สวัสดีครับ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ชาวพันทิปวันนี้จะพาลุยเดียวแบกเป้ แบกกล้อง ไปเที่ยวภูทับเบิกแบบ ไม่ใช้รถส่วนตัว ไปกันแบบลุยๆ โบกรถไปกันครับ ด้วยอารมณ์อยากไปเที่ยวมากๆ แต่ไม่ค่อยมีเพื่อนคบครับ พวกที่คบกันอยู่ มันก็ดันไม่ว่างกัน ติดงานมั้ง ติดแฟนมั้ง นู้นนี้นั้น ฮ่าๆ เอาไงดีละ ไปคนเดียวก็ได้นิ ความสุขมันเริ่มต้นที่เรานิเน่อ เพราะฉะนั้นแล้วลุยโลดดด!
ไปกลับมาแล้วก็ไม่อยากเอาบรรยากาศดีๆมาเก็บไว้คนเดียว แต่ก็ไม่รู้จะเล่าให้ใครฟัง เอามาเขียนเป็นมู้แรกดีกว่า และก็ไว้เป็นข้อมูลหรือแนวทางสำหรับคนที่อยากไปเที่ยวภูทับเบิกแบบไม่ใช้รถส่วนตัว หรือไม่มีรถไป อย่าเอามาเป็นข้ออ้างเป็นอุปสรรคขัดขวางอุดมการณ์ของเรา ทริปนี้เตรียมการก่อนไป 2 วัน 5555+ พร้อมกันยัง พร้อมแล้วก็ลุยโลดดด!
เดินทางวันที่ 7 ตุลาคม 59
เริ่มต้นเดินทางจากหมอชิต ชื้อตั๋ว ที่ชั้น1 ช่องขายตั๋วที่ 42 บ.เพชรประเสริฐ ใกล้ๆกับ 7-11 ทางไปห้องน้ำ แนะนำให้โทรจองไว้ก่อนนะครับ ดูจากรูปครับแถวยาววว ตอนไปถึงเหมือนได้ยินคนขายบอกกับคนข้างหน้าเราว่าตั๋ว ป.1 เต็มแล้วนะครับเหลือแต่รถ ป.2 ฮ่าๆ โชคดีที่ไม่ชะล่าใจ โทรมาจองไว้ก่อน พอถึงคิวเราก็บอกชื่อกับเวลาเที่ยวรถที่จองไว้เป็นอันเรียบร้อยยย ได้ตั๋วมาครองงงง ^ ^ [เบอร์โทรครับ 086-4487050]
ปล.ถ้ารู้เวลากลับที่ชัวส์ๆแนะนำให้จองขากลับไว้เลยนะครับ เพราะตอนที่เรากลับ ได้นั่งรถป.2 กลับ รถเต็มครับ
ฟังเพลง รอเวลา ชอบความรู้สึกนี้มากๆไม่ต้องคิดอะไร นั่งดูคนเดินผ่านไปผ่านมา แปบเดียว เฮ้ยยยย รถจะมาแล้ว ก็เดินต๊อกๆ บ้าหอบฟาง ไปรอรถที่ชานชาลา ที่ 130
แล้วรถก็มา 23:20 บรรยากาศบนรถครับ พอขึ้นรถ พนักงานตอนรับบนรถก็มาแจกน้ำกับขนม พร้อมถามเราว่าจะลงที่ไหน.. ก็ได้ข้อมูลจากพันทิปนี้ละครับ ว่าต้องลงตลาดผัก ก็บอกพี่พนักงานเขาไปว่า พี่ผมจะไปภูทับเบิกต้องลงที่ตลาดผักใช่ไหม? พี่เขาก็บอกว่าใช่ๆๆ งั้นผมลงที่ตลาดผักนะครับ โดยที่ไม่รู้ว่าหน้าตาตลาดผักเป็นยังไง คิดในใจ ตูจะรอดไหมมเนี้ยยย เอาน่าอย่าคิดมาก แค่ของให้พรุ่งนี้เป็นวันที่ดีก็พอแล้ว
