DSI อายัด 23 ตู้คอนเทเนอร์ อาคารจอดรถตึก ‘สตง.’ ถล่ม ติดคำสั่งห้ามเข้าเด็ดขาด

โดยมี ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน และมี พ.ต.ท.อมร หงษ์ศรีทอง ผอ.กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค เป็นรองหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน รวมถึงมีการประชุมเปิดคดีของคณะพนักงานสอบสวนครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา กระทั่งต่อมาคณะพนักงานสอบสวนได้มีการกระจายการดำเนินงาน มีการลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนญาติของ 3 กรรมการผู้ถือหุ้นชาวไทยใน บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ รวบรวมหลักฐานขอหมายศาลเข้าตรวจค้น ลงพื้นที่บูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ออกหนังสือเชิญบุคคลซึ่งเข้าไปเกี่ยวข้องในเอกสารการก่อสร้างตึก สตง. เข่าให้ข้อมูล เป็นต้น เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ สำหรับนำเข้าสำนวนคดี ตามที่มีการรายงานข่าวไปอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 18 เม.ย. กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) โดยส่วนประชาสัมพันธ์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟสบุ๊คทางการของดีเอสไอ ว่า “ด่วน!!! DSI อายัดไซต์งานก่อสร้างกิจการร่วมค้าไอทีดี-ซีอาร์อีซี ห้ามเคลื่อนย้ายพยานหลักฐาน”

โดย พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค รองหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 32/2568 และในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า ตนได้เดินทางมาที่บริเวณไซต์งานก่อสร้างอาคาร สตง.(แห่งใหม่) ดูเรื่องพยานหลักฐาน แต่เมื่อดูแล้วกลับพบว่ายังมีเอกสารที่เห็นควรต้องอายัดไว้ก่อน ซึ่งสอดคล้องกับการข่าวที่ระบุว่าอาจยังมีเอกสารที่เกี่ยวข้องอยู่ในบริเวณนี้ จึงต้องเข้ามาตรวจสอบ เบื้องต้นอาจมีเอกสารเกี่ยวกับการควบคุมงาน เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม เอกสารต่าง ๆ เหล่านี้พบว่าถูกเก็บไว้ภายในตู้คอนเทนเนอร์ 24 ตู้ ซึ่งอยู่ใต้อาคารจอดรถ และติดตั้งกระจายกันไป ดังนั้น จึงต้องอายัดไว้ก่อน เพื่อไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายพยานหลักฐาน โดยวันนี้จะได้เชิญเจ้าหน้าที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องมาช่วยกันแยกกรองเอกสาร หากเอกสารชิ้นใดเกี่ยวข้องกับคดีก็จะต้องนำไปประกอบในสำนวน ส่วนเอกสารชิ้นใดไม่เกี่ยวข้องก็ต้องคืนกลับ นอกจากนี้ ตู้คอนเทนเนอร์ที่เหลือจะเป็นห้องน้ำ หรือเป็นตู้เก็บเอกสารอื่น ๆ แต่ไม่ได้มีเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง

พ.ต.ต.วรณัน เผยอีกว่า จากการตรวจสอบพบตู้คอนเทนเนอร์ใต้อาคารจอดรถดังกล่าวว่ามีการเก็บเอกสาร เราจึงได้เชิญผู้แทนของกิจการร่วมค้ามาร่วมอธิบายด้วยว่าแต่ละตู้มีเอกสารประเภทใดบ้าง และเอกสารจะใดใช้เป็นหลักฐานได้บ้าง และแม้ว่าดีเอสไอจะมีการเข้าตรวจค้นสำนักงานไปแล้ว แต่การข่าวก็พบว่ามีเอกสารบางส่วนยังคงอยู่ในพื้นที่ จึงเป็นสาเหตุให้เข้าตรวจสอบในวันนี้และทำการอายัดไว้ก่อน ทั้งนี้ ยืนยันว่าเราไม่ได้บอกว่าใครผิดอย่างไรจากการอายัดในวันนี้ เราเพียงแค่ต้องการเอกสารที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้อธิบายข้อเท็จจริง ซึ่งอาจเป็นเอกสารที่ดีเอสไอไม่เคยเจอมาก่อน และอาจสามารถใช้ตอบข้อสงสัยในบางประการได้

"…ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ตึกถล่มในวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา กรุงเทพมหานคร สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร และกรมการทหารช่าง กองทัพบก ได้รักษาสถานที่เกิดเหตุไว้ค่อนข้างสมบูรณ์ โดยขณะนี้ตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 24 ตู้ ซึ่งทางกิจการร่วมค้าฯ ทั้ง 2 แห่ง ได้ใช้เป็นไซต์งานก่อสร้าง มีการจัดเก็บเอกสารที่เกี่ยวกับการดำเนินการก่อสร้างไว้เป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจมีพยานหลักฐานที่มีความสำคัญต่อรูปคดี…" พ.ต.ต.วรณัน ปิดท้าย.

ขณะที่ ส่วนประชาสัมพันธ์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) รายงานผลการปฏิบัติงานว่า เมื่อเวลา 14.30 น. พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มอบหมายให้ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค ในฐานะรองหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 32/2568 เข้าทำการอายัดสถานที่ปฏิบัติงานชั่วคราวของกิจการร่วมค้าไอทีดี-ซีอาร์อีซี และกิจการร่วมค้าพีเคดับเบิ้ลยู (PKW) จำนวน 24 ตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งตั้งอยู่ในอาคารจอดรถสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่เกิดการถล่มหลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา

โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษได้มีหนังสืออาศัยอำนาจตามความในมาตรา 22 แห่ง พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ แจ้งไปยัง ผกก.สน.บางซื่อ และ ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร ขอความร่วมมือรักษาสถานที่เพื่อการสอบสวนคดีพิเศษ มอบหมายเจ้าหน้าที่ตรวจตราสภาพสถานที่เพื่อป้องกันการยักย้ายทำลายพยานเอกสาร และยังมีหนังสือเรียกให้ผู้บริหาร/ผู้มีอำนาจจัดการแทนกิจการร่วมค้าไอทีดี-ซีอาร์อีซี ชี้แจงข้อเท็จจริง ส่งบุคคลมาให้ถ้อยคำและแจ้งการอายัดอาคารสำนักงานชั่วคราวและทรัพย์สินในสำนักงานระหว่างการตรวจสอบพิจารณา.

ที่มา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่