ตอนรัฐบาลยิ่งลักษณ์ยุบสภา ข้าวล้นโกดังขายไม่ออกอยู่ 15 ล้านตัน (ใกล้เน่าแล้ว เพราะบริหารมา 2 ปี 9 เดือน 2 วัน ขายไม่ค่อยออกเพราะไปรับต้นทุนมาสูงกว่าราคาตลาด) ผ่านไปอีก 2 ปี รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ก็ทำทุกวิถีทางแล้วแต่พึ่งข้าราชการมากเกินไปก็ขายข้าวไม่ค่อยออกอีก เหลืออยู่อีกเกือบๆ 10 ล้านตัน คราวนี้ ข้าวนาปรังมันออกมาเรื่อยๆ กลางปีก็มา มาซ้ำมาซ้อนจนปริมาณเยอะมากก็ไปกดราคาข้าวในประเทศให้ต่ำ แล้วเดือนนี้ทำไมโดนหนัก หลักก็เพราะ “ข้าวนาปี” ของชาวนาอีสาน หอมมะลิแท้ๆ กำลังจะออก ส่วนใหญ่เขาจะปลูกเดือน 6 ได้ข้าวเดือน 11 คราวนี้พอนาปีอีสานมารวมปริมาณเข้าไป โอ้โห! ปริมาณข้าวจะล้นในประเทศเยอะขนาดไหนครับ
ทางที่ดีข้าวเก่ายิ่งลักษณ์นั่นน่ะ ปิดบัญชี Cut Loss ไปได้นานแล้ว เพราะในทางการค้ามันจะกระทบทั้งระบบเป็นลูกโซ่
“ราคาข้าวตกต่ำเพราะว่า สต๊อกข้าวล้นโกดังเหลือเน่ามาตั้งแต่จำนำข้าว”
เรามาต่อกันด้วยกระบวนการโหมโรงแสดงละครของอดีตนายกฯ เดินสาย “กดราคาข้าวชาวนาต่อเนื่อง” เรื่องนี้ทางเราขอให้ไปฟังคำอธิบายจากคุณหมอวรงค์ เดชกิจวิกรม
- คุณหมอวรงค์โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัวเอาไว้ว่า -
มีคนไทยที่เป็นนักข่าวของหนังสือพิมพ์ญี่ปุ่น โทรศัพท์มาคุยกับผม 2 ประเด็นคือ
1.เขาบอกว่าได้รับภาพที่มีการส่งมาให้สื่อ กรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ไปขายข้าวสารหอมมะลิที่ห้างสำโรง เพื่อช่วยชาวนา กิโลละ 20 บาท
ผมแสดงความเห็นผ่านสื่อญี่ปุ่นไปว่า คนเป็นอดีตนายกฯ ขยับอะไรที มีผลต่อกระแสสังคมมาก ในเมื่อตอนนี้ข้าวเปลือกราคาตกต่ำ สังคมต้องการช่วยชาวนา แทนที่ชาวนาจะขายข้าวเปลือก ก็ให้สีเป็นข้าวสารมาขายจะได้ราคาดีขึ้น ชาวนาก็มีการสีเป็นข้าวสารหอมมะลิ ปกติก็ชาวนาขายกันกิโลละ 30-35 บาท ถ้าน.ส.ยิ่งลักษณ์ อยากช่วยชาวนาจริง ควรจะช่วยขายราคาที่ชาวนาเขาขายกัน ไม่ใช่ไปขายตัดราคา เพราะระดับอดีตนายกฯขยับที สื่อเต็มไปหมด ในทางจิตวิทยาย่อมมีผลต่อเสถียรภาพราคา ในเมื่อข้าวราคาตก แต่เล่นมาขายต่ำกว่าราคาที่ชาวนาขาย แล้วมาบอกว่าช่วยชาวนา ก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร เขาควรจะขายราคานี้ในช่วงข้าวมีราคาแพงมาก เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อน แต่ก็ยังดื้อดึง ผมถือว่าเคยเตือนกันไปแล้วยังอยากทำอีกก็ช่วยไม่ได้ ผมยังบอกผ่านสื่อญี่ปุ่นว่าเขาช่างใจร้ายจริงๆ
