อยากทราบครับ ถ้าท่านเป็นแพทย์ แล้วเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ท่านจะทำอย่างไร???

เป็นเคสที่เกิดขึ้นจริงครับ (แต่ผมไม่ได้เป็นคนให้การรักษา มีหมอที่เคารพท่านนึงมาปรึกษา)

หญิงตั้งครรภ์บุตรคนที่ 2 กับสามีคนที่ 2
(บุตรคนแรกกับสามีคนแรก)
มาฝากครรภ์ครั้งแรก ผลเลือดทุกตัวอยู่ในเกณฑ์ปกติ รวมถึงตรวจไม่พบการติดเชื้อ HIV
จากการคุยกับหญิงคนนี้ ได้ความว่า สามีของเธอมารับ "ยาบำรุง" ที่โรงพยาบาลนี้ทุกเดือน
โดยที่สามีไม่ได้บอกว่าตนเองเป็นโรคอะไร

แพทย์ที่ให้การรักษาหญิงคนนี้ จึงไปค้นประวัติของสามีมาดู พบว่าสามีติดเชื้อ HIV และได้รับยาต้านไวรัสอยู่

เมื่อคุยกับสามีแล้ว สามียืนยันว่า ไม่ให้บอกกับภรรยาอย่างเด็ดขาด และตนเองก็ไม่ใช้ถุงยางอนามัยกับหญิงที่ตั้งครรภ์อยุ๋รายนี้

อยากทราบความเห็นของเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ว่า
ถ้าท่านเป็นแพทย์ที่ให้การดูแลหญิงตั้งครรภ์รายนี้ ท่านจะบอกโรคที่สามีเป็น ให้ภรรยาทราบหรือไม่??
เพราะเหตุใดครับ??

ปล. ไม่มีผิดถูกครับ, ไม่ใช่หมอก็ตอบได้ครับ




ข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อช่วยในการตัดสินใจครับ

เรื่องสิทธิผู้ป่วย

หากมองในมุมมองของภรรยา ภรรยามีสิทธิรู้ข้อมูลนี้ เนื่องจากหากไม่รู้ เธออาจติดโรครุนแรงได้
สิทธิผู้ป่วยข้อ 3. ผู้ป่วยที่ขอรับบริการด้านสุขภาพมีสิทธิที่จะได้รับทราบข้อมูลอย่างเพียงพอและชัดเจน จากผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพ เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเลือกตัดสินใจในการยินยอม หรือไม่ยินยอม ให้ผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพปฏิบัติต่อตน เว้นแต่เป็นการช่วยเหลือ รีบด่วนหรือจำเป็น

หากมองในมุมมองของสามี เราไม่มีสิทธินำข้อมูลของสามีไปบอกภรรยา
สิทธิผู้ป่วยข้อ 7. ผู้ป่วยมีสิทธิที่จะได้รับการปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง จากผู้ประกอบวิชาชีพ ด้านสุขภาพโดยเคร่งครัด เว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากผู้ป่วยหรือการปฏิบัติ หน้าที่ตามกฎหมาย

========================================

สรุปได้คำตอบแล้วครับ

จากความเห็น 4-2 ที่อ้างอิงมาจากเว็บของมหาวิทยาลัยมหิดล
http://www.dt.mahidol.ac.th/DTID232/data/course/Patient_right_th.pdf

ก็สรุปได้ว่า ควรแจ้งให้ภรรยาทราบครับ เพราะเราแจ้งเพื่อคุ้มครองอันตรายร้ายแรงของบุคคลอื่น (อยู่ในหน้า6)
1.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่