ตอนนี้อยากจะบอกแบบว่า ตื่นเต้น แต่มันรู้สึกดีมากๆเลย หยิบหูฟังขึ้นมาแล้วเปิดเพลงที่ตัวเองชอบ ยิ่งเพลงเศร้า เพราะๆซึ้งๆเข้ากับบรรยากาศยามดึก โดยที่รถกำลังเดินหน้าขับไปเรื่อยๆ เหมือนตัวเองกำลังนั่งเล่น MV ของเพลงนั้นอยู่เลย อาการมโนเริ่มมาแล้ว 5555+ แล้วก็หลับไปตอนไหนไม่รู้ ตื่นมาอีกทีคนขับเปิดไฟบนรถ จอดตามจุดจอดต่างๆ ไอ้เราก็นั่งฟังเพลง ทำMV กันต่อไป.. แหม่ บรรยากาศมันได้เน่อ ก็ผ่านจุดจอดต่างๆ มาเรื่อยๆ จนพี่พนักงานเขาลุกขึ้นบอกผู้โดยสารบนรถว่า รถสิ้นสุดระยะ ที่จุดจอดข้างหน้านะค่ะ เตรียมตัวเก็บของแล้วตรวจสอบสำภาระก่อนลงรถด้วยนะค่ะ (อ้าวเฮ้ยยยยย ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หน่า ที่บอกว่าเธอจะเลือกเขาและไม่มีวันกลับมา..) ไม่ใช่ละ คิดในใจ พี่ตลาดผักผมละ ไม่นะๆ ยังไม่ทันจะถามรถก็จอดให้ลงซะแล้วว เอาไงละ เดินลงรถด้วยความ งงงงง ซ้าย ขวา ไปไหนดีๆ เดินเข้าไปที่เคาน์เตอร์ขายตั๋ว พี่ครับ ผมจะไปตลาดผักได้ยังไงครับ คนขายเขาก็บอกว่าเดี๋ยวมีรถบัสโดยสารมา ผ่านตลาดผักอยู่ ไปไหม 20 บาท ไปๆๆไปครับ ก็จ่ายตัง แล้วคนขายก็ถามว่าน้องมาจากไหนหรอ กทม ? ทำไม่ลง รถก็ผ่านอยู่นิ ผมไม่ได้ยินเขาบอกว่าตลาดผักเลย พี่เขาก็บอกว่าก่อนมาถึงที่นี้จุดหนึ่งไง บขส. พ่อขุนผาเมืองไง ลงรถแล้วข้ามถนนไปก็ถึงละ กำซวยของเรา555+ จริงๆก็ได้ยินอยู่นะ แต่เราไม่รู้ไง ว่าตรงนั้นคือตลาดผัก ก็เลยทำหน้า งง แล้วก็ยิ้มให้พี่เขาไป 5555+ (แนะนำนะครับใครจะไปให้บอกเขาว่าลง บขส สี่เเยก พ่อขุนผาเมือง) นั่งสักแปบรถก็มาพอไปถึงก็วิ่งข้ามถนน เดินสำรวจตลาด คิดในใจ เอาไงวะ จะไปยังไง จะโบกรถใครดีถามใครดี จะเริ่มต้นยังไง ก็เดินไปเดินมาแถวนั้น สักแปบ ก็มาแวะนั่งกิน โอวันตินใส่ใข่ + ปาท่องโก้ ก็เลยลองถามลุงคนขายว่า