ผู้ชายในภาพ อายุปีนี้ก็ 57ย่าง58 ปี ก็เป็นธรรมดาของคนมีอายุ อ้วน ลงพุง ปวดแข้ง ปวดขา เป็นเรื่องปกติ จะลุก จะนั่ง กระดูกกระเดี้ยวก็ลั่นกร็อปแกร็บไปหมด ไปตรวจสุขภาพแต่ละที หมอก็พร่ำบอกตลอด ออกกำลังกาย ออกกำลังกาย เอาก็ได้ วิ่งเหยาะๆ เดินเร็วๆ ทำอยู่ได้ไม่นาน เจ็บเข่า เท้าบวม... เลิก ยังไงต่อดีละทีนี้ เข้าfitnessไม่เอาละไม่ชอบ เมื่อซักเดือนกันยายนที่ผ่านมา ไปทำบุญที่วัด เจอพวกๆเขาก็คุยกันเรื่องขี่จักรยานออกกำลังกาย ก็สนใจเข้าไปคุย เข้าไปฟังกับเขา เขาก็คุยกันว่าขี่ไปโน่น นี่ กันมาน่าสนุก น่าสนใจ เลยสอบถามข้อมูลเบื้องต้น ก็ประมาณว่า จะออกกำลังกาย เริ่มต้นยังไงซื้อจักรยานอะไดี ยีห้อไหนดี ร้านอะไร ราคาเท่าไหร่ ดีมั๊ย มีอยู่คำตอบหนึ่ง ฟังแล้วใจฟ่อเลย "สามหมื่นกว่า ก็พอขี่ได้แล้ว" แพงจริงวุ๊ยสู้ไม่ไหว เกือบจะเลิกล้มความคิด พอดีที่บ้านก็มีจักรยานบ้านๆอยู่ (จักรยานจับฉลากได้จากงาน Staff Party) จัดการซ่อมบำรุงนิดหน่อยก็โอเค ขี่เล่นแถวๆบ้าน ก็สนุกดี ลูกหลานตามเป็นพรวน ทีนี้ด้วยความที่เป็นสมาชิกเว็ปพันทิบ ห้องรัชดา ก็มีกระทู้เกี่ยวกับจักรยานให้อ่านผ่านหู ผ่านตาบ้าง ก็ลงมือค้นหา อ่านกระทู้ทั้งเก่า-ใหม่ อ่านๆไปรู้เรื่องบ้าง ไมรู้เรื่องบ้าง เดาสุ่มๆไป บางคันก็ว่ากันเป็นแสน ที่ห้า-หกพันก็มี เลยตั้งประเภทของจักรยาน และงบประมาณไว้ในใจว่าจะเอาอะไร ราคาเท่าไหร่ สรุปว่าจะเอาจักรยานไฮบริด หรือไม่ก็เสือภูเขา ในราคาหมื่นบาท ก็เริ่มไปร้านจักรยาน ร้านเล็ก ร้านใหญ่เข้าหมด บอกความประสงค์ร้านเขาไป ก็ได้รับคำแนะนำต่างๆคล้ายๆกับในพันทิป เข้าร้านเล็กๆก็จะได้คำแนะนำว่า ขี่ออกกำลังกายราคาห้า หกพันบาทก็เหลือเฟือ พวกแพงๆเขาขายยี่ห้อ สเปคก็เท่าๆกันแหละ เข้าร้านใหญ่ๆก็แนะนำว่า ใช้ดีๆไปเลยอุปกรณ์ วัสดุ ยี่ห้อมีมาตรฐาน ขี่ไม่อายใคร (ไม่อายหรอก เพราะไม่รู้ ก็เห็นว่าเป็นจักรยานคล้ายๆกัน แยกออกแต่เพียง คันนี้สวยกว่าคันนั้น เรื่องสมรรถภาพ อุปกรณ์ไม่มีความรู้เลย) มีอยู่ร้านหนึ่งคุยแล้วถูกอัธยาศัยกัน เขาแนะนำ เสือภูเขา ยี่ห้อ twitter tw 3000 มั้ง ขนาด17 ล้อ27.5 สปีด24 ราคาเก้าพันห้าร้อยบาท แถมหมวก ไฟหน้า หลัง ขา+กระติกน้ำ อยูในงบเลย ก็เลยได้คันนี้มา ซื้อกางเกงมาตัวหนึ่ง เจ็ดร้อยบาท ตกลงว่าจักรยานคันนี้ซื้อมาเพราะถูกอัธยาศัยกับคนขาย ผิดถูกอย่างไรก็ไม่รู้เหมือนกัน ซื้อมาแล้ว แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว...เสียเงินแล้วจบมั๊ย?...ไม่จบครับ
