ออกตัวว่าไม่เห็นด้วย และไม่เข้าข้างคุณน็อตตั้งแต่ 2 วันที่แล้วแล้ว. ดูไม่สำนึก
แต่ ณ วันนี้ คุณคงสำนึกอะไรได้มากมายก่ายกองแล้ว. ยังพอมีทางแก้ที่จะช่วยให้สถานการณ์มันดีขึ้นได้เร็วขึ้น. โดยไม่ต้องเชื่อคำทนายของคุณ.  อันดับแรกคุณควร

1. ถอนฟ้องฝั่งบอยซะทุกกรณี. และยอมรับผิดว่าเรากระทำเกินกว่าเหตุ.  ฝั่งบอยที่เค้าบอกว่าเค้าคิดหนีในตอนแรกแล้วพอมาเจอกล้องคิดว่าหนีไม่รอดเลยกลับมา. อันนั้นก็คุยกัน ก็เจรจากันได้. ผมว่าทางฝั่งแม่คุณบอย และคุณบอย เค้ามีเหตุผลที่ดี. และยอมรับฟังคุณแน่นอนครับ
หากฝั่งเค้ายังฟ้องอยู่ก็ปล่อยให้เค้าฟ้องไป. เพราะคุณทำเกินกว่าเหตุด้วยอำนาจโทสะจริงๆ. คุณก็คงต้องชดใช้. แต่มันสถานการณ์จะคลีคลายขึ้นถ้าคุณถอนฟ้องฝ่ายนั้น

2.  ยอมรับผิดโดยไปกราบเท้าคุณแม่ของคุณบอย กราบเท้าคุณแม่เค้านะครับ. ผมมองว่าไม่เสียหายอะไรเลย เพราะเป็นการกราบเท้าผู้หลักผู้ใหญ่ ยอมรับผิดในสิ่งที่คุณทำกับลูกเค้าไปจากใจจริง. ต้องออกมาจากความรู้สึกข้างในจริงๆนะครับ. สังคมมองออกครับว่าคุณจริงใจหรือเปล่า ขอโทษผ่านผู้ใหญ่จากหัวใจคุณ.  มันง่ายกว่าคุณสั่งให้คุณบอยกราบรถ Mini ของคุณที่เป็นเพียงวัตถุตั้งเปนร้อยเป็นพันเท่า. คุณบอยเค้ายังกราบเลย

3.  เรื่องค่ารักษาพยาบาลดั้งจมูกคุณบอยอันนี้ก็แล้วแต่ตกลงกัน. แต่เชื่อว่าฝั่งโน้นคงไม่ต้องให้คุณช่วยอะไรมากมาย. เพราะเค้าเบิกประกันสังคมได้เป็นส่วนใหญ่

4.  สุดท้าย คุณควรทำจากใจจากความรู้สึกผิดชอบชั่วดีจริงๆ. เห็นโทษอันใหญ่หลวงของโทสะ หรือความไม่มีสติหรือยังครับ. DJ เก่งเคยจมน้ำมา ตอนนี้เค้าตั้งตัวได้ ทุกอย่างนับ 1 ใหม่หมด ชีวิตเค้าอยู่ด้วยสติมากขึ้นๆ.  เค้าผ่านจุดนั้นมาได้.  คุณก็จะผ่านจุดนี้ไปได้ด้วยเช่นกัน.  วันนี้คลื่นลมในทะเลมันแรงมาก คุณเอาไม่อยู่หรอก. คุณต้องอยู่บนเรือด้วยสติ. อย่าให้จมน้ำ   หากเป็นไปได้อาจไปบวชสักพักใหญ่ๆ. ไปด้วย เพื่อฝึกสติ สมาธิปัญญา. ขัดเกลากิเลส ธรรมะจะช่วยให้คุณเห็นคุณค่าของใจ คุณค่าของชีวิตมากกว่าวัตถุ. และจะเป็นผลบุญกับเราและครอบครัวเราอีกด้วย.   เป็นห่วงความรู้สึกของครอบครัวคุณโดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่ มีคุณคนเดียวเท่านั้นที่จะทำให้มันดีขึ้น.  การด่าไปถึงครอบครัวหรือผู้เกี่ยวข้องต่างๆ นาๆจะจางคลายลง สงสารท่านนะครับ.   ในโลกนี้ไม่เคยมีคำว่าไม่ให้อภัยกันหรอกครับ.   ทุกอย่างเริ่มใหม่หมด. นับ 1  ใหม่หมดได้ ทั้งหน้าที่การงาน อะไรต่อมิอะไร