เรื่องมีอยู่ว่าคุณพ่อของผม ซึ่งปัจจุบันมีอายุ 58 ปี ท่านมาเล่าให้ฟังว่าเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา คุณพ่อได้เข้าไปเรียนขออนุญาตลาออกกับท่านผู้บริหารสูงสุดของบริษัทฯ โดยพูดด้วยวาจาว่ามีปัญหาสุขภาพอยากจะขอหยุดการทำงาน และแจ้งว่าจะขอทำงานถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2559 (แจ้งลาออกล่วงหน้าประมาณ 4 เดือน เพื่อให้ทางบริษัทฯ เตรียมหาคนมาแทน) แต่ก็ได้รับการทัดทาน ว่าขอให้อยู่ทำงานจนกว่าจะถึงที่สุดจริงๆ จึงค่อยมาบอกอีกครั้ง ซึ่งคุณพ่อของผมก็ตอบยืนยันว่า ขอลาออกแน่นอน เนื่องจากมีปัญหาสุขภาพ และวันเวลาก็ผ่านมาเรื่อยๆ สิ้นเดือนกันยายน คุณพ่อก็โทรศัพท์แจ้งกับท่านผู้บริหารฯ ว่าขอลาออกแน่นอนครับ และก่อนสัปดาห์สิ้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ก็โทรศัพท์แจ้งอีกว่าขอลาออกแน่นอน เจ้านายของคุณพ่อก็เดินทางมาพบที่บ้านพัก และก็เจรจาขอให้อยู่ทำงาน ให้ถึงที่สุดจริงๆ เถอะน่ะ แต่คุณพ่อก็ยืนยันเหมือนเดิมครับ
     จนกระทั่งเมื่อวันอังคารที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาคุณพ่อก็ตัดสินใจเขียนใบลาออกเป็นลายลักษณ์อักษร ว่าขอลาออกเนื่องจากมีปัญหาสุขภาพและต้องการหยุดการทำงาน โดยแจ้งว่าจะขอทำงานถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2559 และถ่ายสำเนาเอกสารการลาออกตามแบบฟอร์มของบริษัทฯ ส่งให้ทาง Line กับ HR ของบริษัทฯ ในเบื้องต้นก่อน (คุณพ่อทำงานอยู่ต่างจังหวัดไม่สะดวกในการส่งเอกสารต้นฉบับ) เพื่อเป็นการยืนยันว่าขอลาออกแน่นอนครับ ซึ่งทาง HR ได้ตอบรับทาง Line ว่ารับทราบ
     และเมื่อวันวานวันที่ 3 พฤศจิกายน คุณพ่อของผมท่านเดินทางเข้ามาประชุมที่ กทม. ก็เลยถือโอกาสเอาใบลาออก (ต้นฉบับตัวจริง) มายื่นให้กับฝ่ายบุคคลของบริษัทฯ พร้อมให้ลงรับเอกสารตัวจริงไว้เป็นหลักฐาน และคุณพ่อก็เล่าให้ฟังว่า ทางฝ่ายบุคคลไม่อยากจะลงนามรับเอกสารใบลาออก เหมือนกับได้รับคำสั่งแจ้งไม่ให้รับใบลาออกจากคุณพ่อ โดยขอให้ไปยื่นกับเจ้านายของคุณพ่อเอง คุณพ่อก็บอกว่าเคยมายื่นหนังสือลาออกมาตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยสำเร็จและถูกปฏิเสธทุกครั้ง และคุณพ่อต้องดุฝ่ายบุคคลว่าคุณทำงานตามหน้าที่ของคุณไปเถอะ  จึงยอมลงชื่อรับเอกสารใบลาออกครับ (ใช้ดินสอในการลงรับในเอกสารแผ่นเดียว และไม่ยอมถ่ายสำเนาเป็นหลักฐานให้คุณพ่อ)

     ประเด็นที่เขียนมาขอคำแนะนำ ก็คือว่า
     1. การยื่นเอกสารลาออกแบบนี้ถือว่าสมบูรณ์ถูกต้องหรือไม่? ซึ่งในเอกสารแผ่นนี้ต้องให้เจ้านายของคุณพ่อเป็นผู้ลงนามอนุมัติ เท่านั้น และกว่าจะรู้ผลอนุมัติก็เกือบ 2 เดือน (หมายความว่าปฏิเสธไม่ได้รับเอกสารครับ)
     2. หลักฐานที่ส่งแจ้งทาง Line ให้ทาง HR เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา โดยคุณพ่อได้มีการสำเนาหน้าจอไว้เป็นหลักฐานเบื้องต้นได้หรือไม่? (กรณีที่เอกสารตามข้อ 1 ไม่ได้รับการอนุมัติจากเจ้านายจะนำใช้เป็นหลักฐานการลาออก)
     3. จากข้อ 1. และ ข้อ 2. หากทุกคนปฎิเสธว่าไม่ได้รับหลักฐานการการลาออกจากคุณพ่อ คุณพ่อจะหยุดการทำงานตามที่กำหนดไว้คือ 30 ธันวาคม 2559 ได้เลยหรือไม่? ครับ และจะมีผลด้านกฎหมายแรงงานกับการทำแบบนี้อย่างไรบ้างครับ

    ปัญหาที่คุณพ่อของผมมาเล่าให้ฟัง เพราะท่านกังวลว่าจะมีผลกระทบกับการขอรับเงินคืนจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและสวัสดิการอื่นๆ ที่พึงได้จากบริษัทฯ และขอยืนยันน่ะครับว่าที่คุณพ่อ ขอลาออกครั้งนี้ไม่ได้มีปัญหาการทุจริตหรือประพฤติมิชอบทั้งนั้น ที่คุณพ่อเล่าให้ฟังนี้เป็นความผูกพัน ที่ท่านทำงานร่วมกันมาเจ้านายเป็นเวลา 25ปี จึงถูกทัดทานมาตลอด อีกทั้งกังวลว่าต้นปีหน้า มกราคม-กุมภาพันธ์ 2560 คุณพ่อได้วางแผนพาคุณแม่ไปท่องเที่ยวต่างประเทศกันสองคนแล้วครับ

    จึงเขียนกระทู้มาเพื่อขอคำแนะนำและวิธีปฎิบัติที่ถูกต้อง ขอขอบคุณครับ