เวลาเช้าตรู่ของที่นั่นพอดี
สนามบินอาร์ลันดากับตัวเมืองสตอกโฮล์มอยู่ห่างกันพอสมควร หากนั่งรถบัสก็เป็นชั่วโมง วิธีที่เร็วที่สุดคือนั่งรถไฟสาย Arlanda Express ดิ่งตรงจากสนามบินเข้าตัวเมือง ใช้เวลาแค่ 20 นาที เท่านั้น
ตอนวางแผนสองจิตสองใจอยู่ว่าจะพักในตัวเมืองแล้วอีกวันค่อยนั่งรถไฟมาสนามบินเพื่อต่อเครื่องไปฟินแลนด์ดีไหม แต่คิดๆ ดูแล้วไฟลท์ออก 8.40 น. ถ้าพักในเมืองคงต้องเผื่อเวลากันวุ่นวาย เลยตัดสินใจจองพวกแอร์พอร์ตโฮเต็ลที่มีชัทเทิลบัสวิ่งรับส่งสนามบินน่าจะสะดวกกว่า
โรงแรมในทริปนี้ผมจองผ่าน Agoda ทั้งหมด แต่มารู้ทีหลังว่าจริงๆ แล้ว Agoda ไม่ค่อยได้คอนแทคกับโรงแรมในแถบยุโรปโดยตรง เวลาจองเลยจะโอนไปเข้าระบบของ Booking.com แทน
ที่พักคืนแรกคือ Quality Airport Hotel Arlanda อยู่ห่างจากสนามบินแค่ 4 ก.ม. มีชัทเทิลบัสวิ่งรับส่งทุกครึ่งชั่วโมง ราคาห้องแบบพักได้ 3 คน รวมอาหารเช้า คืนละประมาณ 5,000 บาท
สวีเดนใช้สกุลเงิน Swedish Krona (SEK) อัตราแลกเปลี่ยน ณ ขณะนั้นอยู่ที่ประมาณ 1 SEK = 4 บาท ส่วนฟินแลนด์จะใช้สกุลเงินยูโร รอบนี้เลยต้องแลกเงินมาเผื่อทั้งสองสกุลเลย
หลังจากผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองและรับกระเป๋าเรียบร้อย เดินตามป้าย Hotel Shuttle ไปถึงจุดขึ้นรถ ซึ่งมีแบ่งเป็นตัวเลขต่างๆ มองหาป้ายแถวนั้นบอกว่าโรงแรมของเราต้องไปรอขึ้นที่ป้ายหมายเลข 7
ออกจากตัวอาคารมาเจออุณหภูมิเลขตัวเดียวเข้าไป จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่ แต่ไม่เกิน 5 องศา แน่นอน หนาววาบเลยทีเดียว
ไม่นานรถชัทเทิลบัสก็มาถึง ใช้เวลาไม่เกิน 15 นาที ก็ถึงโรงแรม แต่พนักงานบอกว่ามันเช้าเกิน ยังเช็คอินไม่ได้ ให้กลับมาอีกทีหลังบ่ายสอง ซึ่งผมก็คิดไว้อยู่แล้วล่ะ แต่ตั้งใจเอากระเป๋าสัมภาระมาฝากไว้ก่อน
เปิดคลังเสบียงมาประเดิมมื้อแรกที่สตอกโฮล์มด้วยกุนเชียงกับข้าวสวยที่เพิ่งทำสดๆ ก่อนขึ้นเครื่องมาจากกรุงเทพ
จากโรงแรม นั่งชัทเทิลบัสกลับมาตั้งต้นที่สนามบินเพื่อเดินทางเข้าเมือง
แหล่งท่องเที่ยวในสตอกโฮล์มผมคัดมาแค่ที่เดียวคือ Gamla Stan หรือย่านเมืองเก่า ดูนาฬิกาแล้วมีเวลาเหลือเฟือ เลยลองหาทางเลือกอื่นที่ถูกกว่า Arlanda Express ดู แต่สอบถามพนักงานแล้วปรากฏว่ากรณีเดินทางหลายคนจะมีตั๋วโปรของ Arlanda Express ซึ่งคำนวณแล้วถูกกว่ารถไฟธรรมดา
