มารีวิวจร้าาา...
...เพราะคุณแม่ส่วนใหญ่ที่มีลูกน้อย คงจะเคยชินกับการล้างขวดนมเสร็จแล้ว ก็ฆ่าเชื้อขวดนมด้วยหม้อนึ่งความร้อนกันใช่ไม๊คะ
ล้างทำความสะอาด แล้วก็เอาไปนึ่งแบบความร้อนสูงๆ ต้องทำหลายขั้นตอน ตั้งแต่ตวงน้ำลงในถาด นึ่งเสร็จก็ต้องล้างหม้อนึ่งด้วย พอน้ำแห้งก็มักเป็นตะกรัน พอบ่อยๆ เข้าก็ต้องเอาน้ำส้มสายชูมาต้มล้างทำความสะอาดถาดรองน้ำ ส่วนขวดนมก็ต้องตากให้แห้งก่อนถึงจะนำมาชงนมให้ลูกได้ ยุ่งยากมากๆ
แม่อีฟขอแนะนำตัวช่วยหน้าตาดี ดีไซน์สวย น้ำหนักเบา ที่มาพร้อมฟังชั่นมากมาย ช่วยให้ทุกสิ่งในบ้านสะอาด ปราศจากเชื้อโรค กับเครื่องมือชิ้นใหม่ ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์คุณแม่สมัยใหม่อย่างเราๆ ที่ต้องการความสะดวกสบายและการฆ่าเชื้อโรคได้มากที่สุดสำหรับลูกน้อย รู้สึกว่ามันง่าย สะดวก และสะอาดกว่าด้วยนะคะ
ตู้อบแห้งฆ่าเชื้อ UV แบรนด์Prince&Princess สัญชาติเกาหลี รุ่นล่าสุดGen3 ระบบพัฒนาขึ้น ใช้งานได้มีประสิทธิภาพดีขึ้น
ทันสมัย ใช้งานได้ง่ายขึ้น เพราะสั่งงานผ่านBluetooth แค่โหลดแอป Haenim ก็สั่งงานจากมือถือได้เลยค่ะ
ปุ่มกดแบบสัมผัส หลักๆที่ใช้งานมี 3 ระบบ Auto, UV ,Dry เพิ่มพิเศษด้วยระบบ Storage ใช้สำหรับเก็บขวดนมหรือของที่ผ่านการฆ่าเชื้อมาแล้ว แค่กดปุ่มนี้ด้วย ฆ่าเชื้อซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง สะอาดพร้อมใช้ตลอดเวลาเลยค่ะ
มีตัวเลขเวลา(สีฟ้า) และอุณหภูมิ(สีแดง) บอกการทำงาน เราจะได้รู้ว่าพร้อมใช้งานหรือยังน๊าาา
ตัวเครื่องใหญ่ ภายในกว้างมาก สามารถทำความสะอาดฆ่าเชื้อได้ ถึง 16 ขวด ในเวลาเดียวกัน ประหยัดเวลาสุดๆไปเลย
ขวดนมหรือของใช้ที่ล้างมาเปียกๆ ก็ง่ายเลยค่ะ กดปุ่ม Auto ทำงาน 30 นาที ก็สามารถเอาขวดนมมาชงนมให้ลูกได้เลยค่ะ
เพียงล้างขวดนมให้สะอาด สะบัดน้ำออกจนเหลือเพียงละอองเล็กน้อย แค่หยดน้ำติดข้างขวด
ใส่เข้าไปในเครื่อง ลักษณะการใส่ให้ใส่แบบหงายขึ้นนะคะ เพราะหลอดUV จะอยู่ด้านบน ถ้ามีหลายขวดก็เรียงขวดให้มีพื้นที่ห่างกันเล็กน้อย อย่าวางติดกันเกินไปนะคะ ตู้ขนาดใหญ่สามารถวางได้ 2 ชั้นเลย แต่ก็ไม่ต้องกลัวว่าของที่อยู่ข้างล่างจะฆ่าเชื้อไม่ทั่วถึง เพราะวัสดุภายในตู้เป็นสแตนเลส เกรดพิเศษจะช่วยกระจายแสง UV ได้อย่างดี
กดปุ่ม Auto แล้วปล่อยเครื่องทำงานจนจบกระบวนการประมาณ 30 นาทีก็เสร็จ ในช่วงแรกจะใช้อินฟาเรด(แสงสีแดง) เพื่อทำให้ของที่ล้างเปียกๆ สะบัดน้ำออกจนเหลือแค่ละอองน้ำแล้ว แห้งสนิท โดยใช้อุณหภูมิไม่เกิน 55 องศา
