นมผงที่วิเศษที่สุด เมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว
"นมผงพระราชทานจาก"
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9
เมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว สภาพบ้านเมืองในพื้นที่ต่างจังหวัด ยังคงมีความกันดาน แร้นแค้น ห่างไกลขาดการพัฒนาอยู่ไม่น้อย
รวมทั้งจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของผม ผมเกิดที่สุรินทร์ปี 2529 เป็นลูกหลานชาวนายากจนทั่วไป เหมือนๆ กับครอบครัวอื่นที่สภาพความเป็นอยู่ ฐานะ คงไม่แตกต่างกันมาก ลูกคนยากคนจนสมัยนั้นที่เกิดมา อาหารหลักคือนมน้ำแม่ ข้าวต้มเหลว กล้วยบด น้อยนักที่จะมีปัญญาซื้อหานม นมผง หรืออาหารเลี้ยงเด็กสำเร็จรูป หรืออาหารเสริมอื่นใด
"แต่"
คงเป็นบุญของชีวิตของผมอยู่ไม่น้อย ที่เกิดมามีโอกาสได้กินนมผงกับเขาด้วย อย่างที่ผมบอก เป็นนมผงที่วิเศษที่สุด ในยุคนั้นอีกทั้งสภาพความยากจนของครอบครัว เป็นไปไม่ได้เลยที่ แม่จะหาซื้อนมผงมาเลี้ยงดูผม
"มาดู กระป๋องนมผงที่วิเศษที่สุด เมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว กันดีกว่า"
ภาพกระป๋องนมผงสวนดุสิต ผลิตในวังจิตรลดา เมื่อ 30 ปีที่แล้ว
ภาพนมผงสวนดุสิต ในปัจจุบัน
"ใช้แล้วครับ"
นี้เป็นยี่ห้อนมผงที่วิเศษที่สุด ที่ผมเคยได้กิน กระป๋องเดียวในชีวิต สมัยเป็นเด็กอ่อน หลายคนอาจไม่เข้าใจ มันเป็นนมที่วิเศษยังไง ผมจะขออธิบายสั้นๆ มันเป็นนมผงที่เกิดในวังสวนจิตรลดา ซึ่งเป็นโครงการส่วนพระองค์ อันเป็นโรงงานต้นแบบในการแปรรูป น้ำนมดิบ ซึ่งรับจากเกษตรกรเลี้ยงโคนม
แต่เดิมนั้น ก่อนหน้าที่จะมีโรงงานต้นแบบเพื่อแปรรูปน้ำนมดิบ พระองค์ทรงส่งเสริมและพระราชทานอาชีพเลี้ยงเลี้ยงวัวนมแก่ปวงชนชาวไทยมาก่อน ด้วยสายพระเนตรอันยาวไกล ทรงเล็งเห็นความสำคัญและประโยชน์ของการดื่มนม ที่จะช่วยบำรุงร่างกายเด็ก เยาวชน ตลอดจนผู้ใหญ่ อันเป็นกำลังในการพัฒนาประเทศ เมื่อทรงพระราชทานอาชีพเลี้ยงวัวนม มาได้สักระยะ เกษตรกรไม่มีตลาดรองรับน้ำนมดิบ พระองค์จึงทรงให้สร้างโรงงานแปรรูปน้ำนมดิบ เพื่อรับซื้อน้ำนมดิบจากเกษตรกร โดยแปรรูปผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย
"แล้วนมผงนี้ผมได้แต่ใดมา"
ผมมาตามหาเส้นทางที่มาที่ไปนมกระป๋องนี้ พอสรุปเส้นทางนมกระป๋องนี้ที่เต็มไปด้วยนมผงจากพระราชา ที่เสมือนกระป๋องนม ที่ภายใน บรรจุ "พระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น อันหาที่สุดมิได้" พอสรุปได้ว่า
ครั้นเมื่อมีการแปรรูปน้ำนมดิบเป็นนมผงแล้ว พระองค์ทรงมีพระราชประสงค์ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำการแจกจ่ายนมผงไปยังโรงพยาบาล สถานีอนามัย ตามโรงงเรียน เพื่อพระราชทานให้แม่ลูกอ่อนใช้ในการเลี้ยงดูลูก โดยเฉพาะครอบครัวที่มีฐานะยากจน (เส้นทางประมาณนี้ อาจไม่ถูกต้องสมบูรณ์)