2.สื่อถามผมว่าจำนำยุ้งฉางของรัฐบาลประยุทธ์ ต่างกับจำนำข้าวรัฐบาลยิ่งลักษณ์อย่างไร และพรรคเพื่อไทยบอกว่าทำตามเขา
ผมตอบว่าต่างกันโดยสิ้นเชิง การรับจำนำยุ้งฉางรัฐบาลให้ราคารับจำนำที่ 90% ของราคาตลาด เช่น ข้าวหอมมะลิ 36 กรัม ความชื้น 15% ราคาเฉลี่ยที่ 11,000บาท รัฐบาลรับจำนำ 9,500 บาทในปริมาณจำกัด แต่มีเงินช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวตันละ 2,000 บาท และค่าเช่ายุ้งฉางของชาวนาตันละ 1,500 บาท สองรายการหลังถือว่ารัฐบาลช่วย ถ้ารอเมื่อข้าวราคาสูงขึ้น เช่นตันละ 14,000 บาท ชาวบ้านก็ไถ่ถอนไปขาย เอาเงิน 9,500 บาทคืนรัฐบาล ชาวบ้านยังได้เงินส่วนที่เพิ่มขึ้นอีก 4,500บาท หรือชาวบ้าน
จะเลือกเอาข้าวไปสีก็ได้ สิทธิในข้าวยังเป็นของชาวบ้านที่จะไถ่ถอนไปขายหรือนำไปสีเป็นข้าวสาร
ส่วนจำนำข้าวสมัยยิ่งลักษณ์นั้น ไม่ใช่การรับจำนำ แต่เป็นการรับซื้อในราคาที่สูงกว่าตลาดมาก เช่น ข้าวเปลือกเจ้าราคาตลาด 9,000-10,000 บาทต่อตัน รับซื้อที่15,000 บาทต่อตัน สิทธิในข้าวเปลือกจึงเป็นของรัฐบาล เพราะไม่มีใครมาไถ่ถอน รัฐบาลจึงนำไปสีเป็นข้าวสาร นำไปเก็บโกดัง และเมื่อไปขายก็ขายยากเพราะราคาสูงมาก ส่วนใหญ่จึงขายแบบจีทูจี ที่สำคัญรับซื้อทุกเมล็ดด้วย จึงนำไปสู่การทุจริตอย่างมโหฬารในทุกขั้นตอน
นักข่าวถามผมต่อว่า ในเมื่อของยิ่งลักษณ์ไม่ใช่จำนำข้าว ทำไมยอมให้เขาเรียกว่ารับจำนำ
ผมตอบว่าก็เขาอยากจะเรียกของเขาแบบนี้ เขามีอำนาจ มีสื่ออยู่ในมือ ผมจึงต้องช่วยอธิบายว่า ไม่เหมือนกันอย่างสิ้นเชิง
ท้ายนี้ขอขอบคุณคนไทย ที่เป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์ญี่ปุ่น ที่มีการตรวจสอบข้อมูลจากหลายแหล่ง เพื่อจะได้เผยแพร่ข้อเท็จจริง ให้ชาวโลกและชาวญี่ปุ่นเข้าใจในสิ่งที่ถูกต้อง
นอกจากนี้ก็ยังมีอีกเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นเลยครับ
อดีตรองนายกฯ กิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรมว.คลัง คนเซ็นให้เงินภาษีประชาชนออกไปถูกผลาญวนไปกว่า 9 แสนล้าน ก็มาโพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัวอย่างไม่กระดากแก่ใจตัวเองเลยว่า “จำนำข้าว” นั่นแหละคือ ต้นเหตุของปัญหาทุกอย่าง แกโพสต์เอาไว้ว่า....
