สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
สิ่งที่ผมจะบอกเสมอ คือ อยากเอาปัจจุบันไปตัดสินอดีต
"สถาบันกษัตริย์" ในสมัยนั้นกับตอนนี้ ต่างกันมากนะครับ ถ้ามองจากปัจจุบันการใช้คำแบบนั้นกับสถาบันกษัตริย์ คือ ไม่ดี
แต่ในสมัยรัชกาลที่ 7 ช่วงเวลานั้น คือ
1 สภาพสังคมที่กลุ่มนักเรียนนอก สำเร็จการศึกษาแล้ว แต่ตำแหน่งใหญ่ในประเทศ ไม่มีทางที่ "สามัญชน" จะได้อำนาจ
2 สภาพเศรษฐกิจ ที่เป็นช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ยุโรปบอบช้ำรุนแรง การซื้อขายลดลง ทำให้ต้องลดการจ้างงานลง ซึ่งส่วนใหญ่ที่ลดคิดว่า เป็นตำแหน่งเล็กหรือใหญ่ครับ
และในสมัยนั้น สถาบันกษัตริย์ คือ รัฐบาล การที่คนเราจะไม่พอใจการดำเนินการของรัฐบาลเป็นเรื่องปกติ ใช่ไหมครับ
ถ้าเป็นปัจจุบัน เรายังสามารถรอการเลือกตั้งใหม่ หรือการเมืองอื่นๆ ได้ แต่ในสมัยนั้น ไม่มีทางเลยครับ ดังนั้นความไม่พอใจต่อ "รัฐบาล" จึงเกิดขึ้น และนำไปสู่แนวความคิด "เปลี่ยนแปลง"
ซึ่งถ้าเอาทัศนคติปัจจุบันมาตัดสิน ก็จะมองว่า ไม่จงรักภักดีต่อสถาบัน แต่จริงๆ แล้ว ใช่หรือไม่ละครับ
เรื่อง เค้าโครงเศรษฐกิจ ที่มี พระวินิจฉัย จาก รัชกาลที่ 7 ว่า เป็นคอมมิวนิสต์ ถ้าจะว่าตามตรง จะเป็นแนว สังคมนิยม มากกว่า (สังคมนิยมไม่ใช่คอมมิวนิสต์ นะครับ หลายคนชอบเข้าใจผิดกัน)
แล้วถ้าจะมองในมุมหนึ่ง การที่ไทยไม่เป็นฝ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 อาจจะมีหลายเหตุ แต่ผลงานของเสรีไทย ก็เป็นที่ชัดเจนนะครับ ว่ามีส่วนสำคัญต่อการไม่แพ้
(สิ่งหนึ่งที่เห็นหลายคนชอบตัดสินใจ เลือกฝ่าย ถูกและผิด มันทำให้การมองประวัติศาสตร์ผิดเพี้ยนไปมาก นี่ไม่ใช่ละครไทยที่พระเอกต้องดีล้วน ตัวร้ายต้องเลวสุดๆ มันมีหลายสิ่งมาก และการกระทำที่เอาปัจจุบันไปตัดสิน มันก็ผิด จริงอยู่ที่หลายการตัดสินใจทำให้เกิดผลร้าย แต่ในเวลาที่ตัดสินใจมันไม่ได้มองอนาคตได้นะครับ ว่าจะเป็นอย่างไร เขาอาจคิดว่านี่คือทางที่ดีที่สุดแล้ว)
ช่วงมิถุนา ทีไรจะเจอกลุ่มคนที่คิดว่า คณะราษฏรเป็นฝ่ายร้ายเพราะยึดอำนาจสถาบันกษัตริย์ แต่อยากให้ทำความเข้าใจก่อน สถาบันกษัตริย์ในสมัยนั้นกับที่เป็นอยู่ตอนนี้ ไม่เหมือนกันนะครับ
ความจริงมีอีกหลายประเด็น "สำคัญ" ที่เป็นข้อกล่าวหาต่อปรีดี แต่คงไม่สะดวกที่จะนำมาครับ