ลุงครับ ผมจะไปภูทับเบิก อยากจะโบกรถไป ต้องดูยังไงว่ารถคันไหนจะขึ้นภูมั้ง ลุงแกใจดีครับ ก็บอกว่ารถแถวนี้เกือบทั้งนั้นละ ไม่ภูทับเบิกก็ขึ้นเข้าค้อ พอกินเสร็จก็มายืนโบกตรงนี้นะ ลุงแกก็ชี้ไป ถนนข้างๆร้านแก ลองโบกถามดูนะ ฮ่าๆ ได้เป้าหมายละ เติมพลังงานก่อน เสร็จแล้วก็ลุยยยกันเลยยย
จุดที่เราสามารถยืนโบกรถขึ้นภูทับเบิกได้ง่ายครับ
แรกๆ ก็ยืนหน้าบางๆ อายๆ ไม่กล้าโบก แล้วก็ยืนคิด เฮ้ย! เราอยากมาเที่ยวแบบนี้เองนิหว่า ไม่โบก ไม่กล้า ไม่มีรถขึ้นภูนะ ก็รวบรวมความกล้าอันน้อยนิด คันสองคันแรกจะอายๆๆ แล้วหลังจากนั้น เหอะๆ เริ่มมีประสบการณ์ความอายก็หายไป คันไหนออกมาก็โบกถามทุกคันละ แต่ส่วนมากที่เจอจะไปเขาค้อกัน โบกสักเกือบครึ่งชั่วโมงเพราะเรามาถึงจุดนี้ก็สายแล้วเกือบจะ6โมงครึ่งละ บระเจ้าก็เข้าข้างง ฮ่าๆๆๆ มีรถกระบะคันหนึ่งขับออกมา เป็นคุณลุง แกขับรถมาส่งของคนเดี๋ยว เราก็โบกๆๆ แกก็จอด ยังไม่ทันจะพูดอะไรเลย ลุงแกบอกไปภูทับเบิกใช่ไหม ? โดนขึ้นมาเลยยย 5555+ เย้ๆๆ ได้รถแล้วก็ลุยเลยย (คนแถวนี้ใจดีนะ โบกคันไหนจอดทุกคัน แต่จุดหมายจะตรงกับทางที่เราไปหรือป่าวเท่านั้น บางคันชวนให้ไปเที่ยวเข้าค้อก่อนก็มี)
พอขึ้นรถมาแล้ว ตื่นเต้นอะ ระว่างทางขึ้นภู ธรรมชาติมาก อากาศเย็นสบาย สดชื่น ทำให้คิดไปว่าถ้าขึ้นไปข้างบนแล้วอากาศจะดีแค่ไหน ขนาดข้างล่างยังเย็นสบายขนาดนี้เลย คิดแล้วฟินนนนน
ตอนขึ้นภูครับ ไม่ผิดหวังจริงๆ อากาศดีมาก หมอก เริ่มเยอะขึ้นเรื่อยยยๆ เห็นแล้วน่าตื่นตา ตื่นใจยิ่งนัก โดยส่วนตัวเป็นคนชอบ หมอก มากกกกกก อยู่แล้ว ยิ่งได้สัมผัสแบบนี้บอกเลย ฟินโคตรรรรร ตลอดทางได้แต่ ตู้ฮู้ ว ว ว ว ว ว ว ดีต่อใจจริงๆ
ถึงแล้วครับ คุณลุงคนขับเขาจอดให้เราตรงจุดชมวิวทะเลหมอกตรงนี้ครับแกบอกให้ดูวิวตรงนี้ก่อน ค่อยโบกรถขึ้นไปต่อ อีกไม่ไกลครับ 5 กิโลเอง
มาเจอแบบนี้บอกได้คำเดียว คุ้ม มากกก ฟินเวอรรร์ ถูกใจคนชอบหมอกแน่นอนครับ พออิ่มกับทะเลหมอกแล้วก็ไปกันต่อเลย เรายังไม่ถึงจุดหมาย ยังต้องโบกต่ออีก 1 ต่อ