หลังจากนั้นเราก็จะฆ่าเชื้อด้วย UV (แสงสีฟ้า) เมื่อครบ 30 นาที ก็ทิ้งทุกอย่างไว้ในนี้ได้เลยจนกว่าจะใช้ก็ค่อยเปิดตู้หยิบออกมาใช้โดยไม่ต้องไปตากแห้งอีก เพราะเมื่อเครื่องทำงานเสร็จขวดนมจะแห้ง สะอาด พร้อมใช้ได้เลยค่ะ
เพิ่มเติม : เมื่อทำการฆ่าเชื้อเรียบร้อยแล้ว ลองจับที่ขวดจะรู้สึกอุ่นๆ และแห้งแล้ว และมีกลิ่นของแสง UV ซึ่งคล้ายๆไอแดด เป็นกลิ่นที่เหมือนผ่านการฆ่าเชื้อนะคะ ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น จาน ชาม ช้อน ลูก หรือแม้แต่แปรงสีฟัน ล้างเสร็จปุ๊บก็เอาใส่ตู้แล้วก็กดปุ่ม Auto ปุ่มเดียว แล้วคุณแม่ก็ไปทำงานบ้านอื่นๆได้เลย
Surprise !!! กว่า เพราะฆ่าเชื้อสิ่งของภายในบ้านที่ลูกชอบเอาเข้าปากอม หรือกัด เช่น ของเล่น ตุ๊กตา รีโมท พวกกุญแจ และ มือถือ แท็บเล็ต ก็ได้ด้วยนะ ฆ่าเชื้อได้หมดเลย แต่ของพวกนี้ที่เราไม่ได้ล้างน้ำมาก่อนหรือเป็นของแห้ง เรากดปุ่ม UV (แสงสีฟ้า) เพื่อฆ่าเชื้อเท่านั้น กด1 ครั้ง ฆ่าเชื้อ 5 นาที แต่ถ้าของเยอะก็กด 2 ที่ การฆ่าเชื้อจะเพิ่มเป็น 10 นาที และก็ตัดเองเมื่อฆ่าเชื้อเสร็จเหมือนกันค่ะ
ปุ่ม Dry หรือว่าอบแห้ง อย่างเดียว สำหรับของเปียกๆ และต้องการที่จะทำให้แห้ง ก็สามารถที่จะเอาเข้าตู้แล้วก็กดปุ่มนี้ได้เลยนะคะ
โดยปุ่มนี้สามารถที่จะเลือกแบบ 10 ,20 ,40 นาที ตามต้องการ
ข้อจำกัด มีข้อดีแล้วก็ต้องมีข้อจำกัดที่ต้องระวังค่ะ
ตู้อบUV จะใส่ของได้เกือบทุกอย่างเลย แต่ก็มีของที่ไม่แนะนำให้ใส่เลยนะคะ อย่างเช่น พวกขวดน้ำขวดใส สังเกตใต้ขวดจะมีสัญลักษณ์ PET หรือพวกของที่ทำมาจากยางธรรมชาติ ยางพาราหรือ Latex อันนี้จะใส่ไม่ได้เลยเพราะจะทำให้คุณภาพของขวดและยางเสื่อมค่ะ
อีกเรื่องคือ สีของขวดนมถ้าเราใช้ทุกวันจะทำให้สีเปลี่ยนเป็นสีเหลืองคล้ายๆ ขวดนมสีชาซึ่งไม่เป็นอันตรายนะคะ แต่ตรงนี้จริงๆ ก็ไม่กังวลเพราะว่าขวดนมพลาสติกมันมีอายุการใช้งานอยู่แล้ว กว่าขวดนมจะเปลี่ยนสี ก็หมดอายุพอดี เช่น ถ้าเป็นขวดแบบ PP อายุใช้งาน 6 เดือน
ถ้าเป็นขวดพลาสติกเกรด PPSU ที่เป็นสีชาอายุการใช้งาน 2 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษายิ่งถูกขีดข่วนหรือโดนความร้อนสูงบ่อยๆ ยิ่งทำให้ขวดนมเสื่อมเร็วขึ้น การใช้ตู้อบ UV ซึ่งมีความร้อนแค่ 40องศา จึงเป็นการฆ่าเชื้อแบบ ถนอมขวดนม เพราะไม่ต้องใช้ ความร้อนสูงด้วยค่ะ
สรุป ให้คะแนนเต็ม 10 คะแนน
• การออกแบบ ดีไซน์ (น้ำหนักเบา รูปทรงทันสมัย) 8/10
• คุณสมบัติและฟังชั่น (ใช้งานง่ายกว่า) 8/10
• ประสิทธิภาพการฆ่าเชื้อ (ฆ่าเชื้อโรค 99.9%) 9/10
• ความคุ้มค่า (ใช้งานได้มากกว่าขวดนม) 8/10