ประเทศไทยเท่านั้น ที่ผลิตข้าวหอมมะลิได้… เรา “เพิ่มการซื้อ” มารับประทานกันคนละไม่มาก ตลาดโลกก็จะมาแย่งกันซื้อจนชาวนาขายข้าวเปลือกหอมมะลิ (หรือขายข้าวสารหอมมะลิ จากโรงสีชุมชน) ได้ราคาที่ดีขึ้นบ้าง… ข้าวชนิดอื่นๆ ก็จะมีราคาดีขึ้นตามบ้างด้วย…
อาหารแป้งหลายชนิดผลิตจากข้าวสาลี (ที่ไทยเราปลูกไม่ได้) “เปลี่ยนๆ กลับมา” รับประทาน ข้าวสวย ข้าวต้ม ข้าวผัด เส้นใหญ่ เส้นเล็ก เส้นหมี่ ฯลฯ มากขึ้นอีกคนละหน่อย ก็ช่วยชาวนาได้ครับ…
ผมอยากเห็น “ราคาข้าวเปลือกสูงขึ้นอีก” … ชาวนาจะได้ไม่ลำบากมาก…
(ช่วยเกี่ยวข้าว และถ่ายภาพอวด ไม่น่าจะได้ประโยชน์สักเท่าไหร่… ความเห็นส่วนตัวนะ)
ท่อนสุดท้ายในวงเล็บนั่นจงใจแขวะอดีตนายกฯ อภิสิทธิ์ที่ไปช่วยชาวนาคลองสามวา เกี่ยวข้าวช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาครับ
ผมอ่านแล้วก็อดคิดไม่ได้ น่าเสียดายนะครับ ที่ท่านอดีตรองนายกฯ เพิ่งรู้ว่าการขายข้าวนั้นช่วยชาวนาได้จริง ! หากรู้ตอนที่อยู่ในตำแหน่ง คงไม่มีข้าวล้นโกดังรัฐบาลจนถึงวันนี้
และท่านรู้ใช่ไหมครับว่า สาเหตุหนึ่งที่ราคาข้าวตกตํ่าวันนี้ ก็เพราะท่านนั่นแหละที่ไม่ได้ขายข้าวในสต๊อกนี้ออกไปนั่นเอง ปล่อยให้เน่าล้นโกดังขนาดนั้นได้ยังไง และที่ชาวนาเขาไม่ได้รับเงินค่าจำนำข้าว ติดหนี้ชาวนาก็เพราะขายข้าวไม่ออกไม่มีเงินมาหมุนนี่แหละ เวลาเขาถามเรื่องข้าวกันพวกท่านก็ตอบไม่ได้ ก็เพราะพวกคนในรัฐบาลของท่านมัวแต่ทำ G2G เก๊หลอกลวงชาวไร่ชาวนาจนไม่มีแก่ใจไปขายข้าวที่ประเทศจะได้เงินจริงๆ รึป่าวครับ!?
(ช่วยเกี่ยวข้าว ก็คือช่วยครับ ได้ประโยชน์มากน้อยแค่ไหนก็ยังดีกว่ามานั่งนินทาบนคีย์บอร์ด...ความเห็นส่วนตัวนะ)
การเมือง.. เรื่องเงินๆ
พัสณช เหาตะวานิช
แนวหน้า
http://www.naewna.com/politic/columnist/27130
ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ ต้นเหตุที่แท้จริงคือ ‘จำนำข้าว’
ทางที่ดีข้าวเก่ายิ่งลักษณ์นั่นน่ะ ปิดบัญชี Cut Loss ไปได้นานแล้ว เพราะในทางการค้ามันจะกระทบทั้งระบบเป็นลูกโซ่
“ราคาข้าวตกต่ำเพราะว่า สต๊อกข้าวล้นโกดังเหลือเน่ามาตั้งแต่จำนำข้าว”
เรามาต่อกันด้วยกระบวนการโหมโรงแสดงละครของอดีตนายกฯ เดินสาย “กดราคาข้าวชาวนาต่อเนื่อง” เรื่องนี้ทางเราขอให้ไปฟังคำอธิบายจากคุณหมอวรงค์ เดชกิจวิกรม
- คุณหมอวรงค์โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัวเอาไว้ว่า -
มีคนไทยที่เป็นนักข่าวของหนังสือพิมพ์ญี่ปุ่น โทรศัพท์มาคุยกับผม 2 ประเด็นคือ
1.เขาบอกว่าได้รับภาพที่มีการส่งมาให้สื่อ กรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ไปขายข้าวสารหอมมะลิที่ห้างสำโรง เพื่อช่วยชาวนา กิโลละ 20 บาท
