กระทู้ที่แล้ว เขียนเรื่องชีวิตติดสเตียรอยด์ของตัวเองไปแล้ว
อันนี้
http://ppantip.com/topic/35585852
รอบนี้ฉินจะมาพูดถึง วิธีดูแลตัวเองหลังหยุดสเตียรอยด์ หรือคนที่ไม่เคยทาสเตียรอยด์แต่เป็นเซ็บเดิร์มแท้ ๆ กัน
ออกตัวนิดนึงว่า เขียนจากประสบการณ์ของตัวเองที่เป็น และรับปรึกษาคนอื่น ๆ มาประมาณ 3 ปีกว่า
บอกเลย ไม่มีสูตรสำเร็จ ตายตัว เพราะผิวแต่ละคนไม่เหมือนกัน อาการแพ้ต่างกัน
ถูกทำร้ายมาไม่เท่ากัน ผิวบาง หนาก็ต่างกัน ตัวช่วยที่จะใช้ก็ไม่เหมือนกัน
ขอยกเอาข้อความเก่ามาเล่าใหม่ก่อน เผื่อคนไม่เคยอ่าน
ในความเข้าใจฉิน เซ็บเดิร์มมี 2 แบบ คือเซ็บแท้ กับเซ็บเทียม
ถ้าแท้เกิดจากระบบภาวะร่างกายไม่สมดุล
ไม่เคยทาครีมใดๆ แค่เครียด นอนน้อย
นอนดึก กินดึก
กลางคืนไม่นอน นอนกลางวัน
ขาดสารอาหารที่จำเป็นในผัก ผลไม้
ดื่มน้ำน้อย
เหล้า บุหรี่จัด
แค่อย่าง สองอย่างที่ว่ามา ก็ทำให้เกิดได้
พวกนี้ถ้าไม่หันกลับมาดูแลตัวเอง จะเป็นตลอด
(กรณีนี้ ไม่จำเป็นว่าต้องเกิดกับทุกคนนะ บางคนไม่เป็นก็ได้
แต่กำลังจะบอกว่า คนที่เป็นมักจะเกิดจากสาเหตุเหล่านี้)
เซ็บเทียมคือผิวคนที่แข็งแรงปกติ แต่ดันไปพลาดใช้สเตียรอยด์
เกิดภาวะผิวบาง และติดยา เช่น คนที่ไปใช้ครีมในเน็ตเป็นเวลาหลายเดือน
พอหยุดก็ผื่นขึ้น ไปหาหมอหรือไปร้านยา ก็จะได้สเตียรอยด์กลับมาทาต่อ
อันนี้หายได้ แต่นานแค่ไหน ขึ้นกับระยะเวลา
และความแรงของยา
มะ เรามาเข้าเรื่อง ช่วงหยุดสเตียรอยด์ ผิวจะอักเสบมาก
ผื่น แดง คัน แห้ง ลอก เม็ดผด บางกรณีอาจมีน้ำเหลืองซึม ผิวแตก เลือดซิป ๆ ได้
ปกติระยะแรก ฉินจะแนะนำว่า อย่าเพิ่งใช้อะไรเลย
จะให้พักหน้าไปก่อน 7-14 วัน เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงที่ผิวอ่อนแอ และอยากยา
การประโคมทาอะไรทั้งหลายลงบนผิวหน้า
นอกจากจะไม่ช่วยแล้ว หากเกิดอาการแพ้ เราจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเราแพ้ครีม หรือแค่ผิวอยากยา
หลายครั้ง หลายคนไม่เข้าใจ พอหยุดสเตียรอยด์ปุ๊บ ก็รีบไปหาซื้อครีมบำรุงมาใช้ทันที
แล้วผื่นก็ขึ้นไม่หยุด เกิดการ inbox มาถามรัว ๆ ว่า แพ้ครีมหรือเปล่า
หึหึ ในลำคอ แล้วแนะนำว่า ลองหยุดทาครีมดูสิ ว่าผื่นยุบไหม
สรุปไม่ยุบ นั่นไง!! มันไม่ใช่แพ้ครีม มันเป็นผิวอยากยา
ช่วงพักผิว จะแนะนำให้งดแต่งหน้า คือต้องหน้าสดอะ
ทาได้แค่แป้งเด็ก
ล้างหน้าน้ำเปล่า หรือถ้าคิดว่าน้ำประปาที่บ้านไม่สะอาดพอ
น้ำดื่มเลยจ้า เอามาล้างหน้าเช้าเย็น วิธีนี้ก็ดี เพราะผิวเราช่วงนี้จะแพ้ง่ายมาก ๆ