"คั้งแต่จำความได้"
ในชีวิตผมจะมี 2 สิ่ง ที่วางอยู่บนหิ้งพระตลอดเวลา แม่จะทำความสะอาดทุกวันพระ สิ่งแรกก็ คือ กระป๋องนมผงนี้ สิ่งที่ 2 ก็คือ ถุงผ้าสีเขียวขี้ม้าขนาดใหญ่ บนถุงผ้าจะมีเครื่องหมายพระปรมาภิไท ย่อ ภปร. ภายใต้พระมหาพิชัยมงกุฏ มีคำว่า "พระราชทาน" ใต้เครื่องหมาย
เป็น 2 สิ่งที่ผมเห็นอยู่เสมอ ถามแม่คำตอบที่ได้ แม่จะบอกว่า "ของในหลวงให้มา" เป็น 2 สิ่ง ที่ผมได้กราบมาตลอดไปพร้อมๆ กับการกราบพระพุทธรูป แม้ในปัจจุบันถุงผ้าได้หายไปแล้วในคราวที่ริ้อบ้าน แต่ก็ยังเหลือกระป๋องนมผงที่วิเศษที่สุด ให้ได้เก็บรักษา ชื่นชมพระเมตตา ของพระมหากษัตริย์ผู้ทรงแผ่พระเมตตา ให้ปวงชนชาวไทยอย่างไม่จบสิ้น
แม้ทุกวันนี้ จะมาลงหลักปักฐานในกรุงเทพ ทุกครั้งที่กลับบ้านที่สุรินทร์ก็ยังอดไม้ได้ ที่จะหยิบกระป๋องนมผงที่วิเศษที่สุด ขึ้นมาทำความสะอาด มาจับ มามองดูอยู่สม่ำเสมอ คิดอยู่เสมอว่า นมผงข้างในจะให้คุณค่าสารอาหาร และพลังงาน ถึงแม้นมผงจะหมดไปแล้ว แต่กระป๋องนมผงที่อยู่ก็ยังส่งพลังงานพิเศษให้ชีวิตอยู่ตลอดเวลา และจะสถิตย์เป็นมิ่งขวัญชีวิตสืบไป
น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น อันหาที่สุดมิได้
นมผงที่วิเศษที่สุด เมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว
"นมผงพระราชทานจาก"
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9
เมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว สภาพบ้านเมืองในพื้นที่ต่างจังหวัด ยังคงมีความกันดาน แร้นแค้น ห่างไกลขาดการพัฒนาอยู่ไม่น้อย
รวมทั้งจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของผม ผมเกิดที่สุรินทร์ปี 2529 เป็นลูกหลานชาวนายากจนทั่วไป เหมือนๆ กับครอบครัวอื่นที่สภาพความเป็นอยู่ ฐานะ คงไม่แตกต่างกันมาก ลูกคนยากคนจนสมัยนั้นที่เกิดมา อาหารหลักคือนมน้ำแม่ ข้าวต้มเหลว กล้วยบด น้อยนักที่จะมีปัญญาซื้อหานม นมผง หรืออาหารเลี้ยงเด็กสำเร็จรูป หรืออาหารเสริมอื่นใด
"แต่"
คงเป็นบุญของชีวิตของผมอยู่ไม่น้อย ที่เกิดมามีโอกาสได้กินนมผงกับเขาด้วย อย่างที่ผมบอก เป็นนมผงที่วิเศษที่สุด ในยุคนั้นอีกทั้งสภาพความยากจนของครอบครัว เป็นไปไม่ได้เลยที่ แม่จะหาซื้อนมผงมาเลี้ยงดูผม
"มาดู กระป๋องนมผงที่วิเศษที่สุด เมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว กันดีกว่า"
ภาพกระป๋องนมผงสวนดุสิต ผลิตในวังจิตรลดา เมื่อ 30 ปีที่แล้ว
ภาพนมผงสวนดุสิต ในปัจจุบัน
"ใช้แล้วครับ"
