หลังจากที่ได้ยินเสียงลื่อเสี่ยงเล่าอ้างกันเยอะแยะว่าการขอวีซ่าอเมริกายากหนักยากหนา!!! และในที่สุดการสัมภาษณ์วีซ่าครั้งแรกในชีวิตก็ไม่ผ่านครับ
ก่อนอื่นครับผมต้องชี้แจ้งก่อนว่าผมทำ Visa F-1 เพื่อไปเรียนภาษาที่อเมริกาครับ และเมืองที่ต้องการจะไปคือ New York ครับ
เอกสารที่ผมได้ทำการเตรียมไว้ก็คือ
1.Passport (ไม่เคยเดินทางออกนอกประเทศ)
2.I-20
3.Sevis Fee
4.Transcript KU.(เกรดเฉลี่ย 2.14)
5.ใบรับรองการศึกษาจากทางมหาลัย
5.ใบรับรองการทำงาน
6.หลักฐานจากสปอนเซอร์
-หนังสือรับรองการทำงาน (ราชการ)
-สำเนาทะเบียนบ้าน,บัตรประชาชน,รวมถึง Passport
-หนังสือรับรองการเงินจากธนาคาร 2 ธนาคาร (รวมแล้วประมาณ 1.6 ล้าน)
-จดหมายรับรองจากสปอนเซอร์
หลังจากที่ได้รวบรวมเอกสารต่างๆ นาๆ มาได้ประมาณ 2 เดือนกว่าๆ จนครบและเลือกวันสัมภาษณ์ ซึ่งผมก็เลือกวันที่ 7 พฤศจิกานี่แหละน่าจะบรรเจิดสุดและเวลาที่เลือกก็เป็ช่วงเวลา 8.00 น. เพราะคิดเอาเองว่าเป็นช่วงเวลาเช้าท่านกงศุลน่าจะอารมณ์ดี ซึ่งก่อนหน้านั้นหนึ่งวันเอาฤกษ์เอาชัยโดยการให้หลวงพ่อเปากระหม่อมเพื่อเพิ่มความมั่นใจ และก็มาเริ่มเข้าเรื่องครับ
ด่านแรกที่ทุกคนต้องเจอก็คือเจ้าหน้าที่คนไทยโดยจะทำการสัมภาษณ์เบื้องต้นและแยกเอกสารพร้อมทั้ง Scan นิ้วมือซึ่งก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร จากนั่นก็ไปต่อแถวสัมภาษณ์กับทางเจ้าหน้าที่กงศุลซึ่งเป็นด่านสุดท้ายที่จะวัดกันว่าจะได้ไปฟรุ้งฟริ้งเก๋ๆ ที่อเมริกาหรือไม่ โดยที่ผมสัมภาษณ์กับท่านกงศุลที่เป็นผู้หญิงผิวสี ซึ่งท่านก็สอบถามดังนี้นะครับ
เดินเข้าไปพร้อมยกมือไหว้แบบไทยๆ สวัสดีครับ
ท่านกงศุล : สวัสดีคะ
เรา : สวัสดีครับ
ท่านกงศุล : คุณจะไปทำไมที่อเมริกา?
เรา : ไปเรียนภาษาครับ
ท่านกงศุล : ทำไมถึงต้องไปเรียนภาษาที่อเมริกา?
เรา : อยากพัฒนาทักษะด้านภาษาเพื่อใช้กับการทำงานและปรับเปลี่ยนตำแหน่งให้สูงขึ้น
ท่านกงศุล : คุณทำงานที่ไหน?
เรา : XXXX
ท่านกงศุล : คุณจะทำอะไรหลังจากเรียนจบ?