บางทีคอรีนเยอะ ๆ ก็ทำผิวแย่ได้เหมือนกัน
หลังจากล้างหน้าแล้ว ให้เอาน้ำเกลือล้างแผล ยี่ห้ออะไรก็ได้ แต่ยี่ห้อนี้หาง่ายดี มีทุกร้านยา
ชุบสำลีแผ่น แปะที่ผื่น แบบนี้
วิธีนี้จะทำให้ผื่นสงบลงได้บ้าง ลดอาการคันได้ในระดับหนึ่ง
ทำแบบนี้ เช้าเย็น หลังอาบน้ำ ครั้งละ 15-20 นาที
เสร็จแล้วก็เอาออก ไม่ต้องล้างน้ำอีก นอนได้เลย
ช่วงนี้อาจต้องปรับตัวในการดูแลตัวเองใหม่
เรามาดูกฎข้อห้ามอีกรอบ คือไม่ได้บังคับ แต่ทำได้ก็ดี
เพราะรวบรวมจากคนในเพจที่มาบอกว่า หลังจากทำแล้วผื่นขึ้น
แต่พอไม่ทำแล้วผื่นก็ดีขึ้น
1. ห้ามดื่มแอลกอฮอลล์
2. ห้ามแกะ ห้ามเกา เพราะเล็บสกปรก จะทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อรา ทำให้ผื่นลามได้
3. ห้ามนอนดึกเกิน 4 ทุ่ม เพราะผิวจะทำการซ่อมตัวเองช่วงที่หลับสนิท 4 ทุ่มถึง ตี 4
4. ห้ามว่ายน้ำเพราะน้ำสระสกปรก และมีคอรีนค่อนข้างมาก จะทำให้หน้าแพ้ และแห้งมาก ๆ ได้
ห้ามโดนเหงื่อ แม้จะดีขึ้นแล้วก็ตามในช่วงแรก หากต้องการออกกำลังกาย ไม่ควรให้เหงื่อค้างบนหน้านานๆ ควรเช็ดเหงื่อตลอด
และเมื่อออกกำลังกายเสร็จควรล้างหน้าทันที
และอย่าล้างหน้าบ่อย เพราะจะทำให้ผิวมัน แต่ขาดความชุ่มชื้น
5. เลี่ยงตากแดดจัด ๆ เป็นเวลานาน ๆ เพราะแสงแดดจัดจะทำให้ผิวเสีย
6. เลี่ยงลมแอร์เย็นจัด หรืออยู่ในที่ร้อนจัด
7. อย่าเครียด
8. อย่าใช้ครีมชวนเชื่อในเน็ต
9. อย่าเพิ่งใช้ครีม Whitening พวก AHA BHA หรือยาลบรอยดำ แดง รอยพวกนั้นจะหายไปเองเมื่อผื่นมีอาการดีขึ้น
10. งดของทอด ของมัน ของหวาน ขนมปัง อาหารที่ไม่มีประโยชน์จะทำให้ร่างกายอ่อนแอ ป่วยง่าย ทำให้ภูมิตก ส่งผลให้ผื่นตีกลับได้ (เน้น ทานผัก ผลไม้)
11. ห้ามดื่มน้ำน้อย ห้ามดื่มเยอะ ๆ ทีเดียว ให้ค่อย ๆ จิบทั้งวันให้ได้วันละ 2-3 ลิตร (เฉพาะคนที่ไตไม่มีปัญหา)
12. ห้ามแต่งหน้า เพราะจะเป็นการรบกวนผิวจนเกินไป อุปกรณ์แต่งหน้าต่าง ๆ หากไม่ทำความสะอาดดี ๆ เชื้อโรคจะสะสมได้ง่าย ทำให้ติดเชื้อได้ง่าย แป้งเด็กถ้าไม่แพ้น้ำหอมก็ทาหลังทาครีมได้ 1 ครั้ง อย่าทาบ่อย ๆ ทั้งวัน เพราะมือเราสกปรก
13. ห้ามกลับไปใช้สเตียรอยด์ / Elidel / Protopic อีก ยาพวกนี้เป็นยากดอาการ หากไม่หาต้นตอสาเหตุของผื่น พอหยุดใช้ก็จะเป็นอีก
14. ห้ามทำสีผม เพราะสีผมมีสารที่ทำให้ผิวคนเป็นเซบเดิร์มเกิดการระคายเคืองและเห่อได้
มันจะลามจากหนังศรีษะลงมา และจากผมที่โดนหน้าตลอดกรณีผมยาว
15. ห้ามยิงเลเซอร์หน้าขาวใส หรือหลุมสิว เพราะจะทำให้ผิวอ่อนแอ ผื่นอาจตีกลับได้