ตอนไปซื้อจักรยาน เอาหลานสาวตัวเล็กไปด้วย โดยปกติเขาก็ไม่ใช่เด็กงอแงอะไร พูดรู้เรื่อง ระหว่างที่คุยอยู่กับคนขาย ดูช่างเขา set up จักรยานให้ ตัวเล็กเค้าก็เดินดูจักรยานไปเรื่อยๆรอบร้าน จนกระทั่งเอาจักรยานขึ้นท้ายรถจะกลับบ้านแล้ว ตัวเล็กก็เข้ามาบอก "ลุง เหมี่ยวอยากได้จักรยานคันสีแดง" ชี้ไปที่จักรยานคันที่เขาอยากได้ ก็ปฏิเสธไป บอกเขาไปว่า หนูมีแล้วนี่ จะซื้อทำไม เปลืองตังค์ เค้าก็บอกว่า จักรยานของเค้ามันไม่มีเกียร์ ไม่มีไฟกระพริบเหมือนลุง มันเก่าแล้ว ก็ตัดพูดบทไปว่า ไม่เอา ไม่เอา ไม่มีตังค์ เค้าก็น้ำตาคลอ ขึ้นรถไป ขับรถออกมาได้แป๊ปหนึ่ง แปลกใจทำไมเขาไม่เปิดเพลง นั่งเงียบ น้ำตาไหลพราก กลับรถซิครับ รออะไร โดนไปอีกห้าพัน ยี่ห้อ mascot มั้ง โชคดีที่เขาไม่ชอบคันหนึ่งเป็นหมื่น ไม่งั้นลุงมันนี่แหละต้องน้ำตาไหลพรากๆเป็นสายเลือดแน่ๆ
ก้าวเล็กๆของมนุษย์ชาติ (เว่อร์...ซะ)
ผู้ชายในภาพ อายุปีนี้ก็ 57ย่าง58 ปี ก็เป็นธรรมดาของคนมีอายุ อ้วน ลงพุง ปวดแข้ง ปวดขา เป็นเรื่องปกติ จะลุก จะนั่ง กระดูกกระเดี้ยวก็ลั่นกร็อปแกร็บไปหมด ไปตรวจสุขภาพแต่ละที หมอก็พร่ำบอกตลอด ออกกำลังกาย ออกกำลังกาย เอาก็ได้ วิ่งเหยาะๆ เดินเร็วๆ ทำอยู่ได้ไม่นาน เจ็บเข่า เท้าบวม... เลิก ยังไงต่อดีละทีนี้ เข้าfitnessไม่เอาละไม่ชอบ เมื่อซักเดือนกันยายนที่ผ่านมา ไปทำบุญที่วัด เจอพวกๆเขาก็คุยกันเรื่องขี่จักรยานออกกำลังกาย ก็สนใจเข้าไปคุย เข้าไปฟังกับเขา เขาก็คุยกันว่าขี่ไปโน่น นี่ กันมาน่าสนุก น่าสนใจ เลยสอบถามข้อมูลเบื้องต้น ก็ประมาณว่า จะออกกำลังกาย เริ่มต้นยังไงซื้อจักรยานอะไดี ยีห้อไหนดี ร้านอะไร ราคาเท่าไหร่ ดีมั๊ย มีอยู่คำตอบหนึ่ง ฟังแล้วใจฟ่อเลย "สามหมื่นกว่า ก็พอขี่ได้แล้ว" แพงจริงวุ๊ยสู้ไม่ไหว เกือบจะเลิกล้มความคิด พอดีที่บ้านก็มีจักรยานบ้านๆอยู่ (จักรยานจับฉลากได้จากงาน Staff Party) จัดการซ่อมบำรุงนิดหน่อยก็โอเค ขี่เล่นแถวๆบ้าน ก็สนุกดี ลูกหลานตามเป็นพรวน ทีนี้ด้วยความที่เป็นสมาชิกเว็ปพันทิบ ห้องรัชดา