เดินไปตามลูกศรเลยครับ โบกได้เลยทุกคันขึ้นไปภูทับเบิกหมดครับ เราได้คันนี้เป็นลุงกับป้ากำลังจะขึ้นไปภูทางนี้พอดี เราก็เลย โบกๆ
ถึงแล้ววววว คุณลุงกับป้าจอดให้เราลงตรงนี้แล้วก็บอกว่าเดินตามบันไดดินนี้ขึ้นไปก็จะถึงจุดชมวิวที่สุงที่สุดของที่นี้ เสร็จเราก็กล่าวคำขอบคุณแล้วก็รำลาออกเดินสำรวจและหาที่พักกัน คิดๆไว้แล้วว่า มาคนเดียวเช่าเต้นกางนอนคนเดียวคงได้บรรยากาศฟินๆ คิดแล้วก็หัวใจพองโตตตตต ลุยโลดๆ
หาที่ซุกหัวนอนก่อนเลยอันดับแรก อ้าวววว เดินๆ ไปเจอของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวภูทับเบิก ก็เข้าไปสอบถาม ราคา และสถานที่ ดูๆแล้วเราว่าแถวนี้คนเยอะ อาจไม่เหมาะกับเรา ขอเก็บไว้เป็นตัวเลือกก่อน จากนั้นเดินตรงไปลงทางริมผา จุดหมายที่แรกคือ บ้านไร่ริมผา เดิน งง เอาไปถามลุงเจ้าของว่า มีที่กางเต้นกับเต้นให้เช่าไหมครับ ลุงแกก็ยิ้มๆ แล้วตอบกลับมาว่า เต็มแล้วจ้าหนู ความคิดผุดขึ้นมาในหัว ซวยแล้วตู จะหาที่นอนได้ไหม T-T แต่ยังไม่ได้พูดไรต่อ ลุงแกก็แนะนำให้ไปลองถามอีกเจ้าหนึ่งที่อยู่ข้างๆดู ขอบคุณลุงแล้วเปลี่ยนจุดหมายเดินต่อไปอีกหน่อย ที่อยู่ข้างๆ กัน ตรงไปก็ไปเจอป้าที่แกกำลังยุ่งๆ ก็เลยถามแก มีเต้นให้เช่าไหมครับ
ป้า : มีๆ เหลืออยู่แต่ต้องรอให้คนที่เช่าก่อนหน้านี้ เก็บของออกก่อน จะจองไว้เลยไหม
เรา : ราคาเท่าไรครับ
ป้า : ราคา 500 บาท มัดจำ 300บาท มีหมอน ผ้าห่มให้2ผืน ไม่จองไว้เต็มก่อนป้าไม่รู้ด้วยนะ เพราะสายๆคงมีคนมาเช่า นี้ก็เหลือไม่กี่หลังละ
เรา : ตกลงครับ เช่าครับ ป้าครับระหว่างรอผมขอฝากกระเป๋าไว้หน่อยนะครับ เดี๋ยวผมไปเดินเล่นแถวนี้รอ
จ่ายค่าเช่าพร้อมมัดจำ ป้าแกก็จะให้ใบเสร็จมา ตอนจะกลับให้เอาใบเสร็จมาแลกมัดจำคืน
บรรยากาศที่กางเต้นนอนของเราคืนนี้ คนกำลังทยอยมาเรื่อยๆ ป้าเขาบอกอีกหน่อยก็คงเต็มๆ
ได้เวลาแบกกล้องไป เดินเล่นกันแล้วววว พร้อมแล้ว ลุยยเลย!