16. ห้ามขัดหน้า นวดหน้า ถูหน้าตามแหล่งเสริมความงาม เพราะอาจจะแพ้ได้
17. เวลาแปรงฟัน อย่าให้ฟองมาโดนคาง และรอบปาก หากฟองล้นออกมาให้ใช้มือเปียกน้ำปาดออก หรือรีบบ้วนทิ้ง เพราะเคมีจากยาสีฟันอาจทำให้ผื่นขึ้นรอบปากได้
18. เวลาสระผม อย่าให้ยาสระผมโดนหน้า เพราะเคมีจากยาสระผมทำให้อาการเซบเดิร์มกำเริบได้
19. อย่าเข้าใกล้อะไรที่เป็นสารระเหย เช่นเผาขยะ แอลกอฮอล์ น้ำยาล้างห้องน้ำ ทินเนอร์ เพราะสารระเหยเหล่านี้จะซึมเข้าไปในผิวได้ ก่อให้เกิดการระคายเคือง
20. อย่าล้างหน้าด้วยน้ำร้อน เพราะยิ่งจะทำให้ผิวแห้งมากขึ้น สูญเสียความชุ่มชื้น ทำให้ผื่นหายช้ากว่าเดิม ล้างหน้าน้ำปกติดีที่สุด
**
จริง ๆ อาหารทะเลไม่อยู่ในหมวดอาหารต้องห้ามนะ
แต่ที่บางคนทานแล้วผื่นขึ้นอาจจะเป็นเพราะแพ้มากกว่า
แต่ไม่ใช่อาหารทะเลทุกอย่างนะคับ
บางคนทานกุ้งได้ ทานปูไม่ได้
บางคนทานปูได้ ทานกุ้งไม่ได้
บางคนทานได้แต่ปลา
ส่วนคนที่ไม่แพ้ก็ทานได้ปกติ แต่ไม่ควรทานมากครับ
อาหารทะเลมีฤทธิ์ร้อน ควรทานผักเสริมด้วย
ร่างกายจะได้ไม่เสียสมดุล
ส่วนอาหารเผ็ดร้อน
หลายคนทานแล้วผื่นขึ้นรอบปาก แล้วก็ลามไปทั่วหน้า
ก็ให้เลี่ยงไปก่อนนะคับ เพราะผิวบางมาก
พอเจ็ดเผ็ดร้อนก็เลยผื่นขึ้น
ยังไงลองสังเกตุตัวเองดูครับ
เพิ่มเติม พวกธัญพืชด้วย เช่นคนที่แพ้ถั่ว งา อะไรแบบนั้น
อะ หลังจากพักหน้ามาได้ 7-14 วันแล้ว เรามาดูตัวช่วยที่ 1
ตัวนี้เป็นตัว Top เลยก็ว่าได้ เพราะโอกาสแพ้น้อย และมีคนดีขึ้นจากตัวนี้เยอะ
นั่นคือ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น
จริง ๆ ยี่ห้ออะไรก็ได้นะ แต่ก็เลือกที่ดูดี ๆ หน่อย
แพงหน่อย แต่ได้มาตรฐาน ดีกว่าเอาถูก ๆ ขวดห่วย ๆ อาจไม่สะอาด
อาการแพ้ที่พบ แต่น้อยมากคือ แสบหน้า แต่ล้างออกก็หาย
ถ้ามีอาการนี้แนะนำให้หยุดใช้ เพราะดูจะไม่เหมาะแล้ว
อีกข้อคือ บางคนใช้แล้วสิวขึ้น ก็หยุดไป
วิธีใช้คือ ให้ใช้แค่เฉพาะตอนกลางคืน หลังมาร์คน้ำเกลือเสร็จ
อาจเอาน้ำพรมหน้านิดหน่อย แล้วหยดน้ำมันมะพร้าวสัก 4-5 หยด แล้วแต่ขนาดหน้า
หน้าใหญ่ก็ใช้เยอะ หน้าเล็กก็ใช้น้อย
นวดที่หน้าเบา ๆ ขณะหน้าเปียกนั่นแหละ จะทำให้หน้าไม่มันมาก
บางคนไม่ชอบอะไรมันมาก ๆ ผิวมันจะคัน แล้วก็หนักหน้าด้วย
แล้วก็นอน
ส่วนตอนเช้าถ้าจะใช้ก็ได้ แต่แนะนำว่าอย่าออกไปไหน
เพราะน้ำมันพวกนี้จะทำให้ผิวไวแสง ผิวจะคล้ำ เหมือนฝรั่งอาบแดดกันเลยทีเดียว
คล้ำเฉยๆ นะ แต่ผิวไม่เสียนะจ๊ะ
ทีนี้ถ้าคันมาก ๆ แนะนำตัวนี้เลย
