วันนี้ (15 พ.ย.) นายยรรยง พวงราช อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
และเป็นอดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์ โพสต์ข้อความแสดงความเห็นเรื่องข้าว ในบทความชื่อ “วรงค์” โง่จริงหรือ
แกล้งโง่ที่โจมตีกรณี “ยิ่งลักษณ์” ขายข้าวช่วยชาวนา ? ระบุว่า
<
<
<
4. นายวรงค์รู้หรือไม่ว่าการที่ชาวนาส่วนหนึ่งนำผลผลิตของตัวเองออกขายให้ผู้บริโภคโดยตรงโดยไม่ผ่านกลไกตลาดปกติ
นับได้ว่าเป็นการสร้างทางเลือกใหม่และเพิ่มอำนาจต่อรองให้ตนเอง เพราะเท่ากับตัดกลไกตลาดที่เคยกินส่วนต่างถึงประมาณ
50% ออกได้ (ค่าปรับปรุงคุณภาพค่าบรรจุถุง ค่าขนส่ง ค่าวางขาย ค่าโฆษณา ค่าส่งเสริมการขาย) ปกติกลไกตลาดส่วนนี้
จะผลักภาระให้ชาวนาโดยการหักจากราคารับซื้อข้าวเปลือก (แต่ท่านอดีตนายกฯรับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนามาขายโดยรับ
ภาระต้นทุนการผลิตและการตลาดไว้เอง)
5.นายวรงค์รู้หรือไม่ว่าท่านอดีตนายกฯได้รับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาตัวจริงตันละ 12,000 บาท ในขณะที่ราคาที่ตลาดรับซื้อ
ยังไม่ถึง 1 หมื่นบาท จึงทำให้ชาวนาพอใจและมีความสุขตั้งแต่เมื่อได้ขายข้าวราคาสูงกว่าตลาดและพบว่ามีทางเลือกเพิ่มขึ้นคือ
สามารถพึ่งตนเองได้โดยไม่ต้องผ่านกลไกตลาดปกติ สำหรับชาวนาที่ยังไม่ได้ขายข้าวก็มองเห็นแสงสว่างคือสามารถขายข้าวเอง
ได้โดยไม่ต้องถูกผลักภาระหักราคาเป็นค่าใช้จ่ายด้านการตลาดอีกต่อไป และไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาทุบราคาข้าวให้ตํ่าลงได้
อีก (การที่ท่านอดีตนายกฯขายข้าวสารในราคากิโลกรัมละ 20 บาท ซึ่งยังสูงกว่าราคาขายส่งข้าวสารหอมมะลิใหม่เล็กน้อย ก็ไม่
มีผลเป็นการทุบราคาข้าวให้ต่ำลงแต่อย่างใดตามข้อเท็จจริงที่ระบุในคำถามข้อ 1-ข้อ 3)
ผมขอให้ท่านผู้อ่านช่วยวิเคราะห์ว่านายวรงค์จะสามารถตอบได้ถูกต้องแค่ไหน ถ้าตอบได้ถึงร้อยละ 60 ถือว่ามีความรู้จริงแต่แกล้งโง่ แต่ถ้าตอบได้น้อยกว่าร้อยละ 60 ถือว่าโง่จริงๆ เพราะข้อมูลที่ตั้งคำถามเป็นข้อมูลสาธารณะที่เผยแพร่และรู้กันทั่วไปนะครับ
http://www.matichon.co.th/news/360976
‘ยรรยง’ ถามกลับ 5 ข้อ ‘หมอวรงค์’ แกล้งโง่เรื่องข้าวหรือไม่?....มติชนออนไลน์ ..../sao..เหลือ..noi
และเป็นอดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์ โพสต์ข้อความแสดงความเห็นเรื่องข้าว ในบทความชื่อ “วรงค์” โง่จริงหรือ
แกล้งโง่ที่โจมตีกรณี “ยิ่งลักษณ์” ขายข้าวช่วยชาวนา ? ระบุว่า
<
<
<
4. นายวรงค์รู้หรือไม่ว่าการที่ชาวนาส่วนหนึ่งนำผลผลิตของตัวเองออกขายให้ผู้บริโภคโดยตรงโดยไม่ผ่านกลไกตลาดปกติ
นับได้ว่าเป็นการสร้างทางเลือกใหม่และเพิ่มอำนาจต่อรองให้ตนเอง เพราะเท่ากับตัดกลไกตลาดที่เคยกินส่วนต่างถึงประมาณ
50% ออกได้ (ค่าปรับปรุงคุณภาพค่าบรรจุถุง ค่าขนส่ง ค่าวางขาย ค่าโฆษณา ค่าส่งเสริมการขาย) ปกติกลไกตลาดส่วนนี้
จะผลักภาระให้ชาวนาโดยการหักจากราคารับซื้อข้าวเปลือก (แต่ท่านอดีตนายกฯรับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนามาขายโดยรับ
ภาระต้นทุนการผลิตและการตลาดไว้เอง)
5.นายวรงค์รู้หรือไม่ว่าท่านอดีตนายกฯได้รับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาตัวจริงตันละ 12,000 บาท ในขณะที่ราคาที่ตลาดรับซื้อ
ยังไม่ถึง 1 หมื่นบาท จึงทำให้ชาวนาพอใจและมีความสุขตั้งแต่เมื่อได้ขายข้าวราคาสูงกว่าตลาดและพบว่ามีทางเลือกเพิ่มขึ้นคือ
สามารถพึ่งตนเองได้โดยไม่ต้องผ่านกลไกตลาดปกติ สำหรับชาวนาที่ยังไม่ได้ขายข้าวก็มองเห็นแสงสว่างคือสามารถขายข้าวเอง
ได้โดยไม่ต้องถูกผลักภาระหักราคาเป็นค่าใช้จ่ายด้านการตลาดอีกต่อไป และไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาทุบราคาข้าวให้ตํ่าลงได้
อีก (การที่ท่านอดีตนายกฯขายข้าวสารในราคากิโลกรัมละ 20 บาท ซึ่งยังสูงกว่าราคาขายส่งข้าวสารหอมมะลิใหม่เล็กน้อย ก็ไม่
มีผลเป็นการทุบราคาข้าวให้ต่ำลงแต่อย่างใดตามข้อเท็จจริงที่ระบุในคำถามข้อ 1-ข้อ 3)
ผมขอให้ท่านผู้อ่านช่วยวิเคราะห์ว่านายวรงค์จะสามารถตอบได้ถูกต้องแค่ไหน ถ้าตอบได้ถึงร้อยละ 60 ถือว่ามีความรู้จริงแต่แกล้งโง่ แต่ถ้าตอบได้น้อยกว่าร้อยละ 60 ถือว่าโง่จริงๆ เพราะข้อมูลที่ตั้งคำถามเป็นข้อมูลสาธารณะที่เผยแพร่และรู้กันทั่วไปนะครับ
http://www.matichon.co.th/news/360976