• ราคา (ราคาแพงกว่าเมื่อเทียบกับหม้อนึ่งทั่วไป) 7/10
เป็นยังไงบ้างค่ะ รู้จักกับตู้อบแห้งฆ่าเชื้อ UV Prince & Princess Baby UV Sterilizer Gen3 แล้ว ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับคุณพ่อคุณแม่ ที่กำลังหาผลิตภัณฑ์การฆ่าเชื้อให้กับลูกน้อยนะคะ แล้วพบกันในครั้งต่อไป มารอดูกันนะคะว่าจะมารีวิวสินค้าอะไร สวัสดีค่ะ
ขออนุญาตเพิ่มเติมข้อมูลเพื่อให้เข้าใจตรงกันนะคะ
เนื่องจากว่าแม่อีฟ มีรีวิวตู้อบแห้งฆ่าเชื้อ UV ของแบรนด์ Prince&Princess ออกมาทั้ง Gen2 และ Gen3 ต่อๆกันเลย จึงทำให้ใครๆหลายคนสงสัย และมีความเข้าผิดๆว่า เป็นหน้าม้ามารีวิวสินค้าเพื่อขายสินค้าเอง รีวิวแรก เป็น Gen2 ได้ซื้อมาใช้เอง ศึกษาวิธีการใช้งานอย่างละเอียด สอบถามน้องแอดมินจนได้ความละเอียด ตามที่รีวิวมาเลยค่ะ และเป็นเรื่องบังเอิญที่ทางบริษีทเห็นว่าเรารีวิว Gen2 ไป ซึ่งกำลังจะมีรุ่นใหม่เป็น Gen3 เข่ามา เลยติดต่อมาทางเรา และก็ส่ง Gen 3 มาให้เราใช้และให้ช่วยรีวิวให้ด้วย จึงทำให้ทั้ง 2 รุ่น ออกมาระยะเวลาที่ไม่ห่างกันนัก ต้องขออภัยคุณแม่ท่านอื่นด้วยนะคะ ที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดกัน และให้ช่วยติดต่อรีวิวต่อๆไปด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
[SR] รีวิวตู้อบแห้งฆ่าเชื้อ UV Prince&Princess Baby UV Sterilizer Gen3
...เพราะคุณแม่ส่วนใหญ่ที่มีลูกน้อย คงจะเคยชินกับการล้างขวดนมเสร็จแล้ว ก็ฆ่าเชื้อขวดนมด้วยหม้อนึ่งความร้อนกันใช่ไม๊คะ
ล้างทำความสะอาด แล้วก็เอาไปนึ่งแบบความร้อนสูงๆ ต้องทำหลายขั้นตอน ตั้งแต่ตวงน้ำลงในถาด นึ่งเสร็จก็ต้องล้างหม้อนึ่งด้วย พอน้ำแห้งก็มักเป็นตะกรัน พอบ่อยๆ เข้าก็ต้องเอาน้ำส้มสายชูมาต้มล้างทำความสะอาดถาดรองน้ำ ส่วนขวดนมก็ต้องตากให้แห้งก่อนถึงจะนำมาชงนมให้ลูกได้ ยุ่งยากมากๆ
แม่อีฟขอแนะนำตัวช่วยหน้าตาดี ดีไซน์สวย น้ำหนักเบา ที่มาพร้อมฟังชั่นมากมาย ช่วยให้ทุกสิ่งในบ้านสะอาด ปราศจากเชื้อโรค กับเครื่องมือชิ้นใหม่ ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์คุณแม่สมัยใหม่อย่างเราๆ ที่ต้องการความสะดวกสบายและการฆ่าเชื้อโรคได้มากที่สุดสำหรับลูกน้อย รู้สึกว่ามันง่าย สะดวก และสะอาดกว่าด้วยนะคะ
ทันสมัย ใช้งานได้ง่ายขึ้น เพราะสั่งงานผ่านBluetooth แค่โหลดแอป Haenim ก็สั่งงานจากมือถือได้เลยค่ะ
ปุ่มกดแบบสัมผัส หลักๆที่ใช้งานมี 3 ระบบ Auto, UV ,Dry เพิ่มพิเศษด้วยระบบ Storage ใช้สำหรับเก็บขวดนมหรือของที่ผ่านการฆ่าเชื้อมาแล้ว แค่กดปุ่มนี้ด้วย ฆ่าเชื้อซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง สะอาดพร้อมใช้ตลอดเวลาเลยค่ะ
