คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
เรื่องบุญนี้ให้ทราบไว้แบบนี้นะครับ
บุญนี้เวลาเราทำบุญ บุญจะอยู่กับเราตลอดไม่ว่าเราจะอุทิศหรือแบ่งบุญให้กับใคร ตัวอย่างเรามีบุญ อยู่ 100 บาท เราแบ่งบุญให้ใคร ของเราก้ยังอยู่ครบอุปมาแบบนี้ครับ
เรามีคบไฟอยู่หนึ่งอัน มีคนมาขอเราจุดคบไฟอีกอัน ไฟในคบไฟเรายังอยู่ ไฟของคนที่มาจุดก็ติดทีนี้แม้จะมาขอจุดกี่คน 100 คน 1000คน ไฟของเราก็ยังอยู
เรื่องการแบ่งบุญแล้วกลัวสูญเปล่า ในพิจารณาแบบนี้นะ ในโลกของเราที่ยังมีชีวิตอยู่ เราต้องการอาหารเพื่อมาหล่อเลี้ยงร่างกายเพื่อให้เรื่องกายอยู่ได้ เมื่อเราตายไป เราตายแค่กายเนื้อที่ แต่กายละเอียดเราไม่ตายตามไปด้วย ซึ่งกายนี้แหละยังต้องการอาารเพื่อหล่อเลี้ยงเหมือนกายเนื้อ แต่ต่างกันที่อาหารที่กายละเอียดต้องกายคือบุญซึ่งบุญนี้เป็นที่ต้องการมากของคนที่ตายไปแล้ว แม้ว่าเขาเหล่านั้นตายแล้วไปเกิดเป็นอะไร พรหม เทวดา เปรต อสุรกาย หรือสัตว์นรก โดยเฉพาะอย่สงยิ่ง 3 ข้อหลัง
แต่ประเด็นอยู่ที่ว่าตอนเราแบ่งบุญเราแบ่งให้ใครบ้าง ถ้าใครที่เราไม่ได้แบ่งให้หรือไม่ได้เอ่ยถึงเค้าก้ไม่มีสิทธิ์จะได้ คนที่เค้ามารอเพื่อที่จะอนุโมทนาบุญเราก้ไม่ได้เดินคอตกกลับไป จึงเป็นที่มาว่าพระจะให้เราแผ่กุศลแบ่งบุญไปทั่วสากลพิภพ ให้ทุกๆคนมีส่วนร่วมในบุญ ถ้าพิจารณาดีๆการแบ่งบุญแบบนี้เป็นการทำบุญเพิ่มไปในตัวเรื่องการให้ทาน ไม่หวงบุญ
คงเป็นประโยชน์นะครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่าเชื่อผมนะจนกว่าจะทำกรรมฐานให้เห็นเอง
บุญนี้เวลาเราทำบุญ บุญจะอยู่กับเราตลอดไม่ว่าเราจะอุทิศหรือแบ่งบุญให้กับใคร ตัวอย่างเรามีบุญ อยู่ 100 บาท เราแบ่งบุญให้ใคร ของเราก้ยังอยู่ครบอุปมาแบบนี้ครับ
เรามีคบไฟอยู่หนึ่งอัน มีคนมาขอเราจุดคบไฟอีกอัน ไฟในคบไฟเรายังอยู่ ไฟของคนที่มาจุดก็ติดทีนี้แม้จะมาขอจุดกี่คน 100 คน 1000คน ไฟของเราก็ยังอยู
เรื่องการแบ่งบุญแล้วกลัวสูญเปล่า ในพิจารณาแบบนี้นะ ในโลกของเราที่ยังมีชีวิตอยู่ เราต้องการอาหารเพื่อมาหล่อเลี้ยงร่างกายเพื่อให้เรื่องกายอยู่ได้ เมื่อเราตายไป เราตายแค่กายเนื้อที่ แต่กายละเอียดเราไม่ตายตามไปด้วย ซึ่งกายนี้แหละยังต้องการอาารเพื่อหล่อเลี้ยงเหมือนกายเนื้อ แต่ต่างกันที่อาหารที่กายละเอียดต้องกายคือบุญซึ่งบุญนี้เป็นที่ต้องการมากของคนที่ตายไปแล้ว แม้ว่าเขาเหล่านั้นตายแล้วไปเกิดเป็นอะไร พรหม เทวดา เปรต อสุรกาย หรือสัตว์นรก โดยเฉพาะอย่สงยิ่ง 3 ข้อหลัง
