ดูแล้วมาคุยกัน หมอแปลก ประเด็นทางปรัชญาที่ยังไปได้ไกลแต่เลือกที่จะไม่ไป

เอาภาพรวมก่อนนะครับ ภาพรวมผมชอบหนังเรื่องนี้นะ ดูสนุก เพลินไปกับจินตนาการ ตัวละครก็ทำออกมากำลังดี มุกตลกก็ไม่ต้องถี่หรือยัดเยียดพยายามมาก ให้คะแนนก่อนเลยรวมๆแล้วพอใจไม่เสียดายเงินเลย ให้ 7/10 ครับ

กลับมาที่ประเด็นตามหัวกระทู้
มีซีนที่ผมสะดุดเรื่องการตัดสินใจของหมอแปลก
ทัศนคติของหมอแปลกตอนคุยกับหลวงเจ๊ชัดเจนว่า หมอเป็นพวกสสารนิยม (บางครั้งใช้คำว่า วัตถุนิยม-คนละความหมายกับการบ้าแบรนด์เนมซื้อของนะ) คือไม่เชื่อเรื่องมิติทางจิตวิญญาณใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่เชื่อแม้แต่ว่า “จิต”ในความหมายแบบ “นามธรรม” มีอยู่ ความคิด ความรู้สึก ฯลฯ เป็นเพียงกลไกการทำงานของระบบประสาท (ใครสนใจเรื่อง “ความรู้สึก” หรือความ “ทรงจำ” ที่เป็นเพียงกลไกการทำงานของสมองล้วนๆ ลองอ่านงาน “โลกจิต” ของแทนไท ประเสริฐกุล ดู)

ความเชื่อของหมอแปลกตรงนี้ค่อนข้างไปกันได้กับอาชีพศัลยแพทย์ด้านประสาทวิทยา ที่ทำการผ่าตัดจัดการด้านสมอง ที่เห็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันว่า ความทรงจำ ความรู้สึกต่าง ๆ นั้นเป็นกลไกรูปธรรมมาก ๆ (เช่นถ้าจี้จุด ๆ หนึ่งในสมองคุณจะรู้สึกขำ เสียว หรือแม้แต่เศร้าโศกเสียใจ ฯลฯ)
สสารนิยม(หรือวัตถุนิยม) เป็นขั้วตรงข้ามกับ จิตนิยม (ที่คนส่วนใหญ่เชื่อ) คือ เชื่อว่ามนุษย์มีส่วนที่เป็นกายภาพและส่วนที่เป็นจิตวิญญาณ
ครั้งแรกที่หมอแปลกยอมรับว่ามนุษย์มีจิตมีวิญญาณคือตอนโดนหลวงเจ๊กระแทกวิญญาณวิญญาณหลุดออกจากร่าง (วินาทีแรกๆ ยังสงสัยว่าตัวเองโดนวางยาหรือไม่ด้วยซ้ำ)

คำถามคือ แล้วก่อนหน้านั้น ทำไมหมอแปลกถึงเชื่อเรื่องราวทางจิตวิญญาณที่ชายที่เป็นอัมพาตบอก? ทั้ง ๆ ที่มันไม่เข้ากับสิ่งที่แกเชื่อเลย ถึงกับยอมลงทุนเงินก้อนสุดท้ายมาเนปาล? นี่เป็นจุดสะดุดเดียวในหนังที่รู้สึกว่าไม่ค่อยสมเหตุผลเท่าไหร่

ประเด็นถัดมาคือ คนที่เชื่อแบบสสารนิยมมาทั้งชีวิตเมื่อมาค้นพบโลกทางจิตวิญญาณ ผมคิดว่ามันน่าจะมีอิมแพคกับตัวคน ๆ นั้นมาก ๆ นะ ทั้งในแง่คุณค่าของชีวิต (เอาแค่มีหรือไม่มีวิญญาณ นี่เช่น สสารนิยมเชื่อว่าสิ่งมีชีวิตก็เป็นกลไกทางชีวภาพตายแล้วก็ตายไปจบ แต่ถ้ามีวิญญาณนี้ไม่จบนะครับ แค่คุณเชื่อต่างกันเรื่องนี้ การกำหนดคุณค่า ความหมายของชีวิตก็แตกต่างกันมากๆ) การกำหนดเป้าหมายชีวิต ฯลฯ

จริงๆ ส่วนนี้ถ้า “หนังต้องการ” จะผลักประเด็นและขยายความ ก็เป็นเรื่องน่าสนใจมาก ๆ มันน่าจะทำให้หนัง “ไปได้ไกล”ในทางลึกมากกว่านี้

แต่โอเค หนังไม่ได้สนใจจะผลักประเด็นนี้เสียเท่าไหร่นัก ก็ถือว่าไม่เป็นไร เพียงแค่เสียดายนิดหน่อย เท่านั้นเอง เพราะภาพรวมหนังดูสนุกดีครับและชอบมาก ๆ

เผลอๆ หากมุ่งไปทางลึกเกิน อาจจะชวนง่วงและน่าเบื่อก็ได้เนอะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่