น้องๆกำลังเล่นอยู่น่ารักกันครับ ว่าจะแย่งเด็กเล่นซะหน่อย 555+
เดินไปเดินมาก็ประมาณเกือบ 11 โมงแล้ว ท้องเริ่มหิวอีกแล้วครับแวะกินก๋วยเตี๋ยวก่อนดีกว่า ชามนี้50บาท ครับ รสชาติอร่อยเลยครับ หรือเพราะเราหิวหหรือป่าว 555+ กินเสร็จแล้ว คิดว่าป้าเขาคงเตรียมเต้นที่พักให้เราเสร้จแล้ว เดินกลับไปดูก่อนดีกว่า
นี้คือหน้าตาเต้นที่ซุกหัวนอนของเรา ได้ หมอนมา 1ใบ ผ้าห่มสองผืน ผืน1ไว้ห่ม อีกผืนไว้ปูรองนอนจะได้ไม่เจ็บหลัง
ถึงตอนนี้ หนังท้องตึง หนังตาก็เริ่มหย่อน ยิ่งมาเจอบรรยากาศ เย็นๆ ตอนนี้เกือบเที่ยงนะครับแต่อากาศยังเย็นสบาย หมอกเริ่มลงหนาขึ้นเรื่อยๆ
*** ลุยเดี่ยว แบกเป้ แบกกล้อง โบกรถ ไปเที่ยวภูทับเบิกกัน ***
เริ่มต้นเดินทางจากหมอชิต ชื้อตั๋ว ที่ชั้น1 ช่องขายตั๋วที่ 42 บ.เพชรประเสริฐ ใกล้ๆกับ 7-11 ทางไปห้องน้ำ แนะนำให้โทรจองไว้ก่อนนะครับ ดูจากรูปครับแถวยาววว ตอนไปถึงเหมือนได้ยินคนขายบอกกับคนข้างหน้าเราว่าตั๋ว ป.1 เต็มแล้วนะครับเหลือแต่รถ ป.2 ฮ่าๆ โชคดีที่ไม่ชะล่าใจ โทรมาจองไว้ก่อน พอถึงคิวเราก็บอกชื่อกับเวลาเที่ยวรถที่จองไว้เป็นอันเรียบร้อยยย ได้ตั๋วมาครองงงง ^ ^ [เบอร์โทรครับ 086-4487050]
ปล.ถ้ารู้เวลากลับที่ชัวส์ๆแนะนำให้จองขากลับไว้เลยนะครับ เพราะตอนที่เรากลับ ได้นั่งรถป.2 กลับ รถเต็มครับ
ฟังเพลง รอเวลา ชอบความรู้สึกนี้มากๆไม่ต้องคิดอะไร นั่งดูคนเดินผ่านไปผ่านมา แปบเดียว เฮ้ยยยย รถจะมาแล้ว ก็เดินต๊อกๆ บ้าหอบฟาง ไปรอรถที่ชานชาลา ที่ 130
แล้วรถก็มา 23:20 บรรยากาศบนรถครับ พอขึ้นรถ พนักงานตอนรับบนรถก็มาแจกน้ำกับขนม พร้อมถามเราว่าจะลงที่ไหน.. ก็ได้ข้อมูลจากพันทิปนี้ละครับ ว่าต้องลงตลาดผัก ก็บอกพี่พนักงานเขาไปว่า พี่ผมจะไปภูทับเบิกต้องลงที่ตลาดผักใช่ไหม? พี่เขาก็บอกว่าใช่ๆๆ งั้นผมลงที่ตลาดผักนะครับ โดยที่ไม่รู้ว่าหน้าตาตลาดผักเป็นยังไง คิดในใจ ตูจะรอดไหมมเนี้ยยย เอาน่าอย่าคิดมาก แค่ของให้พรุ่งนี้เป็นวันที่ดีก็พอแล้ว
