คำเตือนนี้มีขึ้นขณะที่มีรายงานว่ารัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และทีมที่ปรึกษาเศรษฐกิจของทรัมป์กำลังหารือถึงการขอให้ประเทศพันธมิตรใช้มาตรการ “ภาษีทุติยภูมิ” กับสินค้านำเข้าจากประเทศที่มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจีน ซึ่งถือเป็นรูปแบบใหม่ของการลงโทษทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังขอให้พันธมิตรหลีกเลี่ยงการรับสินค้าล้นตลาดจากจีน เพื่อจำกัดช่องทางระบายสินค้า
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ได้ประกาศชะลอการขึ้นภาษีต่อประเทศอื่น ๆ เป็นเวลา 90 วัน แต่ยังคงเดินหน้าปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนจนแตะระดับสูงถึง 145%
กระทรวงพาณิชย์จีนแถลงว่า “จีนคัดค้านข้อตกลงใดๆ ที่กระทบผลประโยชน์ของจีนอย่างเด็ดขาด หากมีข้อตกลงในลักษณะเช่นนั้น จีนจะไม่ยอมรับ และจะดำเนินมาตรการตอบโต้ที่เหมาะสมในทันที”
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์จีนยังเตือนว่า หากระบบการค้าระหว่างประเทศต้องกลับไปสู่ “กฎแห่งป่า” ที่ไม่มีระเบียบหรือกติกากลาง โลกจะต้องเผชิญความเสี่ยงร้ายแรง พร้อมย้ำว่าจีนยินดีร่วมมือกับทุกประเทศเพื่อปกป้องความเป็นธรรมในระบบการค้าโลก และประณามสหรัฐฯ ว่าใช้นโยบาย “กลั่นแกล้งฝ่ายเดียว” และ “บิดเบือนภาษีเพื่อใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง”
*******************
จีนโต้กลับด้วยมาตรการภาษี และเร่งสร้างพันธมิตรในอาเซียน
ในเดือนเมษายน จีนได้ยกระดับมาตรการตอบโต้ โดยขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ สูงสุดถึง 125% ควบคู่ไปกับการจำกัดการส่งออกแร่ธาตุสำคัญ และขึ้นบัญชีดำบริษัทสัญชาติอเมริกันหลายแห่ง โดยเฉพาะบริษัทขนาดเล็ก ซึ่งถูกห้ามทำธุรกิจร่วมกับบริษัทจีน
แม้ความตึงเครียดจะทวีขึ้น แต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังไม่คาดว่าการเจรจาระหว่างจีนและสหรัฐฯ จะได้ข้อยุติในเร็ววัน แม้ประธานาธิบดีทรัมป์จะออกมาแสดงความมั่นใจเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ข้อตกลงอาจเกิดขึ้นภายใน 3 ถึง 4 สัปดาห์
ท่ามกลางแรงกดดันจากสหรัฐฯ จีนได้เพิ่มความพยายามสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางการทูตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และยุโรป โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้เดินทางเยือนเวียดนาม มาเลเซีย และกัมพูชา ซึ่งเป็นการเยือนต่างประเทศครั้งแรกในปี 2025 เพื่อนำเสนอแนวคิด “ครอบครัวเอเชีย” เพื่อรับมือกับแรงกดดันจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ
ในแถลงการณ์ร่วมกับผู้นำทั้งสามประเทศ สี จิ้นผิง ได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการต่อต้านพฤติกรรม “กลั่นแกล้งฝ่ายเดียว” ของสหรัฐฯ และการใช้นโยบายภาษีเป็นเครื่องมือทางการเมือง พร้อมชี้ว่าภูมิภาคเอเชียควรมีบทบาทนำในการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของโลก
ตั้งแต่ทรัมป์เริ่มเก็บภาษีกับจีนในวาระแรก จีนได้หันมาขยายการค้ากับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันภูมิภาคอาเซียนกลายเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของจีนเมื่อพิจารณาในภาพรวม แม้สหรัฐฯ ยังคงครองสถานะคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดเมื่อดูเป็นรายประเทศ
ล่าสุด กระทรวงพาณิชย์ของจีนได้แต่งตั้ง “หลี่ เฉิงกัง” อดีตเอกอัครราชทูตประจำองค์การการค้าโลก (WTO) ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยและหัวหน้าคณะเจรจาการค้าระหว่างประเทศคนใหม่ โดยภารกิจสำคัญอันดับแรกของหลี่ คือการยื่นคำร้องต่อ WTO ฟ้องร้องรัฐบาลสหรัฐฯ จากการขึ้นภาษีรอบใหม่ ซึ่งจีนมองว่าเป็นการละเมิดกฎเกณฑ์ของการค้าเสรีระหว่างประเทศอย่างชัดเจน
อ้างอิง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.msn.com/th-th/news/other/%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%AF-%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%99-%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B9%82%E0%B8%95%E0%B9%89/ar-AA1DhXgh?ocid=winp1taskbar&cvid=d312210a0ec04babd4c3b969fec5290e&ei=15
ที่มา: Bloomberg, CNBC
อ่านข่าวต้นฉบับ:
อมรินทร์ทีวี ทันข่าวได้ที่
เว็บไซต์:www.amarintv.com
จีนเตือนทั่วโลกอย่าจับมือสหรัฐ หักหลังจีน