พลูจีนอล ลดอาการคันได้ดี แต่ทาแรก ๆ แสบถึงไส้กันเลยทีเดียว
ขององค์การเภสัช สกัดมาจากใบพลู
แต่บอกเลยว่า กลิ่นแย่มาก กลิ่นเหมือนคนกินหมาก
ทาที คนที่บ้านด่ากันทั้งบ้าน
เคยทาครั้งหนึ่ง พ่อถามว่า อะไรไหม้ 555
ถ้าไม่ชอบกลิ่น ก็อาจจะหายาแก้แพ้แบบกินหรือแบบทาก็ได้นะ
แบบทาก็ systral cream
แก้แพ้พวกนี้ อย่าไปกิน หรือทานาน ๆ หายคันก็หยุดใช้
คราวนี้เรามาดูแบบครีมกัน
ครีมบำรุงที่เหมาะกับผิวแพ้ง่าย เซ็บเดิร์ม หรือผิวติดสเตียรอยด์ดี ๆ ก็มีหลายตัว
วันนี้รวบรวมจากคนในเพจ เอามาไว้ในกระทู้นี้
ตัวยอดฮิต คงหนีไม่พ้น 2 ตัวนี้
ฟิสิโอ เอไอ กับอีเซร่า
(เอารูปมาจากในเน็ต)
2 ตัวนี้มีความสามารถในการลดอักเสบได้
สำหรับคนที่ผิวแห้งมาก ๆ แห้งลอกเยอะ ๆ ใช้เอไอได้เลย เพราะมันเหนียว หนักหน้ามาก
ช่วยลดอาการแห้ง แดง ลอกได้ดี
แต่เห็นเค้าว่า รุ่นเก่า ดีกว่ารุ่นใหม่เยอะเลย
แต่ถ้าหน้ามัน แดง ผดเม็ดเล็ก ๆ ขึ้น ใช้อีเซร่า ก็ดูจะเหมาะกว่านะ
ทาเช้าเย็น หลังมาร์คน้ำเกลือได้เลย
ส่วนตัวที่ใช้น้ำมันมะพร้าวกลางคืน จะทาครีมพวกนี้กลางวันก็ได้
ตัวต่อไปเป็น ฟิสิโอ เหมือนกัน แต่เป็นตัวธรรมดา
ความสามารถในการลดอักเสบ อาจะไม่เท่าเอไอ
แต่เนื้อครีมบางเบากว่า ใช้แล้วสบายหน้ากว่า
มีหลายคนใช้ตัวนี้แล้วชอบก็เยอะ
ต่อมาก็ตัว Atoplam
ช่วยลดอักเสบผิว และช่วยเสริมชั้นผิวให้แข็งแรงได้
หลายคนบอกใช้ดี ผิวแข็งแรงขึ้น แต่หลายคนก็ใช้ไม่ได้ ก็ต้องหาตัวอื่นกันต่อไป
มาถึงแบรนด์ยูเซอร์รีน
Ato Control
ปราศจากน้ำหอม สี และสารกันเสีย พาราเบน
ที่ทางยูเซอร์รีนเคลมว่า ใช้ในระยะที่มีปํญหาผิวแห้ง แดง คัน ระคายเคือง
มีบทพิสูจน์ประสิทธิภาพเทียบกับ 1%Hydrocortisone
สามารถช่วยลดปริมาณการใช้สเตียรอยด์ลงได้ และ ยูเซอรินซูทตื้ง มีทั้งรูปแบบครีม และโลชั่น
แนะนำให้ใช้ในช่วงที่ผื่นสงบแล้ว เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว และเสริมชั้นปกป้องผิวให้แข็งแรง
ลดการกลับเป็นซ้ำ ด้วยส่วนประกอบสำคัญ คือ โอเมก้า ออยล์ และลิโคชาลโคน เอ
แต่ส่วนตัวว่า ก็ดีกับคนที่ใช้แล้วถูกเท่านั้น คนไม่ใช่ ก็พ่ายไป
Lipo Balance
มีวิตามินบี 5 กับบี 7 ที่ช่วยลดอักเสบผิว ลดผื่นคัน ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น
และมีเซราไมด์-3 ช่วยให้ผิวแข็งแรง
ปราศจากน้ำหอม สี
ถ้าแห้งมาก ๆ ลอง OMEGA SOOTHING CREAM
มีโอเมก้า ออยล์ ใช้แล้วจึงทำให้หน้ามัน เหมือนมีน้ำมันคลุมผิว ไม่ให้ผิวแห้ง แตก ลอก
ปราศจากน้ำหอม สี และสารกันเสีย พาราเบน
เดี๋ยวมาต่อนะฮะ