ตอนนี้อยากจะบอกแบบว่า ตื่นเต้น แต่มันรู้สึกดีมากๆเลย หยิบหูฟังขึ้นมาแล้วเปิดเพลงที่ตัวเองชอบ ยิ่งเพลงเศร้า เพราะๆซึ้งๆเข้ากับบรรยากาศยามดึก โดยที่รถกำลังเดินหน้าขับไปเรื่อยๆ เหมือนตัวเองกำลังนั่งเล่น MV ของเพลงนั้นอยู่เลย อาการมโนเริ่มมาแล้ว 5555+ แล้วก็หลับไปตอนไหนไม่รู้ ตื่นมาอีกทีคนขับเปิดไฟบนรถ จอดตามจุดจอดต่างๆ ไอ้เราก็นั่งฟังเพลง ทำMV กันต่อไป.. แหม่ บรรยากาศมันได้เน่อ ก็ผ่านจุดจอดต่างๆ มาเรื่อยๆ จนพี่พนักงานเขาลุกขึ้นบอกผู้โดยสารบนรถว่า รถสิ้นสุดระยะ ที่จุดจอดข้างหน้านะค่ะ เตรียมตัวเก็บของแล้วตรวจสอบสำภาระก่อนลงรถด้วยนะค่ะ (อ้าวเฮ้ยยยยย ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หน่า ที่บอกว่าเธอจะเลือกเขาและไม่มีวันกลับมา..) ไม่ใช่ละ คิดในใจ พี่ตลาดผักผมละ ไม่นะๆ ยังไม่ทันจะถามรถก็จอดให้ลงซะแล้วว เอาไงละ เดินลงรถด้วยความ งงงงง ซ้าย ขวา ไปไหนดีๆ เดินเข้าไปที่เคาน์เตอร์ขายตั๋ว พี่ครับ ผมจะไปตลาดผักได้ยังไงครับ คนขายเขาก็บอกว่าเดี๋ยวมีรถบัสโดยสารมา ผ่านตลาดผักอยู่ ไปไหม 20 บาท ไปๆๆไปครับ ก็จ่ายตัง แล้วคนขายก็ถามว่าน้องมาจากไหนหรอ กทม ? ทำไม่ลง รถก็ผ่านอยู่นิ ผมไม่ได้ยินเขาบอกว่าตลาดผักเลย พี่เขาก็บอกว่าก่อนมาถึงที่นี้จุดหนึ่งไง บขส. พ่อขุนผาเมืองไง ลงรถแล้วข้ามถนนไปก็ถึงละ กำซวยของเรา555+ จริงๆก็ได้ยินอยู่นะ แต่เราไม่รู้ไง ว่าตรงนั้นคือตลาดผัก ก็เลยทำหน้า งง แล้วก็ยิ้มให้พี่เขาไป 5555+ (แนะนำนะครับใครจะไปให้บอกเขาว่าลง บขส สี่เเยก พ่อขุนผาเมือง) นั่งสักแปบรถก็มาพอไปถึงก็วิ่งข้ามถนน เดินสำรวจตลาด คิดในใจ เอาไงวะ จะไปยังไง จะโบกรถใครดีถามใครดี จะเริ่มต้นยังไง ก็เดินไปเดินมาแถวนั้น สักแปบ ก็มาแวะนั่งกิน โอวันตินใส่ใข่ + ปาท่องโก้ ก็เลยลองถามลุงคนขายว่า ลุงครับ ผมจะไปภูทับเบิก อยากจะโบกรถไป ต้องดูยังไงว่ารถคันไหนจะขึ้นภูมั้ง ลุงแกใจดีครับ ก็บอกว่ารถแถวนี้เกือบทั้งนั้นละ ไม่ภูทับเบิกก็ขึ้นเข้าค้อ พอกินเสร็จก็มายืนโบกตรงนี้นะ ลุงแกก็ชี้ไป ถนนข้างๆร้านแก ลองโบกถามดูนะ ฮ่าๆ ได้เป้าหมายละ เติมพลังงานก่อน เสร็จแล้วก็ลุยยยกันเลยยย