นี้เป็นยี่ห้อนมผงที่วิเศษที่สุด ที่ผมเคยได้กิน กระป๋องเดียวในชีวิต สมัยเป็นเด็กอ่อน หลายคนอาจไม่เข้าใจ มันเป็นนมที่วิเศษยังไง ผมจะขออธิบายสั้นๆ มันเป็นนมผงที่เกิดในวังสวนจิตรลดา ซึ่งเป็นโครงการส่วนพระองค์ อันเป็นโรงงานต้นแบบในการแปรรูป น้ำนมดิบ ซึ่งรับจากเกษตรกรเลี้ยงโคนม
แต่เดิมนั้น ก่อนหน้าที่จะมีโรงงานต้นแบบเพื่อแปรรูปน้ำนมดิบ พระองค์ทรงส่งเสริมและพระราชทานอาชีพเลี้ยงเลี้ยงวัวนมแก่ปวงชนชาวไทยมาก่อน ด้วยสายพระเนตรอันยาวไกล ทรงเล็งเห็นความสำคัญและประโยชน์ของการดื่มนม ที่จะช่วยบำรุงร่างกายเด็ก เยาวชน ตลอดจนผู้ใหญ่ อันเป็นกำลังในการพัฒนาประเทศ เมื่อทรงพระราชทานอาชีพเลี้ยงวัวนม มาได้สักระยะ เกษตรกรไม่มีตลาดรองรับน้ำนมดิบ พระองค์จึงทรงให้สร้างโรงงานแปรรูปน้ำนมดิบ เพื่อรับซื้อน้ำนมดิบจากเกษตรกร โดยแปรรูปผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย
"แล้วนมผงนี้ผมได้แต่ใดมา"
ผมมาตามหาเส้นทางที่มาที่ไปนมกระป๋องนี้ พอสรุปเส้นทางนมกระป๋องนี้ที่เต็มไปด้วยนมผงจากพระราชา ที่เสมือนกระป๋องนม ที่ภายใน บรรจุ "พระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น อันหาที่สุดมิได้" พอสรุปได้ว่า
ครั้นเมื่อมีการแปรรูปน้ำนมดิบเป็นนมผงแล้ว พระองค์ทรงมีพระราชประสงค์ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำการแจกจ่ายนมผงไปยังโรงพยาบาล สถานีอนามัย ตามโรงงเรียน เพื่อพระราชทานให้แม่ลูกอ่อนใช้ในการเลี้ยงดูลูก โดยเฉพาะครอบครัวที่มีฐานะยากจน (เส้นทางประมาณนี้ อาจไม่ถูกต้องสมบูรณ์)
"คั้งแต่จำความได้"
ในชีวิตผมจะมี 2 สิ่ง ที่วางอยู่บนหิ้งพระตลอดเวลา แม่จะทำความสะอาดทุกวันพระ สิ่งแรกก็ คือ กระป๋องนมผงนี้ สิ่งที่ 2 ก็คือ ถุงผ้าสีเขียวขี้ม้าขนาดใหญ่ บนถุงผ้าจะมีเครื่องหมายพระปรมาภิไท ย่อ ภปร. ภายใต้พระมหาพิชัยมงกุฏ มีคำว่า "พระราชทาน" ใต้เครื่องหมาย
เป็น 2 สิ่งที่ผมเห็นอยู่เสมอ ถามแม่คำตอบที่ได้ แม่จะบอกว่า "ของในหลวงให้มา" เป็น 2 สิ่ง ที่ผมได้กราบมาตลอดไปพร้อมๆ กับการกราบพระพุทธรูป แม้ในปัจจุบันถุงผ้าได้หายไปแล้วในคราวที่ริ้อบ้าน แต่ก็ยังเหลือกระป๋องนมผงที่วิเศษที่สุด ให้ได้เก็บรักษา ชื่นชมพระเมตตา ของพระมหากษัตริย์ผู้ทรงแผ่พระเมตตา ให้ปวงชนชาวไทยอย่างไม่จบสิ้น
แม้ทุกวันนี้ จะมาลงหลักปักฐานในกรุงเทพ ทุกครั้งที่กลับบ้านที่สุรินทร์ก็ยังอดไม้ได้ ที่จะหยิบกระป๋องนมผงที่วิเศษที่สุด ขึ้นมาทำความสะอาด มาจับ มามองดูอยู่สม่ำเสมอ คิดอยู่เสมอว่า นมผงข้างในจะให้คุณค่าสารอาหาร และพลังงาน ถึงแม้นมผงจะหมดไปแล้ว แต่กระป๋องนมผงที่อยู่ก็ยังส่งพลังงานพิเศษให้ชีวิตอยู่ตลอดเวลา และจะสถิตย์เป็นมิ่งขวัญชีวิตสืบไป
น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น อันหาที่สุดมิได้