เรา : กลับมาทำงานในบริษัท DHL ในตำแหน่ง XXX ครับ
ท่านกงศุล : คุณจะไปเรียนนานเท่าไหร่
เรา : 4 เดือนครับ
ท่านกงศุล : ขอดู Transcript หน่อยคะ
ท่านกงศุลก็พิมพ์ก๊อกแก๊กๆ บอกว่าเสียใจด้วยคะ คุณไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะได้รับอนุมัติวีซ่าให้ได้ พร้อมกับให้กระดาษแผ่นเล็กประมาณครึ่ง A4
ผมก็เลยถามว่าผมยังขาดคุณสมบัติตรงไหนครับผมจะได้เพิ่มเติมและชี้แจงครับ ท่านกงศุลก็บอกว่าข้อมูลทั้งหมดอยู่ในกระดาษแล้วคะ และในกระดาษก็เขียนว่า "ท่านไม่มีคุณสมบัติเพียงพอทีจะได้รับวีซ่าชั่วคราวภายใต้มาตรา 214(ฺb) ตามพระราชบัญญัติตรวจคนเข้าเมืองและสัญชาติอเมริกัน การไม่ได้รับอนุมัติวีซ่าภายใต้มาตรา 214 (b) หมายความว่า ท่านไม่สามารถแสดงให้เห็นได้ว่าท่านมีคุณสมบัติตรงงตามประเภทวีซ่าชั่วคราวที่ท่านสมัคร"
รบกวนผู้รู้แนะแนวครับว่า เกรดของผมมีผลอย่างมากไหมครับที่ทางเจ้าหน้าที่กงศุลเห็นแล้วจะไม่อนุมัติวีซ่าให้ เพราะว่าต้องยอมรับว่าตอนเรียนเกเรมากสมัยเรียนและกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว (ปัจจุบันผมอายุ 25 ครับจบแล้วทำงานได้ประมาณ 1 ปีกว่าๆ ) และพอมีแนวทางอะไรบ้างครับที่จะทำให้คนเกรดน้อยๆ อย่างผมสามรถทำวีซ่า F-1 ผ่านครับ (อย่าบอกว่าทำใจน๊า TT) ผมจะได้เตรียมตัวดำเนินการเรื่องเอกสาร ซึ่งคิดไว้ว่าจะยื่นเรื่องใหม่ช่วงต้นเดือนมกราคม 60 ครับ คิดว่าจะสู้อีกครั้งครับ ถ้าข้อมูลขาดตกบกพร่องข้อมูลในส่วนไหนต้องขออภัยด้วยนะครับ เป็นกระทู้แรกของผมครับ
Visa F-1 ครั้งแรกก็ไม่ผ่าน (รบกวนเพื่อนๆ พี่ๆ แนะนำแนวทางด้วยครับ)
ก่อนอื่นครับผมต้องชี้แจ้งก่อนว่าผมทำ Visa F-1 เพื่อไปเรียนภาษาที่อเมริกาครับ และเมืองที่ต้องการจะไปคือ New York ครับ
เอกสารที่ผมได้ทำการเตรียมไว้ก็คือ
1.Passport (ไม่เคยเดินทางออกนอกประเทศ)
2.I-20
3.Sevis Fee
4.Transcript KU.(เกรดเฉลี่ย 2.14)
5.ใบรับรองการศึกษาจากทางมหาลัย
5.ใบรับรองการทำงาน
6.หลักฐานจากสปอนเซอร์
-หนังสือรับรองการทำงาน (ราชการ)
-สำเนาทะเบียนบ้าน,บัตรประชาชน,รวมถึง Passport
-หนังสือรับรองการเงินจากธนาคาร 2 ธนาคาร (รวมแล้วประมาณ 1.6 ล้าน)
-จดหมายรับรองจากสปอนเซอร์
หลังจากที่ได้รวบรวมเอกสารต่างๆ นาๆ มาได้ประมาณ 2 เดือนกว่าๆ จนครบและเลือกวันสัมภาษณ์ ซึ่งผมก็เลือกวันที่ 7 พฤศจิกานี่แหละน่าจะบรรเจิดสุดและเวลาที่เลือกก็เป็ช่วงเวลา 8.00 น. เพราะคิดเอาเองว่าเป็นช่วงเวลาเช้าท่านกงศุลน่าจะอารมณ์ดี ซึ่งก่อนหน้านั้นหนึ่งวันเอาฤกษ์เอาชัยโดยการให้หลวงพ่อเปากระหม่อมเพื่อเพิ่มความมั่นใจ และก็มาเริ่มเข้าเรื่องครับ
ด่านแรกที่ทุกคนต้องเจอก็คือเจ้าหน้าที่คนไทยโดยจะทำการสัมภาษณ์เบื้องต้นและแยกเอกสารพร้อมทั้ง Scan นิ้วมือซึ่งก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร จากนั่นก็ไปต่อแถวสัมภาษณ์กับทางเจ้าหน้าที่กงศุลซึ่งเป็นด่านสุดท้ายที่จะวัดกันว่าจะได้ไปฟรุ้งฟริ้งเก๋ๆ ที่อเมริกาหรือไม่ โดยที่ผมสัมภาษณ์กับท่านกงศุลที่เป็นผู้หญิงผิวสี ซึ่งท่านก็สอบถามดังนี้นะครับ
เดินเข้าไปพร้อมยกมือไหว้แบบไทยๆ สวัสดีครับ
ท่านกงศุล : สวัสดีคะ
เรา : สวัสดีครับ
ท่านกงศุล : คุณจะไปทำไมที่อเมริกา?