ตั๋วโปรของ Arlanda Express ใช้ได้เฉพาะวันพฤหัส - อาทิตย์ ราคา 2 คน 300 SEK 3 คน 400 SEK และ 4 คน 500 SEK ซึ่งถ้าเป็นราคาปกติจะอยู่ที่คนละ 280 SEK
Arlanda Express สะดวกและรวดเร็วตามมาตรฐานรถไฟสายด่วนจากสนามบินเข้าตัวเมือง ใช้เวลา 20 นาที ก็มาถึง Stockholm Central Station
การเดินทางในสตอกโฮล์มมีรถไฟใต้ดินที่เรียกว่า T-Bana ซึ่งดูจากแผนที่แล้ว Gamla Stan อยู่ห่างไปแค่สถานีเดียว เลยตัดสินใจเดินเพื่อถือโอกาสชมเมืองไปด้วย
ในแผนที่ว่าใกล้ๆ เหมือนจะง่าย แต่ออกจากสถานีมาแล้วหลงทิศครับ ไม่รู้จะมุ่งหน้าไปทางไหน เลยใช้สูตรพื้นฐานของการเดินทางคือถามไปเรื่อยๆ เดี๋ยวเจอเอง
เดินหลงวนไปวนมาอยู่นานก็พบรูปปั้นพระเจ้ากุสตาฟที่ 2 แห่งสวีเดนนั่งตระหง่านบนหลังม้าและยกแขนชี้ไปทาง Gamla Stan ประหนึ่งว่าจะช่วยบอกทางพวกเราอีกแรง
Gamla Stan เป็นย่านเก่าแก่ที่สุดในสตอกโฮล์ม ตามตรอกซอกซอยเต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่องบรรยากาศศตวรรษที่ 13 ซึ่งปัจจุบันถูกดัดแปลงให้เป็นร้านรวงคอยกระตุกเงินจากนักท่องเที่ยว
นอกจากร้านค้าแล้ว ยังมีคาเฟ่เรียงรายตลอดทาง แต่ละร้านนี่คนแน่นสุดๆ
ว่าแล้วก็สั่งคาปูชิโน่มาจิบคู่กับแซนวิชคลอบรรยากาศเมืองเก่าย้อนยุคซะหน่อย
จุดประสงค์ของการมา Gamla Stan ตั้งใจจะมาเชยชมและเก็บภาพเมืองเก่าสะท้อนกับผืนน้ำในบรรยากาศยามพลบค่ำแบบที่เห็นในโปสการ์ด แต่ดูสภาพท้องฟ้าที่มืดครึ้มมาตั้งแต่เช้า แถมยังมีฝนเทมามาเป็นพักๆ คาดว่าน่าจะแห้ว ดีไม่ดีจะตากฝนจนไม่สบายกันตั้งแต่ยังไม่ถึงฟินแลนด์ เลยตัดสินใจกลับไปเช็คอินและพักผ่อนที่โรงแรมดีกว่า
จาก Gamla Stan นั่ง Subway T-Bana ไปลงสถานี T-Centralen ซึ่งตอนแรกคิดว่ามันคือที่เดียวกับ Stockholm Central Station หรืออย่างน้อยๆ ก็ต้องมีทางเชื่อม แต่ปรากฏว่าอยู่แยกกันซะงั้น ต้องเดินงมหาและถามทางต่ออีกหน่อยถึงจะเจอ
โรงแรมที่เราพักอยู่ในอาคารเดียวกับห้างสรรพสินค้าและมีซุปเปอร์มาเก็ตขนาดใหญ่อยู่ด้านล่าง หลังจากกลับมาเช็คอินโรงแรมและเก็บข้าวของเรียบร้อยเลยลงมาซื้อผลไม้ไปเสริมกับเสบียงที่เตรียมมาเพื่อเป็นมื้อเย็นของวันนี้
เวลาที่สวีเดนช้ากว่าไทย 6 ชั่วโมง หัวค่ำของที่นี่ก็ประมาณเที่ยงคืนตีหนึ่งบ้านเราแล้ว บวกกับความเหนื่อยล้าจากการนั่งเครื่องบิน 12 ชั่วโมง พออาบน้ำกินข้าวเรียบร้อยเลยพากันสลบไสลไปอย่างรวดเร็ว
To Be Continued...
Finnish Lapland EP2 - Rovaniemi (Day 1)
http://ppantip.com/topic/35838722
https://www.facebook.com/neooakblog