Review: Your Name (Makoto Shinkai, 2016) เขียนโดย Form Corleone

Your Name (Makoto Shinkai, 2016) คะแนน A+



By Form Corleone

" ความสัมพันธ์ของคนสองคน ในห้วงเวลาของความรู้สึก" Kimi no na wa (Your Name) เป็นหนังที่สะเทือนอารมณ์เราอย่างมากเรื่องหนึ่งในชีวิต เชื่อว่าเราสามารถดูซ้ำไปซ้ำไปได้โดยที่ความรู้สึกจะไม่ลดน้อยลงหรือจางหายไป นิยาม ความรักที่มองไม่เห็น แต่สัมผัสได้ด้วยเขาและเธอ 'เธอคือใคร? เราใช้ชีวิตเพื่ออะไร? เพื่อตามหาคนอีกคนมาเติมเต็มชีวิตเรา เพื่อตามหาใครสักคนที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร ใช่เราใช้ชีวิตเพื่อนตามหาใครอีกคน ความสัมพันธ์ระหว่างเราเริ่มต้นตั้งแต่ครั้งไหน ดาวหางมาเยือนโลกไม่บ่อยครั้ง อาจเหมือนความรักที่มาไม่บ่อย แต่สวยงามเสมอ บางทีเราอาจไม่รู้สึกตัว รู้ตัวอีกทีก็รักไปแล้ว' สำหรับเราแล้วการได้นั่งดูหนังหนึ่งเรื่องสามารถที่จะเปลี่ยนชีวิตหรือเปลี่ยนความคิดของเราได้เลย ไม่เพียง 'ไดอะล็อก' ที่ดีมากๆเท่านั้น หนังยังมีบทภาพยนตร์ที่มีโครงเรื่องน่าสนใจตั้งแต่ต้นเรื่องจนถึงท้ายเรื่อง เราไม่สามารถคาดเดาเหตุการณ์ต่างๆของหนังได้เลยว่าจะออกหัวหรือก้อย เรื่องราวที่ดูซับซ้อนในมิติของเวลาที่หนังนำเสนอนั้น มิติที่สี่ที่เรียกว่า 'เวลา' ก็ช่วยส่งให้เราขบคิดได้ไม่น้อย ไปกว่านั้นเราสัมผัสได้ถึงมิติที่ห้าเลยด้วยซ้ำ เราเรียกมิตินี้ว่า 'ความรู้สึก' คงปฎิเสธไม่ได้ว่า 'Your Name' คือหนังรักอีกหนึ่งเรื่องที่จะอยู่ในใจเราเสมอ ไม่เพียงแค่พล็อตเรื่องที่ถูกโยงไว้ ผสานร้อยเรียงเรื่องราวทั้งหมดได้ดีมากเท่านั้น การลำดับเวลาเหตุการณ์ของเรื่องก็เป็นจุดเด่นที่สุดของหนังเรื่องนี้ด้วย แม้ช่วงเริ่มเรื่องจะดูขัดๆไปสักนิด แต่พออุ่นเครื่องติดแล้วก็ไม่มีอะไรสามารถหยุดความรู้สึกเราที่มีไปกับความ 'มหัศจรรย์' ของความสัมพันธ์ครั้งนี้ได้เลยแม้แต่น้อย หลังจากนี้ถ้าเราจะแนะนำหนังการ์ตูนสักหนึ่งเรื่องให้ใครสักคน แน่นอนที่สุด 'Your Name' คงมีชื่อปรากฎอยู่ในรายชื่อหนังแนะนำของเราแน่นอน



งานภาพสวยมากถึงมากที่สุด โทนสีสดใสละมุนเพลินเจริญตามาก เรียกว่าสามารถที่จะดึงอามรมณ์ของเราให้ผ่อนคลายจากความเครียด จากสิ่งภายนอกได้ค่อนข้างเยอะมาก แสงเงาที่สะท้อนหรือกระทบสิ่งต่างๆที่หนังทำช่วยให้เรารู้สึกสบายตามากๆ แค่งานภาพเราก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นดนตรีก็เพระมาก อาศัยงานภาพที่สวยมาก+ดนตรีประกอบที่เพราะมาก ทั้งหมดก็ทำให้เรารู้สึกประทับใจในความละเอียดของเนื้องานนี้แล้วจริงๆ ช่วงเวลาขณะดูไม่เพียงรู้สึกชื่นชมงานภาพและดนตรีประกอบเท่านั้น ภาวะความรู้สึกต่างๆที่ตัวละครในเรื่องกำลังเผชิญอยู่ก็ช่วยย้ำเตือนเรื่องราวที่ผ่านมาได้เสมออยู่เป็นระยะๆ ย้ำลึกลงไปข้างในจิตใต้สำนึกของความรู้สึก 'ครั้งหนึ่งเราเคยพบกัน ครั้งหนึ่งเราเคยรักกัน' ที่ไหนสักแห่ง หนังพาเราไปไกลจนถึงจุดนั้น และตบกลับมาด้วยจังหวะที่พอดี 'เจ็บแสบแต่อ่อนหวาน เศร้าใจแต่อ่อนโยน ละมุมไปด้วยความอบอุ่นและทิ้งท้ายได้โรแมนติกที่สุดเรื่องหนึ่ง'



