หลังจากผ่านสนามที่ 17 ของฤดูกาล ตำแหน่งแชมป์โลกทั้ง 3 รุ่นของ MotoGP นั้นถูกตัดสินไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย Johann Zarco ยอดนักบิดชาวฝรั่งเศส สามารถคว้าตำแหน่งแชมป์โลกในรุ่น Moto2 ได้อย่างสวยสดงามด้วยการชนะการแข่งขันที่เซปัง ทำให้เค้าเป็นนักแข่งคนแรกในรุ่น Moto2 ที่สามารถป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ และเป็นคนที่ 4 ต่อจาก Max Biaggi, Deni Pedrosa และ Jorge Lorenzo ถ้าหากนับในรุ่น 250cc รวมเข้าไปด้วย



ย้อนกลับไปดูการแข่งขันที่ฟิลลิป ไอส์แลนด์ ในรายการ Michelin Australian Motorcycle Grand Prix ที่ประเทศออสเตเรียเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ที่ตลอดทั้ง 3 วันสุดสัปดาห์นั้น อุณหภูมิที่เมลเบิร์นค่อนข้างจะต่ำและมีฝนตกในหลายเซสชั่นของวันศุกร์และเสาร์ Marc Marquez เจ้าของแชมป์โลกโมโตจีพีปีนี้นั้นพกความมั่นใจไปแบบเต็มเปี่ยม และก็ทำผลงานได้ดีตามคาด ทำเวลาได้ดีในทุกรอบและคว้าตำแหน่ง Pole ในการออกสตาร์ทได้สำเร็จ



เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงค่อนข้างจะบ่อย ทำให้มีนักแข่งหลายคนที่ปกติจะผ่านเข้า Q2 หลังจากจบ FP3 ต้องหล่นไปยัง Q1 ไม่ว่าจะเป็น 2 นักแข่งของ Yamaha, Cal Crutchlow หรือ Maverick Vinales จาก Suzuki ซึ่งถึงเป็น 1 ในตัวเต็งที่จะคว้าแชมป์ที่สนามนี้ด้วย เนื่องจาก MV25 และทีมงานไม่สามารถแก้ปัญหาในการเซ็ตอัพให้ดีได้ในช่วงฝึกซ้อมและคอลลิฟาย ทำให้ต้องหล่นไปออกสตาร์ทจากอันดับที่ 13 (จบอันดับที่ 3 ใน Q1 ทำให้ไม่ผ่านเข้าไป Q2)



ทางด้าน Valentino Rossi ต้องเจอปัญหาการนับจำนวนรอบการใช้ยางผิดที่ห้ามใช้ยาง Extra soft เกิน 10 รอบ ทำให้เวลาที่ทำได้ดีในช่วง FP1 นั้นไม่ถูกนับ ทำให้เค้าต้องหลุดจาก Top 10 ที่ได้ผ่านเข้า Q2 โดยอัตโนมัติไปอย่างน่าเสียดาย ขณะที่ Lorenzo ถึงแม้ว่าจะผ่าน Q1 เข้าไป Q2 แต่ก็ไม่สามารถทำอันดับให้ขึ้นไปอยู่ใน 2 แถวหน้าได้



ในวันแข่งนั้น น้องฝนไม่มาอย่างที่เคย 2 นักแข่งที่ใช้รถ Honda RC213V อย่าง Marquez และ Cal Crutchlow นั้นออกสตาร์ทได้ดีและขี่ได้อย่างแข็งแกร่ง โดยมี 2 พี่น้อง Espagaro และโดวิจาก Ducati เกาะอยู่ในกลุ่มนำในช่วงแรกๆ ขณะเดียวกัน รถเบอร์ 46 และ 25 ที่ออกสตาร์ทในกลุ่มกลางๆ ก็ค่อยๆทำอันดับไล่ขึ้นมาเรื่อยๆ



จนกระทั่งรอบที่ 9 MM93 พา Honda RC213V คู่ใจลงไปนอนตัดหญ้าต้องออกจากการแข่งขันไป ซึ่งในรอบเดียวกันนี้ Rossi นั้นขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 2 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วถึงตรงนี้ แฟนๆของคุณหมอต่างก็ลุ้นกันตัวโก่งว่าจะไล่ตามรถเบอร์ 35 ทันรึเปล่า แต่สุดท้ายท้ายสุด รถ YZR-M1 ของรอสซี่ก็ใช้ยางจากการไล่แซงไปจนหมดละ ไม่สามารถทำเวลาขยับเข้าใกล้รถของแคลไปได้ ทำให้คุณพ่อลูก 1 อย่าง Cal Crutchlow นั้นคว้าแชมป์ที่ 2 ของตัวเองในปีนี้ไปครองได้สำเร็จและนี่เป็นการชนะในการแข่งขันแบบปกติครั้งแรกด้วย หลังจากแชมป์ครั้งแรกที่ทำได้ที่เบอร์โน่นั้นเป็นการแข่งขันท่ามกลางสายฝน  


เป็นเรื่องที่หน้าเหลือเชื่อเหมือนกันสำหรับทีม LCR ที่ในสภาวะที่สถานะทางการเงินของทีมนั้นไม่ค่อยดีนัก ทำให้ปีนี้ต้องกลับมาเหลือรถคันเดียวอีกครั้ง แต่กลับทำผลงานได้ยอดเยี่ยมสุดๆ การคว้าชัยชนะสำหรับทีมอิสระนั้นถือว่าไม่เกิดขึ้นมานานแล้ว แต่ในปีนี้ ทีมสามารถทำได้ถึง 2 ครั้ง นอกจากการทำงานหนักของทุกคนในทีมแล้ว แน่นอนว่าก็ต้องตบมือดังๆให้กับ Cal ที่กลับมาอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยมอีกครั้ง รวมไปถึงความช่วยเหลือจาก HRC ที่เชื่อกันว่าสเปครถของทีม LCR นั้นเกือบจะเท่ากับรถของทีมโรงงานเลยทีเดียว