แต่ประเด็นอยู่ที่ว่าตอนเราแบ่งบุญเราแบ่งให้ใครบ้าง ถ้าใครที่เราไม่ได้แบ่งให้หรือไม่ได้เอ่ยถึงเค้าก้ไม่มีสิทธิ์จะได้ คนที่เค้ามารอเพื่อที่จะอนุโมทนาบุญเราก้ไม่ได้เดินคอตกกลับไป จึงเป็นที่มาว่าพระจะให้เราแผ่กุศลแบ่งบุญไปทั่วสากลพิภพ ให้ทุกๆคนมีส่วนร่วมในบุญ ถ้าพิจารณาดีๆการแบ่งบุญแบบนี้เป็นการทำบุญเพิ่มไปในตัวเรื่องการให้ทาน ไม่หวงบุญ
คงเป็นประโยชน์นะครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่าเชื่อผมนะจนกว่าจะทำกรรมฐานให้เห็นเอง
แสดงความคิดเห็น
ทำบุญแล้วได้บุญ พระจะสอนให้แบ่งปันส่วนบุญแผ่เมตตาไปยังสรรพสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงในสามโลก
จะสำเร็จได้ก็ด้วยความยินยอมพร้อมใจทั้งผู้ให้และผู้รับ
เช่นเปรต สัมภเวสี นางไม้ เทวดา ที่ดำรงชีพด้วยส่วนบุญจากผู้อื่น
สัตว์ทั้งหลายเหล่านั้น ก็ตั้งหน้าตั้งตารอรับส่วนบุญอยู่แล้ว
หากเรายินดีเต็มใจแบ่งส่วนบุญให้ การให้การรับก็จะสำเร็จสมบูรณ์
ส่วนบุพการีญาติสนิทมิตรสหายครูบาอาจารย์ที่ล่วงลับไปแล้ว
หากเรายินดีเต็มใจแบ่งส่วนบุญให้ จะสำเร็จหรือไม่เราก็ไม่รู้
แต่เราก็ไม่ได้เสียดาย หากบุญที่เราแบ่งให้แล้ว ไปไม่ถึงผู้รับ
ส่วนบุคคลที่เราไม่ได้รู้จักมักคุ้น ไม่รู้ว่าเขารอรับส่วนบุญหรือไม่
หากเรายินดีเต็มใจแบ่งส่วนบุญให้ ก็ไม่แน่ว่าเขาจะยินดีรับ
มันจะเหมือนกับการเอาบุญของเราไปทิ้งขว้างเสียของ หรือปล่าว?
ดังนั้น การที่มีผู้ชักชวนให้ทำบุญแล้วยกบุญที่เราทำให้กับคนอื่น
จึงเป็นการสุ่มเสี่ยงที่จะสูญเสียบุญไปโดยเปล่าประโยชน์
เพราะว่าเราไม่อาจรู้ได้เลยว่า คนที่เราปรารถนาจะยกบุญให้นั้น
เขาจะอยู่รอรับบุญของเราหรือไม่ เขาอาจจะอยู่ หรืออาจจะไม่ได้อยู่
และถ้าหากเขาได้รับรู้ถึงเจตนาในการยกบุญของเราให้กับเขา
แล้วเขาจะยินดีที่จะรับบุญของเราหรือไม่ อาจจะยินดีหรือไม่ยินดี
ทั้งหมดนี้เป็นความเห็นส่วนตัว เป็นความคิดที่ทะลึ่งคิดขึ้นมาเอง
โดยไม่ได้มีหลักฐานจากคัมภีร์ใดๆมาสนับสนุนความคิดนี้