โรงเรียนของเราเป็นโรงเรียนเล็กๆ ที่อยู่ติดกับวัด มีนักเรียนทั้งหมดไม่ถึง 50 คน สอนระดับอนุบาลถึง ป.6 ที่โรงเรียนไม่เคร่งครัดเรื่องการแต่งตัวเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่พวกเราเป็นลูกชาวนาชาวไร่แถวนั้น ใส่รองเท้าแตะ ชุดนักเรียนได้บริจาคมาตามโอกาส วันที่มีกีฬาเราจะใส่เสื้อยืดและกางเกงวอห์ม เวลามีกิจกรรมเราจะอาศัยศาลาวัดเป็นที่ประชุมและทำกิจกรรม ตอนกลางวันเด็กนักเรียนจะวิ่งเล่นกันในบริเวณวัด บำเพ็ญประโยชน์โดยการช่วยเหลือวัดเมื่อมีโอกาส มีแปลงผักหลังโรงเรียน มีระฆัง 1 อันตีเพื่อเป็นสัญญาณเข้าห้องเรียน และเลิกเรียน
ฉันอยู่ ป.5 ห้องของเรามีนักเรียน 7 คน อยู่รวมกับนักเรียนชั้น ป.3 ที่มีนักเรียน 3 คน มีคุณครูประจำชั้น 1 คน ซึ่งคุณครูจะสอนทุกวิชาคนเดียว เรามีโอกาสร่วมแข่งขันวิชาการบ้างแต่ก็ไม่ได้มีโอกาสไปไกลๆ เพราะไม่มีเงินทุนในเรื่องการเดินทาง น้องๆ บางคนที่พ่อและแม่มีสตางค์มากหน่อยก็ย้ายไปโรงเรียนอื่น
วันหนึ่งพวกเราได้รับคำสั่งจากคุณครูให้อ่านหนังสือกันเอง เพราะคุณครูมีประชุม วันนั้นเราแทบจะไม่ได้เรียนอะไรกันเลย จนคุณครูกลับมาแล้วบอกกับพวกเราว่านับจากพรุ่งนี้ไปโรงเรียนของเราจะถูกปิดลง ให้เราแจ้งผู้ปกครองเพื่อย้ายโรงเรียน แต่พรุ่งนี้โรงเรียนจะยังเปิดอยู่สำหรับนักเรียนที่ยังไม่มีที่เรียนใหม่ วันนั้นฉันกลับไปบ้าน ตาบอกว่าเราจะต้องยืนยันว่าเด็กนักเรียนจำเป็นต้องมีโรงเรียนที่นี่ เราจะไม่ย้ายไปไหน
เช้าวันรุ่งขึ้น ฉันไปโรงเรียน เหลือนักเรียนอยู่เพียง 3 คน เรานั่งรวมอยู่ห้องเดียวกัน คุณครูนั่งลงแล้วบอกกับพวกเราว่า เราควรย้ายโรงเรียนเพื่อไปหาโอกาสที่ดีกว่า หลังจากนั้นฉันทำเรื่องย้ายโรงเรียนใหม่ ซึ่งต้องเดินทางไกลกว่าเดิม นักเรียนที่นี่มีเยอะ ห้องหนึ่งก็เกือบจะเท่ากับโรงเรียนเราทั้งโรงเรียน ทุกคนใส่รองเท้านักเรียนและปักชื่อที่หน้าอก นี่คือบรรยากาศของโรงเรียนใหม่
วันนี้ที่วัดดูเงียบๆ ไม่มีเด็กนักเรียนวิ่งเล่น ห้องเรียนโดนทุบไปบางส่วน สนามถูกปล่อยให้รกร้าง ที่นี่เป็นเพียงโรงเรียนหนึ่งที่ถูกยุบไป เพราะมีนักเรียนน้อย
ในวันที่โรงเรียนของฉันถูกยุบ
ฉันอยู่ ป.5 ห้องของเรามีนักเรียน 7 คน อยู่รวมกับนักเรียนชั้น ป.3 ที่มีนักเรียน 3 คน มีคุณครูประจำชั้น 1 คน ซึ่งคุณครูจะสอนทุกวิชาคนเดียว เรามีโอกาสร่วมแข่งขันวิชาการบ้างแต่ก็ไม่ได้มีโอกาสไปไกลๆ เพราะไม่มีเงินทุนในเรื่องการเดินทาง น้องๆ บางคนที่พ่อและแม่มีสตางค์มากหน่อยก็ย้ายไปโรงเรียนอื่น
วันหนึ่งพวกเราได้รับคำสั่งจากคุณครูให้อ่านหนังสือกันเอง เพราะคุณครูมีประชุม วันนั้นเราแทบจะไม่ได้เรียนอะไรกันเลย จนคุณครูกลับมาแล้วบอกกับพวกเราว่านับจากพรุ่งนี้ไปโรงเรียนของเราจะถูกปิดลง ให้เราแจ้งผู้ปกครองเพื่อย้ายโรงเรียน แต่พรุ่งนี้โรงเรียนจะยังเปิดอยู่สำหรับนักเรียนที่ยังไม่มีที่เรียนใหม่ วันนั้นฉันกลับไปบ้าน ตาบอกว่าเราจะต้องยืนยันว่าเด็กนักเรียนจำเป็นต้องมีโรงเรียนที่นี่ เราจะไม่ย้ายไปไหน
เช้าวันรุ่งขึ้น ฉันไปโรงเรียน เหลือนักเรียนอยู่เพียง 3 คน เรานั่งรวมอยู่ห้องเดียวกัน คุณครูนั่งลงแล้วบอกกับพวกเราว่า เราควรย้ายโรงเรียนเพื่อไปหาโอกาสที่ดีกว่า หลังจากนั้นฉันทำเรื่องย้ายโรงเรียนใหม่ ซึ่งต้องเดินทางไกลกว่าเดิม นักเรียนที่นี่มีเยอะ ห้องหนึ่งก็เกือบจะเท่ากับโรงเรียนเราทั้งโรงเรียน ทุกคนใส่รองเท้านักเรียนและปักชื่อที่หน้าอก นี่คือบรรยากาศของโรงเรียนใหม่
วันนี้ที่วัดดูเงียบๆ ไม่มีเด็กนักเรียนวิ่งเล่น ห้องเรียนโดนทุบไปบางส่วน สนามถูกปล่อยให้รกร้าง ที่นี่เป็นเพียงโรงเรียนหนึ่งที่ถูกยุบไป เพราะมีนักเรียนน้อย