เรา : ไปเรียนภาษาครับ
ท่านกงศุล : ทำไมถึงต้องไปเรียนภาษาที่อเมริกา?
เรา : อยากพัฒนาทักษะด้านภาษาเพื่อใช้กับการทำงานและปรับเปลี่ยนตำแหน่งให้สูงขึ้น
ท่านกงศุล : คุณทำงานที่ไหน?
เรา : XXXX
ท่านกงศุล : คุณจะทำอะไรหลังจากเรียนจบ?
เรา : กลับมาทำงานในบริษัท DHL ในตำแหน่ง XXX ครับ
ท่านกงศุล : คุณจะไปเรียนนานเท่าไหร่
เรา : 4 เดือนครับ
ท่านกงศุล : ขอดู Transcript หน่อยคะ
ท่านกงศุลก็พิมพ์ก๊อกแก๊กๆ บอกว่าเสียใจด้วยคะ คุณไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะได้รับอนุมัติวีซ่าให้ได้ พร้อมกับให้กระดาษแผ่นเล็กประมาณครึ่ง A4
ผมก็เลยถามว่าผมยังขาดคุณสมบัติตรงไหนครับผมจะได้เพิ่มเติมและชี้แจงครับ ท่านกงศุลก็บอกว่าข้อมูลทั้งหมดอยู่ในกระดาษแล้วคะ และในกระดาษก็เขียนว่า "ท่านไม่มีคุณสมบัติเพียงพอทีจะได้รับวีซ่าชั่วคราวภายใต้มาตรา 214(ฺb) ตามพระราชบัญญัติตรวจคนเข้าเมืองและสัญชาติอเมริกัน การไม่ได้รับอนุมัติวีซ่าภายใต้มาตรา 214 (b) หมายความว่า ท่านไม่สามารถแสดงให้เห็นได้ว่าท่านมีคุณสมบัติตรงงตามประเภทวีซ่าชั่วคราวที่ท่านสมัคร"
รบกวนผู้รู้แนะแนวครับว่า เกรดของผมมีผลอย่างมากไหมครับที่ทางเจ้าหน้าที่กงศุลเห็นแล้วจะไม่อนุมัติวีซ่าให้ เพราะว่าต้องยอมรับว่าตอนเรียนเกเรมากสมัยเรียนและกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว (ปัจจุบันผมอายุ 25 ครับจบแล้วทำงานได้ประมาณ 1 ปีกว่าๆ ) และพอมีแนวทางอะไรบ้างครับที่จะทำให้คนเกรดน้อยๆ อย่างผมสามรถทำวีซ่า F-1 ผ่านครับ (อย่าบอกว่าทำใจน๊า TT) ผมจะได้เตรียมตัวดำเนินการเรื่องเอกสาร ซึ่งคิดไว้ว่าจะยื่นเรื่องใหม่ช่วงต้นเดือนมกราคม 60 ครับ คิดว่าจะสู้อีกครั้งครับ ถ้าข้อมูลขาดตกบกพร่องข้อมูลในส่วนไหนต้องขออภัยด้วยนะครับ เป็นกระทู้แรกของผมครับ