"สถาบันกษัตริย์" ในสมัยนั้นกับตอนนี้ ต่างกันมากนะครับ ถ้ามองจากปัจจุบันการใช้คำแบบนั้นกับสถาบันกษัตริย์ คือ ไม่ดี
แต่ในสมัยรัชกาลที่ 7 ช่วงเวลานั้น คือ
1 สภาพสังคมที่กลุ่มนักเรียนนอก สำเร็จการศึกษาแล้ว แต่ตำแหน่งใหญ่ในประเทศ ไม่มีทางที่ "สามัญชน" จะได้อำนาจ
2 สภาพเศรษฐกิจ ที่เป็นช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ยุโรปบอบช้ำรุนแรง การซื้อขายลดลง ทำให้ต้องลดการจ้างงานลง ซึ่งส่วนใหญ่ที่ลดคิดว่า เป็นตำแหน่งเล็กหรือใหญ่ครับ
และในสมัยนั้น สถาบันกษัตริย์ คือ รัฐบาล การที่คนเราจะไม่พอใจการดำเนินการของรัฐบาลเป็นเรื่องปกติ ใช่ไหมครับ
ถ้าเป็นปัจจุบัน เรายังสามารถรอการเลือกตั้งใหม่ หรือการเมืองอื่นๆ ได้ แต่ในสมัยนั้น ไม่มีทางเลยครับ ดังนั้นความไม่พอใจต่อ "รัฐบาล" จึงเกิดขึ้น และนำไปสู่แนวความคิด "เปลี่ยนแปลง"
ซึ่งถ้าเอาทัศนคติปัจจุบันมาตัดสิน ก็จะมองว่า ไม่จงรักภักดีต่อสถาบัน แต่จริงๆ แล้ว ใช่หรือไม่ละครับ
เรื่อง เค้าโครงเศรษฐกิจ ที่มี พระวินิจฉัย จาก รัชกาลที่ 7 ว่า เป็นคอมมิวนิสต์ ถ้าจะว่าตามตรง จะเป็นแนว สังคมนิยม มากกว่า (สังคมนิยมไม่ใช่คอมมิวนิสต์ นะครับ หลายคนชอบเข้าใจผิดกัน)
แล้วถ้าจะมองในมุมหนึ่ง การที่ไทยไม่เป็นฝ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 อาจจะมีหลายเหตุ แต่ผลงานของเสรีไทย ก็เป็นที่ชัดเจนนะครับ ว่ามีส่วนสำคัญต่อการไม่แพ้
(สิ่งหนึ่งที่เห็นหลายคนชอบตัดสินใจ เลือกฝ่าย ถูกและผิด มันทำให้การมองประวัติศาสตร์ผิดเพี้ยนไปมาก นี่ไม่ใช่ละครไทยที่พระเอกต้องดีล้วน ตัวร้ายต้องเลวสุดๆ มันมีหลายสิ่งมาก และการกระทำที่เอาปัจจุบันไปตัดสิน มันก็ผิด จริงอยู่ที่หลายการตัดสินใจทำให้เกิดผลร้าย แต่ในเวลาที่ตัดสินใจมันไม่ได้มองอนาคตได้นะครับ ว่าจะเป็นอย่างไร เขาอาจคิดว่านี่คือทางที่ดีที่สุดแล้ว)
ช่วงมิถุนา ทีไรจะเจอกลุ่มคนที่คิดว่า คณะราษฏรเป็นฝ่ายร้ายเพราะยึดอำนาจสถาบันกษัตริย์ แต่อยากให้ทำความเข้าใจก่อน สถาบันกษัตริย์ในสมัยนั้นกับที่เป็นอยู่ตอนนี้ ไม่เหมือนกันนะครับ
ความจริงมีอีกหลายประเด็น "สำคัญ" ที่เป็นข้อกล่าวหาต่อปรีดี แต่คงไม่สะดวกที่จะนำมาครับ
แสดงความคิดเห็น
ปรีดีพนมยงค์นี่ สรุปว่าเป็นคนดีหรือไม่ดีครับ แล้วทำไมเราถึงยกย่องเขาเป็นวีรบุรุษในหนังสือเรียนครับ