ผมแสดงความเห็นผ่านสื่อญี่ปุ่นไปว่า คนเป็นอดีตนายกฯ ขยับอะไรที มีผลต่อกระแสสังคมมาก ในเมื่อตอนนี้ข้าวเปลือกราคาตกต่ำ สังคมต้องการช่วยชาวนา แทนที่ชาวนาจะขายข้าวเปลือก ก็ให้สีเป็นข้าวสารมาขายจะได้ราคาดีขึ้น ชาวนาก็มีการสีเป็นข้าวสารหอมมะลิ ปกติก็ชาวนาขายกันกิโลละ 30-35 บาท ถ้าน.ส.ยิ่งลักษณ์ อยากช่วยชาวนาจริง ควรจะช่วยขายราคาที่ชาวนาเขาขายกัน ไม่ใช่ไปขายตัดราคา เพราะระดับอดีตนายกฯขยับที สื่อเต็มไปหมด ในทางจิตวิทยาย่อมมีผลต่อเสถียรภาพราคา ในเมื่อข้าวราคาตก แต่เล่นมาขายต่ำกว่าราคาที่ชาวนาขาย แล้วมาบอกว่าช่วยชาวนา ก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร เขาควรจะขายราคานี้ในช่วงข้าวมีราคาแพงมาก เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อน แต่ก็ยังดื้อดึง ผมถือว่าเคยเตือนกันไปแล้วยังอยากทำอีกก็ช่วยไม่ได้ ผมยังบอกผ่านสื่อญี่ปุ่นว่าเขาช่างใจร้ายจริงๆ
2.สื่อถามผมว่าจำนำยุ้งฉางของรัฐบาลประยุทธ์ ต่างกับจำนำข้าวรัฐบาลยิ่งลักษณ์อย่างไร และพรรคเพื่อไทยบอกว่าทำตามเขา
ผมตอบว่าต่างกันโดยสิ้นเชิง การรับจำนำยุ้งฉางรัฐบาลให้ราคารับจำนำที่ 90% ของราคาตลาด เช่น ข้าวหอมมะลิ 36 กรัม ความชื้น 15% ราคาเฉลี่ยที่ 11,000บาท รัฐบาลรับจำนำ 9,500 บาทในปริมาณจำกัด แต่มีเงินช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวตันละ 2,000 บาท และค่าเช่ายุ้งฉางของชาวนาตันละ 1,500 บาท สองรายการหลังถือว่ารัฐบาลช่วย ถ้ารอเมื่อข้าวราคาสูงขึ้น เช่นตันละ 14,000 บาท ชาวบ้านก็ไถ่ถอนไปขาย เอาเงิน 9,500 บาทคืนรัฐบาล ชาวบ้านยังได้เงินส่วนที่เพิ่มขึ้นอีก 4,500บาท หรือชาวบ้าน
จะเลือกเอาข้าวไปสีก็ได้ สิทธิในข้าวยังเป็นของชาวบ้านที่จะไถ่ถอนไปขายหรือนำไปสีเป็นข้าวสาร
ส่วนจำนำข้าวสมัยยิ่งลักษณ์นั้น ไม่ใช่การรับจำนำ แต่เป็นการรับซื้อในราคาที่สูงกว่าตลาดมาก เช่น ข้าวเปลือกเจ้าราคาตลาด 9,000-10,000 บาทต่อตัน รับซื้อที่15,000 บาทต่อตัน สิทธิในข้าวเปลือกจึงเป็นของรัฐบาล เพราะไม่มีใครมาไถ่ถอน รัฐบาลจึงนำไปสีเป็นข้าวสาร นำไปเก็บโกดัง และเมื่อไปขายก็ขายยากเพราะราคาสูงมาก ส่วนใหญ่จึงขายแบบจีทูจี ที่สำคัญรับซื้อทุกเมล็ดด้วย จึงนำไปสู่การทุจริตอย่างมโหฬารในทุกขั้นตอน
นักข่าวถามผมต่อว่า ในเมื่อของยิ่งลักษณ์ไม่ใช่จำนำข้าว ทำไมยอมให้เขาเรียกว่ารับจำนำ
ผมตอบว่าก็เขาอยากจะเรียกของเขาแบบนี้ เขามีอำนาจ มีสื่ออยู่ในมือ ผมจึงต้องช่วยอธิบายว่า ไม่เหมือนกันอย่างสิ้นเชิง
ท้ายนี้ขอขอบคุณคนไทย ที่เป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์ญี่ปุ่น ที่มีการตรวจสอบข้อมูลจากหลายแหล่ง เพื่อจะได้เผยแพร่ข้อเท็จจริง ให้ชาวโลกและชาวญี่ปุ่นเข้าใจในสิ่งที่ถูกต้อง
นอกจากนี้ก็ยังมีอีกเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นเลยครับ
อดีตรองนายกฯ กิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรมว.คลัง คนเซ็นให้เงินภาษีประชาชนออกไปถูกผลาญวนไปกว่า 9 แสนล้าน ก็มาโพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัวอย่างไม่กระดากแก่ใจตัวเองเลยว่า “จำนำข้าว” นั่นแหละคือ ต้นเหตุของปัญหาทุกอย่าง แกโพสต์เอาไว้ว่า....