ณ ช่วงเวลาที่กำลังนั่งดู ตัวเราเองสามารถที่จะหลุดเข้าไปในโลกที่ตัวละครกำลังขับเคลื่อนเรื่องราวไปแบบนาทีต่อนาทีได้เลย เราเสมือนเป็นคนสังเกตุการณ์อยู่ห่างๆ คอยมองดูความสัมพันธ์ครั้งนี้ ณ ที่ตรงนี้ ด้วยภาพ+ดนตรีประกอบและเนื้อเรื่อง คงไม่ยากเลยถ้าจนแล้วจนรอดเราจะเผลอคิดว่าเราเป็นตัวละครตัวนั้นเสียเอง เราเผลอคิดว่าถ้าเราเป็นตัวละครตัวนี้ เราจะทำอะไรต่อไป เราจะใช้ชีวิตอย่างไร และทางข้างหน้าเราจะก้าวเดินไปอย่างไร 'เราคาดเดาเรื่องราว เราคาดหวังให้เป็นแบบนั้น' มันสนุกนะ ถ้ามีหนังสักเรื่องที่เราสามารถใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง ไปกับเรื่องราวทั้งหมดได้อย่างคุ้มค่าจริงๆ ไม่เพียงตัวละครเอกในเรื่องสองคนเท่านั้นที่โดดเด่นด้วยกันทั้งคู่ ตัวประกอบตัวอื่นๆก็สำคัญและช่วยเสริม+ส่งต่อถ่ายทอดความรู้สึกได้อีกด้วย พัฒนาการของตัวละครไม่ได้ใส่ใจเพียงแค่ตัวละครหลัก แต่เราสามารถที่จะสังเกตการเปลี่ยนแปลงจากตัวละครย่อยได้เหมือนกัน ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปีสำหรับตัวละครในเรื่องมักจะมีความเปลี่ยนแปลงให้เราสังเกตเห็นเสมอ



สำหรับเรานั้นยังคงเชื่อเรื่องความรู้สึกเสมอ ความรู้สึกของกันและกัน สามารถบอกอะไรได้มากกว่าคำพูด โลกนี้มีประชากรอยู่มากมาย เราโชคดีที่ได้เจอกัน อาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญทุกอย่างอาจมีเหตุผลที่ทำให้เราได้เจอกัน หลังจากนั้นคงเป็นเราแล้วแหละ ที่จะทำความสำพันธ์ครั้งนี้ได้ดีแค่ไหน อาจจะผิดหวังหรืออาจจะสมหวัง แต่ใครจะรู้เราอาจไม่ได้เจอกันอีกแล้วก็ได้หลังจากนี้ ทำวันนี้ให้เป็นวันพิเศษ เผื่อวันข้างหน้าเราไม่ได้เจอกัน เราอาจลืมชื่อกัน แต่อย่างน้อยๆ ความรู้สึกที่มีใครกันเราเชื่อว่าจะไม่มีวันลืม ขอบคุณสำหรับเรื่องราวในครั้งนี้



ความฝัน บ่อยครั้งที่เราตื่นจากฝันแล้วพบว่าความฝันนั้นจางหายไปแล้ว เราจดจำภาพความฝันได้ไม่ค่อยชัดเจนนัก เมื่อชั่วเวลาผ่านไปเราก็ลืมความฝันครั้งนั้นอย่างสนิท แล้วตื่นขึ้นมากับความฝันครั้งใหม่ในอีกวัน ความฝันที่ไม่รู้เริ่มต้นตรงไหนหรือจบลงตรงไหน ถ้ามีเพียงการหลับตาแล้วฝันถึงใครอีกคน เราคงไม่อยากตื่นจากความฝัน ตัวละครในเรื่องเป็นภาพสะท้อนเกี่ยวกับความฝันของกันและกันได้ดีมาก ความฝันที่เหมือนความจริง แต่ความจริงยิ่งกว่าความฝันคือเราจะลืมเรื่องราวทั้งหมดที่เราฝันภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ถึงกระนั้นก็ตาม 'Your Name' ก็ให้มิติของห้วงเวลาแห่งความฝันที่ไม่ใจร้ายกับคนดูมากนัก เพราะไม่ว่าจะมีอำนาจกีดกั้นใดๆก็ตาม ความรู้สึกที่ตกค้างหลงเหลืออยู่ในเศษเสี้ยวของความฝันนั้น ยังคงชัดเจนและก่อเกิดเป็น 'ความรัก' เหนืออำนาจใดๆก็ตาม เมื่อมองย้อนดูภาพร่วมของหนังคงเป็นหนังที่โลกสวยพอตัว+เป็นมิตรกับทุกคนมากๆ สำหรับเราคงเป็นข้อดีมากกว่าข้อเสีย แม้เราอยากให้หนังจบลงอีกรูปแบบหนึ่ง แต่หนังก็เลือกเส้นทางอีกทางหนึ่ง ซึ่งมันก็ให้มุมมองที่ต่างออกไปเช่นกัน



ท้ายสุด 'Your Name' เหมาะกับทุกวัยหรือทุกคนมั้ย?? คำตอบอาจจะเป็นไม่เหมาะกับทุกคนเท่าไหร่ แต่ถามว่าทุกคนสามารถดูได้แบบไม่เสียได้เวลามั้ย?? ต้องตอบว่า 'ไปดูเถอะ' บางทีอาจเจอความคิดอะไรใหม่ๆกลับมาก็ได้หรือจะไปนั่งดูเพลินๆผ่อนคลายสบายๆก็ได้เลย ลองพาตัวเองเข้าไปหลบซ่อนสิ่งวุ่นวายภายนอกดู บางทีคำตอบที่เราได้มาจากหนังเรื่องนี้อาจมีค่าสำหรับเราไม่วันนี้ก็วันข้างหน้า ใครเล่าจะรู้ได้ ถ้าเราไม่ได้สัมผัสความรู้สึกด้วยตัวของเราเอง แล้ววันที่เราได้เจอกัน บางทีเราจะถามเธอว่า 'เธอชื่ออะไรนะ?'



ขอให้มีความสุขกับการดูหนังครับ ยิ้ม

ฝากกด like page ด้วยนะครับ
Page: https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog: http://moviesdelightclub.blogspot.com/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่