แรกๆ ก็ยืนหน้าบางๆ อายๆ ไม่กล้าโบก แล้วก็ยืนคิด เฮ้ย! เราอยากมาเที่ยวแบบนี้เองนิหว่า ไม่โบก ไม่กล้า ไม่มีรถขึ้นภูนะ ก็รวบรวมความกล้าอันน้อยนิด คันสองคันแรกจะอายๆๆ แล้วหลังจากนั้น เหอะๆ เริ่มมีประสบการณ์ความอายก็หายไป คันไหนออกมาก็โบกถามทุกคันละ แต่ส่วนมากที่เจอจะไปเขาค้อกัน โบกสักเกือบครึ่งชั่วโมงเพราะเรามาถึงจุดนี้ก็สายแล้วเกือบจะ6โมงครึ่งละ บระเจ้าก็เข้าข้างง ฮ่าๆๆๆ มีรถกระบะคันหนึ่งขับออกมา เป็นคุณลุง แกขับรถมาส่งของคนเดี๋ยว เราก็โบกๆๆ แกก็จอด ยังไม่ทันจะพูดอะไรเลย ลุงแกบอกไปภูทับเบิกใช่ไหม ? โดนขึ้นมาเลยยย 5555+ เย้ๆๆ ได้รถแล้วก็ลุยเลยย (คนแถวนี้ใจดีนะ โบกคันไหนจอดทุกคัน แต่จุดหมายจะตรงกับทางที่เราไปหรือป่าวเท่านั้น บางคันชวนให้ไปเที่ยวเข้าค้อก่อนก็มี)
พอขึ้นรถมาแล้ว ตื่นเต้นอะ ระว่างทางขึ้นภู ธรรมชาติมาก อากาศเย็นสบาย สดชื่น ทำให้คิดไปว่าถ้าขึ้นไปข้างบนแล้วอากาศจะดีแค่ไหน ขนาดข้างล่างยังเย็นสบายขนาดนี้เลย คิดแล้วฟินนนนน
ตอนขึ้นภูครับ ไม่ผิดหวังจริงๆ อากาศดีมาก หมอก เริ่มเยอะขึ้นเรื่อยยยๆ เห็นแล้วน่าตื่นตา ตื่นใจยิ่งนัก โดยส่วนตัวเป็นคนชอบ หมอก มากกกกกก อยู่แล้ว ยิ่งได้สัมผัสแบบนี้บอกเลย ฟินโคตรรรรร ตลอดทางได้แต่ ตู้ฮู้ ว ว ว ว ว ว ว ดีต่อใจจริงๆ
ถึงแล้วครับ คุณลุงคนขับเขาจอดให้เราตรงจุดชมวิวทะเลหมอกตรงนี้ครับแกบอกให้ดูวิวตรงนี้ก่อน ค่อยโบกรถขึ้นไปต่อ อีกไม่ไกลครับ 5 กิโลเอง
มาเจอแบบนี้บอกได้คำเดียว คุ้ม มากกก ฟินเวอรรร์ ถูกใจคนชอบหมอกแน่นอนครับ พออิ่มกับทะเลหมอกแล้วก็ไปกันต่อเลย เรายังไม่ถึงจุดหมาย ยังต้องโบกต่ออีก 1 ต่อ
เดินไปตามลูกศรเลยครับ โบกได้เลยทุกคันขึ้นไปภูทับเบิกหมดครับ เราได้คันนี้เป็นลุงกับป้ากำลังจะขึ้นไปภูทางนี้พอดี เราก็เลย โบกๆ
ถึงแล้ววววว คุณลุงกับป้าจอดให้เราลงตรงนี้แล้วก็บอกว่าเดินตามบันไดดินนี้ขึ้นไปก็จะถึงจุดชมวิวที่สุงที่สุดของที่นี้ เสร็จเราก็กล่าวคำขอบคุณแล้วก็รำลาออกเดินสำรวจและหาที่พักกัน คิดๆไว้แล้วว่า มาคนเดียวเช่าเต้นกางนอนคนเดียวคงได้บรรยากาศฟินๆ คิดแล้วก็หัวใจพองโตตตตต ลุยโลดๆ