ประเทศไทยเท่านั้น ที่ผลิตข้าวหอมมะลิได้… เรา “เพิ่มการซื้อ” มารับประทานกันคนละไม่มาก ตลาดโลกก็จะมาแย่งกันซื้อจนชาวนาขายข้าวเปลือกหอมมะลิ (หรือขายข้าวสารหอมมะลิ จากโรงสีชุมชน) ได้ราคาที่ดีขึ้นบ้าง… ข้าวชนิดอื่นๆ ก็จะมีราคาดีขึ้นตามบ้างด้วย…
อาหารแป้งหลายชนิดผลิตจากข้าวสาลี (ที่ไทยเราปลูกไม่ได้) “เปลี่ยนๆ กลับมา” รับประทาน ข้าวสวย ข้าวต้ม ข้าวผัด เส้นใหญ่ เส้นเล็ก เส้นหมี่ ฯลฯ มากขึ้นอีกคนละหน่อย ก็ช่วยชาวนาได้ครับ…
ผมอยากเห็น “ราคาข้าวเปลือกสูงขึ้นอีก” … ชาวนาจะได้ไม่ลำบากมาก…
(ช่วยเกี่ยวข้าว และถ่ายภาพอวด ไม่น่าจะได้ประโยชน์สักเท่าไหร่… ความเห็นส่วนตัวนะ)
ท่อนสุดท้ายในวงเล็บนั่นจงใจแขวะอดีตนายกฯ อภิสิทธิ์ที่ไปช่วยชาวนาคลองสามวา เกี่ยวข้าวช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาครับ
ผมอ่านแล้วก็อดคิดไม่ได้ น่าเสียดายนะครับ ที่ท่านอดีตรองนายกฯ เพิ่งรู้ว่าการขายข้าวนั้นช่วยชาวนาได้จริง ! หากรู้ตอนที่อยู่ในตำแหน่ง คงไม่มีข้าวล้นโกดังรัฐบาลจนถึงวันนี้
และท่านรู้ใช่ไหมครับว่า สาเหตุหนึ่งที่ราคาข้าวตกตํ่าวันนี้ ก็เพราะท่านนั่นแหละที่ไม่ได้ขายข้าวในสต๊อกนี้ออกไปนั่นเอง ปล่อยให้เน่าล้นโกดังขนาดนั้นได้ยังไง และที่ชาวนาเขาไม่ได้รับเงินค่าจำนำข้าว ติดหนี้ชาวนาก็เพราะขายข้าวไม่ออกไม่มีเงินมาหมุนนี่แหละ เวลาเขาถามเรื่องข้าวกันพวกท่านก็ตอบไม่ได้ ก็เพราะพวกคนในรัฐบาลของท่านมัวแต่ทำ G2G เก๊หลอกลวงชาวไร่ชาวนาจนไม่มีแก่ใจไปขายข้าวที่ประเทศจะได้เงินจริงๆ รึป่าวครับ!?
(ช่วยเกี่ยวข้าว ก็คือช่วยครับ ได้ประโยชน์มากน้อยแค่ไหนก็ยังดีกว่ามานั่งนินทาบนคีย์บอร์ด...ความเห็นส่วนตัวนะ)
การเมือง.. เรื่องเงินๆ
พัสณช เหาตะวานิช
แนวหน้า http://www.naewna.com/politic/columnist/27130