โรงเรียนของเราเป็นโรงเรียนเล็ก ๆ อยู่ใกล้กับวัดแห่งหนึ่ง มีนักเรียนประมาณ 65-70 คน ตั้งอยู่ในเขตชุมชน
นักเรียนที่เรียนโรงเรียนนี้ สามารถเดินเท้า หรือ ปั่นจักรยานมาได้เพียงแค่ใช้เวลาประมาณ 5-10 นาที
อบต.มีกำหนดจะยุบโรงเรียนของเราไปรวมกับโรงเรียนอีกแห่งหนึ่ง (เคยจะถูกยุบมาแล้วเช่นกัน) เป็นโรงเรียนของรัฐบาลเช่นเดียวกัน
ซึ่งตั้งอยู่ไกลกว่า ทำให้การเดินทางลำบากกับนักเรียนของเรามากกว่า เพราะต้องผ่านพื้นที่ข้างทางที่เป็นบ่อกุ้ง บ่อปลา
ผ่านโค้งหลายโค้งที่ค่อนข้างอันตราย และผ่านสะพานสูงชันที่ตอนขับรถ แม้แต่ตัวเราขับเองยังเกือบไถลลงทางข้างคลองในบางครั้ง
ผู้ปกครองของนักเรียนโรงเรียนเราพากันรวมตัวคัดค้าน ทาง อบต.จึงตัดสินใจจัดประชุมเพื่อปรึกษาหาแนวทาง
วันที่ประชุม ชาวบ้านต่างยืนกรานขออย่ายุบโรงเรียนเราเลย เพราะผู้ปกครองหลายคนไม่สะดวกจริง ๆ กับการพานักเรียนไปส่งที่โรงเรียนนั้น
ตัวแทนเจ้าหน้าที่ที่มา จึงประกาศประมาณว่า
"งั้นให้ลูก ๆ ของชาวบ้านเรียนกับอาคารโรงเรียนแล้วกัน ตนจะย้ายครูไปที่โรงเรียนแห่งนู้นให้หมด ดูสิจะเรียนกันได้ยังไง"
กระทั่งเปิดเทอมใหม่นี้ ครูฝึกสอนได้ถูกย้ายไปแล้วหนึ่งราย และกำลังจะย้ายครูประจำไปอีกหนึ่ง
(ซึ่งครูประจำท่านนี้บ่นว่าไม่อยากไปเลย ห่วงนักเรียน แต่เกรงจะขัดไม่ได้)
และน่าจะตัดงบประมาณต่าง ๆ ในลำดับถัดไป
ชาวบ้านจะย้ายลูก-หลาน ไปโรงเรียนอีกแห่งที่น่าจะสะดวกกว่าก็ไม่ได้ เพราะเทอมสองแล้ว
*************************************************************************
เคยสงสัยว่าทำไม อบต.ไม่ยุบนักเรียนของโรงเรียนนั้นมาเรียนกับเรา ทั้งที่ปริมาณนักเรียนใกล้เคียงกัน
ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ให้เหตุผลกับชาวบ้านว่า โรงเรียนของเราไม่น่าจะรับปริมาณนักเรียนที่จะยุบมารวมไหว
หากแต่ในอดีต โรงเรียนของเรา เคยรับนักเรียนมาเรียนได้ในระดับที่เกินร้อย หรือสองร้อยคนมาแล้ว
โรงเรียนแห่งใหม่นี้ ตั้งอยู่ในพื้นที่กลางดอนที่ค่อนข้างกันดารทีเดียว ส่วนโรงเรียนของเราอยู่ติดกับวัดซึ่งเป็นแหล่งชุมชน และมีกิจกรรมส่งเสริมที่ทำร่วมกันหลายอย่าง ทำไมจะต้องมาตั้งค่าหัวออกเงินช่วยค่าใช้จ่าย ด้านเสื้อผ้า รองเท้า เพื่อให้ผู้ปกครองของนักเรียนโรงเรียนเรา เอาเด็กย้ายไป
เราจะช่วยเหลือนักเรียนเราได้อย่างไรคะ
