[Spoil] Domestic na Kanojo #118 - ทางเลือกในอนาคต

เอาภาพนี้มาแปะแทนเพราะตอนนี้ไม่มีภาพเปิดครับ










- เปิดตอนมาที่คนพี่ที่ไปเป็นครูอยู่ที่เกาะ

- แม้จะบอกเลิกกับพระเอกแบบเด็ดขาดไปแล้วตั้งแต่วันที่เจอกันวันนั้น แต่ใจคนพี่ก็ยังนึกถึงพระเอกอยู่ตลอดเวลา ถึงขั้นเก็บเอาไปฝันว่าพระเอกกลับมาหาเหมือนเดิมเลย




- ตื่นเช้ามาพอรู้ว่าเป็นฝัน ก็จัดแจงปรับอารมณ์ตัวเอง ทำกิจวัตรประจำวันตามปกติ ก่อนจะทำกับข้าวออกไปนั่งกินข้างนอกเปลี่ยนบรรยากาศ

- กำลังนั่งกินข้าวเที่ยงริมทะเลอยู่เพลินๆ นายแว่นหัวทองชู้รักเก่าก็แวะมาคุยด้วย (ฟังจากบทพูดที่คุยแล้วน่าจะเทียวไล้เทียวขื่อประจำเลย) คนพี่ก็คุยด้วยตามปกติ

- แต่พอถามถึงเรื่องวันหยุดปีใหม่จะทำไง จะกลับบ้านหรือเปล่า คนพี่ก็ชะงักกึก บอกว่าแม่ก็โทรๆ มาบอกให้กลับบ้านอยู่หรอก แต่ตอนนี้สถานการณ์ไม่ค่อยเอื้ออำนวยเท่าไหร่ (เรื่องของพระเอก) เลยยังคิดอยู่ว่าจะกลับดีมั้ย



- ตัดมาที่โตเกียว ด้านพระเอกที่เคลียร์ปัญหาหัวใจกับคนน้องหมดแล้วก็กำลังเจอปัญหาใหม่เข้าเต็มๆ นั่นคือ...เกรดตกฉิบ-ายวายวอดจนผลสอบส่วนกลาง (สอบเข้ามหาวิทยาลัย) ออกมาเละยิ่งกว่าขี้

- ผลก็คือ...เจอครูประจำชั้นเรียกไปอบรมสิครับ

- โดนครูประจำชั้นด่าจนเละเสร็จก็กลับมานั่งบ่นกับคนน้องตอนกินข้าวเที่ยงว่าจะเอาไงดีกับเรื่องเรียนต่อมหาวิทยาลัย แต่คนน้องก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก เพราะตัวคนน้องก็ตั้งใจจะไม่เรียนต่อมหาลัยอยู่แล้ว (กะมุ่งทางเชฟเลย) พระเอกเลยเริ่มๆ เขวเหมือนกันว่าจะมุ่งเอาทางเป็นนักเขียนเป็นหลัก เรื่อยเรียนเป็นรองดีมั้ย

- สุดท้ายพอไม่รู้จะทำยังไง คนน้องก็เลยแนะนำให้ลองปรึกษานักเขียนรุ่นพี่อย่างอ.คิริยะกับอ.นักเขียนที่ไปฝากตัวเป็นศิษย์อยู่สิ พระเอกเลยลองไปคุยกับอ.คิริยะดูก่อน อ.คิริยะก็บอกว่าที่จริงก็ไม่จำเป็นหรอก แต่การได้ใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยจะช่วยให้ได้เจอคนหลากหลายประเภท ได้เจอประสบการณ์หลายๆ แบบ ซึ่งสามารถนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการเขียนนิยายในภายหลังได้ ดังนั้นโดยส่วนตัวแล้วอ.คิริยะเลยแนะนำว่าเรียนต่อจะดีกว่า