หาที่ซุกหัวนอนก่อนเลยอันดับแรก อ้าวววว เดินๆ ไปเจอของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวภูทับเบิก ก็เข้าไปสอบถาม ราคา และสถานที่ ดูๆแล้วเราว่าแถวนี้คนเยอะ อาจไม่เหมาะกับเรา ขอเก็บไว้เป็นตัวเลือกก่อน จากนั้นเดินตรงไปลงทางริมผา จุดหมายที่แรกคือ บ้านไร่ริมผา เดิน งง เอาไปถามลุงเจ้าของว่า มีที่กางเต้นกับเต้นให้เช่าไหมครับ ลุงแกก็ยิ้มๆ แล้วตอบกลับมาว่า เต็มแล้วจ้าหนู ความคิดผุดขึ้นมาในหัว ซวยแล้วตู จะหาที่นอนได้ไหม T-T แต่ยังไม่ได้พูดไรต่อ ลุงแกก็แนะนำให้ไปลองถามอีกเจ้าหนึ่งที่อยู่ข้างๆดู ขอบคุณลุงแล้วเปลี่ยนจุดหมายเดินต่อไปอีกหน่อย ที่อยู่ข้างๆ กัน ตรงไปก็ไปเจอป้าที่แกกำลังยุ่งๆ ก็เลยถามแก มีเต้นให้เช่าไหมครับ
ป้า : มีๆ เหลืออยู่แต่ต้องรอให้คนที่เช่าก่อนหน้านี้ เก็บของออกก่อน จะจองไว้เลยไหม
เรา : ราคาเท่าไรครับ
ป้า : ราคา 500 บาท มัดจำ 300บาท มีหมอน ผ้าห่มให้2ผืน ไม่จองไว้เต็มก่อนป้าไม่รู้ด้วยนะ เพราะสายๆคงมีคนมาเช่า นี้ก็เหลือไม่กี่หลังละ
เรา : ตกลงครับ เช่าครับ ป้าครับระหว่างรอผมขอฝากกระเป๋าไว้หน่อยนะครับ เดี๋ยวผมไปเดินเล่นแถวนี้รอ
จ่ายค่าเช่าพร้อมมัดจำ ป้าแกก็จะให้ใบเสร็จมา ตอนจะกลับให้เอาใบเสร็จมาแลกมัดจำคืน
บรรยากาศที่กางเต้นนอนของเราคืนนี้ คนกำลังทยอยมาเรื่อยๆ ป้าเขาบอกอีกหน่อยก็คงเต็มๆ
ได้เวลาแบกกล้องไป เดินเล่นกันแล้วววว พร้อมแล้ว ลุยยเลย!
น้องๆกำลังเล่นอยู่น่ารักกันครับ ว่าจะแย่งเด็กเล่นซะหน่อย 555+
แล้วก็เดินมาเจอกับสาวๆ กลุ่มเดิม 555+
เดินไปเดินมาก็ประมาณเกือบ 11 โมงแล้ว ท้องเริ่มหิวอีกแล้วครับแวะกินก๋วยเตี๋ยวก่อนดีกว่า ชามนี้50บาท ครับ รสชาติอร่อยเลยครับ หรือเพราะเราหิวหหรือป่าว 555+ กินเสร็จแล้ว คิดว่าป้าเขาคงเตรียมเต้นที่พักให้เราเสร้จแล้ว เดินกลับไปดูก่อนดีกว่า
นี้คือหน้าตาเต้นที่ซุกหัวนอนของเรา ได้ หมอนมา 1ใบ ผ้าห่มสองผืน ผืน1ไว้ห่ม อีกผืนไว้ปูรองนอนจะได้ไม่เจ็บหลัง
ถึงตอนนี้ หนังท้องตึง หนังตาก็เริ่มหย่อน ยิ่งมาเจอบรรยากาศ เย็นๆ ตอนนี้เกือบเที่ยงนะครับแต่อากาศยังเย็นสบาย หมอกเริ่มลงหนาขึ้นเรื่อยๆ
แปบเดียวเท่านั้นน้องหมอกก็มาเยือน