ขอแนวทางด้วยเถอะค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ขอความช่วยเหลือด่วนค่ะ โรงเรียนของเรากำลังถูกบีบให้ยุบ
นักเรียนที่เรียนโรงเรียนนี้ สามารถเดินเท้า หรือ ปั่นจักรยานมาได้เพียงแค่ใช้เวลาประมาณ 5-10 นาที
อบต.มีกำหนดจะยุบโรงเรียนของเราไปรวมกับโรงเรียนอีกแห่งหนึ่ง (เคยจะถูกยุบมาแล้วเช่นกัน) เป็นโรงเรียนของรัฐบาลเช่นเดียวกัน
ซึ่งตั้งอยู่ไกลกว่า ทำให้การเดินทางลำบากกับนักเรียนของเรามากกว่า เพราะต้องผ่านพื้นที่ข้างทางที่เป็นบ่อกุ้ง บ่อปลา
ผ่านโค้งหลายโค้งที่ค่อนข้างอันตราย และผ่านสะพานสูงชันที่ตอนขับรถ แม้แต่ตัวเราขับเองยังเกือบไถลลงทางข้างคลองในบางครั้ง
ผู้ปกครองของนักเรียนโรงเรียนเราพากันรวมตัวคัดค้าน ทาง อบต.จึงตัดสินใจจัดประชุมเพื่อปรึกษาหาแนวทาง
วันที่ประชุม ชาวบ้านต่างยืนกรานขออย่ายุบโรงเรียนเราเลย เพราะผู้ปกครองหลายคนไม่สะดวกจริง ๆ กับการพานักเรียนไปส่งที่โรงเรียนนั้น
ตัวแทนเจ้าหน้าที่ที่มา จึงประกาศประมาณว่า
"งั้นให้ลูก ๆ ของชาวบ้านเรียนกับอาคารโรงเรียนแล้วกัน ตนจะย้ายครูไปที่โรงเรียนแห่งนู้นให้หมด ดูสิจะเรียนกันได้ยังไง"
กระทั่งเปิดเทอมใหม่นี้ ครูฝึกสอนได้ถูกย้ายไปแล้วหนึ่งราย และกำลังจะย้ายครูประจำไปอีกหนึ่ง
(ซึ่งครูประจำท่านนี้บ่นว่าไม่อยากไปเลย ห่วงนักเรียน แต่เกรงจะขัดไม่ได้)
และน่าจะตัดงบประมาณต่าง ๆ ในลำดับถัดไป
ชาวบ้านจะย้ายลูก-หลาน ไปโรงเรียนอีกแห่งที่น่าจะสะดวกกว่าก็ไม่ได้ เพราะเทอมสองแล้ว
*************************************************************************
เคยสงสัยว่าทำไม อบต.ไม่ยุบนักเรียนของโรงเรียนนั้นมาเรียนกับเรา ทั้งที่ปริมาณนักเรียนใกล้เคียงกัน
ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ให้เหตุผลกับชาวบ้านว่า โรงเรียนของเราไม่น่าจะรับปริมาณนักเรียนที่จะยุบมารวมไหว
หากแต่ในอดีต โรงเรียนของเรา เคยรับนักเรียนมาเรียนได้ในระดับที่เกินร้อย หรือสองร้อยคนมาแล้ว
โรงเรียนแห่งใหม่นี้ ตั้งอยู่ในพื้นที่กลางดอนที่ค่อนข้างกันดารทีเดียว ส่วนโรงเรียนของเราอยู่ติดกับวัดซึ่งเป็นแหล่งชุมชน และมีกิจกรรมส่งเสริมที่ทำร่วมกันหลายอย่าง ทำไมจะต้องมาตั้งค่าหัวออกเงินช่วยค่าใช้จ่าย ด้านเสื้อผ้า รองเท้า เพื่อให้ผู้ปกครองของนักเรียนโรงเรียนเรา เอาเด็กย้ายไป
เราจะช่วยเหลือนักเรียนเราได้อย่างไรคะ
ขอแนวทางด้วยเถอะค่ะ
ขอบคุณค่ะ