มะ เรามาดูตัวช่วยเซ็บเดิร์ม กับผิวติดสเตียรอยด์กัน
อันนี้ http://ppantip.com/topic/35585852
รอบนี้ฉินจะมาพูดถึง วิธีดูแลตัวเองหลังหยุดสเตียรอยด์ หรือคนที่ไม่เคยทาสเตียรอยด์แต่เป็นเซ็บเดิร์มแท้ ๆ กัน
ออกตัวนิดนึงว่า เขียนจากประสบการณ์ของตัวเองที่เป็น และรับปรึกษาคนอื่น ๆ มาประมาณ 3 ปีกว่า
บอกเลย ไม่มีสูตรสำเร็จ ตายตัว เพราะผิวแต่ละคนไม่เหมือนกัน อาการแพ้ต่างกัน
ถูกทำร้ายมาไม่เท่ากัน ผิวบาง หนาก็ต่างกัน ตัวช่วยที่จะใช้ก็ไม่เหมือนกัน
ขอยกเอาข้อความเก่ามาเล่าใหม่ก่อน เผื่อคนไม่เคยอ่าน
ในความเข้าใจฉิน เซ็บเดิร์มมี 2 แบบ คือเซ็บแท้ กับเซ็บเทียม
ถ้าแท้เกิดจากระบบภาวะร่างกายไม่สมดุล
ไม่เคยทาครีมใดๆ แค่เครียด นอนน้อย
นอนดึก กินดึก
กลางคืนไม่นอน นอนกลางวัน
ขาดสารอาหารที่จำเป็นในผัก ผลไม้
ดื่มน้ำน้อย
เหล้า บุหรี่จัด
แค่อย่าง สองอย่างที่ว่ามา ก็ทำให้เกิดได้
พวกนี้ถ้าไม่หันกลับมาดูแลตัวเอง จะเป็นตลอด
(กรณีนี้ ไม่จำเป็นว่าต้องเกิดกับทุกคนนะ บางคนไม่เป็นก็ได้
แต่กำลังจะบอกว่า คนที่เป็นมักจะเกิดจากสาเหตุเหล่านี้)
เซ็บเทียมคือผิวคนที่แข็งแรงปกติ แต่ดันไปพลาดใช้สเตียรอยด์
เกิดภาวะผิวบาง และติดยา เช่น คนที่ไปใช้ครีมในเน็ตเป็นเวลาหลายเดือน
พอหยุดก็ผื่นขึ้น ไปหาหมอหรือไปร้านยา ก็จะได้สเตียรอยด์กลับมาทาต่อ
อันนี้หายได้ แต่นานแค่ไหน ขึ้นกับระยะเวลา
และความแรงของยา
มะ เรามาเข้าเรื่อง ช่วงหยุดสเตียรอยด์ ผิวจะอักเสบมาก
ผื่น แดง คัน แห้ง ลอก เม็ดผด บางกรณีอาจมีน้ำเหลืองซึม ผิวแตก เลือดซิป ๆ ได้
ปกติระยะแรก ฉินจะแนะนำว่า อย่าเพิ่งใช้อะไรเลย
จะให้พักหน้าไปก่อน 7-14 วัน เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงที่ผิวอ่อนแอ และอยากยา
การประโคมทาอะไรทั้งหลายลงบนผิวหน้า
นอกจากจะไม่ช่วยแล้ว หากเกิดอาการแพ้ เราจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเราแพ้ครีม หรือแค่ผิวอยากยา
หลายครั้ง หลายคนไม่เข้าใจ พอหยุดสเตียรอยด์ปุ๊บ ก็รีบไปหาซื้อครีมบำรุงมาใช้ทันที
แล้วผื่นก็ขึ้นไม่หยุด เกิดการ inbox มาถามรัว ๆ ว่า แพ้ครีมหรือเปล่า
หึหึ ในลำคอ แล้วแนะนำว่า ลองหยุดทาครีมดูสิ ว่าผื่นยุบไหม
สรุปไม่ยุบ นั่นไง!! มันไม่ใช่แพ้ครีม มันเป็นผิวอยากยา
ช่วงพักผิว จะแนะนำให้งดแต่งหน้า คือต้องหน้าสดอะ
ทาได้แค่แป้งเด็ก
ล้างหน้าน้ำเปล่า หรือถ้าคิดว่าน้ำประปาที่บ้านไม่สะอาดพอ
น้ำดื่มเลยจ้า เอามาล้างหน้าเช้าเย็น วิธีนี้ก็ดี เพราะผิวเราช่วงนี้จะแพ้ง่ายมาก ๆ