- กลับมาบ้านพระเอกก็มาคุยกับพ่อเรื่องไม่อยากเรียนต่อ ก็เจอพ่อด่าใส่อีกคน จนแม่คนน้องต้องเข้ามาปรามให้ใจเย็นลง แล้วเอาน้ำเย็นเข้าลูบว่าเรียนๆ ไว้เถอะ มีวุฒิป.ตรีไว้อย่างน้อยถ้าเป็นนักเขียนไม่ได้ก็ยังเอาไว้ใช้ยึดอาชีพอื่นได้นี่นา

- วันต่อมาพอไปช่วยงานอ.นักเขียนก็เล่าเรื่องให้ฟัง อ.นักเขียนก็แนะนำว่าช่วงเวลาเรียนมหาวิทยาลัยนั้นก็เหมือน "ช่วงพัก" เป็นช่วงเวลาที่มีแต่อิสระเต็มไปหมด และเป็นช่วงเวลาที่มีโอกาสพิจารณาตัวเองได้มากที่สุดด้วย ว่าจะเลือกไปทางไหนดีระหว่างชีวิตนักเขียนกับชีวิตคนทำงาน

- เจอคำแนะนำของนักเขียนรุ่นพี่เข้าไป 2 รายระดับบิ๊กของวงการทั้งคู่แบบนั้น พระเอกจึงตัดสินใจเลือกเรียนต่อมหาวิทยาลัยตามเดิม แม้ว่าผลการเรียนจะต่ำเตี้ยเรี่ยดินก็ตาม

- พ่อพระเอกได้ฟังดังนั้นก็ดีใจจนตัวลอย กุลีกุจอเอาแผ่นพับโฆษณาโรงเรียนกวดวิชามาให้พระเอกดูเป็นชุดๆ ว่าจะเอาที่ไหน

- สุดท้ายพอเลือกโรงเรียนได้ก็ลองไปสมัครเข้าเรียนดู ปรากฏว่าบรรยากาศในชั้นเรียนตึงเครียดมาก แถมนักเรียนส่วนใหญ่ที่มาอยู่ก่อนยังจับกลุ่มกันอยู่แล้วจนพระเอกหาเพื่อนคุยในวันเข้าเรียนวันแรกไม่ได้เลย เล่นเอาพระเอกถึงกับกังวลว่าวันต่อๆ ไปจะปรับตัวเข้ากับชั้นเรียนได้รึเปล่า

- กลับมาบ้านตอนกลางคืนก็มานั่งบ่นให้คนน้องฟังอีกรอบ คนน้องก็พยายามพูดจนพระเอกคลายใจได้บ้าง

- คุยเสร็จคนน้องก็เข้ามาอ้อนขอไปเดทวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ แต่พระเอกไปด้วยไม่ได้เพราะติดเรียนกวดวิชา คนน้องเลยงอนตุ๊บป่องๆ เดินพรวดพราดออกจากห้องไป




- สักพักก็กลับมาพร้อมข้าวปั้นแปะสาหร่ายเป็นคำว่า "บ้า" ตัวเบ้งๆ

- ภาพที่เห็นทำเอาพระเอกยิ่งเครียดหนักว่างานนี้ตูจะรอดมั้ยเนี่ย เป็นอันจบตอนนี้











ถือเป็นการกลับมาของคนพี่ในรอบหลายสิบตอนหลังเหตุการณ์ที่เกาะแฮะ

เห็นคนพี่อยากรีเทิร์นกับพระเอกแบบนี้แล้วชักอยากเห็นเลยว่าถ้ากลับมารู้ว่าพระเอกคบเป็นแฟนกับคนน้องจริงๆ จังๆ ไปแล้วคนพี่จะว่าไงบ้าง

ด้านพระเอกเองก็เจอปัญหาเรื่องเกรดตกผลเอ็นท์อาจไม่ติดจนมีแนวโน้มต้องเหินห่างคนน้องสักพักจนกว่าจะสอบติดอีก เรียกว่างานนี้ลำบากสำหรับพระเอกเหมือนกันแฮะ

คงต้องรอดูแล้วแฮะว่าพระเอกจะบริหารเวลาตัวเองยังไงต่อไปถึงจะลงตัวกับคนน้องได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่