สืบเนื่องจากบทความดังกล่าวนี้
"รำลึก..รัชกาลที่ 7 พระมหากษัตริย์ไทยผู้ถูกรังแก จากปรีดีและคณะราษฎรจนวาระสุดท้าย" http://likedee.com/%E0%B8%A3%E0%B8%B3%E0%B8%A5%E0%B8%B6%E0%B8%81-%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%8A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-7/
คือจากที่อ่าน สังเกตว่า เนื่องจากมีหลักฐานที่เห็นได้ชัด อย่างหน้าหนังสือพิมพ์ และบุคคลในช่วงประวัติศาสตร์นั้นก็น่าจะได้รับรู้หรือได้ยิน ได้อ่านมาบ้าง แม้แต่คนในปัจจุบันก็ยังสามารถสืบค้นกลับไปเจอได้แล้ว ทำไม ปรีดี พนมยงค์ และคณะราษฏ์ ซึ่งรวมถึง พระยาพหล พระยาทรง พระยาฤทธิ์ ยังได้รับคำชื่นชมและบันทึกอยู่ในตำราเรียนไทยว่าเป็นวีรบุรุษได้อีกหรือครับ จากที่อ่านแล้วทั้งการกระทำและหลายๆอย่างดูจะเป็นการข่มขู่สถาบันกษัตริย์อย่างร้ายแรง ถึงขั้นต้องหลบหนีไปอยู่ที่ประเทศอังกฤษครับ
ตัวอย่างที่ quote มานะครับ
"ข้อความในประกาศคณะราษฎร ซึ่งเขียนขึ้นโดยหลวงประดิษฐ วิพากษ์วิจารณ์ ใส่ร้าย พระมหากษัตริย์ด้วยถ้อยคำที่รุนแรงมากอย่างลบหลู่พระเกียรติจนไม่อาจนำมากล่าวซ้ำในที่นี้ได้ เนื่องจากเกินกว่าคนไทยจะรับได้ จากนั้นประกาศคณะราษฎร ซึ่งลงนามโดย พระยาพหล , พระยาทรง และพระยาฤทธิ์ ถูกส่งโทรเลขไปให้แด่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่วังไกลกังวล หัวหิน มีใจความข่มขู่ว่า “..หากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ไม่ทรงปรารถนาที่จะเป็นพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ คณะราษฎรจะเต็มใจถอดพระองค์ออก และแทนที่ด้วยพระบรมวงศานุวงศ์พระองค์อื่น”
ในโทรเลขดังกล่าวข่มขู่ด้วยว่า “หากสมาชิกคณะราษฎรคนใดได้รับบาดเจ็บ พระบรมวงศานุวงศ์ที่ถูกคุมขังก็จะทรงทรมานไปด้วย…” อันเป็นถ้อยความข่มขู่พระมหากษัตริย์ที่ยะโสโอหังมาก
วันที่ 23 ตุลาคม 2476 เพื่อความปลอดภัย ข้าราชบริพารพร้อมใจกันพารัชกาลที่ 7 ระหกระเหิน โดยเรือศรวรุณ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ ท่ามกลางสภาวะอากาศเลวร้ายในทะเล ใช้เวลากว่าสองวันจึงถึงจังหวัดสงขลา ไปประทับ ณ ตำหนักเขาน้อย จังหวัดสงขลา"
แนบรูปครับ
หากว่าผมเข้าใจผิดอย่างไรต้องขอโทษด้วยนะครับ