มีตัวเลขเวลา(สีฟ้า) และอุณหภูมิ(สีแดง) บอกการทำงาน เราจะได้รู้ว่าพร้อมใช้งานหรือยังน๊าาา
ตัวเครื่องใหญ่ ภายในกว้างมาก สามารถทำความสะอาดฆ่าเชื้อได้ ถึง 16 ขวด ในเวลาเดียวกัน ประหยัดเวลาสุดๆไปเลย
ขวดนมหรือของใช้ที่ล้างมาเปียกๆ ก็ง่ายเลยค่ะ กดปุ่ม Auto ทำงาน 30 นาที ก็สามารถเอาขวดนมมาชงนมให้ลูกได้เลยค่ะ
เพียงล้างขวดนมให้สะอาด สะบัดน้ำออกจนเหลือเพียงละอองเล็กน้อย แค่หยดน้ำติดข้างขวด
ใส่เข้าไปในเครื่อง ลักษณะการใส่ให้ใส่แบบหงายขึ้นนะคะ เพราะหลอดUV จะอยู่ด้านบน ถ้ามีหลายขวดก็เรียงขวดให้มีพื้นที่ห่างกันเล็กน้อย อย่าวางติดกันเกินไปนะคะ ตู้ขนาดใหญ่สามารถวางได้ 2 ชั้นเลย แต่ก็ไม่ต้องกลัวว่าของที่อยู่ข้างล่างจะฆ่าเชื้อไม่ทั่วถึง เพราะวัสดุภายในตู้เป็นสแตนเลส เกรดพิเศษจะช่วยกระจายแสง UV ได้อย่างดี
กดปุ่ม Auto แล้วปล่อยเครื่องทำงานจนจบกระบวนการประมาณ 30 นาทีก็เสร็จ ในช่วงแรกจะใช้อินฟาเรด(แสงสีแดง) เพื่อทำให้ของที่ล้างเปียกๆ สะบัดน้ำออกจนเหลือแค่ละอองน้ำแล้ว แห้งสนิท โดยใช้อุณหภูมิไม่เกิน 55 องศา
หลังจากนั้นเราก็จะฆ่าเชื้อด้วย UV (แสงสีฟ้า) เมื่อครบ 30 นาที ก็ทิ้งทุกอย่างไว้ในนี้ได้เลยจนกว่าจะใช้ก็ค่อยเปิดตู้หยิบออกมาใช้โดยไม่ต้องไปตากแห้งอีก เพราะเมื่อเครื่องทำงานเสร็จขวดนมจะแห้ง สะอาด พร้อมใช้ได้เลยค่ะ
เพิ่มเติม : เมื่อทำการฆ่าเชื้อเรียบร้อยแล้ว ลองจับที่ขวดจะรู้สึกอุ่นๆ และแห้งแล้ว และมีกลิ่นของแสง UV ซึ่งคล้ายๆไอแดด เป็นกลิ่นที่เหมือนผ่านการฆ่าเชื้อนะคะ ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น จาน ชาม ช้อน ลูก หรือแม้แต่แปรงสีฟัน ล้างเสร็จปุ๊บก็เอาใส่ตู้แล้วก็กดปุ่ม Auto ปุ่มเดียว แล้วคุณแม่ก็ไปทำงานบ้านอื่นๆได้เลย
Surprise !!! กว่า เพราะฆ่าเชื้อสิ่งของภายในบ้านที่ลูกชอบเอาเข้าปากอม หรือกัด เช่น ของเล่น ตุ๊กตา รีโมท พวกกุญแจ และ มือถือ แท็บเล็ต ก็ได้ด้วยนะ ฆ่าเชื้อได้หมดเลย แต่ของพวกนี้ที่เราไม่ได้ล้างน้ำมาก่อนหรือเป็นของแห้ง เรากดปุ่ม UV (แสงสีฟ้า) เพื่อฆ่าเชื้อเท่านั้น กด1 ครั้ง ฆ่าเชื้อ 5 นาที แต่ถ้าของเยอะก็กด 2 ที่ การฆ่าเชื้อจะเพิ่มเป็น 10 นาที และก็ตัดเองเมื่อฆ่าเชื้อเสร็จเหมือนกันค่ะ
ปุ่ม Dry หรือว่าอบแห้ง อย่างเดียว สำหรับของเปียกๆ และต้องการที่จะทำให้แห้ง ก็สามารถที่จะเอาเข้าตู้แล้วก็กดปุ่มนี้ได้เลยนะคะ
โดยปุ่มนี้สามารถที่จะเลือกแบบ 10 ,20 ,40 นาที ตามต้องการ