ก็มีกระทู้เกี่ยวกับจักรยานให้อ่านผ่านหู ผ่านตาบ้าง ก็ลงมือค้นหา อ่านกระทู้ทั้งเก่า-ใหม่ อ่านๆไปรู้เรื่องบ้าง ไมรู้เรื่องบ้าง เดาสุ่มๆไป บางคันก็ว่ากันเป็นแสน ที่ห้า-หกพันก็มี เลยตั้งประเภทของจักรยาน และงบประมาณไว้ในใจว่าจะเอาอะไร ราคาเท่าไหร่ สรุปว่าจะเอาจักรยานไฮบริด หรือไม่ก็เสือภูเขา ในราคาหมื่นบาท ก็เริ่มไปร้านจักรยาน ร้านเล็ก ร้านใหญ่เข้าหมด บอกความประสงค์ร้านเขาไป ก็ได้รับคำแนะนำต่างๆคล้ายๆกับในพันทิป เข้าร้านเล็กๆก็จะได้คำแนะนำว่า ขี่ออกกำลังกายราคาห้า หกพันบาทก็เหลือเฟือ พวกแพงๆเขาขายยี่ห้อ สเปคก็เท่าๆกันแหละ เข้าร้านใหญ่ๆก็แนะนำว่า ใช้ดีๆไปเลยอุปกรณ์ วัสดุ ยี่ห้อมีมาตรฐาน ขี่ไม่อายใคร (ไม่อายหรอก เพราะไม่รู้ ก็เห็นว่าเป็นจักรยานคล้ายๆกัน แยกออกแต่เพียง คันนี้สวยกว่าคันนั้น เรื่องสมรรถภาพ อุปกรณ์ไม่มีความรู้เลย) มีอยู่ร้านหนึ่งคุยแล้วถูกอัธยาศัยกัน เขาแนะนำ เสือภูเขา ยี่ห้อ twitter tw 3000 มั้ง ขนาด17 ล้อ27.5 สปีด24 ราคาเก้าพันห้าร้อยบาท แถมหมวก ไฟหน้า หลัง ขา+กระติกน้ำ อยูในงบเลย ก็เลยได้คันนี้มา ซื้อกางเกงมาตัวหนึ่ง เจ็ดร้อยบาท ตกลงว่าจักรยานคันนี้ซื้อมาเพราะถูกอัธยาศัยกับคนขาย ผิดถูกอย่างไรก็ไม่รู้เหมือนกัน ซื้อมาแล้ว แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว...เสียเงินแล้วจบมั๊ย?...ไม่จบครับ
ตอนไปซื้อจักรยาน เอาหลานสาวตัวเล็กไปด้วย โดยปกติเขาก็ไม่ใช่เด็กงอแงอะไร พูดรู้เรื่อง ระหว่างที่คุยอยู่กับคนขาย ดูช่างเขา set up จักรยานให้ ตัวเล็กเค้าก็เดินดูจักรยานไปเรื่อยๆรอบร้าน จนกระทั่งเอาจักรยานขึ้นท้ายรถจะกลับบ้านแล้ว ตัวเล็กก็เข้ามาบอก "ลุง เหมี่ยวอยากได้จักรยานคันสีแดง" ชี้ไปที่จักรยานคันที่เขาอยากได้ ก็ปฏิเสธไป บอกเขาไปว่า หนูมีแล้วนี่ จะซื้อทำไม เปลืองตังค์ เค้าก็บอกว่า จักรยานของเค้ามันไม่มีเกียร์ ไม่มีไฟกระพริบเหมือนลุง มันเก่าแล้ว ก็ตัดพูดบทไปว่า ไม่เอา ไม่เอา ไม่มีตังค์ เค้าก็น้ำตาคลอ ขึ้นรถไป ขับรถออกมาได้แป๊ปหนึ่ง แปลกใจทำไมเขาไม่เปิดเพลง นั่งเงียบ น้ำตาไหลพราก กลับรถซิครับ รออะไร โดนไปอีกห้าพัน ยี่ห้อ mascot มั้ง โชคดีที่เขาไม่ชอบคันหนึ่งเป็นหมื่น ไม่งั้นลุงมันนี่แหละต้องน้ำตาไหลพรากๆเป็นสายเลือดแน่ๆ