บทนำ
“พี่เอกต้องไปจริงๆ เหรอคะ” ฉันในวัยสิบเอ็ดขวบถามคำถามนี้กับพี่ข้างบ้านที่แก่กว่าสามปี...ไปกี่ครั้งแล้วนะ ในระหว่างที่เขาช่วยผลักชิงช้าไม้ใต้ต้นมะม่วงตรงหลังบ้านของฉัน ...ให้...ครั้งแล้ว...ครั้งเล่า
“จริงๆ สิ” ถึงจะมองไม่เห็นหน้าพี่เอกที่อยู่ข้างหลัง...แต่ฉันก็รู้สึกถึงรอยยิ้มอบอุ่นของเขาได้
“แล้วพี่เอกจะกลับมาไหมคะ” นี่ก็เป็นอีกคำถามที่ฉันย้ำกับเขาไปตั้งไม่รู้กี่ครั้งในรอบไม่กี่นาทีที่ผ่านมา
ราวกับว่า...ฉันอยากจะฟังคำตอบที่เป็นอย่างอื่น นอกจาก... “พี่ไม่กลับมาที่นี่อีกแล้วล่ะ”
“เอก...ได้เวลาเดินทางแล้วลูก” เสียงน้าพิสมัยเรียกลูกชายดังมาจากหน้าบ้าน
“ครับแม่” เจ้าของชื่อขานรับทันควัน มันแปลว่า...อีกไม่กี่นาทีต่อจากนี้...ฉันกับเขาก็จะจากกันแล้วใช่ไหม
น้ำตาของฉันร่วงลงบนตักทีละหยด...ทีละหยด จนในที่สุดมันก็ไม่อาจจะถูกเรียกว่าหยดได้อีกต่อไป มันพรั่งพรูออกมาราวกับสายน้ำ...และฉันก็ไม่สามารถหยุดหรือเพลามันให้เบาลงกว่านี้ได้เลย
“อย่าไป...อย่าไปได้ไหม” ฉันพยายามจะเปล่งเสียงทัดทานสิ่งที่จะเกิดขึ้น
แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีเรี่ยวแรงพอจะรั้งอีกฝ่ายไม่ให้ไปได้
“พี่ไปอยู่กรุงเทพฯ แพรไปกรุงเทพเมื่อไหร่ ก็แวะไปเยี่ยมพี่ได้ตลอดนะ” พี่เอกนั่งยองๆ ตรงหน้าแล้วใช้สองมือจับที่หัวไหล่ฉันอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเอ่ยคำพูดที่คล้ายจะเป็นคำปลอบโยน จากนั้นเขาก็ลุกและเดินจากไป...โดยไม่หันกลับมาอีก
ฉันก้มหน้าร้องไห้อยู่หลายนาที “พี่เอก...พี่เอก อย่าไปได้ไหม” เมื่อผละตัวออกจากชิงช้า ไม่จำเป็นต้องคิดว่าฝีเท้าของฉันจะไล่รถเก๋งที่เขานั่งได้ทันหรือไม่...เพียงแค่หัวใจมันบอกให้ฉันวิ่ง วิ่ง วิ่ง...และวิ่ง ตามสิ่งซึ่งกำลังไกลจากฉันออกไป ทุกที...ทุกที
**********************
รักวุ่นวายของยัยต่างจังหวัด (สายป่านสีชมพู : เขียน ฮิปโปโปตัวโตพุงโลชะมัด : เรื่อง)
“พี่เอกต้องไปจริงๆ เหรอคะ” ฉันในวัยสิบเอ็ดขวบถามคำถามนี้กับพี่ข้างบ้านที่แก่กว่าสามปี...ไปกี่ครั้งแล้วนะ ในระหว่างที่เขาช่วยผลักชิงช้าไม้ใต้ต้นมะม่วงตรงหลังบ้านของฉัน ...ให้...ครั้งแล้ว...ครั้งเล่า
“จริงๆ สิ” ถึงจะมองไม่เห็นหน้าพี่เอกที่อยู่ข้างหลัง...แต่ฉันก็รู้สึกถึงรอยยิ้มอบอุ่นของเขาได้
“แล้วพี่เอกจะกลับมาไหมคะ” นี่ก็เป็นอีกคำถามที่ฉันย้ำกับเขาไปตั้งไม่รู้กี่ครั้งในรอบไม่กี่นาทีที่ผ่านมา
ราวกับว่า...ฉันอยากจะฟังคำตอบที่เป็นอย่างอื่น นอกจาก... “พี่ไม่กลับมาที่นี่อีกแล้วล่ะ”
“เอก...ได้เวลาเดินทางแล้วลูก” เสียงน้าพิสมัยเรียกลูกชายดังมาจากหน้าบ้าน
“ครับแม่” เจ้าของชื่อขานรับทันควัน มันแปลว่า...อีกไม่กี่นาทีต่อจากนี้...ฉันกับเขาก็จะจากกันแล้วใช่ไหม
น้ำตาของฉันร่วงลงบนตักทีละหยด...ทีละหยด จนในที่สุดมันก็ไม่อาจจะถูกเรียกว่าหยดได้อีกต่อไป มันพรั่งพรูออกมาราวกับสายน้ำ...และฉันก็ไม่สามารถหยุดหรือเพลามันให้เบาลงกว่านี้ได้เลย
“อย่าไป...อย่าไปได้ไหม” ฉันพยายามจะเปล่งเสียงทัดทานสิ่งที่จะเกิดขึ้น
แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีเรี่ยวแรงพอจะรั้งอีกฝ่ายไม่ให้ไปได้
“พี่ไปอยู่กรุงเทพฯ แพรไปกรุงเทพเมื่อไหร่ ก็แวะไปเยี่ยมพี่ได้ตลอดนะ” พี่เอกนั่งยองๆ ตรงหน้าแล้วใช้สองมือจับที่หัวไหล่ฉันอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเอ่ยคำพูดที่คล้ายจะเป็นคำปลอบโยน จากนั้นเขาก็ลุกและเดินจากไป...โดยไม่หันกลับมาอีก
ฉันก้มหน้าร้องไห้อยู่หลายนาที “พี่เอก...พี่เอก อย่าไปได้ไหม” เมื่อผละตัวออกจากชิงช้า ไม่จำเป็นต้องคิดว่าฝีเท้าของฉันจะไล่รถเก๋งที่เขานั่งได้ทันหรือไม่...เพียงแค่หัวใจมันบอกให้ฉันวิ่ง วิ่ง วิ่ง...และวิ่ง ตามสิ่งซึ่งกำลังไกลจากฉันออกไป ทุกที...ทุกที