บางทีคอรีนเยอะ ๆ ก็ทำผิวแย่ได้เหมือนกัน
หลังจากล้างหน้าแล้ว ให้เอาน้ำเกลือล้างแผล ยี่ห้ออะไรก็ได้ แต่ยี่ห้อนี้หาง่ายดี มีทุกร้านยา
ชุบสำลีแผ่น แปะที่ผื่น แบบนี้
วิธีนี้จะทำให้ผื่นสงบลงได้บ้าง ลดอาการคันได้ในระดับหนึ่ง
ทำแบบนี้ เช้าเย็น หลังอาบน้ำ ครั้งละ 15-20 นาที
เสร็จแล้วก็เอาออก ไม่ต้องล้างน้ำอีก นอนได้เลย
ช่วงนี้อาจต้องปรับตัวในการดูแลตัวเองใหม่
เรามาดูกฎข้อห้ามอีกรอบ คือไม่ได้บังคับ แต่ทำได้ก็ดี
เพราะรวบรวมจากคนในเพจที่มาบอกว่า หลังจากทำแล้วผื่นขึ้น
แต่พอไม่ทำแล้วผื่นก็ดีขึ้น
1. ห้ามดื่มแอลกอฮอลล์
2. ห้ามแกะ ห้ามเกา เพราะเล็บสกปรก จะทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อรา ทำให้ผื่นลามได้
3. ห้ามนอนดึกเกิน 4 ทุ่ม เพราะผิวจะทำการซ่อมตัวเองช่วงที่หลับสนิท 4 ทุ่มถึง ตี 4
4. ห้ามว่ายน้ำเพราะน้ำสระสกปรก และมีคอรีนค่อนข้างมาก จะทำให้หน้าแพ้ และแห้งมาก ๆ ได้
ห้ามโดนเหงื่อ แม้จะดีขึ้นแล้วก็ตามในช่วงแรก หากต้องการออกกำลังกาย ไม่ควรให้เหงื่อค้างบนหน้านานๆ ควรเช็ดเหงื่อตลอด
และเมื่อออกกำลังกายเสร็จควรล้างหน้าทันที
และอย่าล้างหน้าบ่อย เพราะจะทำให้ผิวมัน แต่ขาดความชุ่มชื้น
5. เลี่ยงตากแดดจัด ๆ เป็นเวลานาน ๆ เพราะแสงแดดจัดจะทำให้ผิวเสีย
6. เลี่ยงลมแอร์เย็นจัด หรืออยู่ในที่ร้อนจัด
7. อย่าเครียด
8. อย่าใช้ครีมชวนเชื่อในเน็ต
9. อย่าเพิ่งใช้ครีม Whitening พวก AHA BHA หรือยาลบรอยดำ แดง รอยพวกนั้นจะหายไปเองเมื่อผื่นมีอาการดีขึ้น
10. งดของทอด ของมัน ของหวาน ขนมปัง อาหารที่ไม่มีประโยชน์จะทำให้ร่างกายอ่อนแอ ป่วยง่าย ทำให้ภูมิตก ส่งผลให้ผื่นตีกลับได้ (เน้น ทานผัก ผลไม้)
11. ห้ามดื่มน้ำน้อย ห้ามดื่มเยอะ ๆ ทีเดียว ให้ค่อย ๆ จิบทั้งวันให้ได้วันละ 2-3 ลิตร (เฉพาะคนที่ไตไม่มีปัญหา)
12. ห้ามแต่งหน้า เพราะจะเป็นการรบกวนผิวจนเกินไป อุปกรณ์แต่งหน้าต่าง ๆ หากไม่ทำความสะอาดดี ๆ เชื้อโรคจะสะสมได้ง่าย ทำให้ติดเชื้อได้ง่าย แป้งเด็กถ้าไม่แพ้น้ำหอมก็ทาหลังทาครีมได้ 1 ครั้ง อย่าทาบ่อย ๆ ทั้งวัน เพราะมือเราสกปรก
13. ห้ามกลับไปใช้สเตียรอยด์ / Elidel / Protopic อีก ยาพวกนี้เป็นยากดอาการ หากไม่หาต้นตอสาเหตุของผื่น พอหยุดใช้ก็จะเป็นอีก
14. ห้ามทำสีผม เพราะสีผมมีสารที่ทำให้ผิวคนเป็นเซบเดิร์มเกิดการระคายเคืองและเห่อได้
มันจะลามจากหนังศรีษะลงมา และจากผมที่โดนหน้าตลอดกรณีผมยาว
15. ห้ามยิงเลเซอร์หน้าขาวใส หรือหลุมสิว เพราะจะทำให้ผิวอ่อนแอ ผื่นอาจตีกลับได้