ก็หวังว่าผลงานตรงนี้ จะช่วยให้ Lucio Cecchinello สามารถหาผู้สนับสนุนได้มากขึ้นและกลับมามีรถ 2 คันได้อีกครั้งในปี 2018 ตามโควต้าที่สำรองไว้ให้เค้า ซึ่งนั่นจะทำให้ทุกทีมใน MotoGP มีรถ 2 คันทั้งหมดและมีจำนวนรถครบตามเป้า 24 คันของ Dorna การเพิ่มจำนวนรถ ยังจะทำให้บรรดาดาวรุ่งจากรุ่น Moto2 จะมีพื้นที่ให้ก้าวขึ้นไปรุ่นพรีเมียร์ได้มากขึ้นอีกด้วย



ส่วนอันดับที่ 3 นั้นตกเป็นของน้องวิน ที่พารถ GSX-RR ไล่แซง AE41 เพื่อนร่วมทีมและรถ GP16 ของ Dovizioso ได้สำเร็จ ซึ่งน่าเสียดายที่อเล็กซ์ที่ขี่ได้ดีมากๆในวันนี้ต้องพลาดล้มออกไปในรอบ 22 อย่างน่าเสียดาย โดยโพเดี่ยมนี้ของบีญาเลสนั้นทำให้ Suzuki มีคะแนน Concession ครบ 6 คะแนนพอดี ซึ่งจะไม่ได้สิทธิพิเศษในปีหน้าแล้ว เลื่อนชั้นขึ้นไปอยู่กลุ่มเดียวกันกับ 3 โรงงานอย่าง Honda, Yamaha และ Ducati อย่างไม่ค่อยเต็มใจ ห้า ห้า ต้องรอดูว่าในปีหน้า Suzuki จะวางแผนในการพัฒนารถและเตรียมทีมยังไง



แฟนๆของ Yamaha หรือ Suzuki อาจจะแอบเสียดาย ที่นักแข่งของตัวเองไม่สามารถ Qualify ได้ดี ไม่เช่นนั้น เราอาจจะมีโอกาสได้เห็นรถ 4-5 คัน แย่งแชมป์กันอีกครั้งเหมือนเช่นในปีที่แล้วก็เป็นได้ โดยเฉพาะรถ GSX-RR ของ Suzuki นั้น ที่ชอบสนามที่มีโค้งแบบลื่นไหลและอากาศเย็น ซึ่ง Vinales นั้นทำเวลาได้ดีตั้งแต่ในการทดสอบเมื่อก่อนเปิดฤดูกาลรวมถึงในเซสชั่นที่ไม่มีฝน



แต่สภาพอากาศก็เป็นส่วนนึงของการแข่งขัน นักแข่งที่รับมือกับมันได้ดีที่สุดก็จะได้รับผลการแข่งขันที่ดีที่สุดในสัปดาห์นั้นไป ซึ่งทาง Suzuki ก็ต้องเร่งแก้ไขเรื่องการเซ็ตอัพในสนามเปียกต่อไป ส่วนประเด็นการล้มของ MM นั้น ก็ไม่มีอะไรในกอไผ่ MM บอกว่าเค้าแค่พยายามขี่ให้เร็วที่สุด เนื่องจากไม่ต้องกังวลในเรื่องคะแนนสะสมแล้ว พูดง่ายๆคือได้ปล่อยผีอีกครั้ง ทำให้ไม่ต้องระวังเรื่องล้มเท่าไหร่ พอพลาดแล้ว มันก็ล้มไปเลย


สำหรับรุ่น Moto2 นั้น เป็น Tom Luthi ที่ยังแรงไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ในช่วงนี้ สนามนี้เค้าขี่นำอยู่เกือบทั้งเรซ แต่มาโดน Morbidelli แซงได้ในรอบก่อนสุดท้าย แต่ลูธิก็อาศัยลมดูดในช่วงทางตรงสั้นๆก่อนที่จะแซงเข้าเส้นชัยไปได้แบบเส้นยาแดงผ่าแปด คว้าแชมป์ไปได้อย่างน่าตื่นเต้น ทำให้เค้าขยับขึ้นมาเป็นนักแข่งที่ยังมีลุ้นแชมป์โลกได้แบบไม่น่าเชื่อ



ที่ต้องพูดถึงอีกประเด็นนึงก็คือในรุ่น Moto3 นั้นมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเยอะมาก โดยเฉพาะรอบที่ต้องหยุดการแข่งขัน เนื่องจาก John Maphee นักแข่งทีมเปอร์โยนั้นพลาดล้มในขณะที่วิ่งอยู่ในกลุ่มนำ ทำให้ไปชนกันกับรถของ Andrea Migno และ Enea Bastianini ก่อนที่จะโดนรถของ Jorge Navaro ที่ตามชนซ้ำ ซึ่งน่ากลัวมาก เพราะหลังจากที่ล้มไป แมคฟีก็นอนแน่นิ่งไป ภาพของโทมิซาว่าและกับเจ้าหัวฟูย้อนกลับมาหลอกหลอนทันที โชคดีที่ตอนนี้อาการของเค้าปลอดภัยแล้ว โดยนอกจากหัวแม่มือที่ต้องผ่าตัดแล้ว ปอดของเค้าก็ฉีกขาด ทำให้ต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลในออสเตเรียต่ออีกอย่างน้อย 4-5 สัปดาห์ ก่อนที่จะบินกลับบ้านที่อังกฤษได้