ข้อจำกัด มีข้อดีแล้วก็ต้องมีข้อจำกัดที่ต้องระวังค่ะ
ตู้อบUV จะใส่ของได้เกือบทุกอย่างเลย แต่ก็มีของที่ไม่แนะนำให้ใส่เลยนะคะ อย่างเช่น พวกขวดน้ำขวดใส สังเกตใต้ขวดจะมีสัญลักษณ์ PET หรือพวกของที่ทำมาจากยางธรรมชาติ ยางพาราหรือ Latex อันนี้จะใส่ไม่ได้เลยเพราะจะทำให้คุณภาพของขวดและยางเสื่อมค่ะ
อีกเรื่องคือ สีของขวดนมถ้าเราใช้ทุกวันจะทำให้สีเปลี่ยนเป็นสีเหลืองคล้ายๆ ขวดนมสีชาซึ่งไม่เป็นอันตรายนะคะ แต่ตรงนี้จริงๆ ก็ไม่กังวลเพราะว่าขวดนมพลาสติกมันมีอายุการใช้งานอยู่แล้ว กว่าขวดนมจะเปลี่ยนสี ก็หมดอายุพอดี เช่น ถ้าเป็นขวดแบบ PP อายุใช้งาน 6 เดือน
ถ้าเป็นขวดพลาสติกเกรด PPSU ที่เป็นสีชาอายุการใช้งาน 2 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษายิ่งถูกขีดข่วนหรือโดนความร้อนสูงบ่อยๆ ยิ่งทำให้ขวดนมเสื่อมเร็วขึ้น การใช้ตู้อบ UV ซึ่งมีความร้อนแค่ 40องศา จึงเป็นการฆ่าเชื้อแบบ ถนอมขวดนม เพราะไม่ต้องใช้ ความร้อนสูงด้วยค่ะ
สรุป ให้คะแนนเต็ม 10 คะแนน
• การออกแบบ ดีไซน์ (น้ำหนักเบา รูปทรงทันสมัย) 8/10
• คุณสมบัติและฟังชั่น (ใช้งานง่ายกว่า) 8/10
• ประสิทธิภาพการฆ่าเชื้อ (ฆ่าเชื้อโรค 99.9%) 9/10
• ความคุ้มค่า (ใช้งานได้มากกว่าขวดนม) 8/10
• ราคา (ราคาแพงกว่าเมื่อเทียบกับหม้อนึ่งทั่วไป) 7/10
เป็นยังไงบ้างค่ะ รู้จักกับตู้อบแห้งฆ่าเชื้อ UV Prince & Princess Baby UV Sterilizer Gen3 แล้ว ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับคุณพ่อคุณแม่ ที่กำลังหาผลิตภัณฑ์การฆ่าเชื้อให้กับลูกน้อยนะคะ แล้วพบกันในครั้งต่อไป มารอดูกันนะคะว่าจะมารีวิวสินค้าอะไร สวัสดีค่ะ
ขออนุญาตเพิ่มเติมข้อมูลเพื่อให้เข้าใจตรงกันนะคะ
เนื่องจากว่าแม่อีฟ มีรีวิวตู้อบแห้งฆ่าเชื้อ UV ของแบรนด์ Prince&Princess ออกมาทั้ง Gen2 และ Gen3 ต่อๆกันเลย จึงทำให้ใครๆหลายคนสงสัย และมีความเข้าผิดๆว่า เป็นหน้าม้ามารีวิวสินค้าเพื่อขายสินค้าเอง รีวิวแรก เป็น Gen2 ได้ซื้อมาใช้เอง ศึกษาวิธีการใช้งานอย่างละเอียด สอบถามน้องแอดมินจนได้ความละเอียด ตามที่รีวิวมาเลยค่ะ และเป็นเรื่องบังเอิญที่ทางบริษีทเห็นว่าเรารีวิว Gen2 ไป ซึ่งกำลังจะมีรุ่นใหม่เป็น Gen3 เข่ามา เลยติดต่อมาทางเรา และก็ส่ง Gen 3 มาให้เราใช้และให้ช่วยรีวิวให้ด้วย จึงทำให้ทั้ง 2 รุ่น ออกมาระยะเวลาที่ไม่ห่างกันนัก ต้องขออภัยคุณแม่ท่านอื่นด้วยนะคะ ที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดกัน และให้ช่วยติดต่อรีวิวต่อๆไปด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