16. ห้ามขัดหน้า นวดหน้า ถูหน้าตามแหล่งเสริมความงาม เพราะอาจจะแพ้ได้
17. เวลาแปรงฟัน อย่าให้ฟองมาโดนคาง และรอบปาก หากฟองล้นออกมาให้ใช้มือเปียกน้ำปาดออก หรือรีบบ้วนทิ้ง เพราะเคมีจากยาสีฟันอาจทำให้ผื่นขึ้นรอบปากได้
18. เวลาสระผม อย่าให้ยาสระผมโดนหน้า เพราะเคมีจากยาสระผมทำให้อาการเซบเดิร์มกำเริบได้
19. อย่าเข้าใกล้อะไรที่เป็นสารระเหย เช่นเผาขยะ แอลกอฮอล์ น้ำยาล้างห้องน้ำ ทินเนอร์ เพราะสารระเหยเหล่านี้จะซึมเข้าไปในผิวได้ ก่อให้เกิดการระคายเคือง
20. อย่าล้างหน้าด้วยน้ำร้อน เพราะยิ่งจะทำให้ผิวแห้งมากขึ้น สูญเสียความชุ่มชื้น ทำให้ผื่นหายช้ากว่าเดิม ล้างหน้าน้ำปกติดีที่สุด
**
จริง ๆ อาหารทะเลไม่อยู่ในหมวดอาหารต้องห้ามนะ
แต่ที่บางคนทานแล้วผื่นขึ้นอาจจะเป็นเพราะแพ้มากกว่า
แต่ไม่ใช่อาหารทะเลทุกอย่างนะคับ
บางคนทานกุ้งได้ ทานปูไม่ได้
บางคนทานปูได้ ทานกุ้งไม่ได้
บางคนทานได้แต่ปลา
ส่วนคนที่ไม่แพ้ก็ทานได้ปกติ แต่ไม่ควรทานมากครับ
อาหารทะเลมีฤทธิ์ร้อน ควรทานผักเสริมด้วย
ร่างกายจะได้ไม่เสียสมดุล
ส่วนอาหารเผ็ดร้อน
หลายคนทานแล้วผื่นขึ้นรอบปาก แล้วก็ลามไปทั่วหน้า
ก็ให้เลี่ยงไปก่อนนะคับ เพราะผิวบางมาก
พอเจ็ดเผ็ดร้อนก็เลยผื่นขึ้น
ยังไงลองสังเกตุตัวเองดูครับ
เพิ่มเติม พวกธัญพืชด้วย เช่นคนที่แพ้ถั่ว งา อะไรแบบนั้น
อะ หลังจากพักหน้ามาได้ 7-14 วันแล้ว เรามาดูตัวช่วยที่ 1
ตัวนี้เป็นตัว Top เลยก็ว่าได้ เพราะโอกาสแพ้น้อย และมีคนดีขึ้นจากตัวนี้เยอะ
นั่นคือ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น
จริง ๆ ยี่ห้ออะไรก็ได้นะ แต่ก็เลือกที่ดูดี ๆ หน่อย
แพงหน่อย แต่ได้มาตรฐาน ดีกว่าเอาถูก ๆ ขวดห่วย ๆ อาจไม่สะอาด
อาการแพ้ที่พบ แต่น้อยมากคือ แสบหน้า แต่ล้างออกก็หาย
ถ้ามีอาการนี้แนะนำให้หยุดใช้ เพราะดูจะไม่เหมาะแล้ว
อีกข้อคือ บางคนใช้แล้วสิวขึ้น ก็หยุดไป
วิธีใช้คือ ให้ใช้แค่เฉพาะตอนกลางคืน หลังมาร์คน้ำเกลือเสร็จ
อาจเอาน้ำพรมหน้านิดหน่อย แล้วหยดน้ำมันมะพร้าวสัก 4-5 หยด แล้วแต่ขนาดหน้า
หน้าใหญ่ก็ใช้เยอะ หน้าเล็กก็ใช้น้อย
นวดที่หน้าเบา ๆ ขณะหน้าเปียกนั่นแหละ จะทำให้หน้าไม่มันมาก
บางคนไม่ชอบอะไรมันมาก ๆ ผิวมันจะคัน แล้วก็หนักหน้าด้วย
แล้วก็นอน
ส่วนตอนเช้าถ้าจะใช้ก็ได้ แต่แนะนำว่าอย่าออกไปไหน
เพราะน้ำมันพวกนี้จะทำให้ผิวไวแสง ผิวจะคล้ำ เหมือนฝรั่งอาบแดดกันเลยทีเดียว
คล้ำเฉยๆ นะ แต่ผิวไม่เสียนะจ๊ะ
ทีนี้ถ้าคันมาก ๆ แนะนำตัวนี้เลย
พลูจีนอล ลดอาการคันได้ดี แต่ทาแรก ๆ แสบถึงไส้กันเลยทีเดียว
ขององค์การเภสัช สกัดมาจากใบพลู
แต่บอกเลยว่า กลิ่นแย่มาก กลิ่นเหมือนคนกินหมาก
ทาที คนที่บ้านด่ากันทั้งบ้าน
เคยทาครั้งหนึ่ง พ่อถามว่า อะไรไหม้ 555
ถ้าไม่ชอบกลิ่น ก็อาจจะหายาแก้แพ้แบบกินหรือแบบทาก็ได้นะ
แบบทาก็ systral cream
แก้แพ้พวกนี้ อย่าไปกิน หรือทานาน ๆ หายคันก็หยุดใช้
คราวนี้เรามาดูแบบครีมกัน
ครีมบำรุงที่เหมาะกับผิวแพ้ง่าย เซ็บเดิร์ม หรือผิวติดสเตียรอยด์ดี ๆ ก็มีหลายตัว
วันนี้รวบรวมจากคนในเพจ เอามาไว้ในกระทู้นี้
ตัวยอดฮิต คงหนีไม่พ้น 2 ตัวนี้
ฟิสิโอ เอไอ กับอีเซร่า
(เอารูปมาจากในเน็ต)
2 ตัวนี้มีความสามารถในการลดอักเสบได้
สำหรับคนที่ผิวแห้งมาก ๆ แห้งลอกเยอะ ๆ ใช้เอไอได้เลย เพราะมันเหนียว หนักหน้ามาก
ช่วยลดอาการแห้ง แดง ลอกได้ดี
แต่เห็นเค้าว่า รุ่นเก่า ดีกว่ารุ่นใหม่เยอะเลย
แต่ถ้าหน้ามัน แดง ผดเม็ดเล็ก ๆ ขึ้น ใช้อีเซร่า ก็ดูจะเหมาะกว่านะ
ทาเช้าเย็น หลังมาร์คน้ำเกลือได้เลย
ส่วนตัวที่ใช้น้ำมันมะพร้าวกลางคืน จะทาครีมพวกนี้กลางวันก็ได้
ตัวต่อไปเป็น ฟิสิโอ เหมือนกัน แต่เป็นตัวธรรมดา
ความสามารถในการลดอักเสบ อาจะไม่เท่าเอไอ
แต่เนื้อครีมบางเบากว่า ใช้แล้วสบายหน้ากว่า
มีหลายคนใช้ตัวนี้แล้วชอบก็เยอะ
ต่อมาก็ตัว Atoplam
ช่วยลดอักเสบผิว และช่วยเสริมชั้นผิวให้แข็งแรงได้
หลายคนบอกใช้ดี ผิวแข็งแรงขึ้น แต่หลายคนก็ใช้ไม่ได้ ก็ต้องหาตัวอื่นกันต่อไป
มาถึงแบรนด์ยูเซอร์รีน
Ato Control
ปราศจากน้ำหอม สี และสารกันเสีย พาราเบน
ที่ทางยูเซอร์รีนเคลมว่า ใช้ในระยะที่มีปํญหาผิวแห้ง แดง คัน ระคายเคือง
มีบทพิสูจน์ประสิทธิภาพเทียบกับ 1%Hydrocortisone
สามารถช่วยลดปริมาณการใช้สเตียรอยด์ลงได้ และ ยูเซอรินซูทตื้ง มีทั้งรูปแบบครีม และโลชั่น
แนะนำให้ใช้ในช่วงที่ผื่นสงบแล้ว เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว และเสริมชั้นปกป้องผิวให้แข็งแรง
ลดการกลับเป็นซ้ำ ด้วยส่วนประกอบสำคัญ คือ โอเมก้า ออยล์ และลิโคชาลโคน เอ
แต่ส่วนตัวว่า ก็ดีกับคนที่ใช้แล้วถูกเท่านั้น คนไม่ใช่ ก็พ่ายไป
Lipo Balance
มีวิตามินบี 5 กับบี 7 ที่ช่วยลดอักเสบผิว ลดผื่นคัน ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น
และมีเซราไมด์-3 ช่วยให้ผิวแข็งแรง
ปราศจากน้ำหอม สี
ถ้าแห้งมาก ๆ ลอง OMEGA SOOTHING CREAM
มีโอเมก้า ออยล์ ใช้แล้วจึงทำให้หน้ามัน เหมือนมีน้ำมันคลุมผิว ไม่ให้ผิวแห้ง แตก ลอก
ปราศจากน้ำหอม สี และสารกันเสีย พาราเบน
เดี๋ยวมาต่อนะฮะ